|
Work and Travel ตอน 17(ท้อแท้หมดหวัง)
ตอนที่ 17 ท้อแท้หมดหวัง หลังจากที่ผมทำงานได้สักพัก จนมีความชำนาญการเพิ่มมากขึ้นความเหนื่อยล้าของร่างกายมันก็ทวีคูณเพิ่มมากขึ้นด้วย ทุกๆวันที่ต้องมาทำงาน ผมรู้สึกเศร้า ทุกๆเช้าที่ต้องตื่นมา เดินไปขึ้นรถประจำทางทาง ระหว่างอยู่บนรถ ผมไม่มีความสุขเอาเสียเลย ผมจากเป็นคนที่ร่าเริง สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆพี่ๆ จนกลายมาเป็นคนนิ่งเงียบ ก็พลอยทำให้คนอื่นๆเงียบไปตามๆกัน มันจะทำให้ผมรู้สึกมีความสุขได้อย่างไร เราไม่ได้มาเที่ยวนะ แต่เราต้องมาใช้แรงงาน เมื่อถึงหน้าโรงแรม ผมต้องมองดูรถของแขก ที่จอดอยู่หน้าโรงแรม เพื่อคำนวณความเหนื่อยในแต่ละวัน ถ้ารถเยอะมันก็ต้องเหนื่อยหน่อย เพราะแขกคงจะ check out เยอะ แต่ยังไงก็ช่าง ชีวิตมันก็ต้องเดินหน้าต่อไป หลังจากที่ผ่านการประชุมในแต่ละวัน ได้โซนห้องที่จะต้องไปทำ จนกระทั่งลงมือปฏิบัติงาน ทุกๆวัน มันจะต้องเป็นแบบนี้ ชีวิตมันก็วนเวียนอยู่แต่แบบนี้ แรกๆผมได้แต่ห้องโซนชั้น 4 ก็ชั้นนั้นมันมีแต่ห้องใหญ่ๆ บ้างห้องก็มีสองชั้น มีหลายเตียง ถ้าทำไปก็ต้องใช้เวลาทำนานกว่าคนอื่น ไม่เหมือนพวกห้อง Family ที่เป็นห้องเล็กๆ มี 2 เตียงขนาดควีน มี 1 ห้องน้ำ แบบนั้นมันก็จะใช้เวลาทำน้อยกว่า ผมถูกย้ายจากชั้น 4 ลงมาชั้น 3 มันก็ยังดีหน่อย มีห้องใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ปะปนกันไป Supervisor ก็เปลี่ยนคนใหม่ จากป้า Karen อเมริกันผิวสี มันเป็น ป้า Pat อเมริกันผิวขาว ป้าแพทดูเหมือน จะเป็นคล้ายๆหัวหน้าซุปเปอร์ไวเซอร์อีกที ก็เวลาป้าแกพูดอะไร ทุกคนก็จะต้องฟัง และปฏิบัติตาม ป้าแกจะเสียงแหบ พูดเสียงดังๆ เวลาใครได้ยิน ก็ต้องสะท้านต่อความรู้สึกเป็นธรรมดา ผมก็ทำความสะอาดของผมไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่า จะเปลี่ยนชั้น เปลี่ยนซุป แต่ความเหนื่อยมันก็ยังคงเท่าเดิม มันไม่เห็นจะน่าดีใจเลย ผมทำหน้าที่ของผมอย่างดีที่สุด ห้องแล้วห้องเล่า ทำไปเรื่อยๆ ระหว่างที่ผมกำลังเช็ดๆถูๆ อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียง วอร์(วิทยุสื่อสาร) นั่นไงซุปเปอร์ไวเซอร์มาตรวจแล้ว ผมมองออกไปทางประตู ก็เห็นป้าแพท หยิบกระดาษสีขาวไปดู แล้วก็ทำท่าทำทางจดอะไรของแกไป ผมใจดีสู้เสือครับ โดยการเอ่ยปากทักทายแกไป แกก็ตอบกลับเป็นมารยาท แต่สิ่งที่เขาพูดกับผมคือ ทำไมยูทำความสะอาดได้ช้ามาก ผมอึ้งกิมกี่ไปเลยครับ ผมไม่ตอบอะไร เงียบไว้อย่างเดียว ถ้าเถียงอะไรไป ผมแพ้แน่ๆเพราะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเท่าไหร่ จากนั้นเขาถามผมว่า คุณได้กด *01 หรือยัง ตายห่าแล้วผมลืมครับ จะทำไงดี มันก็ต้องสารภาพไปตามความเป็นจริงครับ ผมบอกว่าผมลืม ทันใดนั้น นางก็เข้ามาในห้องผมเลย มาตรวจดูในห้องทุกอย่าง แล้วก็มาบอกว่า ในห้องน้ำดูมีกลิ่นอับๆ กระจกนี่เช็ดแล้วหรอยังเป็นลอยอยู่เลย ใต้ชักโครกมีเศษๆขยะนะ คุณกลับไปทำใหม่ด้วย แล้วก็อีกหลายอย่างๆ ผมตั้งรับแทบไม่ทันเลยครับ สักพักนางก็เดินหายไป แต่ทิ้งภาระหน้าที่ให้ผมต้องรับผิดชอบอีกเพิ่มขึ้น ผมจะไปทำไรได้ ผมมันก็แค่นักศึกษาต่างชาติชาวเอเชีย มาฝึกงานในประเทศที่มันเจริญแล้ว หน้าที่ต่ำๆแบบนี้ คนที่นี่เขาไม่ทำกันหลอก มันก็เหมือนแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานที่ประเทศไทยดีๆนั้นแหละ ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำตามที่ป้าแพทบอก กลับไปเช็ดๆถูๆใหม่ให้สะอาด สักพักครับ ป้าแพทก็เดินมาอีกรอบ แล้วตะโกนเรียกชื่อผม Bastian Bastian ผมก็ออกมาเจอนางที่หน้าห้อง Hi ผมตอบรับ แล้วนางก็ถามผมว่า Room number 375 and 374 are your room? ผมก็ตอบว่า Yes. จากนั้นนางก็พูดว่า Those rooms so dirty please go back to clean again. พูดประมาณนี้ครับ แล้วบอกด้วยว่าอันไหน ตรงไหนที่มันไม่สะอาด แล้วก็มีสิ่งที่ผมลืมทำด้วย อีกมากมาย หลังจากที่ผมทำความสะอาดห้องนี้เสร็จแล้ว ก็เข็นรถไปทำห้องเก่าอีก ใน ณ นาทีนั้นผมทำอะไรไม่ได้ครับ นอกจากต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ผมรู้สึกจุกไปหมด ทั้งโดนด่า โดนว่า โดนให้ไปทำใหม่ ผมโดนแบบนี้มาแทบทุกวัน นานๆทีจะได้รับคำชมแต่มันก็นับครั้งได้ ซุปคนอื่นก็ยังดีนะครับ โดยเฉพาะป้าคาเรนถึงแม้ผมจะทำผิดพลาด แต่ป้าเขาก็มาสอนผมทุกครั้ง แล้วก็ยังพูดให้กำลังใจผมอีก ถึงแม้มันเหนื่อย แต่ยังดีที่ยังพอมีกำลังใจ ที่ทำให้ผมต้องพิสูจน์ตัวเองแล้วก็ทำหน้าที่ต่อไป แต่พอมาเจอป้าแพท มันก็ทำให้ผมจิตใจห่อเหี่ยว บางทีนะครับผมก็ทำความสะอาดในห้องผมอยู่ แต่ป้าแกบอกให้หยุดทำ ให้ไปช่วยเพื่อนทำก่อน เพราะห้องโซนนั้น จะมี กลุ่มนักท่องเที่ยวมาพัก จึงต้องระดมดมคนไปช่วยก่อน ผมก็ต้องไปครับตามคำสั่ง แต่พอผมกลับมาทำที่ห้องตัวเอง ป้าแพทนั่นแหละก็มาด่าผม หาว่าผมทำช้า ห้องนี้ทำไป เกือบ 2 โมง นางบอกผม ผมโมโหมาก ก็เถียงครับ ว่าผมพึ่งมา คุณนั่นแหละให้ผมไปช่วยเพื่อนทำ สงสัยนางคงความจำสั้น ผมก็พูดฉอดๆๆ ภาษาอังกฤษมาเป็นชุด อธิบายจนนางเข้าใจ แต่นางก็ไม่ได้ขอโทษอะไรผม ก็เดินสะบัดบ๊อบ แล้วก็หายหน้าไปเลย ผมโดนมาเยอะครับ อันนี้มันก็เป็นส่วนน้อยที่ผมมาถ่ายถอดให้อ่าน โดนตะคอกใส่บ้าง อะไรบ้าง มันชินช้าไปแล้ว ในบางวันนะครับ ผมก็ได้ ป้า Marry มาเป็นซุป คือป้าแกเองเป็นคนที่ไม่ยิ้มเลยครับ หน้าบึ้งตลอดเวลา เวลาที่ผมทำห้องไม่สะอาด ป้าแกก็จะเรียกให้กลับไปทำใหม่แทบทุกครั้ง ไม่มีอะลุ่มอล่วย ให้ผมเลย ป้าแกตรวจห้องละเอียดมาก วิธีการคือป้าแกเขาจะมาตามผมให้ไปที่ห้องนั้นๆ แล้วก็เอาฝ่ามือลูบไปทุกหนทุกแห่ง พอลูบไปโดนตรงที่สกปรกที ป้าแกก็จะเอามาให้ผมดู ผมก็ต้องไปตามเช็ดตามทำ มันเสียเวลามากครับ บางทีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ป้าแกก็จะเอาผิดผมให้ได้ แต่ป้าแกเขาไม่เคยด่าผมแรงๆ มีแค่ใช้คำแรงๆให้ผมสะอึกเท่านั้น อย่างเช่น เทรนเนอร์คุณไม่ได้สอนให้ทำแบบนี้หรอ หรือสอนแล้วคุณไม่สนใจ เทรนเนอร์ ชื่ออะไร ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ นิ่งๆ เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าผมยอมรับผิดนะ ใต้เตียงนี่ครับผมโดนป้าแมรรี่ดุ ประจำ ถ้าป้าแกเจอขยะทีไร ป้าก็จะเดินมาที่ผม ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ก็จะเดินมาหา เพื่อมาโชว์ ในสิ่งที่ผมทำผิดพลาด แล้วไอ้ถังขยะนี่ละครับ ที่ผมโดนประจำเป็นอันดับต้นๆ คือ ถึงขยะเช็ดไม่สะอาด ไอ้ที่ว่าไม่สะอาด มันคือก้นถังนะครับ นางก็ชี้ให้ผมดูว่าไม่สะอาด ผมคิดในใจ แขกมันจะเปิดก้นถังดูหรอวะ เอาเป็นว่า ป้าแมรรี่แกเป็นคนละเอียดก็แล้วกัน ทุกๆวันตอนกลับบ้าน ทุกคนก็จะบ่นให้ผมฟัง ว่าเจอซุป ด่ายังไงมาบ้าง ปรากฏว่า ถ้าเอาเรื่องราวของผม ไปเทียบกับเรื่องของคนอื่น ผมว่า เรื่องของผมโดนน้อยกว่าคนอื่นมาก หลายสิบเท่า บางคนโดนเร่งเวลา ห้องนึงต้องทำตามเวลาที่ ได้กำหนดไว้ ว่าห้องประเภทไหนต้องทำกี่นาที จะให้ทำตามเวลาได้ไง ก็เพราะความสกปรก แต่ละห้องมันไม่เท่ากัน โรงแรมนี้เป็นโรงแรม ที่เอาใจเด็กด้วยแล้ว เรื่องความสกปรกที่เด็กทำ อย่าให้ผมพูดเลยครับ ใช้คำว่าโสโครกเลยดีกว่า มีอยู่วันหนึ่งเราทำงานกันมาจะครบ 1 เดือน พวกเราทั้ง 13 คน มานั่งล้อมวงพูดกัน พูดเกี่ยวกับความทุกข์ของตัวเองที่ได้เผชิญมา ทุกคนมีเหมือนกันหมด และเราปรึกษากันว่า เราจะลาออกดีไหม แล้วไปหางานใหม่ทำ ทุกคนก็เห็นดีเห็นงามด้วย ว่าหางานใหม่ทำ ก็เลยมีการตรวจสอบ กฎระเบียบ ถามคนที่รู้ ต่างๆมากมาย แต่มาดูสัญญาแล้ว ถ้าเราลาออกโดยไม่มีเหตุผล VISA ของเราจะต้องถูกยกเลิกทันที แล้วก็ต้องเดินทางกลับประเทศโดยทันที ถ้าหลบหนี ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำ ไม่สามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้ 10 ปี พวกเราก็คิดกันไปคิดกันมา ถ้าพวกเราออกทั้งหมด 13 คน แล้วโรงแรมพนักงานก็ไม่พอ มันคงไม่ยอมให้เราออกแน่ๆ ท้ายที่สุด พวกพี่ๆ ก็ปลอบใจน้องๆอย่างผมว่า ทนๆทำไปเถอะ เดี๋ยวมันก็ชินไปเอง แรกๆก็แบบนี้แหละ ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา อดทนนะ ไม่เป็นไรหลอก ก็โดนกันหมดทุกคนนั่นแหละ สู้ๆเข้าไว้ ในเมื่อมันไม่มีทางออกแล้ว ยังไงผมก็ต้องทนทำหน้าที่ต่อไป ในตอนแรกผมไม่คิดว่า จะต้องมาโดนแบบนี้หนิ คิดว่าแค่ปูเตียง ปัดๆ กวาดๆ เดี๋ยวก็เสร็จ ฝรั่งมันคงไม่ทำอะไรสกปรกเหมือนคนไทยหลอก แต่พอมาเจอ มาพบ มาเห็นแล้ว มันผิดกับที่คาดหวังเอาไว้ ทุกคนก็เช่นกัน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้ารู้ว่ามาเจอแบบนี้ จ้างเท่าไหร่ก็ไม่มา แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองเลือกมา ถ้าโทรไปเล่าให้ที่บ้านฟัง คงต้องอับอายขายขี้หน้าแน่ๆ ผมไม่เคยเล่าความลำบากในที่ทำงานให้ใครฟังเลยนะครับ เก็บเงียบไว้คนเดียวมาตลอด ผมท้อจนไม่รู้จะท้อยังไงแล้ว แต่ผมก็ได้กำลังใจเยอะครับ จากคนไทยที่เมือง Williamsburg ที่คอยช่วยเหลือผม กำลังใจจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มาร่วมชะตากรรมด้วย ในเมื่อทุกคนพร้อมสู้ ยังไงผมก็ต้องสู้ครับ เป็นไงเป็นกัน พิสูจน์ตัวเองให้ซุปเปอร์ไวเซอร์ได้เห็น ว่าคนอย่างผม ก็ทำได้ ถ้าอยู่ทำที่นี่ครบ 3 เดือน งานอะไรที่ว่าหนัก ที่ว่ายาก มันก็คงเป็นเรื่องจิ๊บๆสำหรับผมแล้ว ก็ผ่านงานหนักมาแล้วนิ อันนี้มันคือพายุฝนลูกใหญ่ ที่ถาโถมเข้าใส่ผม แต่ผมคิดว่า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ไม่รู้ว่าฝ้าหลังฝนของผมจะเป็นเช่นใดบ้าง
รูปผมเองครับ กาแฟ starbuck กินแก้เครียดหน่อยครับ 555+
Create Date : 22 ตุลาคม 2554 |
|
9 comments |
Last Update : 22 ตุลาคม 2554 15:17:51 น. |
Counter : 1037 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: economix IP: 182.53.225.210 22 ตุลาคม 2554 16:59:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอก IP: 171.96.15.200 22 ตุลาคม 2554 17:00:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องต๋าว IP: 27.130.133.194 22 ตุลาคม 2554 17:24:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: โรแนน IP: 178.181.38.170 22 ตุลาคม 2554 18:33:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: economix IP: 182.53.228.226 23 ตุลาคม 2554 16:58:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: lol IP: 58.11.150.25 28 มีนาคม 2555 10:50:01 น. |
|
|
|
| |
|
|