ทันโลกทันเหตุการณ์ไปกับชัชวาล สายอยู่
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

Work and Travel ตอน 12 (เริ่มการเทรนงาน 1)

ตอนที่ 12 เริ่มการเทรนงาน 1


วันนี้เป็นวันเริ่มต้นการทำงานวันแรก เป็นวันที่เราเหล่านักล่าฝันทั้ง 13 คน ตั้งหน้าตั้งตารอ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลมาไกล ไม่รู้ว่างานผมมันจะเป็นอย่างไร จะดีไหม จะสบายไหม แล้วจะได้ ทริปไหม ผมคิดในใจอยู่ตลอดเวลา ยอมรับว่าผมมีความกังวลมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะด้านการทำงาน รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน จะโดนแกล้ง จะโดนไล่ออก เหมือนใครหลายๆคนตามเด็กเวิร์ครุ่นเก่าๆในอินเตอร์เน็ตบอกเล่าไหมหนอ แต่ก็ช่างเถอะผมเลือกที่จะมาแล้ว ขอแม่มาเองยังไงก็ต้องสู้ต่อไป วันนี้ผมตื่นนอนเป็นคนแรก ครองแชมป์มาหลายสมัยแล้ว ผมตื่นมาราวๆตี 5 ครึ่ง ตื่นออกมาก็ไปแง้มผ้าม่านดู ข้างนอกยังคงมืดอยู่เลย ข้างนอกอากาศคงหนาวน่าดู แต่ในห้องของผมเครื่องฮีทเตอร์ก็ยังทำงานปกติ ทำให้ผมอุ่นสบายหายห่วง ที่ผมตื่นมานั้นไม่ได้มีใครปลุกหลอกครับ อยู่ๆก็สะดุ้งขึ้นมาเอง ถ้าจะนอนต่อเกรงว่าจะนอนยาวจนไปทำงานไม่ทันแน่ๆ ผมเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ ทำกิจส่วนตัวเสร็จ แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศพร้อมที่จะเริ่มการทำงานวันแรก ออกจากห้องน้ำมาผมก็ไปเรียกฮอทให้มาอาบน้ำต่อ จากนั้นผมก็ไปทำมาม่า พร้อมนม 1 แก้วเพื่อกินให้มีพลังในการทำงาน มาม่าก็ทำไม่ยาก แค่แกะเส้นใส่กล่องข้าวทนความร้อน เติมน้ำ แล้วก็เอามันเข้าไมโครเวฟที่มีในห้องพัก สักประเดี๋ยวก็ได้กินแล้ว ของกินของผมนั้นไม่ต้องห่วง เพราะขนมาจากไทยแลนด์เยอะมากมาย พวกเรา 3 คนในห้องเอาของกินมากองรวมกัน เป้นกองกลาง โอโห อย่าให้บอกว่าห้องเราเปิดเป็นร้านขายของชำย่อมๆได้เลย ผมนั่งกินอาหารเช้าไป และก็เปิดทีวีดูไป รายการที่ชอบดูตอนเช้าคือ รายการพยากรณ์อากาศ ผมนั่งดูว่าวันนี้อุณหภูมิจะอยู่ที่กี่องศาเซลเวียส ปกติที่นี่จะบอกเป็นฟาเรนไฮน์ ใครอย่าไปตกใจนะครับ ถ้าเห็นตัวเลขเยอะๆ นั่นไม่ใช่หน่วยวัดแบบองศาเซลเซียส วันนี้อุณหภูมิอยู่ที่ 7 องศาเซลเซียส การพยากรณ์อากาศที่นี่จะมีความแม่นยำมาก บอกได้เลยว่าวันไหนฝนจะตก ตกเวลาไหน อากาศเป็นอย่างไร ทำนายได้อย่างเปะๆ ล่วงหน้า 7 วัน วันนี้เองพวกเราจะต้องไปขึ้นรถประจำทางรอบ 7 โมง 10 นาที เพราะผมเสนอว่าวันแรกพวกเราควรไปเร็วๆ ทำให้เจ้านายรู้ว่าพวกเรามีความกระตือรือร้นในการทำงาน ป้ายรถประจำทาง เราต้องเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เดินข้ามทางรถไฟไป แล้วเลี้ยวไปทางซ้าย จากหอพักของเราใช้เวลาเดินไป เกือบ10 นาทีได้ ที่เมืองนี้จะแบ่งสายรถประจำทางเป็นสีๆ ถ้าเกิดขึ้นตรงหน้าหอพัก มันจะต้องไปอ้อม แล้วไปต่ออีกหลายสาย เพื่อความสะดวกสบายพวกเราจึงต้อง ข้ามถนนไปอีกฝั่ง เวลาเกือบเจ็ดโมงตรง ชาวไทยทั้ง 13 คน จึงเดินไปขึ้นรถประจำทาง ความจริงแล้วงานเข้า 9 โมงเช้า ถ้าไปรถรอบ 8.10 ก็ทัน แต่ด้วยวันแรก อาจมีอะไรขาดเหลือจะได้เตรียมตัวทัน วันนี้ก็เป็นวันขึ้นรถประจำทางวันแรกของผมและเพื่อนอีกหลายคน แต่พวกพี่ห้อง 139 เคยขึ้นกันมาแล้ว ก็เลยมีคนสอนขึ้น พี่เขาบอกว่า ค่ารถถ้าขึ้นทั้งวันกี่รอบก็ได้ สายไหนก็ได้ในราคา 1.5 เหรียญ ถ้ารอบเดียว 1.25 เหรียญ ยังไงขากลับก็ต้องกลับรถประจำทาง พวกเราก็ต้องซื้อ 1.5 เหรียญ วิธีการขึ้นก็คือ เตรียมเหรียญให้พอดี คอว์เตอร์ แดม เพนนี ก็ว่าไป ถ้าเกิดเราจ่าย แบงค์ดอลล่า 2 ใบ จะได้เงินถอนแบบเป็นบัตรเงินสด ที่สามารถนำมาใช้ในวันต่อไปได้ ซึ่งจะไม่มีเงินทอนเป็นแบบเงินสด เมื่อรถปมา พวกเราก็ต่อแถว ยอดเหรียญกันทีละคน ซึ่ง 13 คนก็ใช้เวลานานกันพอสมควร เพราะยังงุนงงกับเหรียญต่างๆ ผมเองก็ต้องถามฮอทและปั้น เพราะสองคนเคยมาอยู่อเมริกาตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน1 ปี เมื่อหยอดเงินครบบัตรก็จะออกมา เมื่อได้บัตรแล้วจึงสามารถเดินเข้าไปนั่งได้ บัสประจำทางที่นี่ไฮเทคมากครับ เพราะมันสามารถเลื่อนระดับลง ให้คนธรรมดาหรือคนพิการก้าวขาขึ้นรถได้ง่าย คนพิการที่นี่เขาจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ข้างหน้ารถก็จะเป็นที่เก็บจักรยาน จากอากาศข้างนอกหนาวเหน็บ พอขึ้นไปบนรถมันก็อุ่นขึ้นมาทันที เพราะเขามีระปรับอากาศทำความร้อนและความเย็น ราวจับที่เป็นเหล็กก็ยังอุ่นเลยครับ รถสายสีแทนนี้ จะวิ่งมาจากย่านดาวทาวน์ของเมืองวิลเลี่ยมเบิร์ก ลัดเลาะมาเรื่อยๆ ผ่าน Wal mart และป้ายต่อไปก็จะเป็นโรงแรม Great wolf Lodge สถานที่ทำงานของเราครับ พวกเราขึ้นรถมาหัวดำหมด ก็เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของชาวพื้นเมืองสักหน่อย แต่เขาคงเห็นกันชินตาเพราะเด็กเวิร์คชาวไทยที่มาเมืองนี้มีเยอะพอสมควร คนที่นี่เขาจะเคารพกฎจารจรอย่างเคร่งครัดครับ แม้กระทั้งป้าย Stop เขาก็ยังหยุด ทั้งๆที่ไม่มีรถสวนมา ถ้าเป็นบ้านเรา จะให้เป็นป้ายอะไรก็ไม่สนใจ หรือจะเป็นตำรวจยืนอยู่ ก็ไม่มีใครสนใจใยดีเท่าไหร่ และแล้วพวกเราก็มาถึงที่ทำงานของเรา ทางฝ่ายบุคคลบอกว่าให้พวกเราเดินเข้าประตูสำหรับพนักงานอย่าเดินผ่านRobby แล้วก็เดินตรงไปยังห้อง Housekeeping ใต้ดินทันทีด้วยความที่เรามาแต่เช้าตรู่ ดูไปแล้วก็ยังไม่มีใครมาเลย เมื่อเรามาถึงก็มานั่งรอตรงห้องโถง ที่สำหรับกินข้าว ภายในห้องก็จะมีตู้แช่ มีวีที มีตู้น้ำดื่ม รวมไปถึงโต๊ะเก้าอี้ และห้องน้ำชายหญิง พวกเราก็มานั่งรอกันในห้องนี้ รอเวลาที่จะเริ่มการทำงาน กว่าจะมาถึงห้องนี้เวลาก็ปาเข้าไปจะแปดโมงเช้าแล้ว ระหว่างที่อยู่ห้องนี้ พวกเราทั้ง 13 คนก็นั่งจับเข้าคุยกันตามนิสัยคนไทย รู้สึกว่าพวกเราจะมีความสนิทชิดเชื้อกันมากยิ่งขึ้นแล้ว พวกเราจับเข้าคุยชีวิตความเป็นอยู่ที่ผ่านมา และการคาดเดาในอนาคตว่าพวกเราจะมีแผนการอย่างไร เมื่อเวลา 8 โมงครึ่งก็ได้มี เพื่อนๆชาวฟิลิปปินส์ จำนวน 13 คนเท่ากับเราเดินเข้ามา พวกนี้ก็พักที่เดียวกับเรา ตอนแรกผมก็ไม่ได้คุยกับพวกนั้นหลอก ก็แค่ยิ้มๆให้ อีกอย่างภาษาอังกฤษผมมันก็แค่ขั้นกลางๆ คุยกับพวกนั้นคงจะลำบากสักหน่อย เมื่อพวกนั้นเดินเข้ามา พวกเราก็มิวายจะกล่าวถึงหรือนินทาพวกนั้นเป็นภาษาไทย นี่แหละนิสัยคนไทย ส่วนพวกนั้นก็พูดภาษาของพวกเขาเองเช่นกัน มันคงนินทาเราเหมือนกัน แน่นอนพวกเราฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ บรรดาเหล่าพนักงานทำความสะอาดก็เริ่มเดินเข้ามากันมากหน้าหลายตา ผิวดำบ้าง ผิวขาวบ้าง ปะปนเต็มไปหมด เมื่อ 9 โมงตรง Mr. Jame และบรรดาเหล่า Supervisor ก็เดินเข้าในห้องที่เราอยู่ ก่อนอื่นเริ่มด้วยการกล่าวต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น แนะนำตัวทีละคนว่าใครเป็นใครบ้าง ผมเห็นบรรยากาศเช่นนี้มันทำให้ผมมีความรู้สึกที่ดีเพิ่มขึ้น คนที่นี่ก็อัธยาศัยดีเหมือนกันแหะ แรกเริ่มเลย Manager ก็จะเข้ามาพูดๆ แนะนำการทำงาน การปฏิบัติตัวของแต่ละวัน และทุกๆวันก็จะเป็นเช่นนี้ก่อนการเริ่มงาน มีการบอกว่าวันนี้จะทำความสะอาดตรงไหนเป็นพิเศษ อะไรอย่างไร ท้ายที่สุดก็มีการแจกกระดาษสีขาวๆ ในตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่ามันคือกระดาษอะไร วันนี้เป็นวันเทรนของผม ผมจึงไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เดินไปกับ Trainer ที่เขาจัดให้ซึ่งเขาระบุว่า ให้ใครไปกับใคร เมเนเจอร์บอกว่าพวกเราต้องเทรนงาน 5 วันกับเทรนเนอร์ จากนั้นก็จะให้พวกเราทำเอง และแล้วก็มีการประกาศให้เราไปเทรนงานกับใคร ผมนั้นได้เทรนกับ Stefany หญิงสาวสวยชาวแมกซิกัน หล่อนก็มาทักทายผม ถามชื่อผม ในที่สุดเราก็รู้จักกัน ผมโชคดีมากครับ เพราะสเตฟานี่ใจดีมากๆ และยังนิสัยดีอีกด้วย ผมก็เดินตามหล่อนไป จุดแรกที่ต้องไปคือไปรับ ตะกร้าสบู่ แชมพู ครีม ของโรงแรมที่เราจะต้องไปเปลี่ยนให้แขกทุกวัน เมื่อรับแล้วก็ส่งกระดาษให้ซุปเปอร์ไวเซอร์เซ็นกำกับหมายเลขตะกร้า จากนั้นผมก็เดินตามหล่อนขึ้นลิฟต์ไป ลืมบอกไปว่าผมนั้นได้เทรนงานกับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ ผู้หญิงคนนี้ผมเคยเจอนางวันปฐมนิเทศนั่นเอง นางชื่อว่า ไดแอนแต่ผมจะเรียกนางเวลาเม้าส์กับเพื่อนๆว่า ยาคุม เพราะไดแอน เป็นยี่ห้อยาคุม ฮ่าๆๆ ดูๆไปนางก็จะเงียบขรึมสักหน่อยตอนแรกเราก็ไม่ได้คุยไรมากแค่แนะนำตัวกัน สเตฟานี่พาผมกับไดแอน ไปที่ชั้น4 ฝั้ง west west ทำไมต้องรียกชื่อทิศซ้ำกันอย่างนี้ ก็เป็นเพราะฝั่ง west west เป็นฝั่งที่ไกลที่สุดของโรงแรม ต้องเดินผ่านฝั่ง west ธรรมดาไปอีกมันไกลมากๆครับ ที่นี่จะมีฝั่ง east แต่ไม่มี east east มีฝั่ง west และ west west แต่ละโซนนั้นก็จะมีห้องเก็บของประโซน หน้าห้องเขียนว่าห้อง Utility room แต่คนที่นี่จะเรียกกันว่าห้อง Closest ภายในห้องก็จะมี Cart หรือรถเข็นเอาไว้ใส่สิ่งของเวลาไปทำความสะอาดห้องแขก ผ้าขนหนูหรือ Towel มีผ้าปูที่นอน ไซด์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น king sheetหรือ Queens sheet เอาเป็นว่าของทุกอย่างอยู่ในนี้ และก็มีคำศัพท์มากมาย ก่อนที่เราจะไปทำความสะอาดห้องแขกจะต้องมาเตรียมของใส่รถตัวเอง เลขของรถจะกำหนดลงบนกระดาษสีขาวแล้วว่าใครได้รถคันไหน และเบอร์ห้องว่าจะต้องไปทำห้องไหน มันเยอะมากๆ ผมขอสเตฟานี่ดูกระดาษ ภายในจะระบุ เลขห้อง ห้องไหนเป็น check out ห้องไหน Stay over หรือยังเข้าพักอยู่ ในนั้นก็จะบอกขนาดห้องว่าเป้นห้องประเภทไหน จะทำให้เรารู้ว่าภายในนั้นจะมีกี่เตียง มีห้อน้ำกี่ห้อง แล้วระยะเวลาในการทำความสะอาดก็มีระบุไว้ในกระดาษแล้ว เมื่อผมเห็นเช่นนั้นความเครียดก็มาเยือนทันที วันนี้เราสามคนต้องทำความสะอาดกัน 10 ห้อง แล้วชั้น 4 ก็มีแต่ห้องขนาดใหญ่ทั้งนั้น ผมและไดแอนก็ช่วยสเตฟานี่เอาของใส่รถ ของทุกอย่างที่มีให้ห้องนำมาใส่ให้พอกับจำนวนห้องที่เราต้องไปทำ เมื่อนำทุกอย่างใส่แล้วก็ถึงเวลาเข็นรถออกไป เพื่อเริ่มการปฏิบัติงานแล้วคับ ความตื่นเต้นกำลังเริ่มขึ้นอีกแล้ว ไม่รู้ว่าขั้นตอนการทำความสะอาดนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อไปครับ




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2554
1 comments
Last Update : 13 ตุลาคม 2554 20:44:37 น.
Counter : 967 Pageviews.

 

อ่านจนลายตาเลยค่าาาาา 555

 

โดย: lol IP: 58.11.150.25 28 มีนาคม 2555 10:29:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bastian@Bangna
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




มาตามกระแสของโลกกันเถอะครับ
Friends' blogs
[Add Bastian@Bangna's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.