ทันโลกทันเหตุการณ์ไปกับชัชวาล สายอยู่
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
Work and Travel ตอน 23(เที่ยวเมืองหลวง 1)

ตอนที่ 23 เที่ยวเมืองหลวง 1


การใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของกระเหรี่ยงน้อย อย่างพวกผมในประเทศสหรัฐอเมริกา 80 เปอร์เซ็นต์ หมดไปกับการทำงาน พวกผมคิดว่า โครงการนี้มันชื่อ Work and Travel ซึ่งเราไม่ควรใจจดใจจ่อกับการทำงานเพียงอย่างเดียว เราต้องออกไปท่องเที่ยว หาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้มันมากกว่านี้ ไม่ใช่จะมาหมกตัวในสถานที่ทำงานและที่หอพักเพียงอย่างเดียว พวกผมใช้เวลารับประทานอาหารในช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่เราจะมานั่งรวมตัวกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติ และมีอยู่ช่วงหนึ่ง เหล่าชาวสยามทั้ง 13 คน มีวันหยุดตรงกัน โดยมิได้นัดหมาย 2 วัน พอดิบพอดี พวกผมจึงใช้โอกาสนี้ออกไปเที่ยวสนุก อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา บางคนก็เสนอให้ไปเมือง Richmond อันเป็นเมืองหลวงของรัฐ Virginia บ้างก็เสนอให้ไปเที่ยว Virginia breach อันเป็นเมืองติดทะเล มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาน ตระการตา แต่พวกเราคิดไปคิดมาแล้วว่า เราควรจะไปที่ ที่มันไกลกว่านี้ หยุด 2 วันทั้งที ก็ควรไปค้างคืนด้วย คิดแล้วคิดอีก คิดไปคิดมา ก็ลงตัวกันที่ กรุง Washington DC อันเป็นเมืองหลวงของประเทศ และที่นั่นก็มีสถานที่สำคัญๆ ระดับประเทศ หรือ ระดับโลกหลายแห่ง สรุปเอาเป็นว่าพวกผมจะไปที่นี่กัน จากนั้นเราก็มานั่งคิดว่า เราจะเดินทางกันอย่างไร ซึ่งก็มีอยู่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ Amtrack ที่ต้องไปขึ้นในเมือง Williamsburg และต้องจองล่วงหน้า ค่าโดยสารไปกลับ คงไม่ต่ำกว่า 60 เหรียญ หรือจะไปโดย China bus ซึ่งต้องไปขึ้นที่เมือง New port new เมืองข้างๆ ราคาไม่แพง แต่ก็ต้องเสียค่ารถแท็กซี่ไปขึ้นรถอีก อีกวิธีก็คือไปขึ้นที่เมือง Richmond เป็นรถ shuttle bus ราคาก็พอประมาณ ไม่ถูกไม่แพง แต่จะต้องไปขึ้นไกล เราระดมสมองกันอย่างเคร่งเครียด ท้ายที่สุดก็มีคนเสนอให้โทรหาลุงแจ๊ค ลองปรึกษาลุงเขาดู ซึ่งเขาน่าจะมีคำแนะนำดีๆให้กับพวกเรา ฮอท ก็รับหน้าที่โทรไปคุย คุยกันไปคุยกันมา ลุงแจ๊คก็บอกเขาจะเป็นคนขับรถให้เอง ถ้าไป 13 คนพร้อมกัน เขาจะไปเช่ารถ Van คันใหญ่ เรื่องการนำเที่ยวเขาจะเป็นคนนำเที่ยวเอง ลุงแจ๊คคิดพวกเราแค่ 35 เหรียญ ตลอดการเดินทาง 2 วัน 1 คืน ซึ่งถูกแบบหาที่ไหนไม่ได้อีก แล้วเรื่องที่พักลุงแจ๊คแนะนำว่า ให้ลองติดต่อวัดไทยในกรุงวอชิงตันดีซี ดู ซึ่งเรื่องที่พัก ผมจะเป็นคนประสานงานให้ เมื่อผมติดต่อไปแล้ว ปรากฏว่าทางวัดมีที่พักให้เราพอดี ในวันนั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ วันที่ราไป ไม่มีคนไทยคณะไหนมาพัก ปกติแล้วการที่จะมาพักที่วัด จะต้องมีการโทรจองไปก่อนเนิ่นๆ ทางวัดก็จะจัดที่พักให้ ที่หนอน หมอน ผ้าห่ม มีครบทุกอย่าง เมื่อทั้งการเดินทางลงตัว ที่พักลงตัว สถานที่เที่ยวก็ลงตัว ทุกอย่างมันช่างสมบูรณ์แบบเสียจริงๆครับ เมื่อวันเดินทางมาถึง ลุงแจ๊คนัดพวกเรา 7 โมงเช้า ชาวสยามทั้ง 13 คน ก็แต่งองค์ทรงเครื่องในชุดเก่ง เท่าที่จะหาได้ การไปกรุง DC ของพวกเรา ก็เปรียบเสมือนการเดินทางเข้า กรุงเทพของบุญชู ดังนั้นเราต้องไม่ทำตัวบ้านนอก เมื่อทุกคนพร้อม จึงเดินไปขึ้นรถลุงแจ๊คที่หน้าหอพัก และที่ขาดไม่ได้เลยคือสัมภาระที่ต้องใช้ระหว่างการเดินทาง 2 วัน 1 คืน เมื่อทุกคนพร้อม ลุงแจ็คก็ได้ออกรถในทันที จุดหมายปลายทางคือกรุง Washington DC หรือ เรียกสั้นๆว่า DC ก็ได้ เราจะใช้เวลาเดินทางราวๆ 3 ชั่วโมง จากเมือง Williamsburg แห่งรัฐVirginia ถ้าเปิดแผนที่ดู รัฐ DC กับรัฐ VA จะอยู่ติดกัน แต่ด้วยประเทศนี้มันช่างใหญ่โต พวกผมจึงใช้เวลาเดินทางนานเสียหน่อย เมื่อทุกคนได้ขึ้นมาบนรถแล้วกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือการเมาส์ พวกผมตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งนี้มาก ก็เพราะเราไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน วันๆก็ต้องทำงาน แถมวันหยุดไม่เคยจะตรงกันสักที สถานะจากแรงงานต่างด้าว ผันตัวเองมาเป็นสถานะนักท่องเที่ยว ภาพพจน์มันช่างต่างราวฟ้ากับเหว บรรยากาศข้างทางนั้น สวยสดงดงามไปด้วย วิวทิวทัดบ้างก็ผ่านป่าสน บ้างก็ผ่านหมู่บ้านคน รถของพวกผมแล่นอยู่บนถนน High way ซึ่งมีรถวิ่งกันอย่างหนาแน่น ถ้าเปรียบกับบ้านเรา ก็คือถนนสาย เอเชีย เพชรเกษม หรือ ถนนมิตรภาพนั่นเอง รถทุกคันคงมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง เมื่อผมหันไปหันมาเพื่อนๆพี่ๆ ก็สลบไปกันไปทีละคน สองคน คงเป็นเพราะพวกผมตื่นกันแต่เช้าก็เลยงีบหลับกันไป ผมดูวิวทิวทัศน์ไปสักประเดี๋ยว จึงขอตัวงีบหลับเสียบ้าง และก็ตื่นมาอีกทีตอนที่กำลังจะเข้าตัว DC ลุงแจ๊คก็ชี้ให้พวกผมดู ตึก Pentagon กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ถ้ามองไกลๆ จะเห็น แท่งสูงๆ สีขาว มีชื่อว่า Memorial Monument ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมือง รถลุงแจ๊คขับเข้าไปเรื่อยๆ มองเห็นแม่น้ำ Potomac ผ่านตึกรามบ้านช่อง สำนักงานทั้งภาครัฐ และเอกชนต่างๆ พวกผมเดินทางมาถึงที่นี่ก็ราวๆ 10 โมงเช้าแล้ว ตอนนี้พวกผมก็รู้สึกหิวขึ้นมาแล้ว ลุงแจ๊คก็เลย พาพวกเราไปทานอาหาร ไม่ต้องสืบว่าไปกินอะไร นั่นก็คือ MacDonald นั่นเอง เพราะอาหารที่นี่จะแพงมากๆ เราต้องประหยัดงบประมาณ มื้อแรกของที่นี่ก็กินอะไรเบาๆ อย่างพวกชุด Breakfasts ราคา 5 -8 เหรียญ มีไข่ มีขนมปัง มีน้ำอัดลมให้ และอื่นๆ ก็พอกินให้อิ่มท้องได้ ถ้าถูกกว่านั้นผมขอแนะนำพวก Dollar menu ครับซึ่งไม่ว่าจะเป็น แฮมเบอร์เกอร์ น้ำ และอีกหลายอย่างจะมีราคาอยู่ที่ 1 เหรียญเท่านั้น แล้วก็บวก VAT ตามแต่ละรัฐเอา ซึ่งDC ต้อง + 10% ต่างจาก VA มาก + 2%เอง ราคาสินค้าทุกอย่างในสหรัฐไม่ได้รวม VAT ไว้นะครับ เราจะรู้ราคาจริงเมื่อคำนวณเอง หรือ จ่ายเงินแล้ว ผมนั้นเป็นคนง่ายๆกินอะไรก็ได้ สบายมาก สังเกตเองนะครับว่าร้าน fast-food ทั่วไป เวลาเราจะซื้อน้ำ เขาจะให้แก้วมา และเราไปเติมน้ำเอง ที่ซุ้มน้ำ ซึ่งจะจัดไว้แยกต่างหาก บางทีพวกผมก็ซื้อกันแก้วเดียว ก็ลุกไปเติมเอาหลายๆรอบ แม็คโดนัลที่ประเทศนี้ ไอศกรีมแบบโคน จะแพงกว่าพวกถ้วยๆแบบซันเดย์ แปลกดีเหมือนกัน ซอสที่นี่ก็ให้แบบเป็นซองๆ ไม่ใจเหมือนบ้านเราเลย ที่ปั้มเอาเท่าไหร่ก็ได้ ฮ่าๆ พอเรานั่งกินไปสักพัก ก็ไปเข้าห้องน้ำห้องท่า เดี๋ยวมันจะหายาก ห้องน้ำของที่นี่ เป็นแทบทุกที่นะครับ ไม่ว่าจะไปเข้าที่ไหน เมืองไหนก็ต้องเป็นแบบนี้ คือถ้าผู้ชายจะเข้าไปถ่ายหนัก หรือ ผู้หญิงจะถ่ายเบา ห้องน้ำทั้งชายและหญิง ประตูดูเหมือนจะมีช่องว่าง ประมาณ 1 เซนติเมตร จากขอบประตูด้านบน จรดขอบประตูด้านล่างในแนวตั้ง แล้วประตูห้องน้ำ เมื่อนั่งชักโครกแล้ว จะต่ำกว่าหัวเข่าไม่เกิน 10 เซนติเมตร เอาง่ายๆว่า ถ้าเดินเข้าไป เราจะรู้ว่าใคร กำลังทำอะไร อย่างไร เลยทีเดียว ชาวอเมริกัน เขาก็ใช้ชีวิตกันปกตินะครับ แต่ผมก็รู้สึกเขินๆ จึงไม่ชอบไปถ่ายหนักนอกสถานที่ ฮ่าๆ เมื่ออิ่มท้อง กองทัพกระเหรี่ยงจึงเริ่มออกเดินทาง โดยมีลุงแจ๊ค เป็นคนพาเที่ยว ช่างมีความสุขเสียจริงครับ สถานที่แรกที่เราจะไปคือ เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่รวบรวมสิ่งของที่นักวิทยาศาสตร์ หรือบุคคลสำคัญได้คิดค้นขึ้น ภายในตัวอาคารยิ่งใหญ่มากๆครับ มีทั้งชาวอเมริกัน ที่มาเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะตามโรงเรียน ที่พานักเรียนมาทัศนะศึกษา รวมไปถึงชาวต่างชาติ มองๆไป ชาวเอเชียก็เยอะไม่น้อย พวกผมใช้เวลาเดินดูภายใน อยู่นานพอสมควร ความรู้ไม่ค่อยได้ สิ่งที่ได้ส่วนใหญ่คือการถ่ายรูป ใครที่สนใจเกี่ยวกับอวกาศ แนะนำให้มาครับ ได้สัมผัสยานอวกาศลำจริงๆ ที่ปลดประจำการแล้ว อย่าง Apollo 11 เป็นต้น ที่นี่ไม่เสียค่าเข้านะครับ เมื่อดูที่นี่เสร็จก็เดินไปอีกฟากหนึ่ง แถวๆนั้นมันจะเป็น สถานที่รวมรวมพิพิธพันธ์ที่สำคัญๆเอาไว้หลายแห่งครับ ถ้าเปรียบกับบ้านเรา ก็จะเป็นคล้ายๆ สนามหลวง ซึ่งรอบสนามหลวงก็จะมีพิพิธพันธ์ แต่งที่ DC เขาจะเรียกว่า Nation Mall ถ้าเดินข้ามสนามหญ้าไป ก็จะไปเจอ พิพิธพันฑ์ เกี่ยวกับ Biology พวกสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ภายในอาคาร ก็จะมีสัตว์จำลอง บ้างก็สตาฟ เอาไว้ คนก็เยอะพอสมควร เด็กอเมริกันนี่เยอะมากๆ เหมือนพวกเราไปวัดพระแก้วตอนประถมนั่นแหละครับ บรรยากาศเดียวกัน ฮ่าๆ แต่ละที่ พวกเราใช้เวลาเดินชมไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เพราะมันทั้งใหญ่และอลังการงานสร้าง ต้องทำเวลาครับ เดินไปเดินมาก็มีการตั้งชื่อทัวร์นี้ว่า ทัวร์ชะโงก คือชะโงกดูอย่างเดียว ลุงแจ๊คบอกว่าถ้าจะให้เวลาชมทุกพิพิธภัณฑ์ ก็จะใช้เวลาหลายวัน ลุงแจ๊คจึงเลือกสถานที่เด่นๆ วันแรกเราก็ได้ชม 2 พิพิธภัณฑ์เท่านั้น จากนั้นพวกผมทั้งหมดก็เดินไปถ่ายรูป สถานที่เป็น Land mark ของ DC และของประเทศอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ Memorial Monument ไอ้ที่เป็นแท่งๆนั่นแหละครับ ทุกการเคลื่อนที่ของเรา จากที่หนึ่ง ไปอีกที่หนึ่ง นั่นก็คือ 2 ขานั่นแหละครับ มันจึงใช้เวลามากหน่อย เราหมดเวลาไปตรงนี้ นานพอสมควรครับ จากนั้นลุงแจ๊คก็พาไปที่ผมสนใจอีกที่หนึ่ง นั่นก็คือ White House หรือ บ้านพักของ ประธานาธิบดี ผมไม่รู้ว่าตอนนั้น ท่านโอบาม่า อยู่ในบ้านหรือป่าว พวกเราสามารถยืนดูแค่นอกรั่วเท่านั้นนะครับ คืนบุรุกเข้าไป คงโดนยิงทิ้งแน่ในข้อหาก่อการร้าย ผมก็เห็นว่า มีชาวอเมริกันมาเยี่ยมชมเยอะพอสมควรนะครับ แอบเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งมายืนร้องเพลงให้ท่านประธานาธิบดี ด้วย เวลาก็ล่วงเลยมานานพอสมควร มันก็เย็นมากแล้ว ลุงแจ็คก็บอกให้พวกเรา ไปที่วัด เพื่อจัดแจงเรื่องที่พักให้เรียบร้อย ภาษาทางโลกเรียน check in ลุงแจ๊คขับรถจากใจกลางเมือง DC มุ่งไปยังวัดไทยกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งใช้เวลาเดินทางราวครึ่งชั่วโมง ผมสังเกตว่าเมืองนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน แลดูมีชาติมีตระกูล ส่วนใหญ่คงเป็นพวกข้าราชการ เพราะอาคารบ้านเรือนแลดูหรูหรา บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ระบบความปอดภัยคงดีเยี่ยม ตำรวจตรวจตรากันทุกช่วงห้วงเวลา เมื่อมาถึงวัดไทยในดีซี แปลกที่ตัววัดอยู่ในเขตรัฐMaryland ฮ่าๆ ไม่แปลกครับ เพราะกรุงวอชิงตัน มันเล็กนิดเดียวเอง และรัฐมันอยู่ติดกัน เมื่อมาถึงวัด ผมก็โทรหาหลวงพี่รูปหนึ่ง ซึ่งท่านให้เบอร์มือถือ ให้ผมไว้ เวลามาถึงให้โทรหาท่าน เมื่อเรามาถึงก็เดินไปที่ตัวสำนักงานของวัด เข้าไปกราบท่าน จากนั้นท่านก็พาพวกผมไปดูที่หลับที่นอน ซึ่งต้องลงไปชั้นใต้ดิน ท่านก็เรียกผม ไปดูห้องน้ำห้องท่า ห้องครัวเผื่อมาทำอะไรกินตอนหิวๆ ท่านใจดีมีเมตตา มากๆครับ ท่านก็บอกว่า ช่วงนี้ทางวัดยุ่งๆ เพราะเตรียมตัวจัดงานสงกรานต์ เมื่อเราจัดแจงเรื่องที่พักเรียบร้อย ผมเสนอว่าให้ไปเดินหาอาหารค่ำ กินกันที่ China town ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกัน ลุงแจ็คก็พาเราย้อนกลับเข้าไปใจกลางเมือง DC แล้วก็ปล่อยพวกเราลงที่ China town ส่วนลุงแจ๊คจะไปจอดรถที่อื่น เพราะที่นี่หาที่จอดรถลำบากมากๆ ต้องจอดเป็นที่ ส่วนใหญ่ก็เสียเงิน ลุงแจ๊คบอกว่า ถ้าอยากจะกลับก็ให้โทรหา แล้วจะมารับ พวกผมก็เดินดู ถ่ายรูปตึกรามบ้านช่อง ผมลืมบอกไปว่า พวกผมทุกคนได้ซื้อเสื้อ I love DC มาจากเมื่อตอนบ่ายๆ ราคา 3 ตัว 10 เหรียญ และพวกเราก็ได้ใส่มาเดิน ทั้ง 13 คน สร้างความแตกตื่นให้กับคนพื้นที่เป็นอย่างมาก พวกเราหาร้านอาหารที่แลดูไม่แพง วนแล้ววนอีก ก็เลือกไม่ได้ เพื่อนๆ เลยให้ผม เข้าไปถามในร้านอาหารไทย ว่าร้านไหนของถูกบ้าง พี่พนักงานสาวชาวไทยก็บอกให้เดินไปร้านอาหารจีนตรงข้าม ราคาไม่แพง เมื่อพวกผมเข้าไป ก็แบ่งเป็น 2 โต๊ะ ก็สั่งพวกข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง บะหมี่น้ำ ก๋วยเตี๋ยว ราคาเฉลี่ยต่อจาน 5 เหรียญ ไปจนถึง 12 เหรียญ ตอนจะจ่ายเงินเริ่มมีปัญหา เพราะพวกผมไม่ให้ ทริปพวกมัน 15 เปอร์เซ็นจากราคาอาหารทั้งหมดต่อ 1 โต๊ะ มันก็เรียกพนักงานเกือบทั้งร้านมายืนกดดัน แถมมันยัง โยนเงินใส่พวกผมอีก ผมพูดถึงคนจีนในร้านนี้นะครับ คนจียร้านอื่นก็น่ารักครับ ร้านนี้ไม่ไหว น้ำมันยังไม่มาเติมให้เลย พวกพนักงานเสริฟ คือตามธรรมเนียมปฏิบัติ ถ้าเรามากินร้านอาหารแบบ restaurant เราจะต้องจ่ายทริปให้พนักงาน 15 เปอร์เซ็นจากค่าอาหาร เช่นกิน 100 เหรียญ จะต้องจ่าย 15 เหรียญบวกเข้าไป หรือ วางไว้ที่โต๊ะ พวกผมก็ต้องหุ้นกันออกค่าทริปกันโดยปริยาย ตอนนั้นพวกเรารู้สึกอารมณ์เสียครับ ก็เลยอยากจะกลับวัด เพื่อพักผ่อน จึงโทรเรียงลุงแจ๊คให้มารับ เมื่อถึงวัดพวกเราก็จัดแจงทำภารกิจส่วนตัว อาบน้ำอาบท่า ถึงแม้อากาศมันจะหนาวแค่ไหน ด้วยความมั่นใจจึงต้องอาบครับ แล้วก็ปิดไฟเข้านอน ส่วนลุงแจ๊คต้องไปนอนโรงแรมใกล้ๆครับ เพราะทางวัดไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติมาพัก ครับ แล้ววันรุ่งขึ้น พวกเราก็นัดลุงแจ๊ค 9 โมง เพื่อจะให้มารับและไปเที่ยวต่อเป็นวันสุดท้ายครับ สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ เพราะเหนื่อยกับการเดินทั้งวันแล้ว






























Create Date : 07 มกราคม 2555
Last Update : 13 มกราคม 2555 15:20:34 น. 1 comments
Counter : 1260 Pageviews.

 
Good kids สู้ๆนะจ๊ะ (13 I love DC Ts...Awesome!)


โดย: Annie/Fl. IP: 173.78.94.101 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:10:20:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bastian@Bangna
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




มาตามกระแสของโลกกันเถอะครับ
Friends' blogs
[Add Bastian@Bangna's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.