ทันโลกทันเหตุการณ์ไปกับชัชวาล สายอยู่
Group Blog
 
 
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
30 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
Work and Travel ตอน 10 (สำรวจ Williamsburg 2)


ตอนที่ 10 สำรวจ Williamsburg 2

คุณเพ็ญพักตร์มาส่งพวกเราที่เมืองเก่า หรือคนที่นี่เรียกว่า Colonial เมื่อคุณเพ็ญพักตร์ มาส่งพวกเราแล้ว เธอจึงขอไปทำธุระที่อื่นต่อ แล้วได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้พวกเรา เพื่อจะติดต่อกันเพื่อมารับกลับ สภาพอากาศตอนนั้นหนาวเหน็บ แต่พวกเราก็มีเสื้อผ้าอาภรณ์ กันหนาวอย่างเพียบพร้อม สังเกตได้ว่าคนไทย มักแต่งตัวโอเวอร์ กว่าคนพื้นเมือง โดยเฉพาะผู้หญิงแล้วนั้นไม่ต้องพูดถึง พวกเราค่อยๆเดินสำรวจกันอย่าง งุนงงเพราะไม่รู้จะไปเริ่มกันโซนไหนก่อน แม็กจึงเสนอให้พวกเราเดินไปถามตรงฝ่าย information เมื่อสอบถามเสร็จแล้วก็ได้ความว่า ที่นี่จะมีค่าธรรมเนียมหากเราต้องการ เดินเข้าไปในตัวอาคารโบราณต่างๆ ที่ตั้งเรียงรายในเขตนี้ แต่ราคาก็สูงพอสมควร พวกเราจึงตัดสินใจเดินกันอยู่ภายนอก ที่นี่เป็นคล้ายๆกับหมู่บ้านโบราณ ตึกรามบ้านช่องมีความเป็นมาเป็นไป พวกก็ได้เราเดินกันอย่างสนุกสนาน อาศัยแผนที่ ที่มีแจกฟรีตรงทางเข้า ระหว่างเดินนั้นพวกเราก็ คุยกันเฮฮาสนุกสนาน เดินไปไหนมาไหนคงเป็นที่สนใจของคนแถวนั้น คงเป็นเพราะพวกเราเป็นคนเอเชีย ระหว่างเดินไปนั้น พวกเราถ่ายรูปกันสนุกสนาน ด้วยสถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ รวมไปถึงการแต่งกายของคนที่นี่ ก็ออกไปในแนวย้อนยุค ถ้าว่ากันไปแล้ว ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ก่อนการสถาปนาประเทศ อาจจะล่วงเลยไปจนถึงการค้นพบดินแดนแทบนี้ หรือรวมไปถึงการรบราฆ่าฟันกับชนเผ่าอินเดียแดง ตอนนั้นพวกเราไม่ได้ซาบซึ้งกับความเป็นมาของที่นี่มากนัก เพราะพวมัวสนุกกับการถ่ายภาพ หลายคนเมมโมรี่ ในกล้องเต็มตั้งแต่ที่นี่ พอเราเดินกันไปสักพัก ด้านในนั้นก็มีการแสดง เกี่ยวกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ซึ่งเขาใช้เชือกกั้นไม่ให้พวกเราเข้าไปข้างใน เพราะคนที่เข้าได้จะต้องมีบัตรเท่านั้น พวกเราได้แต่ ชะเง้ออยู่ข้างนอกเชือก ผมเห็นนักท่องเที่ยวมุงดูกันเต็มไปหมด แต่ส่วนฮอท เขาเดินถือกล้องคู่ใจ เดินเข้าไปข้างในเชือกได้ ในตอนแรกผมสงสัยว่า ฮอทเข้าไปได้อย่างไร แต่พอฮอทออกมา ก็ได้บอกผมว่า มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเห็นฮอทยืนชะเง้อด้วยความที่อยากเข้าไปถ่ายภาพข้างใน นักท่องเที่ยวจึงให้บัตรกับฮอทมาหนึ่งใบ ฮอทจึงมีสิทธิ์เข้าไปข้างในได้ นี่แหละครับเป็นความน่ารักของชาวอเมริกัน แต่ทว่าบางอาคารเป็นทำเป็นร้านขายของที่ระลึก เขาจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าไปข้างในได้ ด้วยความที่ข้างนอกมันหนาวจับใจ พวกเรามักเข้าไปรับไออุ่นจากภายใน เพราะอาคารต่างๆ เขาจะติดเครื่องฮีทเตอร์ แต่ทว่าไปของข้างในนี้ ก็แพงเอาการพอสมควร ของที่ระลึกเท่าที่มองไปแล้ว ก็จะเป็นพวกอุปกรณ์ ที่ทำเลียนแบบในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นปืน ปากกาขนนก หมวก ชุดโบราณ ถ้าเปรียบไปเที่ยว เมืองเก่าอยุธยา หลายคนก็คงต้องนึกถึง ดาบที่ทำด้วยไม้ กลองยาวเป็นตน พวกเรามาที่นี่กันตั้งแต่เที่ยงวัน ยันไปถึงราวๆ 4 โมงเย็น พวกเราจึงตัดสินใจโทรให้ คุณเพ็ญพักตร์ ขับรถมารับพวกเรา เมื่อเธอ มา เธอก็ได้ถามว่า พวกเราอยากไปที่ไหนต่ออีกหรือป่าว เพื่อนๆจึงเสนอกันว่า อยากไปซื้อของเข้าบ้าน คุณเพ็ญพักตร์จึงตัดสินใจ พาเราไปที่ Wal mart ห้างซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สัญชาติอเมริกัน ถ้าเปรียบกับบ้านเรา ที่นี่ก็เหมือน ห้าง Lotus เพราะมีอยู่ทุกหนทุกแห่งทั่วประเทศ Wal mart จะอยู่อีกฟาก ของวิลเลี่ยมเบิร์ก คุณเพ็ญพักตร์บอกพวกเราว่า โรงแรมที่เราจะไปทำงาน อยู่ถัดจาก Wal mart ไปอีกนิดหน่อย เมื่อเรามาถึงห้าง ต่างคนก็ต่างไปช็อปปิ้ง ของที่ตนเองอยากได้ ที่นี่มีสินค้าให้เลือกสรรมากมายเลยครับ และที่สำคัญสินค้าต่างๆก็มีราคาถูกเสียด้วย ผม ฮอท อิ๋ง สมาชิกห้อง 125 พวกเราก็ได้หารเงินกัน ซื้อพวก นม ขนมปัง ขนมชนิดต่างๆ รวมไปถึงของใช้ที่จำเป็น เพื่อไปกักตุนที่ห้องพักของเรา ที่สำคัญถ้าคนไทยในช่วงปี 2011 มักจะเห่อ โดนัท สัญชาติอเมริกันอย่าง คริสปี้ครีม ที่นี่ก็มีวางขายเช่นกัน ผมจึงไม่รอช้า จึงหยิบมา 1 โหล ราคาอยู่ที่ราวๆ 2.5 เหรียญ ถ้าพูดไป ราคาถูกกว่าที่ห้างสยามพารากอน แถมยังไม่ต้องรอต่อแถวซื้อยาวเหยียดอีกด้วย พวกเราเลือกซื้อสินค้ากันสนุกสนาน สมาชิกแต่ละห้อง ก็ได้ของกันครบถ้วน ระหว่างที่เราจ่ายเงินอยู่นั้น ก็เหลือบตาไปเห็น พวกพี่ๆห้อง 139 โดยบังเอิญ พวกเราก็ได้ทักทายกัน ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนิทกันมาก พวกพี่บอกว่า มาที่ห้างนี้ 2 รอบแล้ว เฉพาะวันนี้ สงสัยพวกพี่เขาคงเป็นขาช็อปตัวยง จากนั้นพวกเราก็กลับไปที่หอพักกัน ถ้าจะว่าไปแล้ว คุณเพ็ญพักตร์ มีจิตใจโอบอ้อมอารี มากครับ ถ้าไม่ได้เขา พวกเราคงแย่ เมื่อเขามาส่งพวกเราที่หอพักแล้ว ก็ได้บอกพวกเราว่า จะมารับพวกเราไปทานข้าวที่บ้าน เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเราจึงรู้สึกประทับใจ คุณเพ็ญพักตร์ เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ นี่แหละครับ คนไทยไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ก็ไม่ทิ้งกัน ถึงแม้ว่าเธอจะมาอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เด็กๆ หรือถึงแม้จะพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่เธอนั้นก็ยังคงความเป็นไทย ในสายเลือด พวกเราจึงไม่เคยลืมบุญคุณของเธอเลย เพราะเธอได้ช่วยเหลือพวกเราตลอดเวลาที่อยู่ในอเมริกา หลังจากที่ล่ำลาคุณเพ็ญพักตร์ กันเรียบร้อยแล้ว พวกเราต่างคนก็แยกย้ายกันไป ประจำห้องของตัวเองเวลานั้น มันก็เริ่มมืดแล้ว เมื่อผมมาถึงที่ห้อง ก็ได้หาของกินให้อิ่มท้อง แรกๆก็คงกินอะไรที่มันง่ายๆก่อน ก็ของที่ซื้อมาจากที่ Wal mart นั่นแหละ ขนม นม เนย ต่างๆ สำหรับกิจกรรมวันนี้ไม่เพียงแต่พวกเราจะได้ไปเที่ยวกันอย่างเดียว พวกเราก็ยังได้สนิทกันมากขึ้น วันพรุ่งนี้ จะเป็นวันปฐมนิดทศวันแรก สำหรับการทำงาน ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับวันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวัน จึงขอตัวนอนพักผ่อน เพื่อเก็บแรงไว้ทำกิจกรรมต่อไป


Create Date : 30 กันยายน 2554
Last Update : 30 กันยายน 2554 21:12:06 น. 2 comments
Counter : 1174 Pageviews.

 
อยากอ่านตอนต่อไปรออ่านทุกวันเลยค่ะ


โดย: ติ๊ก IP: 124.121.101.158 วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:23:21:52 น.  

 
ขอบคุณนะครับ ที่ติดตามอ่าน ผมจะอัพเดท ถ่ายทอดเรื่องราวไปเรื่อยๆ รับลองว่า จะมีความเข้มข้นอีกมาก พอดีว่าผมอยู่ในช่วงสอบ เรียนหนักครับ ว่างๆก็จะมาเขียน หนะครับ ยังไงแล้วก็ต้องขอขอบคุณมากๆ เชื่อว่าข้อมูลของผมจะมีประโยชน์กับใครหลายๆคน ไม่มากก็น้อย


โดย: Bastian@Bangna วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:19:55:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bastian@Bangna
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




มาตามกระแสของโลกกันเถอะครับ
Friends' blogs
[Add Bastian@Bangna's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.