ทันโลกทันเหตุการณ์ไปกับชัชวาล สายอยู่
Group Blog
 
 
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 กันยายน 2554
 
All Blogs
 

Work and Travel ตอน 9 (สำรวจ Williamsburg 1)

ตอนที่ 9 สำรวจ Williamsburg 1


ผมตื่นนอนแต่เช้าตรู่รู้สึกว่า น่าจะราวๆ 7 โมงเช้าน่าจะได้ เมื่อคืนผมหลับอย่างสบายตลอดทั้งคืน คงเป็นเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ผมแหวกผ้าม่านตรงกระจกดู สังเกตได้ว่า ข้างนอกมีหมอกจับตัวกันหนาทึบ ไม่ต้องสืบเลยว่ามันต้องหนาวแน่ๆ ผมแง้มประตูออกเล็กน้อย แล้วยื่นแขนออกไปสัมผัสกับอากาศข้างนอก สุดยอดไปเลยครับมือผมเย็นชาไปหมด ไม่นานผมต้องชักมือผมกลับมาเพราะทนกับอากาศข้างนอกไม่ไหว ผมมีนิสัยอย่างหนึ่งคือ ตื่นมาแล้วต้องอาบน้ำ เพราะมันจะทำให้สดชื่น สบายตัวและสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วย อีกอย่างคงเป็นด้วยความชินจากไทย ตอนนั้นเพื่อนร่วมห้องทั้งสองก็ยังไม่ตื่น มีผมคนเดียว จึงเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ น้ำที่นี่ก็จะเป็นสองระบบเหมือนเครื่องปรับอากาศ นั่นก็คือมีทั้งน้ำอุ่น และก็น้ำเย็นซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายระดับ ตอนที่เปิดก็ไม่ควรจะไปยืนให้น้ำรดตัวเสียทีเดียว เพราะน้ำแรกมันจะเย็นมาก ต้องปล่อยให้ไหลออกสักพักหนึ่ง ผมทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย แต่งตัวอย่างมิดชิดกางเกงขายาว เสื้อผ้าหนาๆ พร้อมด้วยผ้าพันคอ จากนั้นก็ทำการปลุกฮอท และ อิ๋ง ตามลำดับเพื่อไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวเตรียมออกไปสำรวจเมือง ที่ได้นัดกันไว้ว่าจะออกจากหอพักตอน 10 โมงเช้า ระหว่างรอเพื่อนทำธุระส่วนตัว ผมก็มานั่งเล่นคอมพิวเตอร์ ที่เอามาจากไทยด้วย หอพักจะมีระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย ผมเล่น facebook msn คุยกับทางบ้าน รวมไปถึงเพื่อนๆที่ติดตามการเดินทางครั้งนี้ของผม ที่นี่ 8 โมงเช้า ที่ไทยจะเป็นเวลา 1 ทุ่ม เนื่องจากเวลาไทยเร็วกว่าสหรัฐอเมริกา 13 ชั่วโมง เวลาในสหรัฐอเมริกาจะไม่เท่ากันทั้งประเทศครับ จะแบ่งเป็น 4 โซนเวลา ผมคุยกับเพื่อนฝูง ญาติสนิทมิตรสหายอย่างสนุกสนาน เล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับการเดินทางอย่างเมามันส์ ในตอนแรกนั้นผมรู้จักแค่ อิ๋ง ฮอท แม็ก แพร พี่แบงก์ เพราะเราเดินทางมาพร้อมกัน ส่วนที่เหลือยังไม่รู้จักอะไรมากมาย เมื่อถึงเวลานัดหมาย 10 โมงเช้า พวกเราจึงเริ่มออกเดินทาง การสำรวจเมืองครั้งนี้ มีเพียงแค่สมาชิกห้อง 125 141 และ 143 เท่านั้น หมายความว่าพี่ 4 คนที่อยู่ห้อง 139 ไม่ได้ไปกับเราด้วย ป้าเอมี่รู้ว่าพวกเราจะไปสำรวจเมือง เขาก็ได้ให้แผนที่และตารางการเดินรถของรถบัสโดยสารประจำเมืองมาให้ ซึ่งแบ่งเป็นหลายสาย หลากสี แต่ตอนนั้นพวกเราเลือกที่จะเดินเท้าสำรวจกันมากกว่า พวกเราเดินไปตามถนนเพื่อมุ่งหน้าไปย่านดาวน์ทาวน์ของเมือง ระหว่างสองข้างทางก็จะเป็นร้านค้า ภัตตาคาร เรียงรายไปตลอด ร้านที่ติดกับหอพักเราจะเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ ถัดจากนั้นจะเป็นภัตตาคาร ชื่อว่ากัปตันจอร์จ เป็นอหารบุฟเฟ่ต์หรู เน้นหนักไปทางอาหารทะเล พวกเราเดินฝ่าความหนาวเหน็บไปตามทาง ซึ่งถ้ามองไปรอบๆแล้วก็ไม่มีใคร บ้ามาเดินแบบพวกเรา ชาวอเมริกันที่ขับรถผ่านไปมา มองดูพวกเราด้วยความแปลกใจ แต่ด้วยความตื่นเต้นกับการมาต่างประเทศครั้งแรก ให้หนาวแค่ไหนผมก็ไม่หวั่นครับ พวกเราเดินถ่ายรูปไปตลอดทาง เพราะตื่นตาตื่นใจไปกับอาคารบ้านเรือนรวมไปถึงธรรมชาติของเมือง วิลเลี่ยมเบิร์กถือเป็นเมืองท่องเที่ยว ถ้าให้เปรียบเมืองในประเทศไทย ก็จะคล้ายๆกับ กรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา เพราะเวอร์จีเนียเป็นหนึ่งใน 13 รัฐที่เคยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ ก่อนจะรวมเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน เมืองวิลเลี่ยมเบิร์กก็ถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงเก่าของรัฐเวอร์จีเนีย ดังนั้นก็ยังมีอาคารบ้านเรือนโบราณ ที่ทางการได้อนุรักษ์เอาไว้ ให้นักท่องเที่ยวมาค้นคว้าหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ เราเดินผ่านเข้าไปเรื่อยๆ ผ่านร้าน ฟาสต์ฟู๊ดแปลกๆอยู่หลายร้าน รวมไปถึงร้านอาหารนานาชาติ ร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างร้าน เกียวโต และวาซาบิ หรือจะเป็นอาหารจีน อย่างร้านเรนโบว์ หรือ ร้านเปกกิ่ง ที่เป็นบุฟเฟ่ต์ทั้งคู่ ขาดไม่ได้เลยคือร้านอาหารแม็กซิกัน ที่เป็นที่นิยมของคนที่นี่ ถึงแม้ระยะทางจากหอพักที่เราเดินมาจะไกล แต่พวกเราก็ไม่ได้มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลย “ เฮ้ยนั่นร้านอะไรอะ เข้าไปดูกันดีกว่า” แม็กตะโกนชวนเพื่อนๆให้เดินเข้าไปดู ป้ายเขียนว่า Yankee candle ตอนแรกผมก็ไม่รู้หลอกว่ามันเป็นร้านอะไร แต่พอเข้าไปข้างใน มันกว้างมากครับ ที่แท้ก็เป็นร้านขายเทียนหอมนั่นเอง เมื่อเปิดประตูเข้าไป กลิ่นของเทียนหอมก็มาเตะจมูกทันที ในร้านมีพื้นที่เยอะพอสมควร ภายในจำลองเมืองในยุโรปไว้ มีการจัดซุ้มวันคริสต์มาส มีการจำลองหิมะเอาไว้ ให้ตกลงมาดั่งสายฝน มีการเปิดเพลงเบาๆ พวกเราหยิบกล้องมาถ่ายรูปกันยกใหญ่ ภายในก็มีร้านขายไอศกรีม ของที่ระลึกอีกด้วย พวกเราอยากอยู่ในนี้นานๆ เพราะมันอุ่นมาก แต่ไม่นานพวกเราก็ต้องออกเดินต่อไป ตลอดสองข้างทาง ทุกจุด ทุกมุมสวยเราถ่ายรูปเอาไว้หมด พวกเราเดินผ่านโรงหนังขนาดใหญ่ ถัดจากนั้นเป็นร้าน I hop ร้านแพนเค้ก และ ไม่นานเราก็มาสะดุดกับ ร้านอาหารไทยที่ชื่อ Bangkok garden หน้าร้านก็จะมีธงชาติไทยปลิวไสว เมื่อเห็นแบบนี้แล้วพวกเรารู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะมีคนไทยมาต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี ยกน้ำยกท่ามาให้พวกเราดื่ม ผมนั้นได้ทำการรู้จักพี่เอส มาตั้งแต่ที่ไทยแล้ว ผมได้เมลพี่เขามาด้วยความบังเอิญจาก เฟสบุ๊คที่ผมเปิดไว้ ที่สำคัญพี่เอส เขาได้ทำงานอยู่ในร้านนี้ด้วย ดีใจมากๆที่ได้เจอตัวจริง พี่เขาให้คำแนะนำผมมากมายก่อนที่จะเดินทางมาถึง ผมก็แนะนำให้พี่เขาได้รู้จักเพื่อนอีก 8 คนของผม พวกเรานั่งคุยกันได้สักพัก เจ้าของร้านที่นี่ก็ใจดีมากเป็นผู้หญิงแต่ผมแอบจำชื่อไม่ได้ ป้าบอกว่าเป็นคนนครสวรรค์ มาตั้งลกรากที่อเมริกาเพื่อทำร้านอาหารไทย ในร้านนี้ก็จะมีพนักงานเป็นคนไทยทั้งหมด ป้าเล่าให้ฟังว่าทุกปีก็จะมีเด็กเวิร์ค อย่างพวกเรามา บางคนก็โชคดี บางคนก็มีปัญหา ด้วยความที่ป้าเป็นคนไทยป้า เขาก็ช่วยเพื่อนร่วมชาติเสมอ บ้างก็ให้กินฟรี บ้างก็ให้เงินช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ผมนั้นซึ้งในน้ำใจป้าเขามากๆครับ พอเรานั่งฟังป้าอยู่ชั่วครู่ ก็มีหญิงสาวอายุราวๆ 40 เดินออกมาจากหลังร้าน หน้าตาคล้ายๆคนไทยมาก แต่เขาทักทายพวกเราเป็นภาษาอังกฤษ เขาแนะนำตัวว่าเขาชื่อ เพ็ญพักตร์ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไทย มาอยู่ที่นี้หลายสิบปีแล้ว ซึ่งคุณเพ็ญพักตร์ ก็พูดภาษาไทยไม่ได้เลย นิดหน่อยก็แค่ทักทาย สวัสดี เขาบอกว่า เขาจะอาสาพาพวกเราเที่ยวรอบเมือง เขาถามว่าพวกเราอยากไปที่ไหน พวกเราก็เลยบอกว่าอยากไปที่ย่านเมืองเก่าของเมือง ที่เป็นจุดแลนด์มาร์ค เขาก็พาพวกเราไปที่รถของเขาที่จอดไว้ข้างๆ รถของเขาเป็นรถแวนไม่เล็กและไม่ใหญ่มาก แต่พวกเราก็สามารถอัดๆกันไปได้ ในรถมีแม็กในฐานะที่เก่งภาษาอังกฤษคนหนึ่งก็ได้พูดคุยกับคุณเพ็ญพักตร์ อย่างเป็นกันเอง จากร้านอาหารไทย ไปที่เมืองเก่านั้นไม่ไกลมากนัก แต่ถ้าเดินก็ขาอาจจะลากได้ ระหว่างทางก็ผ่านบ้านโบราณๆ เก่าแก่ของเมือง รวมไปถึง วิทยาลัยประจำเมืองอย่าง Collage of Williams and Marry ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ที่ติดกับวิทยาลัยก็จะเป็นเมืองเก่า ที่พร้อมให้พวกเราเดินเข้าไปสำรวจแล้วครับ




 

Create Date : 23 กันยายน 2554
7 comments
Last Update : 23 กันยายน 2554 19:49:34 น.
Counter : 1229 Pageviews.

 

ไปกับบริษัท อะไรครับบ ?

 

โดย: bk IP: 171.98.114.193 25 กันยายน 2554 0:26:24 น.  

 

ไปกับ Acadex ครับ

 

โดย: ฺBastian@Bangna IP: 124.122.131.186 27 กันยายน 2554 22:38:38 น.  

 

จะมีอัพเดตอีกมั๊ยค่ะ รออ่านอยู่ค่ะ ^^

 

โดย: ff IP: 161.200.206.150 30 กันยายน 2554 11:17:38 น.  

 

มีสิครับ ก็จะเขียนไปเรื่อยๆครับ ถ้าว่างก็จะเขียน ช่วงนี้ผมก็เรียนหนักพอสมควร ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะครับ ที่ตามอ่าน : ) อาจจะถ่ายทอดได้ไม่ดีนัก แต่จะทำให้ดีที่สุดครับ ติดตามอ่านกันต่อไปนะครับ

 

โดย: Bastian@Bangna 30 กันยายน 2554 21:16:23 น.  

 

สวัสดีจ้าบาส พอดีเลือกเลือกไซต์งาน kfc ที่ williamsburg ไปเหมือนกันอ่ะ รอสัมภาษณกะนายจ้างยุ สงสัยว่าเมืองนี้ถ้าจะหาจ๊อปสองง่ายหรือป่าวอ่ะ งานประเภทไหนหรอ ขอบคุนค่ะ

 

โดย: ff IP: 161.200.207.236 30 กันยายน 2554 22:57:11 น.  

 

ไปทำร้านเคเอฟซี หรอ สาขาที่เป็น บุฟเฟ่ หรือป่าว บาสชอบไปกินมากๆ ราคา 8 เหรียญได้มั้ง คือเมืองนี้เด็กเวิร์คไปเยอะมาก มากกว่า 150 คนเลยนะ ต้องไปแย่งชิงเอา ปกติแล้วบาสไปหาเขาจะรับแบบคนที่ทำงานยาวๆ เพราะเสียเวลาเทรนงาน บาสไปทำงานโรงแรมครับ ต้องลองหาดูอ่า ขึ้นอยู่กับโชคชะตา ฟ้าลิขิตด้วย 55+ ยังไงก็สู้ๆๆนะครับเอาใจช่วย

 

โดย: Bastian@Bangna 13 ตุลาคม 2554 21:22:42 น.  

 

ขอโทษนะคะ พอดีเพิ่งจะไปเวิร์คปีนี้อ่ะคะ ซึ่งห่างกับจขกท.มากๆเลยแฮะ อยากรบกวนขอเมลล์คุณป้ากับพี่ที่อยู่ที่นั่น ไว้ได้มั้ยคะ พอดีจะไปที่เมืองและรัฐเดียวแบคุณบาสเลยคะ เลยมาแอบอ่าน สนุกมากๆ

 

โดย: Ampai IP: 111.84.52.134 19 ตุลาคม 2556 22:27:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bastian@Bangna
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




มาตามกระแสของโลกกันเถอะครับ
Friends' blogs
[Add Bastian@Bangna's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.