Work and Travel ตอน 15 (เริ่มงาน)

ตอนที่ 15 เริ่มทำงาน

หลังจากที่ผมผ่านการฝึกงานทั้งหมด 5 วัน ก็มาถึงวันที่ผมจะต้องทำงานคนเดียวแล้ว ผมก็ทำกิจวัตรปกติในตอนเช้า อาหารเช้าผมต้องกินทุกวันไม่ขาด แล้วก็มีการเตรียมอาหารใส่กล่องข้าวไว้สำหรับในตอนกลางวันอีกด้วย ผมและเพื่อนๆออกจากหอพักเพื่อเดินไปยังป้ายรถประจำทาง เพื่อให้ทันรถในรอบ 8.10 น. และเราจะไปถึงที่ทำงานราวๆ 8.30 น. เมื่อมาถึงที่ทำงานแล้ว อย่างแรกที่พวกเราต้องไปทำคือ เดินลงไปชั้นใต้ดิน โซนของ Housekeeping เมื่อมาถึงแล้วเหล่า ชาวไทยและ ชาวฟิลิปปินส์ ก็ได้ไปจับจองที่นั่ง เพื่อรอการประชุมในรอบเช้าก่อนทำงาน เมื่อเราจองโต๊ะและแบ่งกันอย่างลงตัวของทั้ง 2 ชาติพันธุ์ เราก็ต้องเดินไปที่ ห้องของ Manager เพื่อไปเอาบัตร เพื่อสำหรับตอกเวลาเข้างาน เมื่อไปรับบัตรแล้ว หลายคนอาจจะไปเตรียมผ้าขี้ริ้ว สำหรับทำความสะอาดห้อง ต่างคนก็ต่างหยิบใส่ถุงของตนเอง จากนั้น Supervisor ก็จะแจก key card ให้กับทุกคน เพื่อสำหรับในการเปิดเข้าไปในห้องแขก หรือห้องเก็บของ ซึ่งทุกคนจะมีไว้คนละอัน มีสายสำหรับคล้องคอไว้ จากนั้นเราก็มานั่งรอเวลาให้ถึง 9 โมงเราก็เอาบัตรไปตอกเวลาเข้าทำงาน ไม่นาน Manager ก็จะมาเรียกประชุมพนักงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ หรือ พนักงานชั่วคราวอย่างพวกผม ในแต่ละวันก็จะมีการพูดคุยพบปะ วางแผนการทำงานในแต่ละวัน manager ก็จะมาให้นโยบาย ประมาณว่า วันนี้เราจะต้องทำความสะอาดส่วนไหนของห้องเป็นพิเศษราวๆ 10-15นาทีในการประชุม จากนั้นก็มีการแจก กระดาษสีขาวที่จะมีชื่อของแต่ละคน ในนั้นก็จะระบุรายละเอียดของห้องที่จะต้องทำในแต่ละวัน ว่ามีจำนวนกี่ห้อง ห้องประเภทไหน อยู่ชั้นไหน อยู่โซนไหน รถเข็นเบอร์อะไร เป็นต้น แต่ละคนก็จะถูกขานชื่อเพื่อไปรับ เมื่อได้มาแล้วใครได้ ห้อง stay over เยอะๆก็จะสบายหน่อย ยิ้มได้เพราะมันไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดทั้งหมด แต่ใครได้ห้องแบบ check out เยอะๆก็จะเศร้าเป็นธรรมดา เมื่อเรารับใบสีขาวเสร็จ ก็เดินไปเอาตะกร้าที่ใส่พวกสบู่ แชมพู โลชั่น ที่เราจะต้องเปลี่ยนให้แขกทุกวัน หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างกระจายไปทำหน้าที่ของตัวเอง แรกๆเองผมมักได้ห้องโซนชั้น 4 ก่อนที่จะเข้าไปทำความสะอาด ก่อนหน้านั้นเราจะต้องไปเติมของใส่รถเข็น ทีนี้ผมก็มีรถประจำตัวของผมแล้ว ในห้องเก็บของก็จะมีทุกอย่างที่สำหรับทำความสะอาดในห้องแขก รวมไปถึงสิ่งของที่จะต้องไปเปลี่ยนให้กับแขก ผ้าปูที่นอน ขนาดต่างๆ ปอกหมอน ผ้าขนหนูขนาดต่างๆ มันมีหลายอย่างมากครับ เมื่อผมเตรียมของใส่รถเสร็จแล้ว ก็เข็นรถออกจากห้อง ไปยังห้องที่ได้รับมอบหมาย ตามกฎแล้ว ห้องเช็คเอ๊าท์จะเข้าทำความสะอาดได้หลังเวลา 11.00 น.ไปแล้วเท่านั้น เพราะตามกฎของโรงแรมที่จะต้องเข้าออกตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้มีเวลาในการเตรียมห้องสำหรับแขกชุดใหม่ ดังนั้นผมจึงต้องไปทำความสะอาดในห้องที่มีแขกพักก่อนหรือห้อง stay over ห้อง 401 ผมเคาะประตู3 ครั้งแรกตะโกนดังๆว่า “Housekeeping ป็อกๆๆ Housekeeping” เมื่อทำทั้งหมด 3 รอบแล้วหากแขกไม่ส่งเสียงขานรับออกมา เราก็สามารถเข้าไปที่ห้องนั้นได้ทันที แต่ก่อนที่จะเคาะต้องดูว่าที่ประตูมีป้าย Do not disturb หรือไม่ เมื่อเรามั่นใจว่าแขกไม่อยู่ก็สามารถเข้าไปทำได้ทันที อย่างแรกที่ต้องทำคือ เดินไปที่โทรศัพท์ห้องแขก ยกหูขึ้นแล้วก็กดเลข 06 เบื่อเป็นการยืนยันว่า ห้องนี้เราได้เริ่มทำแล้วเราจะถูกจับเวลาในการทันที ว่าทำช้าหรืออู้งานหรือไม่ โดยเป็นการส่งสัญญาณไปที่ห้อง Manager หลังจากนั้นผมก็จะไปจัดเตียง ถ้าผ้าปูเตียงสกปรกเราก็ต้องเปลี่ยนผ้าปูให้ใหม่ ถ้าไม่สกปรก ก็ดึงให้ตึงตามขั้นตอน ปอกหมอนถ้าเลอะก็เปลี่ยน แล้วดึงให้ตึงตามขั้นตอน แรกเริ่มผมจะทำได้ช้ามาก เพราะไม่มีความชำนาญใดๆเลย อีกอย่างต้องทำคนเดียวด้วย ไม่เหมือนตอนเทรนงานที่ผมจะทำกับเจ๊ไดแอน เมื่อเตียงเรียบร้อย ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ ไปดูว่าแก้วน้ำได้ใช้หรือไม่ ถ้าแขกใช้ก็นำไปล้างให้สะอาด และก็แขวนไว้ที่ใส่แก้ว เครื่องทำกาแฟแขกได้ใช้หรือไม่เราก็ต้องเช็คดูให้เรียนร้อย ถ้ากาแฟแขกได้กินไป เราก็ต้องไปเอากาแฟมาใส่ให้เพิ่ม แก้วน้ำพลาสติกก็ต้องมาเติมให้หากแขกได้ใช้ ถุงน้ำแข็งในกระติกก็ต้องเปลี่ยน ถึงขยะก็ต้องเปลี่ยนให้ อ่างล้างมือ เราก็ต้องใช้น้ำยาเช็ดถู และทำความสะอาดให้เรียบร้อย ผมลืมบอกไปว่า ห้อง stay over นั้นก็จะมีทรัพย์สินของแขก ที่วางระเกะระกะเต็มห้องไปหมด ถ้าหากไม่มีความจำเป็นเราห้ามไปแตะต้องหรือไปย้าย ใดๆทั้งสิน เพราะมันจะเป็นความผิด ในกรณีที่ของหาย หรือ ของชำรุด แขกสามารถเอาเรื่องเราได้ทันที เมื่อทำความสะอาดตรงเคาน์เตอร์เสร็จ ผมก็ต้องเดินไปที่ห้องน้ำ ไปดูว่าผ้าขนหนูแขกได้ใช้ไปหรือไม่ ถ้าใช้ไปกี่ผืน ก็ต้องไปนำผ้าผืนไม่ไปทดแทนเท่านั้น ชักโครกเองก็ต้องเช็ดให้สะอาด ก่อนทำอย่าลืมใส่ถุงมือยาง ทั้งฝาปิด ขอบนั่งก็จำเป็นต้องเช็ดถูขัด ขยะถังเล็กในห้องน้ำเราก็ต้องเปลี่ยนให้ สบู่เหลว แชมพู โลชั่น สบู่ก้อน ก็ต้องเอามาเปลี่ยนเอามาเติม หากแขกได้ใช้ไป เมื่อห้องน้ำเรียบร้อย ผมก็ต้องมีหน้าที่ดูดฝุ่น โดยไปยกเครื่องดูฝุ่นจากรถเข็นมา ทุกซอกทุกมุมจะต้องสะอาดทั้งหมด ที่สำคัญถุงซักผ้าหากแขกได้ใช้ไป เราก็ต้องนำมาใส่ให้ใหม่ ที่สำคัญอย่าลืมไปตรวจโซฟา ที่มันสารถทำเป็นเตียงนอนได้ ให้ดึงออกมาดูว่าแขกได้ใช้หรือไม่ ถ้าใช้ก็มาจัดให้เรียบร้อยเพื่อพร้อมกับการใช้งาน อะไรที่สกปรก ดูแล้วไม่สะอาด เราก็มีหน้าที่ทำหน้าที่เก็บ อะไรที่เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน ทุกอย่างเป็นดุลยพินิจของเรา ที่เราต้องทำอย่างเคร่งครัด ข้างนอกระเบียงห้องมันจะมีที่เขี่ยบุหรี่อยู่ หากมีก้นบุรี่ เราก็ต้องเอาไปเททิ้ง รายละเอียดปลีกย่อยข้อนข้างเยอะ เพราะนี่มันคืองานบริการทำเพื่อ ให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ แล้วกลับมาใช้บริการโรงแรมแห่งนี้อีก ห้อง stay over บางทีก็มีทริปให้ ต้องมองดีๆ แขกชอบพับครึ่ง ให้เราเห็นได้ชัด แต่ก็ดูดีๆด้วยว่า อันไหนเป็นทริป หรืออันไหนเป็นเงินของแขกที่อาจจะบังเอิญวางไว้ ถ้าหยิบไปสุ่มสี่สุ่มห้าเราอาจโดนข้อหาลักขโมยเงินโดยไม่รู้ตัว แต่บางห้องแขกก็จะน่ารัก เขียนขอบคุณใส่กระดาษให้พร้อมกับเงินสดวางไว้ให้พวกเรา จะเป็น 1 เหรียญบ้าง 5 ไปถึง 10 เหรียญบ้าง หรือบางคนอาจวางไว้ 20 -30 เหรียญก็มี นั่นมันก็คงเป็นเรื่องของบุญและวาสนาของHousekeeperแต่ละบุคคล บางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ ก่อนออกจากห้องเราควรเช็คความเรียบร้องให้ถี่ถ้วน น้ำเครื่องกรองอากาศถ้าหากเต็มเราก็ต้องเอาน้ำไปเททิ้ง ฝุ่นเกาะอะไรตรงไหนก็ไปเช็ดออก อุปกรณ์อะไรเสียเราก็ต้องไปบอก supervisor และเขาก็จะแจ้งไปฝ่ายเทคนิค ไม่ว่าจะไฟไม่ติด แอร์เสีย ประตูพัง ก็แล้วแต่ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่ของเรา เรามีหน้าที่แค่มาทำความสะอาดเท่านั้น เมื่อเช็คความเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกจากห้องแขก ปิดประตูให้เรียบร้อย การทำความสะอาดนั้นไม่มีขั้นตอนตายตัวใครอยากทำอะไรก่อนก็ทำ แต่ที่สำคัญให้ทุกอย่างมันสะอาด และไม่ถูกซุปเปอร์ไวเซอร์เรียกกลับมาทำใหม่ก็พอ หลังจากออกจากห้องแขกมาแล้ว ในใบกระดาษสีขาวก็ให้เขียน oc ไปที่ห้องนั้นๆ เพื่อเวลาซุปเปอร์ไวเซอร์มาตรวจห้อง ก็จะขอใบสีขาวของเราดู จะได้รู้ว่าเราได้ทำไปแล้วและก็เดินไปตรวจห้องนั้นๆ หากใครทำไม่ดี ก็อาจโดนกลับไปทำใหม่อีกรอบแล้วก็โดนหักคะแนนตามลดับ ถ้าห้องมีป้าย Do not disturb เราก็เขียนว่า NDN ถ้าห้องนั้นมีแขกพักอยู่ แต่ว่าไม่ต้องการให้เข้าไปทำความสะอาดห้อง ก็เขียน NS หรือ No service พร้อมให้แขกเซนกำกับ ว่าคุณเป็นคนสั่งไม่ให้เข้าไปทำ จะมาโวยวายทีหลังไม่ได้ ถ้าเป็นห้อง Check out เมื่อทำเสร็จแล้วให้เขียนว่า DC สัญลักษณ์ทั้งหมดมองดูเหมือนง่าย แต่ตอนแรกผมก็จำไม่ได้ ลืมๆไปบ้างก็มี ทำห้อง stay over ให้ครบตามที่เราได้รับมอบหมาย จากนั้นก็รอเวลา 11 .00 น. เพื่อรอไปทำห้อง check out ถ้าหากเราเห็นว่าห้องไหนแขกออกก่อนเวลา 11 .00 น. เราก็สามารถเข้าไปทำห้องนั้นๆได้เลย ในระหว่างที่ผมปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ซุปเปอร์ไวเซอร์ก็จะมาเดินตรวจเป็นระยะ หรือบางทีแขกลงไปเช็คเอ๊าท์ แล้วแต่เราไม่รู้ ซุปเปอร์ไวเซอร์ ก็จะเป็นคนเดินมาบอกเราเองว่าห้องของเธอ ห้องนี้ ห้องนั้นแขกออกแล้ว ให้ไปทำได้ หรือในกรณี มีห้องเร่งด่วนของเพื่อนที่ทำไม่ทัน ประมาณว่า มีการจองล่วงหน้าแล้วแขกชุดใหม่กำลังจะเข้ามาพัก หรือนั่งรอที่ล็อปบี้แล้ว เราก็จะต้องโดนไปทำห้องนั้นๆ ก่อน ส่วนห้องของเราก็ค่อยกลับมาทำใหม่ ที่นี่จะเป็นเช่นนี้ ห้องของใครเร่งด่วน ก็จะถูกเกณฑ์ให้คนอื่นไปทำ หากห้องตัวเองเสร็จแล้วก็จะโดน กลับไปทำใช้ บางทีจากชั้น 4 ผมก็ต้องเข็นรถที่เต็มไปด้วยของมากมาย ลงไปชั้น 1 2 หรือ 3 เพื่อไปช่วยเพื่อน ไอ้รถเข็นแรกๆ ผมก็เข็นไม่ได้ เดี๋ยวเลี้ยวซ้าย ชนขวา อะไรก็มีรู้หนักหนา แต่พออยู่เรื่อยๆก็เกิดความชำนาญมากขึ้น ตอนต่อไปผมจะมาเล่าการทำความสะอาดห้อง check out นะครับ

ภาพรถเข็นสำหรับใส่ของเพื่อไปทำความสะห้อง ในรถนั้นมีทุกอย่างครับอัดๆกันไป

Create Date : 19 ตุลาคม 2554		4 comments
Last Update : 19 ตุลาคม 2554 16:01:48 น.
Counter : 2852 Pageviews.
Share Tweet