ทันโลกทันเหตุการณ์ไปกับชัชวาล สายอยู่
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

Work and Travel ตอน 16 (เริ่มงาน 2)

ตอนที่ 16 เริ่มงาน2

หลังจากที่ผมได้ทำห้อง stay over หมดแล้ว จากนั้นจึงถึงเวลาพักเที่ยงขอผม ชั้น 4 เวลาพักเที่ยงคือ 11.30 -12.30 น. ผมก็เอารถเข็น ไปเก็บในห้อง check out ของผม เพราะขึ้นมาก็จะได้มาทำต่อ ก็เลือกห้องใดห้องหนึ่งนั้นแหละ เมื่อเก็บเสร็จแล้ว ก็เดินไปเรียกเพื่อนที่ทำอยู่โซนเดียวกัน 1 ชั้นมันก็จะแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน 1 โซนก็มี housekeeper ประมาณ 2 – 3 คน ผมก็เดินเรียกเพื่อนๆเลย ครับ ให้ลงไปพร้อมกัน ตอนนั้นผมก็ได้รู้จักเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ บางคนแล้ว แต่ก็อาจจะจำชื่อไม่ได้ในตอนแรก ทั้งเพื่อนชาวไทย และชาวฟิลิปปินส์ผมก็ชวนไปหมดครับ เมื่อลงมาข้างล่างแล้ว อย่างแรกที่ต้องไปทำคือ เดินไปเอาบัตรตอกหรือเขาเรียกกันว่า Time card ที่ห้องเมเนเจอร์ เมื่อเอามาตอกเวลาแล้ว ก็ลงมือไปเวฟ อาหารที่เตรียมมาจากหอพักเอาใส่ เครื่องไมโครเวฟ ในห้องมันก็มีอยู่ 2 เครื่อง ก็ต่อๆคิวกันครับ ใครมาก่อนก็ได้ก่อน อาหารของผมที่เตรียมมา ก็เป็นของที่ซื้อมาจาก Wal mart จะเป็นพวก สปาเกตี้ เสต็ก พาสต้า อะไรทำนองนั้น แค่ใส่เวฟ ไม่นานก็เอามากินได้ แล้วที่สำคัญ มันถูกครับ 1 กล่องก็ราคาแค่ 1 เหรียญเท่านั้น มันจะมีโปรโมชั่นเรื่อยๆครับ ถ้าซื้อ 10 กล่องก็จะตกราคา 1 เหรียญ ถ้าซื้อแบบกล่องเดียว ราคาก็ 1.25 ครับ ผมนั่งกินไป ก็นั่งเม้าส์กับเพื่อนๆ ไป ทั้งไทยและฟิลิปปินส์ คุยกับคนไทยก็จะคุยง่ายหน่อย เพราะเราใช้ภาษาของบ้านเรา แต่พอคุยกับพวก ฟิลิปปินส์ ก็อาจจะสื่อสารกันงงๆ เพราะภาษาอังกฤษของพวกเขา สำเนียงก็จะแปร่งๆ ลิ้นๆรัวๆ สไตล์ตากาล็อค เมื่อถึงเวลา 12.00 น. เวลาพักของพวกเราก็หมดลงแล้ว เราเอาบัตรไปตอก เวลาออก แล้วก็เดินขึ้นไปห้องใครห้องมัน ไปปฏิบัติหน้าที่กันต่อ ของผมอยู่ชั้น 4 โซน west west ก็จะเดินไกลกว่าชาวบ้าน เมื่อมาถึงห้องที่ผมได้เก็บรถเข็นไว้ อย่างก็คือนำรถออกมานอกห้อง มาจอดขนานกับประตูไว้ ให้พอตัวเราเดินแทรกออกไปได้ และไม่เกะกะทางเดินของแขกจนเกินไป จากนั้นก็เอาผ้าขี้ริ้วผืนเล็กๆ มาขัดกับประตูเอาไว้ เพื่อให้มันเปิดออก จากนั้นก็ถึงเวลาเริ่มงานครับ ไอ้สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ไปกดที่โทรศัพท์ * 01 เพื่อส่งสัญญาณให้ข้างล่างรู้ว่าเรากำลังทำความสะอาดแล้ว โดยปกติแล้ว พ้าปูที่นอน ปอกหมอน ถุงขยะ พนักงานเก็บผ้า หรือ Houseman ก็จะจัดการไปแล้ว เราก็จะไม่ต้องเสียเวลามาดึงออก เพราะขึ้นตอนนี้ก็ใช้เวลานานพอสมควร แต่บางทีเราก็เข้ามาห้องทำก่อน ก็ต้องมานั่งดึงผ้า ดึงปอกหมอนออก สิ่งแรกเลยที่ผมต้องทำคือจัดเตียง วิธีทำก็คือ ถ้าเตียงขนาดควีน ก็ไปเอาผ้าปู สำหรับเตียงควีน สำหรับ 1 เตียงต้องใช้ผ้าถึง 3 พืน ผืนแรกนั้น เราต้องปูให้ครอบคลุมไปทั้งเตียงก่อน เหมือนการรองพื้น โดยที่ ขอบผ้าบนจะต้องถูกยัดลงไปในใต้ลูกฝูก จากนั้น ก็เอาอีก 1 ผืนมาปู แต่ผืนที่ 2 ต้องคลุมแค่ 90% เท่านั้น จากนั้นเราเอาผ้านวมปูทับไปที่ผืนที่สอง โดยผ้านวมจะต้องครอบคลุมเตียงเพียงแค่ 80% ของเตียง จากนั้นก็เอาพื้นที่ 3 มาปูทับไปบนเตียง 80% ให้เท่ากับพื้นที่ของผ้านวม จากนั้นพื้นที่ 2 จะมีพื้นที่เกินจากผ้านวมและพื้นที่ 3 ไป 10% เราต้องเอาพื้นที่ 2 10% พับลงมาทับกับ ผ้านวมและผืนที่ 3 โดยที่เราจะต้องจัดให้ดี เป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นให้มาดูชายผ้า ที่ห้อยลงไปกับพื้นทั้งซ้ายและขวา ผืนที่ 2 ผ้านวม และผืนที่ 3 จะทับๆกันอยู่ วิธีการก็คือ ให้เอาชายผ้าทั้งหมดยัดลงไปใต้ลูกฟูก ให้มันทับเก็บชายผ้าเอาไว้ ทั้งแบบนี้ทั้งซ้ายและขวา จากนั้นส่วนล่างของเตียง ให้เรายกลูกฟูกขึ้น และก็ยัดชายผ้าที่ห้อยระย้า เก็บเข้าใต้ลูกฟูกให้หมดทั้งซ้ายและขวา รวมไปถึงส่วนของหน้าเตียงด้วย เมื่อเตียงจัดตามรูปแบบแล้ว ให้นำผ้าสีน้ำตาล มาพาดขนานกับเตียงให้สวยงาม จากนั้น เราก็มาใส่ปอกหมอน ซึ่งเตียงควีน 1 เตียง จะมีหมอนอยู่ด้วยกัน 3 ใบ มันจะมีขั้นตอนในการใส่ให้รวดเร็ว พวกพนักงานเก่าๆ จะใส่กันได้ไวมาก แต่ผมก็ค่อยๆ กว่าจะใส่ได้แต่ละใบ กินเวลามาก เมื่อใส่แล้ว มันก็จะมีวิธีของการพับปากหมอนอีก 1 เตียงที่ผมเคยจับเวลา มันใช้เวลาประมาณ 8-10 นาที เพราะในตอนแรกผมไม่มีเทคนิคการปูเตียงเลย เดียวเดินจัดทางซ้าย มาทางขวา เดียงทางนั้นเบี้ยว ทางนี้ไม่ตรง เดินไปเดินมาวุ่นวายไปหมด จากนั้นก็ไปทำเตียงที่ 2 เมื่อทำเตียงนอนเสร็จ ก็ให้ไปดูตรงเตียงโซฟา เราจำเป็นจะต้องเปลี่ยนอีก โดยการดึงออกมาให้อยู่ในรูปของเตียง ปู ผืนที่1 ให้ครอบฟูก จากนั้นก็ปูผืนที่ 2 ให้ครอบ 90% จากนั้นก็เอาผ้าห่ม มาปูทับ 80% แล้วก็พับผืนที่ 2 ที่เกยผ้าห่มมา 10% ทับลงไป จากนั้นก็มาเก็บชายผ้าทุกมุม ยัดลงไป แล้วก็มีขั้นตอนพับเก็บ ให้เป็นในรูปแบบของโซฟาเพื่อพร้อมใช้งาน แต่มันก็ยังมีขั้นตอน การพับเก็บอีก คือเราต้องพับ ผ้าผืนที่ 2 กับ ผ้าห่มเป็นรูป 3 เหลี่ยม จากนั้นจึงเอาเก็บได้ การเก็บ ไม่ต้องเก็บเข้าไปหมดนะครับ เพราะเดียวซุปเปอร์ไวเซอร์จะมาพับเก็บเข้าซองอีกที โครมไฟ และหลอดไฟทุกดวงจะต้องถูกเปิด เพราะจะได้เช็คว่า ดวงไหนเสียหรือขัดข้อง เครื่องปรับอากาศจะต้องถูกดึงที่กรองออกมาทำความสะอาด แล้วก็ปรับอุณหภูมิ ตามที่กำหนดไว้ จากนั้นผมก็เดินไปล้างเคาน์เตอร์ ที่มีอ่างล้างมือ ไมโครเวฟ ชุดแก้วน้ำ 4 ใบ ชุดทำกาแฟ กระติกน้ำแข็ง ข้างใต้ก็จะเป็นตู้เย็น ทุกสิ่งที่อย่างจะต้องถูกทำความสะอาดให้หมด ทุกซอกทุกมุม น้ำยาล้างก็ต้องใช้ให้ถูกกับสิ่งของนะครับ มีตั้ง 4 สี ถ้าใช้ผิดจุดมีหวังโดนด่าแน่ๆ แก้วพลาสติก 4 ใบ ชุดกาแฟ น้ำตาล ถุงน้ำแข็ง ก็ต้องจัดวางเรียงให้เรียบร้อยถูกที่ถูกทาง ถ้าผิดที่โดนด่าอีก อ่างล้างมือ สำคัญมากๆ ต้องเช็ดให้เงาวับ ห้ามมีคาบติดอยู่ บางทีผมทำคิดว่าสะอาดแล้ว แค่มีรอย ฝุ่นเล็กๆ ยังถูกเรียกให้กลับมาทำใหม่เลย หลายต่อหลายครั้ง ขัดมันให้สะอาด รวมไปถึงตู้เย็นด้วย ทุกซอกทุกมุม ในยางตรงประตูปิดเปิดก็ห้ามมีฝุ่นเกาะ ทุกคนต้องดึงตู้เย็นออกมาจากข้างใต้ครับ เพื่อให้ซุปเปอร์ไวเซอร์มาตรวจ ทุกซอกทุกมุมจริงๆ ส่วนนี้เสร็จผมก็ไปทำห้องน้ำ อย่างแรกคือ เอาผ้าขนหนู มาเติมให้หมด ผ้าขนหนูใหญ่ 1 ผืน กลาง สี่ ผืน เล็กอีก 4 ผืน มันจะมีวิธีการพับครับ ผ้าเช็ดเท้าก็ต้องเอามาเปลี่ยนครับ ชักโครกต้องใช้น้ำยาสีชมพูเช็ด อย่าลืมใส่ถุงมือก่อนนพครับ แต่ผมไม่ใส่ครับ เสียเวลา ทำๆไปอย่างนั้น ทุกซอกทุกมุมห้ามมีเศษ มีผง กดน้ำทิ้งแล้ว ทิ้งอีก เอาน้ำยามาฉีดแล้ว ฉีดอีกให้มันมีกลิ่นหอม จากนั้นก็ขัดอ่างน้ำ วิธีการก็ฉีดน้ำยาไปก่อน เปิดน้ำทิ้ง ชำระไป 1 รอบ จานั้น ไปเอาแปรงขัดมา ขัดถูให้มันขึ้นเงา ห้ามมีเศษผม ขน ใดๆทั้งสิ้นไปแต่นิดเดียวก็ไม่ได้ ทั้งม่านกันน้ำกระเซน ก็ต้องถูกผับเก็บเข้าที่เข้าทาง ถ้าม่านมีรอยดำก็ต้องวิ่งไปเอาที่ห้องเก็บของมาเปลี่ยน เพราะบนรถไม่มี ก๊อกน้ำต่างๆก็ต้องทำให้ขึ้นเงา ห้ามมีคาบ มากมายหลายขั้นตอน ทุกห้องจะมีอ่างล้างมือ กับ อ่างล้างหน้านะครับ อย่าสับสน อ่างล้างหน้าบางทีก็อยู่ในห้องน้ำ บางทีก็อยู่ข้างนอก แล้วแต่ประเภทของห้อง อ่างล้างหน้า เราต้องเช็ดขัดถูให้สะอาด ห้ามมีคราบมีรอย ต้องนี้ก็จะต้องมีผ้าขนาดกลาง 2 ผืน ขนาดเล็กอีก 2 ผืน มาวางที่ราวเล็กๆข้างๆอ่างล้างหน้า แชมพู สบู่เหลวเด็ก โลชั่น แล้วก็ สบู่ก้อน มีวิธีจัดวางดังนั้น นำผ้าขนาดกลาง 1 ผืน ผับครึ่งตามแนวยาว จากนั้นก็ม้วนส่วนหัวท้าย เข้าหากันมาที่จุดกึ่งกลาง จากนั้นเอาผ้าผืนเล็กผับครึ่ง ตามรูปแบบผมอธิบายไม่ถูก จากนั้นเมื่อได้แบบแล้ว ก็เอา แชมพู สบูเหลวเด็ก โลชั่น ยัดลงไปในผ้านั้น ให้ดูเหมือนอยู่ในตะกร้า จากนั้นเอามาใส่ใน ผ้าพื้นกลางที่ม้วนไว้แล้วให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็เอาสบู่ก้อน นำมาวางตรงจุดกึ่งกลาง หลายคนอ่านแล้วคงจะสับสน ผมไม่ต้องการอธิบายให้เข้าใจนะครับ ผมเพียงอยากจะบรรยายความยุ่งยากวุ่นวายของมันต่างหาก โดยไม่รู้ว่าผู้อ่านจะเข้าใจไหม ( ฮ่าๆ ) หลังจากนั้น ก็ไปเปลี่ยนถุงขยะ ทั้งในห้องน้ำ ถังใบเล็ก และก็ถึงใบใหญ่ใต้เคาน์เตอร์ จากนั้นก็เอาผ้า 1 ผืน พร้อมน้ำยาสีเหลือง เช็ดทุกอย่างของห้อง ไม่ว่าจะเป็น TV ลิ้นชัก ตู้เก็บของ โต๊ะวางของ ขอบเตียง โครงไฟ รูปภาพ โต๊ะก้าวอี้นอกระเบียง ครองกระจก ลุกบิดประตุ ประตู โทรศัพท์ จากในไมโครเวฟ ถ้าลืมก็กลับมาทำให้เรียบร้อย และสิ่งอื่นๆอีกมากมาย ถุงซักผ้าอย่าลืมเอามาใส่เพิ่มหากแขกได้ใช้ไปแล้ว หมอนสำรอง ก็อย่าลืมมาเปลี่ยนให้เรียบร้อย มี 2 ใบ เตารีดก็อย่างลืมเทน้ำออก เพราะเป็นไอน้ำ โต๊ะรีดผ้าก็ต้องพับเก็บให้เรียบร้อย ไม้แขวนจัดเรียงให้ถูกมุม กระดาษช้ำระแบบม้วนอย่าลืมเอาไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ที่อเมริกาไม่มีที่ฉีดก้นนะครับ เขาใช้กระดาษชำระเท่านั้น ผับมุมกระดาษขำระให้เป็นสามเหลี่ยมสวยงาม กระดาษสำระแบบกล่องก็อยู่ลืมไปเปลี่ยน มันจะมีช่องใส่ตรงอ่างล้างหน้า กระจกทุกบ้าน ขนาดใหญ่ๆ ก็อย่าลืมใช้น้ำยาเช็ดให้ขึ้นเงา ถ้าไม่เงามีหวังโดนเรียกกลับมาทำใหม่แน่ๆ กระจกตรงระเบียงก็อย่าลืม ที่เขี่ยบุหรี่ ต้องดูด้วยว่ามีก้นบุหรี่หรือไม่ ถ้ามีก็เอาไปทิ้ง น้ำในเครื่องกรองอากาศ ก็จะต้องเอาไปเททิ้ง ป้ายของโรงแรมอย่าลืมเอามาใส่ไว้ที่เตียงนะครับ รวมไปถึงป้าย Do not disturb ก็ต้องเอามาใส่ไว้ให้ด้วย จากนั้นก็ต้องมาดูดฝุ่นครับ ดูดทั้งห้อง ทุกซอกทุกมุม ขยะใต้เตียงระวังให้ดี ผมชอบลืมมากๆ ระหว่างที่ผมทำอยู่นั้น ซุปเปอร์ไวเซอร์ก็จะเดินมาดูเป็นระยะๆ มาทีไรผมก็ต้องเกร็งทุกที เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้นหมดแล้ว ก็ต้องไปกด *03 เพื่อเป็นสัญญาณว่าเราทำเสร็จแล้ว ทางซุปเปอร์ไวเซอร์เอง ก็จะเดินมาตรวจห้อง ผ่านหรือไม่ผ่านก็ว่ากันอีกที ถ้าผ่านก็ไม่ต้องถูกตามกลับไปทำใหม่ แต่แรกๆเลย ผมโดนกลับไปทำตรงจุดไม่สะอาดอยู่บ่อยๆ ผมต้องทำแบบนี้ไปอีกหลายต่อหลายห้องครับ แค่ห้องเดียวมันก็เหนื่อยแล้วนะ แต่ผมต้องทำต่อไปอีกในห้องที่เหลือ ผมได้แต่ด่าตัวเองอยู่เสมอๆ ว่าผมเลือกมาที่นี่ทำไม ทำไมไม่เลือกจะปิดเทอมอยู่บ้าน นั่งๆนอนๆ สบายออก แต่ก็ช่างเถอะ หัดมาลำบากเสียบาง เมื่อผมทำความสะอาดทุกห้องที่ได้รับมอบหมายหมดแล้ว 1 ห้องผมก็ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมงครึ่งในตอนแรกๆ ทำยัน 6 โมงเย็นเลยครับ ผมนึกว่าผมจะช้าอยู่คนเดียว แต่ไม่เลยเพื่อนๆผม ก็ช้าเหมือนผมด้วย ผมเอารถเข็นไปเก็บห้องเก็บของ เอาของทุกอย่างเติมใส่รถ เพื่อให้ได้ใช้ในวันต่อๆไป จากนั้นก็ถือตะกร้า แชมพู และ ผ้าขี้ริ้วที่ไว้เช็ดถูลงไป วันนี้ยอมรับว่าเหนื่อยมากครับ ร่างกายมันล้าไปหมด เหนื่อยกายแล้ว ก็ยังมาถูกด่า ถูกให้ไปทำใหม่ มันก็เหนื่อยใจพอดูนะครับ ไม่รู้ว่าวันต่อๆไปผมจะเป้นอย่างไรบ้าง



รูปเตียงขนาดควีนครับ




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2554
4 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2554 17:09:39 น.
Counter : 1014 Pageviews.

 

อธิบายละเอียดมว๊ากกกกกเลยค่ะพี่บาส^^ ติดตามๆๆอิ_อิ

 

โดย: คุคุ IP: 10.0.1.125, 124.121.111.125 21 ตุลาคม 2554 1:10:53 น.  

 

ขอบคุณครับ ยังไงก็ติดตา่มต่อไปนะ อิอิ ดีใจจังที่มีคนอ่านด้วย

 

โดย: Bastian@Bangna 21 ตุลาคม 2554 1:15:13 น.  

 

มีคนอ่านสิคะ เขียนซะดีขนาดนี้ ^^

 

โดย: wwn IP: 124.121.104.193 21 ตุลาคม 2554 11:12:14 น.  

 

รอติดตามจ้า สนใจงานเฮ้าอยู่ แต่ดูจากพีเล่าท่าจะเหนือ่ยจริงๆ อิอิ

 

โดย: economix IP: 182.53.230.205 21 ตุลาคม 2554 13:41:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bastian@Bangna
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




มาตามกระแสของโลกกันเถอะครับ
Friends' blogs
[Add Bastian@Bangna's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.