เจ้าภาพ บราซิล กลับมางัดฟอร์มสุดยอดหลังดาหน้าไล่ถล่ม เปรู แบบสนุก 5-0 ซิวแชมป์กลุ่ม เอ พร้อมควง เวเนซุเอลา ที่บดเอาชนะ โบลิเวีย 3-1 เข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ กระนั้น เปรู แม้จะพ่ายแต่ยังมี 4 คะแนน ยังได้ลุ้นเข้ารอบ8ทีมในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุด
สนาม : อารีน่า โครินเธียนส์, เซา เปาโล, บราซิล

    ศึกโกปา อเมริกา 2019 เดินทางมาถึงรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย "เจ้าภาพ" บราซิล ที่ชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนน พบกับ เปรู ชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 แต้มเช่นเดียวกัน ซึ่งเกมนี้ถือเป็นการตัดสินว่าทีมใดจะคว้าแชมป์กลุ่ม เอ ไปครอง

ตีเต้ เทรนเนอร์ของทัพ "เซเลเซา" เปลี่ยนทัพ 2 ตำแหน่งจากเกมที่เสมอกับ เวเนซุเอลา 0-0 โดยส่ง กาเบรียล เชซุส และเอเวอร์ตอน ลงทำเกมริมเส้นแทน ริชาร์ลิซอน และดาวิด เนเรส ส่วนแกนหลักยังเหมือนเดิม ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ปั้นเกมตรงกลาง และให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนค้ำหน้า ส่วน เปรู ยังฝากความหวังไว้ที่ เปาโล เกร์เรโร่ และเจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน

    เกมเริ่มได้แค่ 3 นาที เปรู ได้ทักทายก่อนเลยหลัง เปาโล เกร์เรโร่ เรียกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ก่อนที่ คริสเตียน กวยว่า จะปั่นฟรีคิกกึ่งยิงกึ่งผ่าน บอลพุ่งผ่านเสาสองออกไปแบบได้เสียว

ทว่ากลายเป็นทัพเซเลเซา ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาที 12 จากจังหวะที่ คูตินโญ่ เปิดเตะมุมทางด้านซ้ายมาให้ ติอาโก้ ซิลวา โฉบโหม่งเสาแรกไปเสาไกลให้ คาเซมีโร่ ตามโขกไปชนเสา ก่อนบอลจะกระดอนมาชนตัว มากินญอส ก่อนตั้งให้ คาเซมีโร่ โขกโล่งๆอีกครั้ง เข้าไปอย่างง่ายดาย

    บราซิล ยังไล่กดดันเรื่อย และนาที 19 เสียงแฟนบอลแซมบ้าใน อารีน่า โครินเธียนส์ ต้องดังกระหึ่ม เมื่อเจ้าภาพหนีห่างเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ เปโดร กาเยเซ่ นายด่านของเปรู ที่เตะบอลหน้ากรอบประตูตัวเองไปติดบล็อค โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ บอลลอยโด่งมาชนเสา ก่อนมาเข้าเท้าของ ฟีร์มีโน่ ล็อกหลบ กาเยเซ่ อย่างใจเย็นและแปเข้าไปง่ายๆ ชนิดไม่ต้องมอง

 อีก 4 นาทีถัดมา บราซิล หวิดได้เม็ดที่สาม คูตินโญ่ จ่ายบอลทะลุแผงหลัง เอเวอร์ตัน วิ่งไปเก็บบอลก่อนควบเข้าไปในกรอบ แต่จังหวะยิงโดน หลุยส์ อัดวินคูล่า เบียดจนบอลพุ่งไปติดเซฟ กาเยเซ่ 

    ทัพแซมบ้ายิ่งเล่นยิ่งได้ใจ นาที 32 ทะยานหนีห่างเป็น 3-0 บอลจากเท้า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แทงบอลไปถึง เอเวอร์ตอน ก่อนดาวยิงจากเกรมิโอ จากเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วหนี หลุยส์ อัดวินคูล่า ซัดบอลเลียดพุ่งแรงเบียดเสาแรกสุดปัญญาที่ เปโดร กาเยเซ่ จะป้องกันได้ เป็นประตูที่สองในทัวร์นาเมนท์นี้นำดาวซัลโวร่วมกับ คูตินโญ่

ก่อนจบครึ่งแรกแค่ 2 นาที เปรู มีเถียงมาบ้าง เมื่อ มิเกล ตราอูโก้ แบ็กซ้ายหลุดเข้าไปซัดเต็มแรงแต่บอลยังไปติดมือของ อลีสซง ช่วยเซฟช่วยแซมบ้ายังไม่เสียประตูในรายการนี้ 

     จบครึ่งแรก บราซิล ได้ประตูนำห่าง เปรู 3-0 

     กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง ไม่ถึงนาที เอเวอร์ตอน ที่วันนี้โชว์ฟอร์มโดดเด่นสุดๆ กระชากหนี อัดวินคูล่า เข้าไปในกรอบก่อนจะโดนเบียดล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร จากนั้นอีก นาที 48 เอเวอร์ตอน ที่เล่นมั่นใจสุดๆ พาบอลแหวกแข้งเปรูสามคนหลุดเข้าไปในกรอบ ก่อนดวลกับ กาเยเซ่ แต่ยังดีที่ นายด่านเปรูตามบล็อกไว้ได้ทัน

    นาที 54 สกอร์ไหลเพิ่มเป็น 4-0 จนได้ เป็นความยอดเยี่ยมของ ดานี่ อัลเวส ที่พาบอลลุยขึ้นหน้าก่อนทำชิ่งกับ ฟีร์มีโน่ ที่แทงทะลุให้ดาวยิงวัย 36 ปี จากเปแอสเชหลุดเข้าไปซัดเต็มแรงแสกหน้า เปโดร กาเยเซ่ เข้าไป

 นาที 74 นานๆที กาเบรียล เชซุส จะมีโอกาสจะลุ้นพังประตูบ้าง แต่คราวนี้อัดเปรี้ยงหน้าปากประตูแต่บอลยังแรงไม่พอที่จะพ้นมือ เปโดร กาเยเซ่ 

    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บราซิล มาได้ประตูที่ห้านำห่าง นาที 90+1 เป็น วิลเลี่ยน ที่ตะบันนอกกรอบสุดเฉียบบอลพุ่งเสียบมุมตาข่ายเข้าไปอย่างงดงาม และน่าจะได้เม็ดที่หก เมื่อเจ้าภาพมาได้ลูกที่จุดโทษ แต่กาเบรียล เชซุส ดันยิงไม่เข้าโดน กาเยเซ่ พุ่งปัดออกไปได้ 

    จบเกม! เป็นอันว่า บราซิล ไล่ถล่มโหดใส่ เปรู 5-0 คว้าสามแต้มมีเพิ่มเป็น 7 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่ม เอ ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายสำเร็จ

    ส่วนผลอีกคู่ที่แข่งพร้อมกัน เวเนซุเอลา คว้าชัยหลังไล่บดเอาชนะ โบลิเวีย 3-1 ส่งผลให้มีเพิ่มอีกสามคะแนนเป็น 5 แต้ม เข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอ 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เปรู (4-1-4-1) : เปโดร กาเยเซ่ - หลุยส์ อัดวินคูล่า, มิเกล อเราโฮ, หลุยส์ อัลฟอนโซ่ อับราม, มิเกล ตราอูโก้ - เรนาโต้ ตาเปีย - แอนดี้ โปโล, โยชิม่า โยตุน (เอดินสัน ฟลอเรส น.46), คริสเตียน กวยว่า (โจเซฟเมียร์ บายอน น.67), เจฟเฟอร์สัน ฟา
ร์ฟาน  - เปาโล เกร์เรโร่ (คริสโตเฟอร์ กอนซาเลส น.55)

        เทรนเนอร์ : ริคาร์โด้ กาเรก้า

        บราซิล (4-2-3-1) : อลีสซง - ดานี่ อัลเวส, มาร์กินญอส, ติอาโก้ ซิลวา, ฟิลิเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้ (อเล็กซ์ ซานโดร น.57) - อาร์ตูร์ เมโล่, คาเซมีโร่ (อัลลัน น.70) - กาเบรียล เชซุส, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (วิลเลี่ยน น.77), เอเวอร์ตอน - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

        เทรนเนอร์ : ตีเต้

ข้อมูลจาก https://www.siamsport.co.th/