<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 สิงหาคม 2555
 

ปณิธานกวี - เพียงเท่านี้ที่คงอยู่

สเตตัสของเพื่อนที่ปรากฎให้เห็นในหน้า FB เมื่อเช้า ...ทำเอา "อึ้ง" 

การข่าวในโลกออนไลน์ มาไว ...ตรวจสอบความน่าเชื่อถือแล้ว 
เราจึง comment ไว้อาลัยแด่  กวีซีไรท์ผู้อหังการ์
เพียงหนังสือหนึ่งเล่ม ก็ทำให้เราจดจำ ผู้ชายคนนี้ได้ 
และหลังจากนั้น ที่เราได้เห็นก็คือผลงาน "ภาพวาด"  ชายคนนี้ จึงเป็นทั้งกวีและจิตรกร  

ปณิธานกวี : อังคาร กัลยาณพงศ์ 
สำนักพิมพ์ศยาม พิมพ์ครั้งที่สาม : กันยายน 2533  จำนวน 126 หน้า / ราคา 60 บาท 
ซื้อเมื่อ : 24 กุมภาพันธ์ 2534

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือ "ประเดิม" ให้กับสำนักพิมพ์ศยาม ในคำแถลงกล่าวอธิบายไว้ว่า 
"...เราได้รับเกียรติจากคุณอังคาร กัลยาณพงศ์ กวีศรีสยาม อนุญาตให้พิมพ์บทกวี ชุด ปณิธานกวี
 ซึ่งกวีนิพนธ์ดังกล่าว เคยได้รับรางวัลซีไรท์เมื่อปีพ.ศ. 2529  บัดนี้ หนังสือเล่มนี้ขาดตลาดไปนานพอควร
เดิมคุณอังคารประสงค์จะให้พิมพ์บทกวีเรื่องอื่นๆ ก่อน แต่โดยที่ปณิธานกวีเล่มนี้ สถานศึกษาหลายแห่งได้ใช้
เป็นหนังสืออานประกอบ นักเรียนนักศึกษาหาซื้อไม่ได้ สำนักพิมพ์จึงจัดพิมพ์เรื่องนี้เป็นเล่มแรก..."

และเจ้าของบทประพันธ์ได้เขียน "ความในใจ" ไว้ดังนี้ 
"บทกวีนิพนธ์ นั้นควรจะอยู่ในชีพจรของผู้ทีเกิดมาเป็นกวี 
จากมิติแท้จริงของดวงวิญญาณ เปรียบดั่งผู้สืบสายโลหิตแห่งฟ้าและดิน
บทกวีนั้นสมควรจะเป็นลมหายใจเสียด้วยซ้ำไป 
คือทุกลมหายใจเสมอว่าเต็มไปด้วยบทกวี หรือมีบทกวีอยู่ทุกลมหายใจก็กล่าวได้
คงจะสร้างสมบารมีมาในการนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายภพหลายชาตินัก 
ในภพชาตินี้จึ่งได้เกิดมาเป็นกวี มีมโนคติเป็นแก้วสารพัดนึก
จะนฤมิตสรรพสิ่งใดๆ ก็ได้สิ้น เว้นไว้แต่ทิพยญาณในโลกุตระ นิรพานแล้วไซร์
 ไม่มีอะไรที่ไหนที่มโนคติจะไม่เจาะทะลุเข้าถึงแก่นแท้
เฉพาะอย่างยิ่งศิลปะ วรรณคดี อันมีมิติชีวิตบางสิ่งบางอย่างซ่อนเร้นคุณค่าแท้แห่งดวงวิญญาณอันประมาณค่าบ่มิได้
ไว้ในบทกวีที่แสนรัก สุดเสน่หาอาลัย ในอารมณ์รมณีย์ที่อาดูรพูนเทวษไว้ จนเลยมิติของอภิปรัชญา
ร่าเริงไปในวิสัยแห่งพุทธศิลป์ หลั่งไหลมาจากดวงใจหลากหลายรมณีย์ บางบทก็มีแก้วมณีแห่งวรรณศิลป์
สถิตไว้กลางกาละเทศะสถาน แห่งจุดที่สุดเสน่หาอาลัยในศิลปวัฒนธรรมอันเลิศล้ำค่า 
จนจะประมาณราคาแห่งศิลปวัฒนธรรมนั้น อยางชนิดหาค่าบ่มิได้ ควรแต่จะฝากไว้ในอนันตกาล
ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดกลางสังสารวัฏฏ์ ไว้เป็นอุปนิสัยสืบไปทุกภพชาติ
อันปรารถนาแต่จะเรืองรุ่งอยู่ด้วยมโนคติแห่งแก้วสารพัดนึกไปชั่วนิจนิรันดร์"

เราว่า นี่คงเป็น "ปณิธานกวี" ที่แท้จริง  

อังคาร กัลยาณพงศ์ รจนาบทกวีไว้หลายรูปแบบ 
ทั้งกลอนแปด โคลงสุภาพ และกาพท์ เพียงแต่ฉันทลักษณ์ที่ใช้ ฉีกขนบเดิมๆ ไปสิ้น 
แล้วยังไม่ได้บทกวีเพื่อความสุนทรีย์เท่านั้น แต่เป็นบทกวีเสียดสีสังคม 

"ตื่นเถิดโลกมนุษย์" 

    อนิจจา เกิดมาคอร์รัปชั่่น..............รอคืนวันคลั่งบ้ารัฐประหาร
กินเมือง โคตรหมาบ้าอันธพาล..........ประจานผลงานงับเมืองไทยฯ
    ฟ้า กว้างแบบอย่างใจมนุษย์หรือ....คับแคบคือกะลาใส่หล้าไฉน
ดิน ทั่วโลกโรคโลภของใคร...............จองของไปหมดจดขอบฟ้าจำฯ 
                                         ... 

การเลือกคำมาเรียงร้อยในบทกวีของ "ท่านอังคาร"  มีทั้งคำง่ายๆ 
ไปจนถึงคำที่ต้อง "แปลไทยเป็นไทย" แล้วยังมีสัมผัสแปลกๆ
 ...สำหรับคนที่ "ติด" สัมผัสนอกสัมผัสใน ตามฉันทลักษณ์แป๊ะๆ อย่างเรา อ่านครั้งแรก รู้สึกสะดุด 
ไม่ค่อยชอบ ...เพราะงงๆ กับสิ่งที่ต้องการสื่อ งงกับท่วงทำนองของบทกวีนั้น 
แต่พออ่านอีกรอบ ...อ่านซ้ำๆ  เราจะเข้าใจ และ get ได้ในที่สุด 

"เกียรติยศของกุลสตรี"
                                  ...
คุณค่ามิติวิเศษของชนนี...........ไป่มีวันสิ้นสุดอวสาน
อมตะค่าคู่ฟ้าอนันตกาล............ทุกลมปราณฤปลดหนี้ชีวาฯ 
ชนนีคำนี้ซึ้งประเสริฐ................เกิด ณ กุลสตรีที่ปรารถนา
สิทธิมิติทิพย์ของมารดา............ปฏิบัติบูช่าค่ามนุษย์จริงฯ 
กุลสตรีคำนี้ชี้เกียรติยศ..............งดงามด้วยบารมีใหญ่ยิ่ง
ชีวิตหลากหลายได้พึ่งพิง............หุ่นกิ่งฉัตรแก้วร่มโพธิ์ทองฯ 
                                    ...

วันนี้ 25 สิงหาคม 2555  กวีแก้วกรุงรัตนโกสินทร์ท่านนี้ ลาลับล่วงไปแล้ว 
คงเหลือไว้แต่ "ปณิธานกวี" และผลงานของท่าน บันทึกไว้ให้จดจำ ในฐานะของกวีและจิตรกร  

ปล. อ่านประวัติ และคำประกาศเกียรติคุณ "ศิลปินแห่งชาติ" >> Click




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2555
7 comments
Last Update : 25 สิงหาคม 2555 22:57:00 น.
Counter : 13340 Pageviews.

 
 
 
 
แว่บแรกที่นึกถึงกวีท่านนี้คือ...

เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง มุงปรารถนาใดในหล้า
.........

เสียดายท่านมาก ๆ แต่นี่ก็เป็นสิ่งยืนยันความนิจจังแห่งสังสารวัฏสินะ

ขอให้ท่านจงไปสู่สุคติค่ะ
 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 26 สิงหาคม 2555 เวลา:13:20:55 น.  

 
 
 

ร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของกวีแก้วรัตนโกสินทร์ด้วยค่ะ

๏ เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทรายฯ

๏ จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจฯ

๏ ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณฯ

๏ แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตาฯ

๏ ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอยฯ
 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 26 สิงหาคม 2555 เวลา:14:25:00 น.  

 
 
 
เพิ่งทราบข่าว

เล่มนี้เคยอ่านเช่นกันค่ะ
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง...เป็นบทที่จำติดปาก
 
 

โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 27 สิงหาคม 2555 เวลา:22:39:39 น.  

 
 
 
คุณแม่ไก่ ป้ากุ๊กไก่ คุณพุด >> กลอนวรรคที่จำได้เป็นอันดับต้นๆ ก็คือ "เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง" เหมือนกันค่ะ อีกวรรคก็ "เปิบข้าวทุกคราวคำ สูจงจำเป็นอาจิณ" เป็น 2 บทที่หลายๆ คนรู้จักแล้ว เราก็เลยหยิบเอาบทอื่นๆ มาลงไว้เป็นตัวอย่างแทน
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:6:31:26 น.  

 
 
 
ร่วมอาลัยท่านอังคารด้วยเช่นกันครับ บทกวีของท่านมีเอกลักษณ์เฉพาะตนสูงมาก อ่านแค่วรรคเดียว จะสัมผัสได้เลยว่าเป็นสำนวนของท่านเขียน
ในหนังสือปณิธานกวี ผมชอบบท "น้ำนมสีแดง"มากที่สุดครับ

ปล. คิดว่าบทกวี เปิบข้าวทุกคราวคำ น่าจะเป็นฝีมือการประพันธ์ของ "นายผี" ครับ
 
 

โดย: สามปอยหลวง วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:15:55:41 น.  

 
 
 


บทกวีนิพนธ์ นั้นควรจะอยู่ในชีพจรของผู้ทีเกิดมาเป็นกวี
ฉันใด

รีวิวบล็อก ควรจะอยู่ในชีพจรของจิตศรัทธาของเจ้าของบล็อกฉันนั้น

สำหรับอังคารส่วนใหญ่ จะคุ้นผ่านมติชนสุดฯหรือไม่ก็ศิลปวัฒนธรรมมากกว่านะครับ
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:21:45:01 น.  

 
 
 
คุณสามปอยหลวง > เห็นทีว่าเราคงสับสนไปมาอยู่นะ เลยติดเอาวรรคนั้นมาบวกกับท่านอังคารซะได้

คุณชาญ > งั้นจิตวิญญาณของเรา (และของคุณ) ก็คงติดอยู่กับ blog เช่นกัน
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:22:17:10 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com