Review in Nutshell...#7 (Tired Edition)

ขอผลัดเพลงยอดเยี่ยมประจำปี 2008 ออกไปอีกครั้ง (สงสัยกว่าจะได้เขียนถึงคงประมาณกลางปี 555+) ระหว่างนี้ขอให้เอนจอยกับรีวิวสั้นๆไปก่อนนะครับ ^^




Yes Man

จากที่เคยคิดเสมอว่า จิม แคร์รี่ เกิดมาเพื่อกับบทประเภทนี้ แต่พอดูได้เรื่องนี้ (และ Fun With Dick & Jane) กลับเริ่มมีความรู้สึกว่า เขากำลังดิ้นรนเพื่อเค้นเสียงหัวเราะจากคนดูอยู่ แม้ว่าจะไม่น่าแปลกใจ ที่บางครั้งเขายังทำให้เรารู้สึกขำหึหึได้อยู่ แต่ก็มีบ่อยครั้งเกินไป (จนไม่น่าให้อภัย) ที่เสียงหัวเราะของผู้ชมนั้นจะดังขึ้นมาจากความรู้สึกเห็นใจ อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงเสน่ห์กำลังไฟสิบแปดล้านวัตต์ของคุณนางเอก ก็ทำให้หนุ่มๆหัวใจละอ่อน (เช่นผู้เขียน) รู้สึกกระชุ่มกระชวย จนช่วยทำให้ลืมความฝืดของพระเอกหน้าทะเล้นไปได้อยู่

BloodyMonday Rating:


Burn After Reading

ด้วยบทพูดเก๋เท่ฮาที่มากพอสำหรับซิทคอมทั้งซีซั่น นักแสดงชั้นแนวหน้าที่มีเคมีต้องกันอย่างมหัศจรรย์ (ทั้งๆที่ในเรื่องหลายคนแทบจะไม่เคยอยู่ในฉากเดียวกันด้วยซ้ำ) และที่สำคัญก็คือการที่สองพี่น้องโคเฮนประสบความสำเร็จ ในการประเคนสาระสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ ให้กับผู้ชมแบบไม่ต้ิองเทศนาให้มากมาย... ขอยอมรับว่าหนังมันมีความสมบูรณ์ในตัวสูง แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมผู้เขียนถึงไม่ได้รู้สึกปลื้มเรื่องนี้อย่างที่ควรจะเป็น

BloodyMonday Rating:


Balls Out: Gary the Tennis Coach

มันน่าจะสร้างความบันเทิงได้ในระดับหนึ่ง ถ้าเราแค่นั่งอ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ด้วยความที่มันถูกใส่ภาพและเสียงเข้ามาแบบไม่ตั้งใจนัก บวกกับการเข้าโหมด สตีฟ สุดหื่นจาก American Pie ของ ณอน วิลเลี่ยม สก๊อต เป็นครั้งที่ร้อย แถมด้วยการแสดงอันไร้ซึ่งวิญญาณของเหล่านักแสดงสมทบ มันก็กลายเป็นหนังที่ควรค่าแก่การส่งตรงสู่แผ่นที่สุด (ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ)

BloodyMonday Rating:





Timecrimes

หนังคอนเซ็ปเก๋ไก๋ (แม้ว่าจะไม่สดใหม่) ที่เกี่ยวกับการย้อนเวลา เกี่ยวกับการที่เรายิ่งไปแก้ไขมันมากเท่าไร ปัญหาที่เกิดก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น น่าแปลกใจที่เมื่อหนังดำเนินมาตามสูตร จนถึงจุดที่เราคิดว่าเริ่มจะซ้ำซาก มันก็สามารถสร้างจุดหักเห ที่ทำให้เราต้องมานั่งทบทวนถึงฉากที่เพิ่งได้ดูไปได้... ขอแนะนำๆ

BloodyMonday Rating:


Jacob's Ladder

หลอน.....สยอง......ซึ้งงง

BloodyMonday Rating:


American Teen

ด้วยเวทย์มนต์ของคำว่า "ตัดต่อ" ทำให้ชีวิตของนักเรียนมัธยมปลายอันแสนน่าเบื่อ กลายเป็นละครน้ำเน่าทางทีวีระดับเข้าชิง Daytime Emmy ได้ทันที American Teen อาจโดนกล่าวหาอย่างหนักว่าทำให้เสน่ห์ของสารคดี (ที่ถูกใช้เพื่อเล่าความจริงปนความเห็นของผู้สร้าง) สูญเสียไป เนื่องจากเราจะเห็นได้ว่ามีการจัดฉากกันอย่างโท่งๆ รวมถึงการกระโดดข้ามเวลาไปมา เพื่อทำให้ชีวิตของนักเรียนที่ถูกตามถ่ายดูมีความน่าสนใจมากขึ้น (สังเกตุได้จากสิวที่หน้าของน้องนักเรียนคนหนึ่ง ที่เป็นๆหายๆอย่างน่าอัศจรรย์) แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว สารคดีเรื่องนี้สามารถพาอารมณ์ของเราไปถึงจุดที่ต้องการ ซึ่งก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเอาใจช่วยทุกคนแบบห้ามใจไม่ได้

BloodyMonday Rating:





How to Lose Friends & Alienate People

ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างสามทหารเสือจากเกาะอังกฤษ ที่รวมพลังบุกฮอลลิวู้ดในปีที่ผ่านมา (อันได้แก่ ริคกี้ เจอร์เวียส จาก Ghost Town, สตีฟ คูแกน จาก Hamlet 2 และ ไซมอน เพ็ค จากเรื่องนี้) ผู้เขียนขอตัดสินให้เรื่องนี้ชนะคะแนนแบบไม่เป็นเอกฉันท์... เอาไว้จะเขียนถึงเรื่องนี้ยาวๆในภายหลัง

BloodyMonday Rating: .25


Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2552 22:02:29 น. 18 comments
Counter : 912 Pageviews.

 

แวะมาสวัสดีค้า


โดย: praewa cute วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:18:29 น.  

 
รูปเฮดบล็อกใครอ่ะ เก๋มากมาย

เยสแมน นี่คิดว่าเบื่อๆ กับบทแบบนี้ของจิม แครี่แล้ว เมื่อไหร่เค้าจะได้บทแบบ Eternal Sunshine of the Spotless Mind อีก

เบิืร์น อาฟเตอร์รีดดิ้ง ก็รู้สึกเช่นเดียวกันคือ เหมือนจะสนุกแต่ก็ไม่สนุก 55

ป.ล ตกลงยังไม่ยอมดู Happy-Go-Lucky ใช่ไหม


โดย: grappa IP: 58.9.221.65 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:04:49 น.  

 
+ ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา ผมได้ดูไปแค่ Burn เรื่องเดียวเองอ่ะครับ ... และก็รู้สึกเหมือนคุณ Bd Md คือ ขำ ฮาป่วง แต่ไม่สุดดีซะทีเดียว อย่างไรก็ตาม ชอบทีมนักแสดงทุกคนในเรื่องมากๆ ที่รั่วได้ใจกันเหลือเกิน

+ สำหรับเรื่องอื่นๆ มีทั้งพอรู้จัก เคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่อีกบางเรื่องก็ไม่รู้จักเอาซะเลย เด๋วพรุ่งนี้มาเม้นต์ต่อนะครับผม ขอครอกฟี้ก่อนล่ะ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:06:07 น.  

 
ู^
เชียร์ Happy-go-lucky ด้วย เหมือนพี่แป๊ด
หนังน่ารัก ขำไม่แพ้เบิร์นนะ


โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:17:58 น.  

 
ผมก็อัพแล้วนะ เนื้อหาคล้ายกันเลย หุๆๆ (หัวเราะทำไม?)

ในบรรดาที่ว่ามา อยากดู Timecrimes ที่สุด ส่วน Yes Man ไม่อยากดูแต่แรกแล้ว

พายุงานซาลงหรือยังครับ


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:44:31 น.  

 
กลับมาแล้วค่ะ วิ่งมารายงานตัว แฮ่กๆๆ (วิ่งไปวิ่งมาหลายบ้าน ขอบคุณทุกคนที่แวะไปหา one last...very very last...new year resolution = เลิกดองบล็อก!)

เชียร์ happy go lucky ด้วยคน เราชอบมากกว่า amerie (spellcheck?) อีกนะ เราว่าเรื่องนี้ดูเป็นธรรมชาติกว่าน่ะค่ะ บางทีรู้สึกน้องอะมีรี่(วุ้ย เรียกยากจัง)เธอบทตั้งใจไปหน่อย แต่ก็แจ้งเกิดสุดๆพอๆกับอีสาว run lola run เลยเนอะ ว่าแล้วสาวฝรั่งเศสที่เคยอยู่บนหัวบล็อกคุณบลัดดี้จะโกฮอลลีวู้ดเมื่อไหร่น้ออ

แค่คำสามคำ (โดยเฉพาะสองคำแรก) ก็ทำให้เราอยากดู Jacob's ladder สุดๆ

น้องชายกำลังบังคับให้ไปดู underworld ภาคสามอยู่ แล้วจะรายงานสถานการณ์หลังออกจากโรงนะเคอะ (อาจจะสะบักสะบอมเล็กน้อย แต่ โอ๊ะ นั่นมันนางเอกจาก Descent, Doomsday นี่ ยังพอมีหวัง..)

ไปฮ่องกงช่วงตรุษจีนไม่ค่อยได้ทำอะไรเลยนอกจากกินๆๆๆ เพราะกีฬาประจำชาติ (ช้อปปิ้ง) เค้าปิดหมด ขากลับน้ำหนักเกินค่ะ แต่เป็นน้ำหนักคนนะ หุๆ

ปล. ดู Extra ไปหน่อยนึงแล้ว ฮามากค่ะ แต่ขอโทษเถอะ อีตา has-been orlando ราชาหนังจักรๆวงศ์ๆมันมาว่าพี่เด็ปป์ของดิชั้น!!


โดย: เดอะ รีเทิร์น ออฟ อปอช ^^ (apple_cinnamon ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:28:41 น.  

 
Coraline....



ดูยังไงก็ไม่ใช่หนัง PG เลยนะนั่น


โดย: อปอช อีกแล้ว (apple_cinnamon ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:31:16 น.  

 
อ่อๆ รับทราบจ้า
พอดีไม่ได้ดูหนังเรื่องดังของเฮียแก
แต่เรื่องอื่นดูนะ


โดย: grappa วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:52:48 น.  

 
อยากดู Jacob's Ladder กับ Timecrimes แหะๆ


โดย: Mcmurphy IP: 125.25.196.184 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:36:17 น.  

 

อยากดู"American Teen"..ค่ะ
ให้ลองสะกดเป็นคำอ่านภาษาไทยซิ
"อเมริกัน ตีน" เอ๊ย!!"ทีน"



ตามด้วยเรื่องนี้..เขาบอก Happy ending ด้วย!!!
งานหายยุ่ง..มา up blog ได้แล้วนะคะ??


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:04:20 น.  

 
ที่จขบ. รีวิวมาได้ดูอยู่เรื่องเดียวแค่

เผาหลังอ่านเรื่องเดียวเองอะ

เยทแม...น ก็ยังไม่ทันดูก็ลาโรงไปแระ เสียดาย (เหรอ)

หุหุ Jacob's Ladder รูปโปสเตอร์หลอนได้อีก อยากดูมากๆครับ



โดย: เด็กม.ปลาย (Onlineza ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:52:05 น.  

 
โฮะๆ ดิชั้นเจอแล้วค่ะ สิ่งมีชีวิตที่เจิดจ้าเป็นประกายระยิบระยับยิ่งกว่าพ่อทูนหัวเอ็ดเวิร์ด

คุณบลัดดี้มองผ่านฟิล์มที่เค้าใช้เวลาดูสุริยคราสด้วยนะเคอะ



ถูกแฟนคลับรุมตบตี .... ก็เค้าเป็นแควนคลับพี่วิกโก้นี่

รอดู Apoloosa (ชอบจำเป็น apocalypto?? - -")


โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:23:52 น.  

 
ิBurn After Reading ดูแล้วชอบชะมัด แต่ไม่รู้ทำไมเผลอหลับไปประมาณสิบนาที 555

Yes man วันนี้เพิ่งคุยกับเพื่อน คิดกันไปต่างๆ นาๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครตัดสินใจไปดู 555

นอกนั้นไม่คุ้นชื่อเท่าไหร่ แต่ American Teen น่าสนใจมาก

อ้อ ติดใจกับประโยคนี้ "สารคดีเรื่องนี้สามารถพาอารมณ์ของเราไปถึงจุดที่ต้องการ" ดูอีโรติกเนอะ 555



ไม่ได้เข้ามาเม้นท์นาน แต่ยังอ่านอยู่นะคะ ช่วงนี้งานเยอะมาก ไม่ทำก็ไม่ได้ เดี๋ยวเรียนไม่จบ


โดย: ยิ่งยง นั่งยองยอง วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:23:37 น.  

 
เศร้าใจจังง อุตส่าห์เอาใจช่วย ;-(

Once Stars Hansard And Irglova Split
5 February 2009 11:05 AM, PST


The Oscar-winning actor/songwriters who fell in love for real on the set of Irish independent movie Once have split. Glen Hansard and Marketa Irglova played a busker and an immigrant who bond over their love of music in the 2006 movie.

The pair became a couple in real life, and melted hearts at last year's Academy Awards when they collected the Best Original Song award for their duet Falling Slowly, taken from the movie's soundtrack.

But their relationship has come to an end, even though they are still performing together.

Hansard explains, "I think we both concluded that that wasn't what we really wanted. We're just really good friends."



โดย: BloodyMonday วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:02:59 น.  

 
^
เพราะฝ่ายชายแย่งพูดขอบคุณตอนรับรางวัลรึป่าวเนี่ย เห็นลางหายนะมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว


โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:52:55 น.  

 
^
หรือว่าบรรยากาศมันพาไป


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:19:41 น.  

 
^
^
เราว่าเป็นเพราะความรู้สึก weird น่ะ คือ เกลน เค้าเป็นเพื่อนกับครอบครัวของ มาร์เคต้า และก็รู้จักน้องเค้าตั้งแต่เล็กๆ พอน้องเค้าโตขึ้นมา เกลน ก็คงรู้สึกอยากใกล้ชิดขึ้น... ทีนี้พอได้เป็นแฟนกันแล้วทั้งคู่คงเริ่มรู้สึกแปลกๆ (เป็นเราก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน)

เฮ้อออ คิดซะว่า No such thing is fairy tale ละกันเน๊อะ


โดย: BloodyMonday วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:25:18 น.  

 
บทความ ส่วนใหญ่ได้ลงหนังสืออยู่แร้วครับ อิอิ เพราะเป็นนักเขียนอยู่ในหนังสือนั่นแหละ


โดย: เด็กม.ปลาย (Onlineza ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:49:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
3 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.