บทที่ 24 แผลเจ็บของสุรเดช
บทที่ 24 แผลเจ็บของสุรเดช


สุรเดชนอนคิดอยู่หลายคืน ก่อนจะตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องหมั้นหมายกิ่งดาวไว้ก่อนสิ้นเดือนนี้ นั่นเป็นเพราะเทพพิพิธยังคงตามรังควานกิ่งดาวไม่เลิก และเป็นเพราะความรักที่เขามีต่อยิ่งสาวที่เพิ่มมากขึ้นๆ

เมื่อถูกลูกชายเพียงคนเดียวรบเร้านานเข้า นางสุรีย์จึงต้องพาสุรเดชเดินทางไปยังบ้านของกิ่งดาวจนได้ และก็เป็นที่น่ายินดีที่วันนี้นายเจตต์และนางทับทิมอยู่บ้านกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

“นั่งกันก่อนนะแม่สุรีย์...” นางทับทิมเชื้อเชิญแขกทั้งสองไปยังกลุ่มโซฟาที่ห้องรับแขก

“คือ...ที่ฉันพาไอ้เดชมาวันนี้ก็เพราะว่ามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาพ่อเจตต์กับแม่ทับทิมน่ะจ้ะ” นางสุรีย์บอกเสียงค่อย พลางชำเลืองมองหน้าของหญิงชายรุ่นราวคราวเดียวฝั่งตรงข้าม นายเจตต์หันไปสบสายตากับนางทับทิมแวบหนึ่ง

“แล้วแม่สุรีย์มีเรื่องอะไรที่จะให้ฉันช่วยล่ะ...” นายเจตต์เอ่ยเสียงขรึม สุรเดชเม้มปากยิ้มมาดมั่นก่อนหันไปหามารดา นางสุรีย์สูดหายใจเข้าปอด ทำให้กล้าก่อนเปิดปากพูดในสิ่งที่ลูกชายเขาต้องการ

“คือ... ไอ้เดชมันก็รักแม่กิ่งดาว ลูกสาวของพ่อเจตต์กับแม่ทับทิมมานานแล้ว ฉันก็เลย...อยากจะมาหมั้นหมายแม่กิ่งดาวให้กับไอ้เดชมันน่ะจ้ะ...ไม่ทราบว่าทั้งสองจะเห็นว่าอย่างไร”

“หมั้นเหรอ?...” นางทับทิมอุทานเสียงหลง หลังจากที่เกิดเรื่องเทพพิพิธกับกล่อมแก้ว กิ่งดาวก็เปิดโอกาสให้สุรเดชกลับมาคบหากับตนอีกครั้ง แต่นี่...จะให้หมั้นหมายกันไว้ มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรือ ?

“ฉันว่า...ลองถามความเห็นของนังดาวมันดูหน่อยมั้ย?” ทับทิมเสนอขึ้นขณะที่นายเจตต์ได้แต่จ้องหน้าสุรเดชเขม็ง

“กลอยใจ...ช่วยไปเรียกนังดาวมานี่หน่อยเร็ว” โก่งคอร้องเรียกลูกสาวคนโตที่ทำกับข้าวอยู่ในครัว

“จ้ะ...” คนที่แอบฟังอยู่นานรับคำ ก่อนสาวเท้าขึ้นบันไดไปบนชั้นสองของบ้าน

กลอยใจผลักประตูห้องนอนของน้องสาวที่ไม่ได้ล็อกเข้ามา แต่ก็ไม่พบร่างของกิ่งดาว หญิงสาวถอนหายใจฟึดฟัดขณะกวาดมองรอบห้องก่อนจะเหลือบไปเห็นสมุดสีชมพูเล่มเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ...


เทพพิพิธรีบกระโดดลงจากรถ ก่อนตรงปรี่เข้ามายังบ้านของนายเจตต์ นั่นทำให้กลุ่มผู้ใหญ่ที่นั่งคุยธุระสำคัญกันอยู่ต้องตกใจเป็นอย่างมาก ทุกร่างต่างจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ โดยเฉพาะนายเจตต์และสุรเดช

“แกเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง ใครอนุญาต...ออกไปเดี๋ยวนี้นะ” ชายสูงวัยชี้หน้าด่าเทพพิพิธเลือดขึ้นหน้า อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะถอยง่ายๆ

“ขอผมคุยกับดาวหน่อยนะครับคุณพ่อ...” เทพพิพิธบอกอย่างกระหืดกระหอบ ก่อนหันซ้ายขวามองหาร่างแบบบางที่ถวิลหา “ดาว...ดาวอยู่ไหนครับ...”

“ไอ้นี่... พูดไม่รู้เรื่องรึยังไงวะ...เจ้าของบ้านเค้าไล่แล้วยังหน้าด้านอยู่ได้” สุรเดชตรงปรี่เข้าไปหาพร้อมยิ้มเหยียด

“อย่ามายุ่งได้มั้ย?”

“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอกนะ เพราะกิ่งดาวคือคนรักของข้า และแกก็มีเมียแล้ว...ควรจะกลับไปดูแลเมียแกให้ดีเถอะ”

“กล่อมแก้วไม่ใช่เมียฉัน...” เทพพิพิธเถียงสุดใจก่อนที่อีกฝ่ายจะยิ้มเย่าะ ทันใดนั้นเองกลอยใจที่วิ่งดุ่มๆ ลงบันไดมาก็ร้องเรียกบิดาเสียงหลง ทุกร่างหันมามองเธอเป็นตาเดียว

“พ่อ...แย่แล้ว...” หญิงสาวถลาร่างเข้ามาหาบิดาก่อนยื่นสมุดสีชมพูเล่มเล็กที่ได้มาจากห้องกิ่งดาวส่งให้นายเจตต์

“นี่มันอะไรนังใจ แล้วนังดาวล่ะไปไหน...”

“พี่ดาวไปนั่งเล่นที่ท่าน้ำจ้ะพ่อ...” กอบกุลที่เปิดประตูบ้านเข้ามาร้องบอก ก่อนที่เด็กสาวจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนมากมายอยู่ในบ้านตัวเอง นายเจตต์พยักหน้าเนิบนาบให้ลูกสาวคนเล็กก่อนเพ่งสายตาไปยังสมุดในมือ...

หัวใจของคนเป็นพ่อสั่นไหวรุนแรง รู้สึกราวกับว่ามันกำลังจะแยกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ยังไงยังงั้น นายเจตต์เอามืออีกข้างกุมหน้าอกซ้ายที่รู้สึกเจ็บแปลบ นางทับทิมเห็นสีหน้าของสามีที่ไม่สู้ดีจึงปราดเข้ามาหาก่อนที่กลอยใจจะบอกมารดาเสียงสั่นเครือ

“นังดาวมัน...นังดาวมันท้อง...”

“อะ อะไรนะกลอยใจ เอ็งพูดว่าอะไรเมื่อกี้” ทับทิมเขย่าร่างลูกสาวคนโต ขณะที่นายเจตต์ขบกรามแน่น สีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวจนเกินบรรยาย หยดน้ำใสๆ ค่อยๆ รินไหลลงมาจากหางตาของชายสูงวัย

“กิ่งดาวท้องกับผม...” เทพพิพิธประกาศก้อง สุรเดชหน้าถอดสีลงไปในทันที สายตาแน่วแน่และท่าทีมั่นใจของเทพพิพิธทำให้สุรเดชใจหายวาบลงไป กิ่งดาวท้องงั้นเหรอ?...ทำไมเขาถึงไม่รู้มาก่อน แล้วใครเป็นพ่อของเด็กล่ะ...

“พ่อ...” กลอยใจอุทานเสียงหลงเมื่อจู่ๆ นายเจตต์ก็พรวดพราดผลักประตูบ้านออกไปอย่างแรง ทุกคนในบ้านรีบวิ่งตามเขาไปอย่างทุลักทุเล จนเมื่อมาถึงศาลาท่าน้ำนายเจตต์ก็ตรงไปคว้าแขนของกิ่งดาวให้หันมาประจันหน้ากันทันที

“พ่อ...มีอะไรจ๊ะ...” ลูกสาวคนกลางย่นคิ้ว บิดาไม่เคยจับแขนตนแรงแบบนี้มาก่อน

“นี่อะไร...” ผู้เป็นพ่อชูมือซ้ายที่กำสมุดเล่มเล็กไว้แน่นขึ้น กิ่งดาวอ้าปากค้างในบัดดล...หัวใจหล่นฮวบลงไปกองกับพื้น อย่าบอกนะว่าพ่อเธอรู้เรื่องแล้ว...

“ฉันถามว่านี่คืออะไร...” นายเจตต์ตะโกนถามเลือดขึ้นหน้า ก่อนโยนสมุดใส่ร่างลูกสาวที่ยืนตัวสั่น

“คือ... คือว่า...”

“แกท้องกับใคร... บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าแกท้องกับใคร?” ผู้เป็นพ่อเขย่าร่างกิ่งดาวอย่างแรงหากแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมปริปากพูด เอาแต่กัดฟันร้องไห้...นั่นทำให้อารมณ์อันเดือดพล่านของบิดาสูงถึงขีดสุด

นายเจตต์ผลักร่างลูกสาวออกห่างก่อนเดินไปหักเอากิ่งไม้แห้งข้างศาลา ตรงปรี่เข้ามาฟาดใส่ร่างแบบบางที่ยืนร้องไห้โฮอยู่บนศาลา

“แกจะบอกพ่อมั้ยว่าแกท้องกับใครกิ่งดาว...” ตะโกนถามเสียงเครือ หยดน้ำตาก็ทำท่าว่าจะรินไหลลงมาอยู่มะรอมมะร่อ กิ่งดาวพนมมือขึ้นไหว้บิดาทั้งน้ำตาก่อนทรุดนั่งลงกราบแทบเท้านายเจตต์...

“พ่อ...หนูขอโทษ...หนูขอโทษจ้ะ...”

ผู้เป็นพ่อชูไม้เรียวขึ้นสูง หมายจะฟาดลงกลางแผ่นหลังลูกสาว แต่ก็กลับชะงักงันเสียก่อน... นางทับทิมและกลอยใจรีบกรูเข้ามาประคองร่างกิ่งดาวทันที

“อย่านะพี่...มีอะไรก็ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากัน” นายเจตต์สะบัดหน้าหนี ก่อนโยนไม้เรียวลงคลองไป สุรเดชและเทพพิพิธยืนหอบหายใจอยู่หน้าศาลา
ผู้เป็นมารดาปลอบลูกสาวเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงสั่น “ตกลงว่า... ตกลงว่าเอ็งได้ท้องรึเปล่านังดาว...”

กิ่งดาวหันไปมองบิดาที่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงหน้า ก่อนจะมองเลยไปยังชายหนุ่มสองคนทื่ยืนรอฟังคำตอบจากเธออยู่อย่างใจจดใจจ่อ หญิงสาวกำมือแน่น... เม้มริมฝีปากเข้าหากัน

“จ้ะ...ฉันท้อง ฉันท้องกับสุรเดช...” คำตอบที่ได้ยินทำให้เทพพิพิธแทบล้มครืนลงไป ชายหนุ่มรีบกระโจนขึ้นศาลา ก่อนฉวยเอามือกิ่งดาวมาจับไว้

“ดาว...ไม่จริง คุณโกหก คุณท้องกับผม ลูกในท้องคุณเป็นลูกผมใช่มั้ย?...” หญิงสาวเอนหน้าหนีจากเขา ก่อนร้องไห้ออกมาอีกครั้ง สุรเดชรีบกระชากร่างเทพพิพิธลงศาลาทันที ขณะที่นายเจตต์หันมาขึงตาใส่ลูกสาว

“เป็นสาวได้ไม่เท่าไหร่ ริจะมีผัว... พ่อกับแม่ส่งเอ็งไปเรียนหนังสือ แต่เอ็งกลับมาทำงามหน้า...นังรู้ไม่รักดี” จบคำฝ่ามือหนาก็ฟาดใส่พวงแก้มของกิ่งดาวอย่างแรงจนหันขวับไปอีกทาง

กลอยใจเอี้ยวตัวไปพยุงร่างน้องสาวไว้ ความเคียดแค้นชิงชังที่เคยมีต่อกันจางหายไปแล้ว เหลือแต่ความสงสารเห็นใจให้กับน้องสาวของเธอ นายเจตต์สะบัดร่าง เดินลงศาลาไปหาเทพพิพิธด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะชี้หน้าชายหนุ่ม

“ต่อแต่นี้ไป เอ็งห้ามมายุ่งกับลูกสาวข้าอีกเป็นอันขาด...นังดาวมันมีผัวแล้ว และก็กำลังจะ... กำลังจะมีลูก เอ็งเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว... อย่าให้ข้าได้รู้ ได้เห็นอีก ว่าแกยังตอแยลูกสาวข้าไม่เลิก”

เทพพิพิธยืนหน้าชา ราวกับว่าทั้งร่างไร้ความรู้สึกไปชั่วขณะ ชายหนุ่มหันไปมองกิ่งดาวที่ยืนน้ำตานองหน้า ในแววตาอันเจ็บปวดของเธอมันซ่อนความจริงเอาไว้ ความจริงที่เธอปิดบังทุกคน เขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่...


เมื่อรู้สึกตัวแล้วณภาจึงรีบเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ณภัทร์ได้ฟัง นับว่าโชคดีมากที่เผอิญเธอกับแม่ไปเจอน้องชายเสียก่อน มิเช่นนั้น...ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ณภัทร์จะเป็นยังไงบ้าง...

“ภัทร์ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วนะ หมอบอกว่าขาเราเคล็ด ส่วนข้อศอกแค่ถลอกเฉยๆ หัวก็แค่แตก แต่เย็บไปหลายเข็มเชียวหละ” พี่สาวบีบมือน้องชายเบาๆ ณภัทร์มองขาซ้ายของตัวเองที่มีผ้าพันแผลห่อไว้ ศอกขวาก็ติดผ้าพันแผล บนศีรษะก็มีผ้าพันแผล... แต่ก็ดีมากแล้วหละ ที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ถึงชีวิต

“เออ...เมื่อคืนมีเพื่อนมาหาภัทร์ด้วยนะ เขาเอาไอ้นี่มาให้ด้วย” ณภาเอนสายตาไปยังกระเช้าผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะติดกับตู้เย็นในห้องพิเศษ

“เพื่อนเหรอครับ...” ณภัทร์ทวนคำ ขณะเพ่งมองกระเช้าผลไม้ด้วยความสงสัย

“เขาบอกว่าพ่อฝากกระเช้านั่นมาให้เราน่ะ...” ณภาคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับน้องชายก่อนที่ณภัทร์จะเบิกตากว้าง พ่อฝากกระเช้าผลไม้นั่นมาเยี่ยมไข้เขางั้นเหรอ?...

ณภาลูบแขนน้องชายเบาๆ สองพี่น้องสบสายตากัน “พี่เชื่อว่าสักวัน...พ่อจะเข้าใจภัทร์ และภัทร์ก็ต้องให้อภัยพ่อเหมือนกันนะ...”

ณภัทร์จุดยิ้มแทนคำตอบด้วยความตื้นตัน ดวงตารื้นด้วยม่านน้ำตาใสๆ ก็ได้แต่หวังว่ามันจะมีวันนั้น... เขาหวังจะให้มีวันนั้นจริงๆ


คบเพลิงกลับบ้านมาช้ากว่านางบงกชเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะบนถนนเกิดอุบัติเหตุทำให้ชายหนุ่มต้องเปลี่ยนไปใช้อีกเส้นทาง แต่น้าสาวก็ไม่ได้ซักถามอะไรมาก กระทั่งถึงมื้อเย็นจึงเปิดปากคุยกันอย่างเปิดอก

“เมื่อวานไปเยี่ยมภัทร์มาใช่มั้ย... ทำไมไม่ไปพร้อมกับน้าล่ะ?” เลิกคิ้วถามจนหลานชายอ้าปากค้างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว คบเพลิงรีบหลบสายตานางบงกช ก่อนก้มหน้าคว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม

“เราชอบภัทร์ใช่มั้ยคบเพลิง...”

“น้าบงกช...” ชายหนุ่มอุทานเสียงแผ่วเบา ก่อนที่อีกฝ่ายจะจุดยิ้มน้อยๆ

“ทำไม... ถามแค่นี้ถึงกับตกใจ”

“ก็... ผมไม่ได้เป็นเกย์นะครับ น้าอย่าเข้าใจผิดสิ”

“เหรอ... น้าก็ยังไม่ได้ว่าเธอเลยนะ แล้วอีกอย่าง...เธอจะรักใครชอบใคร น้าไม่เคยว่าอยู่แล้ว เพียงแต่น้า...ไม่อยากให้ด่วนตัดสินอะไรๆ ด้วยตัวเองเร็วนัก ค่อยๆ ใช้เวลาไปเรื่อยๆ แล้วเธอก็จะรู้...กับความหมายของคำว่ารัก ลึกซึ้งมากขึ้น...”



Create Date : 11 ธันวาคม 2554
Last Update : 11 ธันวาคม 2554 13:23:44 น.
Counter : 362 Pageviews.

6 comments
  
จะบอกว่า...เพิ่งเขียนเสร็จเมื่อกี้นี่เองนะครับ >< ไม่ได้ตรวจดูคำผิด อะไรเลย กลัวคนอ่าน ไม่ได้อ่าน ^^

ถ้าเขียนผิดตรงไหนก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยแล้วกันนะครับ
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:13:29:38 น.
  
ผมตั้งใจว่าจะอัพ เพียงเพื่อนใจ อาทิตย์ละสองบท


ถ้าเกิดว่าลืมอัพ โทร.จิกได้นะครับ 080-7203864 เบอร์ผมเอง ^^

โรค ขี้เกียจ + จินตนาการ ตีบตัน ถามหาอีกแล้ว

แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านนะครับ
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:13:31:55 น.
  
ได้อ่านแล้วค่าา แล้วอ่านจี๊ดดด ปวดหัวกับเรื่องนี้ วุ่นวายเกิ๊นนน อินจัดค่ะไรเตอร์ 5555555
โดย: มิน IP: 101.109.101.40 วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:13:35:23 น.
  
ระวังจะมีคนโทรไปจิกค่ะ ^^
โดย: มิน IP: 101.109.101.40 วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:13:36:55 น.
  
อยากเห็นคู่ของคบเพลิงบ้างครับว่าจะออกมายังไง
โดย: Nui IP: 119.46.130.232 วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:7:41:21 น.
  
ครับ @คุณมิน ผมรอโทรศัพท์อยู่อ่า 55555+++ ไม่ได้เขียนมาหลายวันแล้ว เพียงเพื่อนใจนี่

@คุณ Nui นึกว่าเลิกตาม เพียงเพื่อนใจ ไปแล้วซะอีก T_T

เดี๋ยวจะรีบอัพให้เร็วที่สุดเลยครับ ^O^
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:17:36:14 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผีเสื้อสีดำ
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่า...

ทำไม่ได้
ธันวาคม 2554

 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
All Blog
MY VIP Friend