๖. ในสวนขวัญ // ดวงตะวัน
ในสวนขวัญ
ผู้เขียน : ดวงตะวัน
สำนักพิมพ์ : ดวงตะวัน
รายละเอียด
หมู่บ้านเสริมขวัญ...เราจะเริ่มชีวิตใหม่กันที่นี่นะพ่อ
ชีวิตใหม่ที่ไกลห่างจากเรื่องราวเก่าๆเดิมๆ แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจทำใจให้ชินได้เสียที
จะมีทางไหนดีกว่าการก้าวถอยห่างจากความทุกข์ที่แสนปวดร้าวนั้นออกมาล่ะ
สองพ่อลูกกำลังจะก้าวไปถึงรถอยู่แล้วตอนที่มองเห็นว่ามีกระถางไม้ดอกไม้ประดับจำนวนมาก
วางเรียงรายอยู่ด้านหน้าสำนักงานขายรอเวลาที่จะนำไปจัดแต่งภายในหมู่บ้านให้สวยงาม
ไม้พุ่มขนาดกลางใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ตัดกับดอกสีขาว
ดอกอะไรพ่อรู้จักรึเปล่าจ๊ะ
ดอกพุด ...สวยเชียวนะเป็ดปุ๊ก
หอมหรือเปล่าเอ่ย หญิงสาวถามโดยไม่ต้องการคำตอบ
เพราะหลังจากถาม ทั้งๆยังจับมือพ่อเอาไว้
หล่อนก็ก้มลงไปจนใกล้ดอกไม้งามแล้วสูดกลิ่นหอมอย่างชื่นใจ
บัวบูชาไม่รู้ว่ามีใครบางคนก้มมองภาพนี้อยู่ด้วยความสนใจ
ภาพหญิงสาวจูงมือชายสูงวัยซึ่งคงเป็นพ่อ
ก้มลงสูดกลิ่นหอมของดอกพุดดอกเดียวกันที่เขาเพิ่งสูดกลิ่นไปก่อนหน้านี้ไม่ถึงห้านาที
หล่อนคงไม่รู้ด้วยกระมังว่า...จูบดอกไม้ซ้ำรอยเขา
เรื่องย่อเพิ่มเติม
บัวบูชา และ เชียรผู้เป็นพ่อจำต้องย้ายจากบ้านที่อยู่มานานจนเกิดความผูกพันเปี่ยมล้น ด้วยมีปัญหากับไทรงาม กับ เก็จเกยูร พี่ชายและพี่สะใภ้ของบัวบูชา
เมื่อย้ายมาอยู่ ณหมู่บ้านเสริมขวัญ จากคราแรกที่คุณเชียรคิดว่าคงจะต้องหงอยเหงาเพราะอยู่คนเดียวบัวบูชาก็ไปทำงาน ทว่าคุณเชียรโชคดีที่มี ตฤณ คนสวนประจำหมู่บ้านที่คุยถูกคอมาคอยคุยด้วยแก้เหงา
พายุพัดกระหน่ำที่ใดก็ไม่เท่ามรสุมร้ายที่เกิดจากคนในครอบครัวเดียวกัน บัวบูชาเข้าใจคำนี้ได้ดีเมื่อจู่ๆ บ้าน ที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่เกิดกลายสภาพเป็นดั่งสมรภูมิรบ ครอบครัว ที่ควรเป็นที่พักพิงใจแห่งสุดท้ายหายวับไปเหมือนไม่เคยมี
หากเมื่อตัดสินใจก้าวออกมาแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป หนทางเดียวที่ทำได้คือการจับจูงมือพ่อไว้ เติมขวัญกำลังใจซึ่งกันและกันหญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคนบนฟ้าที่ทำราวจะกลั่นแกล้งให้หล่อนกับพ่อต้องพบเผชิญมรสุมชีวิตเตรียมอะไรไว้รอรับในวันคืนข้างหน้า...เป็นผืนดินกันดารแห้งผากไร้รักและหวังหรือสวนขวัญอันชุ่มฉ่ำเย็น
...ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าหนทางตรงๆ ง่ายๆ ที่เลือกทำ คือการจับจูงมือพ่อไว้จะสะกิดหัวใจใครบางคนให้ต้องเหลียวมอง
ความรู้สึกส่วนตัวหลังอ่าน
อ่านหนังสือของคุณดวงตะวันมามากพอสมควร เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ชอบมากแม้จะไม่มากที่สุด แต่ก็เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วประทับใจที่สุดเป็นอันดับต้นๆ !
เรื่องนี้ซื้อมาตั้งแต่งานหนังสือเดือนต.ค. นี่แหละครับแต่ไม่มีโอกาสได้หยิบมาอ่านเสียที จนได้นำมาอ่านในช่วงวันหยุดนี้นี่เอง
ชอบชื่อเรื่อง...ในสวนขวัญได้ยินชื่อก็อยากอ่านทันที...
ชอบชื่อตัวละคร น่ารักหลายชื่อเมื่อได้อ่านบทแรกแล้วชื่อตัวละครเป็นสิ่งสำคัญของเรื่องนี้ที่ทำให้อยากอ่านต่อๆไป อาทิชื่อเล่นน่ารัก ๆ...เป็ดปุ๊กไก่กุ๊ก นกจิ๊บ แมวเมี้ยว ยักษ์เบิ้ม รวมไปถึงชื่อไพเราะๆ อย่าง เก็จเกยูรแก้วกรพินธุ์ (เสียดายสองชื่อนี้นิดหน่อย อิอิ เพราะชื่อไพเราะเกินไปไม่เหมาะกับยายสองคนนี้เลย)
ตัวละครในเรื่องนี้ทุกตัวล้วนเกี่ยวพันกันและมีปัญหาเรื่องครอบครัวทั้งสิ้น ...
คุณเชียรที่จำต้องจากบ้านที่ตัวเองหลังผูกพันมานาน เพียงเพราะความไม่เอาไหนและเห็นแก่ตัวของลูกชาย ลูกสะใภ้มิหนำซ้ำยังเจอกับปัญหาที่คุณเชียรไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้พบ...พี่น้องแย่งมรดกกันขวัญของคุณเชียรหายไปไหนก็ไม่รู้ได้...มิสามารถเรียกกลับคืนมาได้เลย
ย่าขวัญที่ประสบปัญหาจากความไม่เอาไหนของลูกชายคนเล็ก...ที่อายุล่วงเข้าห้าสิบแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ต้องขูดรีดเงินแม่อยู่ร่ำไป...ที่ดินของตัวเองที่เกิด ณแห่งนี้ และตั้งใจจะตาย ณ แห่งนี้เช่นกัน ก็มีแต่จะคนช่วงชิงไปทำหมู่บ้านจัดสรร
คุณหทัย...ต้องประสบกับปัญหาลูกติดจากสามีเก่าที่มีปัญหากลับลูกสามีใหม่...ท้ายสุดแล้วผู้ที่เป็นฝ่ายเสียใจคือคนกลาง...ผู้เป็นแม่ของลูกทั้งสองนี่เอง
กะรัต เก็จเกยูร แก้วกรพินธุ์สามแม่ลูกที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักพอ นึกถึงตัวเองเป็นหลักท้ายสุดแล้วชีวิตก็มิอาจมีความสุขได้...
ผู้แต่งบรรยายความรู้สึกเศร้าของคนแก่ที่เป็นไม้ใกล้ฝั่งได้ดี...และสะท้อนถึงความรักความอบอุ่นของพระนางได้ดีเช่นกัน....อ่านแล้วได้ทั้งความสุข และความเศร้าแต่สุดท้ายก็อิ่มเอมที่ได้อ่านเรื่องนี้
ตัวละครหลายตัวมีความโลภ อยากได้เห็นแก่ตัวจนไม่สนใจว่าคนรอบข้างจากเดือนร้อนถึงเพียงไหนในการกระทำของตนเอง...ไม่เพียงแต่ร้อนกาย...ร้อนใจด้วยต่างหาก
สาเหตุที่เห็นแก่ตัวไม่ใช่เพราะ...ไม่มี
แต่เป็นเพราะ...ไม่พอ ต่างหากล่ะ !
เพราะเห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเอง...ท้ายสุดจึงเหลือแต่ตัวเอง
เป็นอีกเรื่องของคุณดวงตะวันที่แนะนำครับ
อุ้มสม
๓๑ ธ.ค. ๒๕๕๕