Spoonful : เทศกาลปล่อยไก่ที่ซอยหลังสวน
กาลครั้งหนึ่ง ไม่นานเท่าไร ฉันและเพื่อนรักชี้ชวนกันไปดูนิทรรศการรถไฟแห่งความสุขที่ TCDC (ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบที่ ดิ เอมโพเรียม) ที่โปรดของฉันที่ไปสิงอยู่ในนั้นได้เป็นวันๆ พอชมนิทรรศการเสร็จ เพื่อนเปรยว่ามีร้านเบเกอรี่น่ารักเว่อร์ ร้านนึงอยู่แถวซอยหลังสวน คำว่า ซอยหลังสวน เป็นเสมือนดงลับแลของฉัน ได้ยินกิติศัพท์มานานว่ามีร้านอาหาร คาเฟ และเบเกอรีสุดชิคกระจุกอยู่ที่นี่เยอะแยะ พอเพื่อนเอ่ยถึงหลังสวนขึ้นมา เด็กบ้านสวนอย่างฉันหูผึ่งขึ้นมาทันที เราคลานกระดืบจากย่านพร้อมพงษ์ไปย่านชิดลม ระยะทางไม่ไกลเลย แต่พิษไฟแดงของสี่แยกเมืองหลวงทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ากำลังบุกบั่นจะไปดงลับแลจริงๆ ร้าน Spoonful บนถนนหรูของซอยหลังสวนน่ารักสมร่ำลือ ภายในร้านมีเครื่องเขียนและข้าวของเครื่องใช้สารพันวางขายมุมโน้นมุมนี้ ส่วนมากเป็นแนวกุ๊กกิ๊ก คิกขุ คริคริ ชิมิชิมิ ประสาญี่ปุ่นอาโนเนะแทบทั้งนั้น สาวๆ (หรือหนุ่มอรชร) ที่ชอบสินค้ากระจุ๊กกระจิ๊กเห็นแล้วต้องกรี๊ดเหมือนเด็กอนุบาลเจอตุ๊กแกบนผนังห้องน้ำแน่ๆ แต่มุมที่ฉันใส่ใจมากที่สุดคือมุมเบเกอรี ทีเด็ดของร้าน Spoonful คือ สโคน (ขนมปังก้อนแบบยุโรป) แต่หมดเสียแล้ว ของกินอื่นๆก็หมด เหลือแต่บลูเบอรีชีสเค้ก ฉันอยากสั่งเส้นเล็กน้ำ หรือหอยทอดแป้งน้อยๆสักจาน แต่ Spoonful ไม่มีเลยต้องสั่งเมนูหนึ่งเดียวที่เคี้ยวได้ของเขามาชิม มาถึงเมนูเครื่องดื่ม ฉันไม่ถนัดดื่มกาแฟตอนหัวค่ำเพราะจะตาค้างไปทั้งคืน จึงหันมาเหล่เมนูเครื่องดื่มสุขภาพแทน (ฉันเรียกมันบ้านๆว่า เมนูน้ำปั่น แต่ภาษาชาวกรุงเขาต้องพูดว่า สมูทตี้) ร้านนี้มีแต่น้ำผลไม้ประดิษฐ์ผสมโซดา (ฉันเรียกมันว่า น้ำผลไม้ปลอม แต่เรียกตามภาษาชาวกรุงต้องบอกว่า ฟรุตตี้โซดา) ในเมนูเขียน 50 ต่อท้าย อืม ราคาน่าคบ
งั้นคนละแก้วละกันนะเพื่อนนะ เราหามุมเหมาะในการสนทนา และจิบของว่างหรูๆ ทำตัวกลมกลืนกับชีวิตเหนือระดับแบบหลังสวนโซไซตี้ (แถวนี้น้ำไม่ท่วม แสดงว่ามันเหนือระดับจริงๆ
) หน้าต่างบานกว้างเผยให้เห็นต้นไม้ใหญ่ที่เหลือรอดไม่กี่ต้นในย่านนี้ มีกระรอก และนกวิ่งไต่ไปมาบนต้นไม้ ฉันมองเพลินจนเผลอนึกไปว่าฉันคือคุณหนูสิริพรรณราย พริ้งพรายพจมาศที่เพิ่งเรียนบัลเลต์เสร็จ แวะมาจิบชาเอิร์ลเกรย์และบิสกิตนิดหน่อยรอนายบุญเข่ง (คนขับรถของตระกูล) มารับ บลูเบอรีชีสเค้กมาแล้ว ชิ้นเล็กกว่าที่คาดเยอะแต่ดูคุณชายพุฒิภัทรมากๆ หมายถึงว่าเค้กนั้นหน้าตาดี ดูเป็นผู้ดี และน่ากินทีเดียว
เค้กเนื้อนุ่มแต่หนักแน่นด้วยกลิ่นเนยและนม ฉันน้ำตารื้น แม่เจ้า รสชาติช่างร่ำรวย ( ฝรั่งเขาชอบอุทานว่าเค้กมันช่าง rich !! มันคือเค้กรสร่ำรวยใช่ไหมคะ ) เบเกอรีแบบบางกอกมันล้ำเลิศอย่างนี้นี่เอง อร่อยจนเผลอลืมขนมครกโรยต้นหอมซอยไปชั่วขณะ แล้วน้ำฟรุตตี้โซดาก็มาวางตรงหน้า ฉันสั่งรสส้มยูสุ เพราะชื่อมันคุ้นๆ เหมือนที่เขาเอามาใส่ในครีมอาบน้ำโชโกบุสึ โมโนกาตาริ บอกเพื่อนว่าฉันสั่งรสนี้เพราะอยากชิมว่าโชกุบุสึผสมโซดามันจะออกมาเป็นอย่างไร อึกแรกยากจะเลือน ด้วยสัตย์ของอดีตเนตรนารี
ฉันยอมรับว่ามันเป็นน้ำผลไม้ปลอมที่รสชาติเศร้ามาก อดเปรียบไม่ได้กับน้ำซ่าโบราณที่ขายตามตลาดนัด แก้วละ 20 อร่อยชื่นใจกว่ากันเยอะ เราดื่มด่ำช่วงหัวค่ำในร้าน Spoonful พักใหญ่ ก็ได้เวลากลับ ทางร้านคิดเงินสิริรวม 370 บาท ฉันมองหน้าเพื่อนอึดใจ แต่ก็จ่ายค่าเสียหายกันไปแบบมึนๆ เราเอาบิลมาดู และพบว่าราคาน้ำผลไม้ปลอม เอ๊ย ฟรุตตี้โซดาซูเปอร์ดริงก์ของเขาคิดแก้วละ 105 บาท ไม่ได้การณ์ ในเมนูเขียนว่า 50 ไม่ใช่เหรอ ฉันเอาบิลไปร้องเรียนหน้าเคาเตอร์ เจ้าของร้านยิ้มเนือยและบอกเราว่า 50 ที่คุณเห็น มันคือ SO ย่อมาจาก SODA ค่ะ และมันแก้วละ 105 ไม่ใช่แก้วละ 50 เด็กบ้านสวนกับเด็กกรุงอีกคนเดินขำกันออกมาจากร้าน โอเค ซึ้ง ขอบคุณมากนะ Spoonful
มันเป็นแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ ในอนาคตถ้าใครเปิดร้านอาหาร ฉันจะแนะนำเขาว่า พี่เขียน 10 ต่อท้ายมันทุกเมนูเลย แล้วพอลูกค้าเข้าใจผิดว่ามันจานละ 10 บาทไม่ใช่เหรอ พี่บอกลูกค้าไปว่า 10 ที่คุณเห็น มันย่อมาจาก IOWA ที่ร้านนี้เราทำส้มตำ ผัดกระเพรา บะหมี่หยก สปาเกตตี ซูชิ และแผ่นจาปาตีจิ้มแกงถั่วด้วยสูตรไอโอว่าทุกเมนูค่ะ J
Create Date : 17 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2556 9:42:36 น. |
|
22 comments
|
Counter : 4444 Pageviews. |
|
|
นึกถึงตอนไปนั่งร้านหนึ่งที่หัวหินเลยค่ะ เจอราคาแล้วมีอึ้งอ้ะ เหอๆ
โหวตหมวดไดอาริสต์ให้นะคะ
ที่เทอร์มินัลเราเคยไปนั่งฟู้ดคอร์ดเค้าที่ชั้นล่างค่ะ เหมือนจะสั่งอะไรมากิน แต่ไม่ใช่หนมปังหละ รอบหน้าขอลอกหน่อยนะคะ แฮ่...