สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่น
ตอนไปประชุม ฉันนั่งติดกับเพื่อนร่วมงานสาวชาวญี่ปุ่นชื่อมาริโกะ เราสนิทกันเร็วเพราะเรา ต่างสนใจวัฒนธรรมกันและกัน มาริโกะตื่นเต้นกับสูตรแกงเขียวหวานของฉันมาก ขณะที่ฉันก็ตื่นเต้นพอกันกับข้อมูลพิพิธภัณฑ์โดราเอมอนจากมาริโกะ เราคุยกันหงุงหงิง ฉันตั้งชื่อการสนทนาว่าเป็นแบบ งุงิ conversation ตลอดเวลาสามสี่วันที่ประชุมและทำ workshop ด้วยกัน ฉันเรียนรู้และชื่นชมจิตวิญญาณของเลือดอาทิตย์อุทัยหลายอย่าง · มาริโกะไม่เคยมาประชุมสายเลย แม้จะหลังเบรค หรือหลังทานข้าวเที่ยง มีเวลาน้อยแค่ไหน มาริโกะจะไม่เอ้อระเหย แต่จะมาก่อนเวลานัดหมายทุกครั้ง จนฉันต้องเร่งตัวเองและมาเข้าห้องประชุมก่อนเวลาตามไปด้วย ฉันเอ่ยชมมาริโกะในเรื่องนี้ เธอบอกฉันว่า การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด เราต้องเคารพคนอื่น
· ช่วงที่เรากำลังหารือเรื่องการตั้งงบประมาณ เราคุยกันว่าต้องเผื่องบสำหรับการช่วยเหลือเวลาเกิดเหตุวิกฤติเช่น ภัยธรรมชาติไหม เพื่อนร่วมงานชาวออสเตรเลียยักไหล่และพูดลอยๆว่า ก็ดี ใครจะรู้ สึนามิอาจจะเกิดอีกทีก็ได้เนอะ
มาริโกะนั่งฟังเงียบ ไม่วิจารณ์อะไร พอถึงช่วงต่อไป เป็นการแชร์ประสบการณ์จากประเทศต่างๆ มาริโกะและทีมญี่ปุ่นขึ้นไปเล่าเรื่องสึนามิที่เพิ่งเกิดขึ้นพร้อมทั้งโชว์ภาพจากนิตยสาร exclusive ให้ดู คำบอกเล่าจากผู้ประสบเหตุจริงๆสั่นสะเทือนหัวใจคนฟังกว่าการดูภาพข่าวในทีวีมากนัก มาริโกะเล่าว่าจนบัดนี้ เกษตรกรและผู้ประสบภัยหลายคนยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย หลายคนที่บริษัทเข้าไปช่วยเหลือสรุปบทสุดท้ายของชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ฉันเสไปมองเพื่อนชาวออสเตรเลียแว่บหนึ่ง ฉันเห็นเธอนั่งฟังนิ่ง ใบหน้าซีดเผือด · เวลาทำ workshop เพื่อนจากหลากหลายประเทศต่างระดมความคิดเป็นเลิศ ฉันเฝ้ามองพฤติกรรมของเพื่อนร่วมงานหลากชนชาติแล้วยิ้มเงียบๆ การแสดงออกบ่งบอกนิสัยบางประการของบุคคลนั้นๆได้พอสมควร เพื่อนที่คุยสนุก ทักทายคนโน้นคนนี้เสียงดัง เวลาออกความเห็นก็จะเสียงดังและชวนให้คนอื่นเห็นคล้อยไปด้วย ขณะที่มาริโกะมักรอให้คนอื่นพูดจบก่อน ตัวเองถึงออกความเห็นอย่างสุภาพ และมักพูดตบท้ายว่า Anyway, actually I agree with the team แต่ก็นะ จริงๆแล้ว ทีมว่ายังไง ฉันก็ว่าตามนั้นแหละ · เที่ยงวันหนึ่ง ที่ประชุมมีอาหารกล่องแจก ตบท้ายด้วยขนมหวานสไตล์สิงคโปเรียน ทีแรกฉันคิดว่ามันคือแกงบวดเผือก แต่จริงๆแล้วมันคือขนมหวาน
หน้าตามันเหมือนสาคูเม็ดที่แม่ครัวต้มจนลืม และกลายสภาพเป็นโจ๊กสาคูแฉะ แต่งหน้าด้วยเผือกอืดก้อนขนาดลูกเต๋าชำรุด กะทิที่อยากจะหวานแต่พอดีน้ำตาลในครัวหมด
แต่ที่เด็ดดวงกว่านั้นคือเขาโรยถั่วลิสงป่นมาให้ด้วย โอ้ นี่มัน แกงบวดเผือกรสต้มยำใช่ไหมคะ เพื่อนชาวอินเดียประเดิมถ้วยแรกก่อนใคร ฉันลอบสังเกตสีหน้าของเพื่อนแล้ว รู้สึกระแวงในรสชาติอย่างที่สุด ฉันถูกคะยั้นคะยอให้ลองชิมเพราะดันไปบอกเพื่อนว่า วัตถุดิบที่บ้านฉํนก็มีนะ สาคู เผือก และกะทิ แต่เอ่อ หน้าตามันต่างกันเยอะนะเธอ
เพื่อนเลยชวนว่าลองชิมซิว่ารสเหมือนไหม สัมผัสแรกของขนมโจ๊กสาคูเป็นไปตามคาด ภาษามาเลย์ต้องอุทานว่า อะละม่ะ ! ฉันทนกินได้สองคำก็ขอวางช้อน แล้วฉันก็หมดความสนใจในน้องสาคูตั้งแต่นั้น นานพอดูเมื่อหันมา เจอมาริโกะก้มหน้าละเลียดสาคูจนเกือบหมดถ้วย ปกติมาริโกะกินน้อย แต่ครั้งนี้ฉันแปลกใจว่าทำไมมาริโกะเสน่หาโจ๊กสาคูนัก เอ หรือมันจะรสดีเหมือนขนมถั่วแดงแบบญี่ปุ่นหนอ พอฉันถามมาริโกะว่า อร่อยหรือ คำตอบของมาริโกะทำเอาฉันสะอึก และอยากกราบเบญจางคประดิษฐ์ตรงหน้าเธอมากๆ มาริโกะบอกว่า Ano, I dont want to waste the world resource อาโน ฉันไม่อยากทิ้งทรัพยากรให้เสียเปล่าน่ะ
Create Date : 09 เมษายน 2556 |
Last Update : 9 เมษายน 2556 17:32:17 น. |
|
16 comments
|
Counter : 8630 Pageviews. |
|
|
สุภาพ รู้จักเอาใจเขาใส่ใจเรา
ไม่หักหน้าใครและกล้าหาญ เป็นตัวของตัวเอง
และมีวิธีคิดเพื่อส่วนรวม
ได้รู้จักคนแบบนี้รู้สึกโชคดีค่ะ