|
K i t a F a m i l y ค ร อ บ ค รั ว คี ตะ
|
||||||||||||||
++++ มามะมา พาไปเที่ยวญี่ปุ่น Day2 ภูเขาไฟฟูจิ โอชิโนฮัคไค ล่องเรือโจรสลัด กินไข่ดำ โกเทมบะ +++ มาต่อวันที่ 2 กันเลยนะคะ หลังจากวันแรกเรานอนกันที่ฮาโกเน่ ตื่นเช้ามาพบกับอาหารเช้าเป็นเซตเล็กๆ หลายอย่าง อย่างละนิดหน่อย แต่อิ่มโฮกกก..   ปลาแซลมอนย่างตอนเช้ากับข้าวนิ่มๆ ซดน้ำซุป..โอ้ววว..ฟินนนน  ทานด้วยกันนะคะ  ในโรงแรมที่พัก มีตู้กดน้ำ เป็นน้ำดราก้อนบอลด้วยอ่ะ  เดินไปด้านนอกโรงแรม ไกด์บอกว่านี่คือต้นซากุระกับต้นท้อ โห..แค่นึกก้อฟินมากๆๆ  ตัดมาด้านในกันบ้าง บ่อปลาคาร์ฟกับการจัดสวนแบบญี่ปุ่น สวยดีจัง  ปลาคาร์ฟที่นี่เชื่องมากๆ แค่คนนั่งอยู่ไกล้ๆบ่อมันก้อว่ายมาเล่นด้วยแล้วอ่ะ  เช้านี้เราออกเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิที่ระดับชั้นที่5 กันค่ะ นั่งรถบัสไปชิลล์ๆ สักพักเริ่มเห็นแล้ว วันนี้อากาศดีฟูจิไม่ขี้อาย โผล่มาให้เห็นแต่เช้า วิวจากทะเลสาปคาวากูชิโกะ  รถเริ่มไต่ระดับขึ้นเขาไปที่จุดภูเขาไฟชั้นที่ 5 ฟูจิในระยะไกล้ๆบ้าง  ถึงแล้ว ชั้น 5 เป็นจุดชมวิว ร้านอาหาร ของฝาก ศาลเจ้า คนเพียบบบบ  มองลงไปข้างล่าง หมอกควันเยอะอยู่เหมือนกัน  แต่ละคนแต่งตัวมาเพื่อพิชิตยอดเขาฟูจิ  เด็กน้อยคนนี้ด้วย  เดีียนด้วยยยย..เอิ่มมม..ไม่ใช่แร๊ะ สายตาเด็กน้อยมองด้วยความงงๆ อิป้านี้จะไปปีนเขาด้วยเหรอ??   soft cream ช่างดึงดูดใจ  ไม้เท้าค้ำยันเวลาขึ้นภูเขา แล้วก้อธงชาติไว้ปักเวลาถึงแล้ว 5555  ชอบพี่คนนี้มาก..เท่ซะ  อีกล่ะ..ร้านที่ 2 ไปศาลเจ้าก่อน เด๋วออกมาเจอกันแน่นอน  เข้ามาดูร้านของฝากกันค่ะ ทุกอย่างเกี่ยวกับฟูจิทั้งนั้นเลย  ตุ๊กตาก้อมี น่านักดี มีคิตตี้ด้วย   ได้คิทแคทชาเขียวกลับบ้านเป็นของฝาก เจ๋งอ่ะ..มีคำนวณเป็นเงินไทยให้ด้วย  โมจิก้อเหมือนกัน ภาษาไทยทั้งนั้นฮะ!! แสดงว่าคนไทยใช้จ่ายจนต้องยกเลิกวีซ่าเข้าญี่ปุ่น 5555  ด้านบนมีศาลเจ้าด้วย เดินขึ้นไปเที่ยว เห็นวิวฟูจิสวยดี เราว่าฟูจิต้องเห็นไกลๆถึงจะอลังนะ..ประมาณที่ทะเลสาปคาวากูชิโกะ กำลังดี ใหญ่เก็บภาพได้กว้างๆ  แวะซื้อตอนขากลับ ฟินสุดๆ อากาศเย็นสบายกะซอฟครีมชาเขียว  สายๆคนเริ่มเยอะแล้ว ได้เวลาเรากลับพอดี  บ๊าย..บาย ฟูจิซัง มีโอกาสคงได้เจอกันอีก  ไปเที่ยวกันต่อที่หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค หรือ หมู่บ้านน้ำใส ค่ะ หมู่บ้านนี้ชื่อน้ำใสเพราะว่า น้ำมาจากการละลายตัวของหิมะจากภูเขาไฟฟูจิ น้ำเค้าใสและเย็นมากกก...ผลไม้ไม่ต้องแช่ตู้เย็นเลย แค่แช่น้ำก้อเย็นเจี๊ยบแล้ว น้ำในห้องน้ำ ล้างหน้า ล้างมือ เย็นเจี๊ยบ..แต่อากาศร้อน มว๊ากกกก.. ฝาท่อ ได้มาอีกหนึ่งล่ะ  ดังเรื่องลูกพีชและองุ่นค่ะ ลูกพีชหอมหวานอร่อยมากๆๆ  อยากซื้อกลับบ้านมาฝากแม่กับพ่อ แต่ไกด์บอกว่าอยู่ได้แค่ 2วัน ที่สำคัญมันช้ำเพราะเปลือกมันบางมากๆ  เจอดังโงะ ว่าจะกินๆๆ สุดท้ายพลาดเพราะอิ่มจากอย่างอื่น  ซาลาเปาชาเขียวย่าง อันนี้ต้องลอง  ปั้นกันสดๆเลย  อาย่อยๆๆๆ  เดินไปด้านใน จะมีบ่อน้ำทั้งหมด กี่บ่อ จำไม่ได้ค่ะ แหะๆๆ เจอบ่อเล็กก่อนเลย ใสจิงไรจิงอ่ะ  อุต๊ะ..ใสจิงนะเธอ..  เดินเข้าไปด้านใน เจอบ่อใหญ่มาก มีปลาคาร์ฟตัวเบ้อเริ่มว่ายอยู่ด้วย  เอามือจุ่มลงไป..ใสกิ๊กกกก  เค้าจะมีที่ให้กรอกน้ำสามารถดื่มได้นะคะ เย็นชื่นใจดี..ปล..มีขวดขายด้วยล่ะ แต่เราเตรียมลงไป ฮี่ๆๆ  เดินลึกเข้าไป มีบ้านหลังใหญ่มาก ไม่ทราบว่าเป็นอะไรพิพิธภัณฑ์รึป่าว หรือร้านอาหารก้อไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องเสียเงินค่าเข้าด้วยค่ะ  เจอต้นเมเปิ้ลสีแดง เหลืออยู่ 1ต้น สวยๆๆ  ดอกไม้ข้างทางก้อสวยไปหมด  เจอเด็กญี่ปุ่น กำลังอุ้มน้อง น่ารักกกกกก..  ที่นี่ปลูกข้าวโพดขายด้วย และแน่นอน หวานอร่อยจนต้องซื้อกลับไทย  กังหันน้ำเหมือนรูปในฝาท่อ  สวยจุง..  ชิมลูกพีช หวานอร่อยฝุดๆๆ  ข้าวโพดปิ้งด้วย และก้อซื้อฝักดิบกลับไทย 2ฝัก ฝักละ 100เยน หวานมากๆ  เที่ยงแล้ว เริ่มหิวกัน วันนี้มื้อเที่ยงทัวร์จัดให้ไปกินปิ้งย่างจากถ่านภูเขาไฟ ที่ร้านนี้ ไม่แน่ใจว่าแถวนั้นมีร้านเดียวหรือว่ามีหลายร้านก้อไม่รู้ ที่รู้คือ ปิ้งย่างท่ามกลางอุณภูมิ 37องศา เอิ่มมมมม..   ร้านนี้มีดาราไทยมาเยอะเหมือนกันนะเนี่ย  อยากนั่งห้องนี้จัง ได้ห้อยขาด้วย  เตรียมพร้อม..ลุยยยยย  ปิ้งๆย่างๆ  เขตใครเขตมันกระเด็นมา อาจหายได้ 5555..อร่อยอีกแล้ว  ตั้งหน้าตั้งตากินมากผมเผ้าหลุดลุ่ย หันหน้าออกเตา แหม่ๆๆ ถ้าหน้าหนาวนะ คงฟินก่านี้ 100เท่า  ตอนกลับเจ้าของร้านใจดีมอบหินภูเขาไฟแจกให้ด้วย เอาไปแช่น้ำเค้าบอกว่า น้ำจะกลายเป็นน้ำแร่ล่ะ ยังไม่ได้ลองเลย  หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อนไม่ทันได้งีบ ไกด์ใส่โปรแกรมเพิ่มให้ไปล่องเรือโจรสลัดที่ทะเลสาปอาชิ กันครึ่งชม.ค่ะ  ถ้ามาหน้าฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเดือนนี้-ต้นเดือนพฤษจิกายน แนะนำให้นั่ง Rope way จะฟินมากกก..มองไปทางใหนคงเป็นสีเหลือง-แดงเต็มไปหมด ไกด์น้องพงศ์บอกว่าให้วิ่งคับพี่ เรามาทันเรือออกพอดี..อ้าวเฮ้ยยย..  ขึ้นมาแบบหอบๆกัน บนเรือมี 3ชั้น มีรูปโจรสลัดให้ถ่ายด้วย น้องสาวบอกว่าพี่เอาเท้าไปขึ้นไปประกบกับเท้าในภาพสิ..เอิ่มมม..เกรงใจอ่ะค่ะ มิกล้าๆๆ  ขึ้นไปชั้นดาดฟ้า เรืออีกลำแล่นผ่านพอดี  ฝั่งด้านหน้าของเรือ รู้สึกว่าจะเป็นตั๋ว VIP นะ เพราะมีดาดฟ้าด้านหน้าส่วนตัว มีห้องพักผ่อนแยกจากส่วนเราโดยมีรั้วกั้น อ่านะ..รู้สึกต่ำต้อยขึ้นมาทันที 5555  เห็นศาลเจ้ากับเสาโทริอิอยู่ไกลๆ  ล่องเรือเรียบร้อยนั่งรถไปที่หุบเขาโอวาคุดานิ อยู่ไกล้ๆกัน ไปชิมไข่ดำกันค่ะ เจอคิตตี้ไข่ดำก่อนเลย น่าร๊ากกก  และแน่นอน มีของกินของฝากตู้กดขาย ละลายทรัพย์ตล๊อดๆๆ   ไกด์ถามความสมัครใจ ใครจะเดินขึ้นไปถึงบนเขาถึงจุดที่เค้าต้มไข่ดำให้ตามไกด์ไป ใครอยากเดินดูของ นั่งเล่นสบายๆด้านล่างก้อแล้วแต่ ส่วนใหญ่จะเดินขึ้นไปดูกันค่ะ  กลิ่นซัลเฟอร์ไดออกไซด์แรงมากกกกก..ไข่เน่าเลยทีเดียว  ควันขึ้นเลย ไม่ต้องบอกว่าร้อนแค่ใหน  มาซื้อไข่ดำกันดีกว่า ไม่พลาดกับภาษาไทย บ้านเราไม่มีตกเทรนด์อ่ะ  1ถุง มี 5ฟอง ครบทีมเราพอดี  ปอกออกมา ก้อคือไข่ต้มนั่นเอง เค้าบอกว่ากินแล้วอายุยืนไป 5ปี ไปเขาค้ออายุยืนอีก 10 ปี อมตะกันพอดี 5555  ลงมาดูของฝาก ก้อแน่นอนทุกอย่างทำเลียนแบบไข่ดำไม่ว่าจะเป็นโมจิ หรือไอติมรสไข่ก้อมีนะเออ..    ซอฟครีมรสไข่ รสชาติไม่ไหวอ่ะ เลี่ยนเชียว  เจอคิตตี้กิโมโน น่ารักอีกแล้ว  ล้างปากด้วยไอติมชาเขียวแบบเวเฟอร์มั่งดีกว่า  อันนี้ผ่าน อร่อยคอนเฟิร์มคร้าาาา..  ที่สุดท้ายที่จะแวะวันนี้คือ Gotemba outlet มาละลายทรัพย์กับของแบรนเนมส์ แต่ก่อนจะช้อปมื้อเย็นนี้ปล่อยฟรีนะคะ หากินเองที่เอาท์เลทจะมีฟาสฟูดส์ แต่อาหารค่อนข้างน้อยและราคาสูงกว่าข้างนอก แต่ก้อต้องกินล่ะ เพราะ 6โมงแล้วเริ่มหิว  จขบ.และซะมี ไม่กินเนื้อ และตัวเองไม่ชอบแกงกะหรี่ เหลือตัวเลือกไม่เยอะล่ะ จัดไปกับไก่อบข้าวสิงคโปร์ มาญี่ปุ่นแต่กินอาหารสิงคโปร์นะ..ชานมไข่มุกน่ากินก่าเยอะเลย รู้งี้กินเครปกับชานมดีฝ่า  แกงกระหรี่หมูทอดของสามี กินไปหน่อย เออ..อร่อยดีแฮะ  ไก่เทอริยากิของน้องสาวสามี น่ากินอีกแว้วววว..เริ่มไม่พอใจในตัวเอง  ของตัวเอง เฉยๆอ่ะ  กินอิ่มแล้วต้องเอาถาดยกไปเก็บเองด้วยนะจ้ะ อย่าลืมๆๆ ที่นี่เห็นฟูจิด้วยค่ะ แต่เย็นแล้วเริ่มเลือนๆ  ช้อปสู้ตายฮะ..5555 แค่ได้เดินดูของก้อมีความสุขแล้ว  ได้ coach มา 1ใบอภินันทนาการจากพี่ชายสามี ขอบคุณมากฮ้าฟฟฟ.. และรองเท้าของสามี 1คู่แค่นั้น  ขึ้นรถได้สลบกันไปเลย ยกเว้นเรา..ไม่สามารถนอนบนรถได้ คืนนี้เราไปนอนกันที่เมืองโยโกฮาม่าค่ะ ได้เข้าเมืองแล้ว วางแผนกันไว้ว่าเด๋วนัดกันออกมาเดินเล่นตอนกลางคืนกัน อยากนั่งรถไฟฟ้าเล่น ห้องนอนกว้างพอประมาณ สะอาดสะอ้านค่ะ  มีของครบทุกอย่าง ขาดอย่างเดียว..เดี๋ยวมาเฉลยหลังจากไปเดินเที่ยวกลับมา   สรุปเหลือกัน 3คน ที่ออกไปเดินเที่ยว ตอนกลางคืนเงียบๆ จักรยานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ญี่ปุ่น  เดินไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีรถไฟฟ้า  อยากนั่งเล่นไปกลับสถานีนึง แต่ไม่ได้ติดพาสปอร์ตมากลัวว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาจะยุ่ง เลยเดินเล่นแถวนั้น ซึ่งร้านค้าปิดกันไปหมดแล้ว  เป็นปลื้มกับน้ำรสโมโม่มาก รสพีช หอมหวานๆ  เจอแก๊งวัยรุ่นญี่ปุ่น ขอถ่ายรูปด้วย นางน่ารักอ่ะ  เดินเข้าออก 7-11 และ family mart ดูของกินก้อฟินแล้ว    จะ 5ทุ่มแล้วเดินกลับดีกว่า เงียบๆปิดกันไปหมดร้านค้า  ที่บอกว่าญี่ปุ่นขาดไปอย่างนึงคือ ส่วนใหญ่คนไม่พูดภาษาอังกฤษกัน ตอนเดินกลับมา อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย รู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็นนะ เลยปรับ ปรับไปปรับมา มันร้อนขึ้น ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เฮ้ยย..ไม่ไหวล่ะ โทรหาโอเปอเรเตอร์ เป็นเสียงผู้หญิง เราก้อบอกขอโทษนะค้า แอร์ไม่เย็นค่า แนะนำหน่อยว่าต้องปรับอุณภูมิอย่างไร ทันใดนั้น..โดนโอนสายทันที คราวนี้น้องผู้ชาย.. บอกไปบลาๆๆ น้องผู้ชาย..เทมปะเรอเจอร์?? อืมๆๆ อ๋อ ทูมอโร เทมปะเรเจอร์ 37..บลาๆ ไม่ใช่ๆๆ แอร์ที่ห้องชั้นไม่เย็น แนะนำวิธีหน่อยได้มั้ยว่ากดตรงใหน? เสียงฮีกดคอมพ์นะ เดาว่าฮีกะลังเข้าโปรแกรมทรานสเลทอยู่  สุดท้ายบอกว่ายูขึ้นมาห้องชั้นเดี๋ยวนี้เลย มันไม่ไหวล่ะ ฮีหัวเราะ อาโน..จะให้โผ้มมขึ้นไป..แหม ชั้นอยู่กะซะมีย่ะ.. ขึ้นมาปุ๊บ ชี้ๆ ใช้ภาษามือกันอย่างเดียว อาโนๆๆ ยูไปกดที่ฮีทเตอร์เข้านะสิ ปุ่มนี้นะ เป็นcool อันนี้ใช้ปรับ อันนู้นฮีทเตอร์ แหมๆๆ..มันมีแต่ภาษาญี่ปุ่นนะเฟร้ยยย..ข้อยจะฮู้ได้จังได๋ล่ะ..เฮ้อออ..กว่าจะได้นอน นู่น ตี1!! จบวันที่2 แบบทุลักทุเล ไม่เป็นไรขำๆค่ะ สนุกดี..เด๋ววันที่ 3 ไปเที่ยวกันต่อที่ คามาคุระ วัดอาซากุสะ พิพิธภัณฑ์ราเมน และโอไดบะค่ะ
|
life for eat and travel
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
|||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||||||||||||
