พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 

เศรษฐีบ้าความเร็ว AUDI RS7

เศรษฐีบ้าความเร็ว AUDI RS7

ซาลูนหรูจากค่ายสี่ห่วง เครื่อง V8 เทอร์โบคู่ 3,995 ซีซี 552 แรงม้า 0-100 ใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เชิญพบกับ Audi RS7 ยานยนต์ 4 ประตูสุดแรง...

เมื่อรุ่นปกติถูกขายมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องปล่อยทีเด็ดด้วยโมเดลพิเศษบ้าพลัง ค่ายสี่ห่วงจากเยอรมัน Audi รถยนต์ที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักในประเทศไทยเปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตซาลูนพลังสูง รุ่น RS7 สายพันธุ์ที่ร้อนแรงในรหัส RS ซึ่งนับเป็นที่สุดของรถยนต์ทุกรุ่นภายใต้แบรนด์สัญลักษณ์ Audi


Audi RS7 เป็นงานอัพเกรดด้านวิศวกรรมสปอร์ตซาลูนหรูหราแบบ 4 ประตู มันถูกส่งออกขายตามติดรถรุ่นน้องอย่าง RS6 Avant ที่เพิ่งจะเปิดผ้าคลุมไปสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ รถ RS7 ดิบโหดด้วยเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะเริ่ดแบบ V8 552 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดกับชุดขับเคลื่อน 4 ล้อที่ลือลั่นจาก Audi Quattro โดยสามารถสปีดตัวเองจากจุดหยุดนิ่งไปจนถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียงแค่ 3.9 วินาทีเท่านั้น แรงไม่แรงไปคิดกันเอาเอง ไฮไลต์ของตัวรถอยู่ที่เครื่องยนต์บ้าพลังที่ใช้ร่วมกับ Bentley Continental GT V8 แต่ย่านของกำลังใน RS7 นั้นถูกปรับจูนให้ดิบโหดขึ้นไปอีกระดับ เพื่อให้เพียงพอต่อความบ้าของคนรวยรักความเร็ว โหมดการขับเคลื่อนสูงสุด Dynamic ปรับเปลี่ยนตัวรถจากซาลูนหรูให้กลายมาเป็นปิศาจร้ายบ้าความเร็ว ระบบส่งกำลังแบบ 8 สปีดรุ่นล่าสุดจาก ZF เติมเต็มประสิทธิภาพของการทดกำลังแบบยิ่งยวด ทะยานจนทะลุย่าน 250 กิโลเมตรชนิดหายใจรดต้นคอซุปเปอร์คาร์ทุกๆ คันที่มีอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ


รถ RS7 นับเป็นจักรกลที่มีวิศวกรรมขั้นสูงบรรจุอยู่ทั่วทั้งคันเพื่อการทำความเร็ว มันเป็นรถที่มีอัตราเร่งตรงข้ามกับน้ำหนักตัว ออฟชั่นพิเศษลิมิเตอร์ เจ้าของรถต้องจ่ายเพิ่มหากต้องการเห็นเข็มวัดความเร็วทะลุไปที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยการปลดล็อกกล่องควบคุมความเร็วบนโหมด Dynamic Plus เกียร์เทพของ ZF จัดการลดรอบเครื่องยนต์ที่ย่านความเร็ว 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมงให้เหลือเพียงแค่ 3,000 รอบต่อนาที ส่งผลไปถึงอัตราสิ้นเปลืองเมื่อขับขี่เดินทางไกลบนไฮเวย์ กลไกของการผลึกปิดกั้นเสียงแปลกปลอมจากภายนอกทำให้ผู้ขับและคนโดยสารรู้สึก เหมือนกำลังวิ่งอยู่ที่ความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากความเงียบสงัดของห้องโดยสารแบบใหม่


เทคโนโลยี โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาที่ Audi มีความเชี่ยวชาญ ทำให้ RS7 มีน้ำหนักเบาเกินความเป็นจริงอยู่พอสมควร Sportback RS7 มีโครงสร้างส่วนใหญ่ผลิตจากอะลูมิเนียม โดยมีโลหะพวกเหล็กกล้าเพียงแค่ร้อยละ 15 รถ RS7 ที่ขึ้นรูปด้วยอะลูมิเนียมเกือบทั้งคันเช่น เสาหน้า-หลัง ห้องเครื่องคานกันชน ด้านหน้าและด้านหลังเป็นอะลูมิเนียมทั้งหมด กันชน ฝากระโปรง ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ แผงหน้าปัด, ฝาหลัง ประตูทำจากอะลูมิเนียม โดยการใช้แผ่นอะลูมิเนียมหล่อแบบตายตัว ทำหน้าที่เป็นวัสดุสำหรับพื้นผิวของตัวถัง การกระจายความสมดุลของแชสซีส์ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อการใช้ความเร็ว สำหรับ Audi หลักการออกแบบให้รถมีน้ำหนักเบาหมายถึงการใช้วัสดุ ที่มีความเหมาะสม ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อให้บรรลุองค์ประกอบหลายอย่างสำหรับส่วนผสมในการผลิตรถยนต์ อัลลอยจะถูกหลอมในเตาเผาด้วยอุณหภูมิกว่า 1,000 องศาเซลเซียส และนำมาหล่อขึ้นรูปทันทีหลังจากอุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 200 องศาเซลเซียส ด้วยเครื่องอัดแรงดันสูง การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทันทีของอุณหภูมิโลหะในขั้นตอนการผลิต ทำให้โครงสร้าง เหล็ก คาร์บอน และอัลลอยมีความต้านแรงดึงสูงขึ้น ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของอากาศ 0.30 จากแนวคิดหลักอากาศพลศาสตร์ที่ถูกประเมินผลในอุโมงค์ลม ลักษณะการออกแบบกันชนและช่องรับอากาศที่ควบคุมการไหลของอากาศผ่านห้อง เครื่องให้มีประสิทธิภาพด้านการระบายความร้อนและการลดแรงต้านทานของกระแสลม


ผลการดำเนินงานใน Sportback RS7 มันสามารถสปีดตัวเองจาก 0 ถึง 100 กม. / ชม. (62.14 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในเวลาเพียง 3.9 วินาที การกำหนดค่ามาตรฐานความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร /ชั่วโมง (155.34 ไมล์ต่อชั่วโมง) แพ็กเกจ Dynamic ช่วยให้ RS7 ทำความเร็วได้อย่างเหลือเชื่อที่ 305 กิโลเมตร / ชั่วโมง ในขณะที่ความเร็วสูงสุดกับแพ็กเกจไดนามิกบวกตีนปลายเป็น 305 กม. / ชม. ( 189.52 ไมล์ต่อชั่วโมง) แม้จะมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า RS เกือบทุกรุ่นบนโลกใบนี้ แต่ RS7 มีอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย เพียง 9.8 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร (24.00 MPG) เครื่อง 4.0 TFSI ที่ทรงพลานุภาพวางกลยุทธ์ของการลดขนาดเครื่องยนต์ลงอีกเล็กน้อย ระบบอัดอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงแบบ V8 Biturbo พัฒนามาเพื่อการบูสพลังงานมหาศาล เทอร์โบหนึ่งตัวรับหน้าที่ฝั่งละ 4 กระบอกสูบ ทำให้ย่านของกำลังตั้งแต่ต้นยันจบรุนแรงต่อเนื่องยาวนาน กระบอกสูบคูณระยะชัก 84.5 มิลลิเมตร x 89.0 มิลลิเมตร กำลังที่ 412 กิโลวัตต์ (560 แรงม้า ) มีแรงบิดล้นๆ ให้ใช้งานอย่างต่อเนื่องระหว่างรอบเครื่องยนต์ที่ 5,700 ถึง 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ( £ 516.28 ฟุต )มาที่รอบต่ำเพียงแค่ 1,750 รอบต่อนาทีโดยไหลผ่าน 5,500 รอบต่อนาทีแบบกระชากกระชั้นไปตลอดทาง อัตราส่วนกำลังอัด 10.1:1 การออกแบบท่อทางเดินของไอดีใช้แนวคิดที่มีความซับซ้อนของค่าทางวิศวกรรม ช่วยให้การไหลของอากาศดีขึ้นจากท่อไอดีแบบใหม่ การตอบสนองต่อการกดคันเร่งทุกครั้ง เกิดจากชุดอัดอากาศขนาดใหญ่แบบ Twin- Turbochargers พร้อมพลังบูสเกินจินตนาการ อินเตอร์คูลเลอร์ใบเขื่อง เครื่องยนต์ V8 ของ RS7 วางทำมุม 90 ° รูปตัว V ผนังห้องเครื่องหุ้มฉนวนกันความร้อน


Turbochargers 2 ตัวที่รับผิดชอบอัดอากาศเข้าสู่ไอดีฝั่งละ 4 สูบ สร้างแรงบูสได้สูงถึง 1.2 บาร์ เทอร์โบของ RS7 ยังใช้เทคโนโลยี Twin -Scroll ไอเสียจากกระบอกสูบแต่ละสูบมีกังหันผ่านทางพอร์ตแยกจากกันโดยสิ้นเชิง ป้องกันไม่ให้เกิดการไหลของอากาศที่ไม่พึงประสงค์ ส่งผลในรอบต้นๆ โดยให้แรงบิดที่ดีขึ้น ระบบเกียร์ Tiptronic 8 Speed ระบบระบายไอเสียด้วยท่อที่ออกแบบให้สามารถสร้างเสียงเร้าใจในรอบสูง ระบบ Auto Start-Stop ยกเลิกการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถหยุดนิ่ง สำหรับการจัดการกับความร้อนที่กำลังกลายเป็นนวัตกรรมใหม่ Audi ใช้บอลวาล์วในการควบคุมการไหลของน้ำหล่อเย็นเพื่อให้น้ำมันเครื่องอุ่นตัว เองขึ้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากที่เครื่องยนต์จะเริ่มต้นสตาร์ต ปั๊มน้ำมันควบคุมแรงดันน้ำมันด้วย ECU เพื่อความแตกต่างกันไปตามความจำเป็นของการจ่ายเชื้อเพลิงในทุกย่านรอบ เครื่องยนต์ เทคโนโลยี COD ยกเลิกการทำงานของกระบอกสูบในตำแหน่ง 2-3-5-8 โดยการปิดวาล์วและหยุดการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงในตำแหน่งสูบที่หยุดทำงานขณะ ใช้รอบต่ำเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง การเผาไหม้เกิดขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพจากการพัฒนาระบบจุดระเบิดใหม่หมดของ เครื่องยนต์ตระกูล TFSI เมื่อขับที่ความเร็วต่ำเครื่องยนต์จะปรับการทำงานในแบบ COD โดยเหลือการงานเพียงสี่สูบและแสดงผลผ่านข้อมูลในจอมัลติฟังก์ชั่นบนแผงหน้า ปัด สูบที่เหลืออีก 4 ซึ่งถูกยกเลิกการใช้งานจะกลับมาทำงานอีกครั้งอย่างรวดเร็วเมื่อคนขับกดคันเร่งอย่างฉับพลันทันที เทคโนโลยี COD ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประมาณร้อยละห้า ในขณะที่เครื่อง V8 หยุดทำงานชั่วคราว แล้วแปรการทำงานเป็นแบบ V4 โดยทำงานเพียงแค่ 4 สูบเท่าที่จำเป็นจนกว่าผู้ขับจะเร่งความเร็วขึ้นมาอีกครั้ง แรงสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์ V8 ตัวเขื่องถูกดูดซับด้วยยางแท่นเครื่องแท่นเกียร์แบบใหม่ที่เพิ่มความเสถียรให้กับเครื่องยนต์


ระบบรองรับหรือช่วงล่างมีให้เลือกสองแบบคือ ระบบแอร์สปริงซึ่งเป็นช่วงล่างมาตรฐานของ RS7 แต่ลูกค้าสามารถเลือกใช้สปริงเหล็กและระบบกันสะเทือน Dynamic Ride Control ที่ Audi เคลมว่าช่วยลดอาการโคลง หน้าทิ่มหรือหลังย้วยจากการใช้โหมดสูงสุดและขับใช้งานอย่างหนักหน่วง RS7 Sportback ใส่ล้ออัลลอยขอบ 20 นิ้วแบบเจ็ดก้านคู่กับยาง 275/35-series/ZR20 เป็นล้อและยางไซส์มาตรฐานใน Sportback RS7 ส่วนออฟชั่นเสริมหรือของแต่งหากล้อ 20 นิ้วยังไม่สะใจยังมีล้อขอบ 21 นิ้วเป็นตัวเลือกในรูปแบบห้าก้านออกแบบคล้ายใบมีดซึ่งพอดีกับขนาดของยางที่ 275/30 R 21 ระบบเบรกของ Sportback RS7 มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงมาก แผ่นภายในจานเบรกมีการออกแบบให้ระบายความร้อนได้เร็วขึ้น จานเบรกแบบใหม่ยังช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของช่วงล่างลงอีกประมาณ 3 กิโลกรัม คาร์ลิบเปอร์เบรกอะลูมิเนียมเป็นแนวคิดที่หยิบยืมมาจากวงการรถแข่งในทีม Audi Sport ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดขณะใช้เบรกได้อย่างรวดเร็ว กระจายความร้อนและป้องกันการส่งผ่านของอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากการเบรกหนักๆ จานดิสเบรกด้านหน้าเส้นผ่าศูนย์กลาง 390 มิลลิเมตร (15.35 นิ้ว) ออฟชั่นเสริมเป็นจานเซรามิกเส้นผ่าศูนย์กลาง 420 มิลลิเมตร (16.54 นิ้ว) พร้อมคาร์ลิบเปอร์แปะตรา AUDI 6 พอตสีเทา Anthracite ชุดเบรกของ RS7 มีน้ำหนักเบา สำหรับชุดเบรกเซรามิกเพียงอย่างเดียวมีน้ำหนักรวม 14.6 กิโลกรัม การควบคุมเสถียรภาพของตัวรถผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ได้รับการกำหนดค่ามาเป็นพิเศษสำหรับรายละเอียดแบบไดนามิกของ Sportback RS7 ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่หลากหลายหรือแม้แต่ปิดการใช้งานของระบบ ช่วยทรงตัว สำหรับการขับขี่ในโหมดสูงสุดหรือ Dynamic Plus อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ที่คอยช่วยเหลือด้านความเสถียรจะถูกยกเลิก เหลือเพียงฝีมือของผู้ขับขี่ล้วนๆ โหมดสูงสุดออกแบบมาเพื่อการทำงานที่ฉับไวของพวงมาลัย ช่วงล่าง เกียร์และเครื่องยนต์ โดยจะตอบสนองอย่างสูงสุดทันทีที่กดเข้าสู่โหมดนี้

สำหรับ คู่แข่งที่ RS7 จะต้องลงไปหวดในตลาดรถหรูระดับสูงได้แก่รถสปอร์ตซาลูนสมรรถนะล้นอย่าง Mercedes-Benz CLS63 AMG รุ่นแรงพิเศษของ CLS รถสปอร์ตแนวคูเป้ 4 ประตูที่ทั้งหล่อและแรงอย่าง BMW M6 Gran Coupe กับเจ้าเสือกระโดด Jaguar XFR รวมถึงรถอเมริกันหรูพันธุ์แรงอย่าง Cadillac CTS-V ค่าตัว $105,400 ของ RS7 นับว่าแพงมากในอเมริกาเหนือ เป็นราคาที่ลูกค้าจะต้องควักกระเป๋าจ่ายซึ่งส่วนใหญ่แล้วความแพงของรถคันนี้ เกิดจากเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อน อุปกรณ์ไฮเทคที่เสริมการขับและวัสดุที่ใช้ตกแต่งทั้งภายนอกและภายในนั่นเอง เมื่อเห็นสมรรถนะของมันแล้ว แฟนคลับของค่ายสี่ห่วงคงอยากให้ Transporter เปลี่ยนใจจาก Audi S8 มาเป็น RS7 Sportback อย่างแน่นอน.


AUDI RS7 SPORTBACK SPECIFICATIONS
CylindersV8
Power..................................412 KW @ 5,700-6,700 RPM 560 HP @ 5,700-6,700 RPM 553 BHP @ 5,700-6,700 RPM
Torque.................................516 lb-ft @ 1,750-5,500 RPM 700 Nm @ 1,750-5,500 RPM
Fuel System.........................direct petrol injection
Fuel.....................................Petrol
CO2 Emissions...................229 g/km
Displacement .....................3,993 cm3
Top Speed
Acceleration 0-62 Mph (0-100 kph) 3.9 s 155 mph OR 249 km/h
Drive Type..........................All Wheel Drive
Gearbox..............................8 speed automatic
brakes
Front...................................390 mm vented discs
Rear.....................................vented discs
Tire Size..............................275/35 R 20
dimensions
Length.................................197.3 in OR 5011 mm
Width..................................75.2 in OR 1910 mm
Height.................................55.9 in OR 1420 mm
Front/rear Track..................64.3/64 in OR 1,633/1,626 mm
Wheelbase.........................114.8 in OR 2916 mm
Ground Clearance..............4.3 in OR 109 mm
Cargo Volume....................18.9 cuFT OR 535 L
weight
Unladen Weight..................4,398 lbs OR 1,995 kg
Gross Weight Limit.............5,523 lbs OR 2,505 kg
Audi RS7 Sportback 2013 $105,400 




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2556
0 comments
Last Update : 11 ตุลาคม 2556 2:44:53 น.
Counter : 1632 Pageviews.


amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.