กำกับ : Ang Lee
เขียนบท : David Magee (screenplay), Yann Martel (novel)
นำแสดง : Suraj Sharma, Irrfan Khan, Adil Hussain
ความยาว : 127 นาที
ระดับความชอบ : 9.5/10
ไม่ได้เป็นแฟนของ Ang Lee
หนังหลายเรื่องดูไม่จบเพราะไม่ค่อยชอบ
ชอบหนังที่แกกำกับเรื่องสุดท้ายคือ Crouching Tiger, Hidden Dragon โน่นเลย
Ang Lee เป็นคนทำหนังหลายแนวมาก ออกมาแต่ละเรื่องไม่ค่อยซ้ำแนวกันเลย เรื่องนี้เอานิยายมาทำ ได้รับการกล่าวถึงในแง่ชื่นชมเป็นอย่างดี
รอบแรกได้ดูในโรงภาพยนตร์จอยักษ์ สกาลา ไม่ใช่ 3D ไม่ชอบสวมแว่นทับแว่น และราคาที่แสนแพง รับไม่ได้
แต่ก็เห็นด้วยในเรื่องภาพที่อลังการน่าจะสวยมากหากดูในระบบ 3 มิติ ส่วนผมอาศัยจอใหญ่ช่วยเอา ก็ดื่มด่ำได้ดีทีเดียว
รอบที่สองดูในระบบ 3 มิติ ภาพก็สวยดีในหลายฉากหลายตอน ฉากเสือออกมาตะปบไฮยีนาทำเอาสะดุ้งเลยทีเดียว
ผมชอบเพลงประกอบมากครับ ในตอนท้ายเรื่องในส่วนของเครดิทเพลงสำเนียงนี้ไพเราะดีเหลือเกิน
การเดินเรื่อง เล่าเรื่อง มีจังหวะจะโคนดีมาก มีคำคมๆ หลายคำในเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความหวัง ไม่มีแม้หนทาง แต่เราต้องไม่สิ้นหวัง
Pi ทำให้ดูแล้วครับ
ปูพื้นเรื่องของพระเอกตอนแรกก็งงว่าจะไปอยู่ในเรือกับเสือได้ยังไง และแล้วก็มาถึงจนได้
เสือเบงกอลตัวนี้ชื่อเท่ Richard Parker หนังบอกที่มาของชื่อไว้เรียบร้อย
หนังสอนให้อยู่ร่วมกันให้ได้เมื่อจำเป็น แม้แต่เสือที่กินเราแน่ๆ หากมันหิวจัด Pi ก็สามารถทำให้มันเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารได้ และควบคุมมันได้
Pi มีข้อเด่นหลายเรื่อง ที่ชอบคือเป็นนักเรียนรู้ เขาอ่าน ศึกษา ทดลอง และบันทึก
การอ่านแววตาก็เป็นอีกอย่างที่ Pi ทำได้ดี
Pi นับถือ 3 ศาสนา แต่เขาก็ไม่สับสนอะไร
"ไม่ชอบการจากโดยไม่บอกลากัน" Pi ว่าไว้เมื่อครั้ง Richard Parker เดินหายเข้าป่าไปเลยเมื่อถึงฝั่ง
ที่จริง Pi สะท้อนถึงตัวเองที่ไม่ได้บอกขอบคุณพ่อเลยว่าที่รอดมาได้เพราะพ่อนั่นแหละสอนสั่ง
ย้อนกลับมาดูตัวเรา เคยบอกขอบคุณพ่อแม่บ้างไหม? ต้องรอจนเมื่อไหร่? บอกรักท่าน ขอบคุณท่าน ดีกว่ามาระลึกได้ในวันที่ไม่มีท่านแล้วนะครับ
โดยรวมเป็นหนังที่มีเนื้อหาไม่หนัก
พยายามเปรียบเทียบคนหลายคนกับหมู่สัตว์ ทำได้ดี ไม่ยัดเยียด
ภาพสวยมาก ได้ดูในรอบที่ 2 ในระบบ 3 มิติไม่ผิดหวังเลยครับ
เพลงประกอบไพเราะมาก
สมควรแก่การเสียเงินไปชมครับ
เรื่องนี้ทำให้ผมกลับมาชอบ Ang Lee อีกครั้ง
มีความสุขทุกคนครับ
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
ผมไปชมมาแล้วครับ พาคุณแม่ไปชมมาตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาครับ ดูโรงธรรมดาที่นั่งละ 120 บาทพอรับได้ครับ ส่วนสาเหตุที่ผมดูเรื่องนี้ก็เพราะว่าผมเลี่ยงที่จะไม่ดูเรื่องเคาน์ดาวน์ครับ ตอนแรกคุณแม่ของผมท่านจะไปดูเรื่้องเคาน์ดาวน์ แต่ผมคิดว่าดูเรื่องนี้น่าจะดีกว่า ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้ทราบเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้มาก่อนเลยครับ
สำหรับตัวผมแล้วผมคิดว่าในชข่วงแรกของหนังเรื่องนี้น่าเบื่อมาก เพราะว่าหนังเล่าเรื่องช้ามาก และการเล่าเรื่องดูสะเปะสะปะไม่ปะติดปะต่อ พยายามจะเข้าใจให้ได้ว่าที่เล่าเรื่องนั้นหนังต้องการจะสื่อให้เรื่องใด
แต่พอหนังมาถึงช่วงกลางของเรื่อง ตตั้งแต่ตอนที่เรือล่มเป็นต้นไป หนังดูสนุกเร้าใจและน่าติดตามเป็นอย่างมากเลยครับ ดูแล้วก็ต้องลุ้นตามคอยช่วยพระเอกในเรื่องไปตลอดเลยครับ หนังเรื่องนี้ภาพสวยมาก ๆ เลยครับ ส่วนเรื่องดนตรีนั้นผมไม่ทันได้สังเกต อาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยถนัดเรื่องดนตรีก็เป็นได้ครับ
ในเรื่องนี้ภาพสวยก็จริง แต่บางฉากก็ขาดความสมจริงไปเยอะเนื่องจากเน้นต้องการภาพสวย ๆ อย่างเดียว อาทิเช่น ในทะเลไม่มีทางที่น้ำจะนิ่งราบเรียบได้ หรือภาพแมงกระพรุนที่สะท้อนแสงดาวตอนกลางคืน ภาพสวยมากแต่ไม่แน่ใจว่าจะมีจริงไหม? ส่วนเรื่องเกาะไม่ต้องพูดถึง ดูแล้วก็รู้ได้เลยว่าเป็นเรื่องในจินตนาการเท่านั้นครับ
ในเรื่องนี้ตัวที่เล่นได้ดีที่สุดน่าจะเป็นลิงอุรังอุตังที่ลอยมากะกองกล้วยครับ ผมว่ามันเล่นได้ดีมาก ๆ เลยครับ แล้วในห้องเลิมไทยมีการไปพิสูจน์แล้วว่าเครือกล้วยลอยน้ำได้ครับ
โดยรวมแล้วผมชอบหนังเรื่องนี้นะครับ ภาพสวยสร้างจากจินจนาการที่น่าประทับใจและในตอนท้ายของเรื่องยังแฝงแง่คิดที่น่าสนใจอีกด้วยครับ เป็นหนังสบาย ๆ ที่น่าไปชมเป็นอย่างมากเลยครับ
สำหรับผมให้ 8.5/10 ครับ
อิอิ