Chuck & Buck ลืมแล้วหรือ...เรารักกัน
Chuck & Buck ลืมแล้วหรือ...เรารักกันStarpics Movie Edition ฉบับที่ 572 ธันวาคม 2544 บางช่วงเวลาในชีวิต เชื่อว่าทุกคนคงเคยหวนนึกถึงเรื่องราวความสนุกสนานน่าประทับใจในวัยเยาว์จนอยากกลับไปใช้ชีวิตเช่นเมื่อตอนเป็นเด็กอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อกำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่ต้องแบกรับภาระอันหนักหน่วงจากความรับผิดชอบมากมาย การรำลึกถึงวันวัยแห่งอิสระเสรีจึงเหมือนกับการได้พักผ่อนในดินแดนส่วนตัวที่เรียกว่าความทรงจำ แต่สำหรับ 2 ตัวละครใน Chuck & Buck (มิเกล อาร์เตตา-2000) กลับไม่เป็นเช่นนั้น คนหนึ่ง...วัยผู้ใหญ่กลายเป็นเหมือนเกราะกำบังอย่างดี ช่วยให้ตนเองพ้นจากวัยเด็กที่ไม่น่าจดจำ ตรงกันข้ามกับอีกคนที่อยากคงชีวิตวัยเด็กไว้ตลอดไป ไม่ใช่หวนนึกถึงเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่อยากลืมวัยเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักโต ต่างเหมือนกันตรงที่เป็นพวกไม่ยอมรับความจริง บัค (ไมค์ ไวท์) หนุ่มวัย 27 สูญเสียแม่ไปอย่างกะทันหัน เขาเขียนจดหมายชวน ชัค (คริส ไวท์ซ) เพื่อนสนิทมาร่วมงานศพ หลังจากเวลาร่วม 15 ปีที่ไม่ได้เจอกันนับตั้งแต่ชัคย้ายไปอยู่ลอสแองเจลิส ชัคซึ่งบัดนี้มีหน้าที่การงานระดับผู้บริหารในบริษัทเพลงจึงกลับมาเยี่ยมบัคพร้อม คาร์ลิน (เบ็ธ โคลท์) คู่หมั้นสาวที่รู้จักชัคแต่ในชื่อ ชาร์ลี หลังจากงานศพบัคชวนชัคและคาร์ลินไปดูห้องนอนของเขาซึ่งตกแต่งด้วยของเล่นมากมาย หยิบรูปที่ตนเองถ่ายคู่กับชัคตอนเป็นเด็กยื่นให้คาร์ลินดู เอ่ยชวนชัคค้างคืน แต่ชัคปฏิเสธ คืนนั้นบัคเข้าไปหาชัคในห้องน้ำ เอ่นชวนชัคค้างคืนอีกครั้ง ชัคปฏิเสธแล้วรีบพาคาร์ลินกลับทันที ทิ้งให้บัคร้องไห้ร้องห่มกับการกระทำของตนเอง และความไร้สิ้นเยื่อใยของเพื่อนรัก เมื่อไม่มีแม่ให้ดูแล บัคไปหาชัคที่แอล.เอ.โดยไม่บอกล่วงหน้า เขาบอกกับคนรู้จักของชัคทุกคนว่าเป็นเพื่อนสนิทชัคตั้งแต่เป็นเด็ก รู้จักชัคดีกว่าใคร และพยายามเล่าเรื่องราวที่เขากับชัคเคยทำร่วมกัน บัคอยากหาเวลาอยู่กับชัคตามลำพัง แต่ดูเหมือนเพื่อนรักจะพยายามหลีกเลี่ยงด้วยการไม่ยอมพบและไม่รับโทรศัพท์จนบัคต้องไปหาเองหรือหลอกให้โทร.กลับ ยิ่งไปกว่านั้น เขาย่องไปที่บ้านชัคตอนกลางคืน แอบดูชัคกับคาร์ลินเล่น เกม ในห้องนอน ในที่สุดก็ถึงจุดแตกหัก เมื่อบัคไปหาชัคที่บ้าน กระซิบชวนชัคเล่น เกม ที่เคยเล่นกันเมื่อตอนเป็นเด็กอีกครั้ง ชัคโมโหไล่บัคออกจากบ้าน แล้วบอกว่าไม่ควรพบกันอีก บัคเสียใจ ร้องไห้เหมือนคนอกหัก... ระหว่างที่อยู่แอล.เอ. บัคมักจะมายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามออฟฟิศของชัคเพราะหวังว่าจะได้พบหน้าเพื่อนรัก จุดที่เขายืนนี้คือหน้าโรงละครอาร์ธีนัสซึ่งกำลังโปรโมตละครเรื่องพ่อมดมหัศจรรย์แห่งอ๊อซ บัคจึงได้แรงบันดาลใจเขียนบทละครเรื่อง แฟรงค์และแฮงค์ และจ้าง เบเวอร์ลี่ (ลูพ ออนติเวรอส) หญิงวัยกลางคนเจ้าของโรงละครเป็นผู้กำกับ บัคอยากให้ชัคมาดูละครของเขาเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำดีๆ ที่มีต่อกันในอดีต ถ้าจะใช้คำที่มีความหมายค่อนข้างรุนแรงว่า Chuck & Buck เป็นหนังเกี่ยวกับ การคุกคามทางเพศ ก็คงไม่ผิด เห็นได้ว่าระหว่างตัวละคร 2 ฝ่าย คือชัคและบัคจะมีการ เข้าหา พื้นที่ส่วนตัวของกันและกันตลอดเวลา โดยมีเงื่อนไขสำคัญอยู่ที่ว่าการเข้าหาบางครั้งเป็นไปตามคำเชิญชวนของอีกฝ่าย แต่หลายครั้งเป็นการเข้าหาที่ปราศจากการเชิญชวนจนดูเป็นการคุกคามที่น่าหวาดหวั่น โดยเฉพาะการเข้าหาชัคของบัค จากภาพความคิดและคำบอกเล่าของบัคทำให้เรารู้ถึงความสนิทสนมจนแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างชัคและบัคเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก โดยเฉพาะ เกม ที่เขาทั้งสองร่วมกันทำ ต่างฝ่ายต่างเปิดกว้างให้อีกฝ่าย เข้าหา ด้วยความยินยอมและยินดี จนทำให้บัคฝังใจว่าตัวเขาและชัคเสมือนคนคนเดียวกัน มีพื้นที่พิเศษเพื่อให้อีกคนเข้าหา และเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปจุดเริ่มต้นของการเข้าหาครั้งใหม่เริ่มจากชัคมาร่วมงานศพตามคำเชิญชวนของบัคหลังจากแยกห่างจากกันนานกว่า 15 ปี แม้จะมีคาร์ลินเป็นส่วนเกิน แต่บัคก็สานต่อความสัมพันธ์ทันทีด้วยการชวนชัคไปดูห้องนอน ต่อด้วยการชวนค้างคืน คำชวนครั้งหลังนี้ชัคปฏิเสธ คาร์ลินช่วยแก้สถานการณ์ด้วยการเอ่ยชวนบัคไปเที่ยวแอล.เอ.บ้าง แต่บัคทำเป็นไม่สนใจเมื่อไม่ใช่ชัคที่เอ่ยปากชวนก่อน นี่คือฉากการเริ่มต้นใหม่ที่ให้ความรู้สึกอึดอัดทั้งระหว่างตัวละครและต่อผู้ชม คำเชิญชวนครั้งแรกของบัคเป็นดั่งการเปิดประตูให้ชัคเดินเข้าหา เมื่อชัคตอบสนอง คำชวนครั้งที่สองและสามจึงเกิดขึ้นเพื่อจุดประสงค์ที่เปลี่ยนไปนั่นคือเพื่อรื้อฟื้นความหลัง และหวังว่าเขาและชัคจะมีโอกาสร่วมกันทำบางสิ่งบางอย่างที่เคยทำอีกครั้ง แต่เมื่อไม่เป็นผลบัคจึงตัดสินใจเข้าไปหาชัคในห้องน้ำโดยปราศจากคำเชิญชวน จนทำให้บัคและผู้ชมรู้ว่าชัคไม่มีพื้นที่พิเศษสำหรับบัคเหมือนเมื่อก่อน แต่ถึงรู้เช่นนั้น บัคก็ยังเชื่อว่ามีเยื่อใยบางอย่างระหว่างเขาและชัคที่ยังหลงเหลืออยู่ บัคจึงไปหาชัคที่แอล.เอ.โดยไม่บอกล่วงหน้า แอบไปที่ออฟฟิศ สะกดรอยตามไปที่บ้าน และแกล้งทำเป็นพบชัคและคาร์ลินโดยบังเอิญ ในที่สุดบัคก็ประสบความสำเร็จเมื่อชัคทำให้รู้สึกว่ากำลังเปิดทางให้เขาเข้าหาด้วยการชวนไปร่วมงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ แต่ลงท้ายบัคกลับต้องผิดหวังเมื่อเขากลายเป็นส่วนเกินในสถานที่นั้น ยิ่งชัคเมินเฉยต่อบัคมากขึ้นเท่าไร การเข้าหาชัคของบัคก็ยิ่งกลายเป็นการคุกคามมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าบัคจะเปลี่ยนมาเชิญชวนให้ชัคเข้าหาบ้าง ทั้งชวนเล่น เกม และชวนมาดูละคร แต่ผลที่ได้ก็ย้อนกลับกลายเป็นการคุกคามดีๆ นี่เอง มีเพียงคำเชิญชวนครั้งสุดท้ายของบัคเท่านั้นที่ชัคยอมทำตาม ต่างเปิดโอกาสให้อีกฝ่าย เข้าหา ด้วยความเต็มใจ อดีตถูกรื้อฟื้นขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่ด้วยความสนุกสนานไร้เดียงสาแบบเด็กๆ แต่ด้วยเงื่อนไขเพื่อการแยกย้ายไปอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การเข้าหาเพื่อผละกันไปไกลครั้งนี้กลับเป็นการเข้าหาเพื่อพบว่าพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่ายได้เปลี่ยนไปจากเมื่อครั้งอดีต ทำให้ฉากสุดท้ายบัคได้รับเชิญให้มายืนอยู่ในพื้นที่พิเศษของชัคกับคาร์ลิน โดยปราศจากความคิดความรู้สึกเหมือนที่แล้วมานอกจากชัคและบัคที่เป็นคู่ตัวละครหลักแล้ว หนังยังให้นักแสดงสมัครเล่นอย่างแซมซึ่งรับบทแฮงค์ อันเป็นตัวแทนของชัคในละครเวที มาจับคู่พฤติกรรมการ เข้าหา กับบัคอีกคู่หนึ่ง จนมีส่วนสำคัญให้บัคเข้าใจเพื่อนรักในที่สุด แม้ว่า Chuck & Buck จะเป็นหนังที่พูดถึง การคุกคามทางเพศ ของพวกรักร่วมเพศ แต่เมื่อดูจากโทนหนังโดยรวมและมุมมองของหนังที่ให้บัคเป็นตัวเดินเรื่อง ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจบัคจึงเกิดขึ้นแทนที่ความประหวั่นพรั่นพรึงกับพฤติกรรมที่เขาทำต่อชัค ส่วนหนึ่งเพราะบัคได้แสดงออกถึงสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ เป็นเหมือนเด็กไม่ยอมโตที่ยังสนุกกับของเล่นและอม อมยิ้ม ตลอดเวลา (อมยิ้มที่เรียกว่า โบลว์ป๊อป ออกเสียงคล้าย blow-job คำสแลงเรียก เกม ที่บัคกับชัคชอบเล่นตอนเป็นเด็ก) ซึ่ง ไมค์ ไวท์ ผู้แสดงเป้นบัคและเป็นคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม หลายครั้งที่บัคอยากจะเอ่ยปากพูดบางสิ่งบางอย่างแต่กลับต้องเก็บกดไว้ ไวท์สามารถแสดงออกทางสีหน้าและแววตาให้ผู้ชมเข้าถึงได้ แม้แต่ฉากที่แสดงพฤติกรรมด้านร้ายของบัค เช่นการแอบดูชัคและคาร์ลินด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นก็ดูเหมือนเด็กที่ยังไม่รู้อะไรควรไม่ควร มากกว่าจะเป็นคนโรคจิตผู้มุ่งร้ายต่อบุคคลอื่น นอกจากการแสดงของไมค์ ไวท์ แล้ว ส่วนสำคัญที่ทำให้ Chuck & Buck ซึ่งพูดถึงเรื่องเพศและมีผู้ใหญ่เป็นตัวละครหลัก แต่กลับให้อารมณ์อ่อนโยนลงเหมือนกำลังดูหนังเกี่ยวกับเด็ก คือเพลงประกอบซึ่งฟังแล้วให้ความรู้สึกร่าเริง ลดทอนความอึดอัดของเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ด้านนักแสดงคนอื่นๆ แม้จะโนเนมไม่คุ้นหน้าแต่ก็ทำผลงานได้ไม่มีที่ติ โดยเฉพาะลูพ ออนติเวรอส ในบทเบเวอร์ลี่ หญิงวัยกลางคนปากร้ายใจดี แสดงได้ดีจนเข้าตากรรมการ คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงจาก National Board of Review แบบพลิกความคาดหมายChuck & Buck ได้รับรางวัล Independent Spirit Award สาขาหนังทุนสร้างต่ำกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ ถือว่าเป็นหนังเล็กๆ ที่พูดถึงคนรักเพศเดียวกันและได้รับเสียงตอบรับในแง่ดีอีกเรื่องหนึ่งในปี 2000 เช่นเดียวกับหนังกวีเกย์เรื่อง Before Night Falls *หลังจากเรื่องนี้ มิเกล อาร์เตตา กำกับหนังที่ทำให้คนรู้จักเขามากขึ้นเรื่อง The Good Girl (2002) ซึ่ง ไมค์ ไวท์ เขียนบทเช่นกัน นอกจากนี้ไวท์ยังเขียนบทเรื่อง The School of Rock (2003) และเขียนบท-อำนวยการสร้างหนังมวยปล้ำสุดน่ารักเรื่อง Nacho Libre (2006) สำหรับ คริส ไวท์ซ อยู่เบื้องหลัง American Pie ทุกภาค เขียนบทและกำกับ About a Boy (2002) ร่วมกับพี่ชาย พอล ไวท์ซ, อำนวยการสร้างเรื่อง In Good Company (2004) และแสดงเป็นเพื่อนบ้านแสนซื่อของ แบรด พิตต์ ใน Mr. and Mrs. Smith
Create Date : 17 มิถุนายน 2550
5 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2550 14:14:55 น.
Counter : 958 Pageviews.
โดย: runten is renton ... IP: 125.24.4.255 17 มิถุนายน 2550 22:07:34 น.
โดย: G IP: 203.113.76.71 17 มิถุนายน 2550 22:41:22 น.
โดย: อิคคิว IP: 125.24.196.237 15 พฤษภาคม 2555 1:36:35 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
อ่านแล้วก็รู้สึกเห็นใจ บัค เพราะเขาป่วย(นิดนิด)
เลยไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังคุกคามชีวิตของเพื่อนตนเองอยู่