BlogGang.com : : addsiripun : การทำสบู่ 3

การทำสบู่ 3

สวัสดีค่ะ

ได้เกริ่นนำเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการกวนสบู่มาอย่างเยิ่นเย้อแล้ว วันนี้เรามากวนสบู่กันดีกว่า

ทบทวนสูตรสบู่อีกครั้งนะคะ

ป้าแอ๊ดจะกวนสบู่ครั้งนี้ น้ำหนักรวม 800 กรัม คิดจากสูตรที่กำหนดแล้ว จะได้น้ำมันดังนี้

น้ำมันปาล์ม ซึ่งทำให้สบู่แข็งและทน 40 % = 320 กรัม
น้ำมันมะพร้าว ให้สบู่แข็งกรอบ ฟองมาก 20 % = 160 กรัม
น้ำมันรำข้าว มีวิตามินอี บำรุงผิว 35 % = 280 กรัม
น้ำมันมะกอก บำรุงผิว ทำให้ผิวนุ่ม 5% = 40 กรัม
รวมแล้ว = 100 % = 800 กรัม

WATER (น้ำ) = 304 กรัม
Lye - NaOH (โซดาไฟ) = 110.085 กรัม

มาเริ่มการกวนสบู่กันดีกว่าค่ะ

การกวนสบู่ครั้งนี้ กวนแบบ HP นะคะ

เตรียมการชั่งน้ำมัน โดยการวางถ้วยพลาสติคบนตาชั่ง แล้วกด TARE จะทำให้น้ำหนักเริ่มต้นเป็น 00 กรัม

รินน้ำมันปาล์มลงไปในถ้วยพลาสคิค บนตาชั่งอย่างช้าๆ

จนได้น้ำหนักตามต้องการ คือ 320 กรัม เกินนิดๆ หน่อยๆ ไม่เป็นไรค่ะ

เทน้ำมันที่ชั่งลงไปในหม้อตุ๋นที่เสียบไฟเรียบร้อยแล้ว

หมุนให้ความร้อนไปที่จุดสูงสุดดังในภาพ

จากนั้นก็ชั่งน้ำมันทุกๆ ตัว ใส่ลงไปในหม้อตุ๋น จนกระทั่งถึงน้ำมันมะกอก ตัวสุดท้าย

มีน้ำมันตัวช่วยทำให้เนื้อสบู่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลต่อผิวอีก 1 อย่างคือ เชย์บัตเตอร์
น้ำมันตัวนี้ ซื้อแล้วต้องใส่ไว้ในตู้เย็น ไม่งั้นเสียของ จึงจับตัวแข็งเป็นครีม
เวลาจะใช้ ก็เอาออกมาถูกลมพอให้อ่อนตัว แล้วตักใส่ไปในหม้อตุ๋นเพียงเล็กน้อย
ใส่มากไม่ดี ค่ะ มันเปลือง เพราะราคาแพงมาก

ใส่เชย์บัตเตอร์ลงไปในหม้อตุ๋น ที่มีน้ำมัน 4 ชนิดแล้ว ใช้พายพลาสติคคนๆ ๆ ให้ละลาย

เราหันมาเตรียมโซดาไฟ โดยการนำนมแพะที่ชั่งเมื่อคืนนี้ 304 กรัม
แช่ช่องฟรีซจนเป็นน้ำแข็งแล้ว ออกมาใส่ไว้ในชามกระเบื้อง

ถ้าเราไม่ใช้นมแพะ เราก็ใช้น้ำธรรมดาที่น้ำหนักเท่ากัน แทนได้ค่ะ

นำถุงพลาสติคมา 1 ใบวางบนเครื่องชั่ง ชั่งโซดาไฟ ให้ได้น้ำหนักตามที่ต้องการคือ 110 กรัม
โซดาไฟต้องใช้ที่ใหม่ๆ เกล็ดสีขาวๆ นะคะ ถ้าเก่าแล้วประสิทธิภาพในการทำสบู่จะไม่ดีไปด้วย
โซดาไฟเมื่อใช้แล้วให้ผนึกถุงให้แน่น แล้วใส่ไว่ไว้ในกล่องให้มิดชิด

อย่าให้ใครนำไปเล่นได้นะคะ เพราะอันตรายมาก

นมแพะกับโซดาไฟที่ชั่งแล้ว การทำขั้นตอนนี้ควรใส่ถุงมือ และเตรียมน้ำส้มสายชูมาไว้ใกล้ๆ สัก 1 ถ้วยโตๆ
ถ้าโซดาไฟเกิดกระเด็นมาโดนส่วนใดของร่างกายที่ไม่ได้ปกปิด
จะเกิดอาการแสบร้อน ผิวพองจากการกัดอย่างรุนแรงของโซดาไฟ
ให้ใช้น้ำส้มสายชูล้างตรงนั้นอย่างทันทีจะแก้ความแสบร้อนได้

อย่าประมาทตรงนี้ เพราะโซดาไฟจะทำให้เกิดบาดแผลได้กับผิวอันบอบบางของเรา

ใช้ช้อนพลาสติคค่อยๆ ตักโซดาไฟ ที่ชั่งแล้ว ใส่ไปในน้ำนมแพะในถ้วยช้าๆ คนจนนมแพะละลาย
ถ้ามีการกระเด็นของโซดาไฟ ให้ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดที่พื้นให้สะอาดอย่าทิ้งไว้ อาจจะเผลอเหยียบค่ะ
ถุงขยะที่ทิ้งกระดาษ ต้องมัดแล้วทิ้งถังขยะอย่างทันควันเลยนะคะ อย่าไปหยิบด้วยมือเปล่า
ถ้าเผลอหยิบ แล้วเกิดอาการแสบคัน ให้ใช้น้ำส้มสายชูล้างให้สะอาดทันที

นำรังไหม มาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ สัก 2 รัง แล้วใส่ไปในน้ำโซดาไฟ + นมแพะ

บอกอีกครั้งว่า เหตุที่ต้องแช่แข็งนมแพะ เพราะว่า ถ้านำโซดาไฟมาใส่ นมแพะที่เป็นนมในอุณหภูมิปกติ
นมแพะจะไหม้ทันทีด้วยความร้อนแรงของโซดาไฟค่ะ
เช่นเดียวกับการที่เรานำโซดาไฟใส่ในน้ำธรรมดา ก็จะทำให้น้ำนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น
ต้องรอจนอุณหภูมิลดลง จึงจะนำโซดาไฟที่ละลายแล้วไปใส่ในน้ำมันที่เตรียมไว้ค่ะ

เวลาที่ใส่โซดาไฟไปในน้ำให้ใส่ที่ครอบจมูกด้วยนะคะอย่าสูดเอาไอโซดาไฟที่ละลายเข้าไปในปอดอันตรายค่ะ

และอีกอย่างหนึ่งขอเน้นคือ

ต้องใส่โซดาไฟลงไปในน้ำเท่านั้น ถ้านำน้ำเทใส่โซดาไฟจะเกิดระเบิดทันทีค่ะ

ใช้ช้อนคนจนรังไหมละลายเข้าไปกับนมแพะและโซดาไฟ จะเป็นสีเหลืองเข้ม สีของรังไหมค่ะ

รังไหมใส่เพื่อให้เนื้อสบู่ลื่น ผิวเรียบดีค่ะ เพราะรังไหมมีโปรทีนมากมาย

ละลายโซดาไฟกับนมแพะเรียบร้อยแล้วจึงนำไปเทใส่ในหม้อตุ๋น ที่น้ำมันร้อนได้ที่แล้ว

เริ่มใช้เครื่องปั่นไฟฟ้า ปั่นน้ำมันในหม้อตุ๋น โดยเริ่มจากความเร็วไม่มาก

จนกระทั่งได้ความข้นประมาณนี้ สีน้ำมันเริ่มเป็นสีครีม

ปั่นให้ข้นอีกนิด จะรู้สึกว่าเครื่องปั่นเริ่มหนืดๆ

ยกเครื่องปั่นขึ้น ใช้พายอันเล็กๆ ปาดน้ำมันที่ติดค้างบนเครื่องปั่นลงในห้อตุ๋นแล้วปิดฝา ตุ๋น ค่ะ

ใช้เวลาตุ๋น ประมาณ 30 นาที จะมองเห็นน้ำมันในหม้อเดือดปุดๆ มีน้ำมันใสๆ ออกมาที่ริมๆ ตัวหม้อ
นั่นคือกลีเซอรีน ตัวที่ช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้น ถ้าเป็นสบู่ที่โรงงาน เขาจะช้อนน้ำมันนี้ไปทำเครื่องสำอางอย่างอื่น
แต่เราทำสบู่เอง เราจะได้ใช้กลีเซอรีนอย่างสบายๆ

ในระหว่างนี้ นมแพะที่สุกแล้วจะส่งกลิ่นเหมือนกับ "สังขยา" นั่นแสดงว่าสบู่สุกแล้ว

ตามหลักวิชาการ ตอนนี้น้ำมันและโซดาไฟจะทำปฏิกิริยากันกับความร้อน
ทำให้น้ำมันทั้งหมดรวมตัวกันกลายเป็นสบู่ ไม่มีโซดาไฟมาทำอันตรายแก่ผิวของเราแล้ว

เปิดฝาหม้อ ใช้พายกวนสบู่จนข้นให้เข้าดี ป้าแอ๊ดใส่ขมิ้นไปในสบู่สูตรนี้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

ใส่น้ำหอมกลิ่น ข้าวหอมมะลิลงไป 1 ขวด ใช้พายคนจนกลิ่นเข้ากันดี
จากนั้นจึงใส่ สีส้ม ลงไปตามใจชอบ กวนให้สีเข้ากันเล็กน้อย

พิมพ์ที่จะใส่สบู่ ให้นำน้ำมันมาทาภายในพิมพ์ให้ทั่วทั้งพิมพ์
เพื่อที่เวลาสบู่แข็งแล้ว จะได้เคาะออกจากพิมพ์ได้สะดวกๆ ไม่มีสบู่เกาะแน่นกับพิมพ์

ภาพนี้เป็นสบู่ตุ๋นที่ตักใส่พิมพ์จนหมด จะได้เกือบเต็มพิมพ์ จากนั้นทิ้งตากไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง

ถ้าจะทำสบู่แบชใหม่ ก็ชั่ง ตวง วัด น้ำมัน โซดาไฟ แล้วเริ่มกระบวนการกวนสบู่ ดังที่แสดงมานั้นอีกครั้ง
ใสสี ใส่กลิ่น และอาจจะหาสูตรสบู่ใหม่อีกสัก 1 สูตรมาลองทำ ก็ย่อมจะได้

ป้าแอ๊ดทำสบู่นมพะอีก 1 แบช ใช้น้ำมันที่ไม่เหมือนแบชแรก ใช้สีแดง
ใส่โคลนขัดผิวกุหลาบลงไป แต่กลิ่นข้าวหอมมะลิเหมือนเดิม เพราะคุณสามีชอบมากกกกก

อีก 1 แบช ป้าแอ๊ดใช้น้ำธรรมดา สูตรสบู่อีก 1 สูตร คราวนี้ใช้สีเขียว ใส่โคลนขัดผิวสีเขียวลงไป
และกลิ่นบลูเบอรี่ เสียดายที่ไม่ได้ใส่สีม่วง ไม่งั้นบลูเบอรรี่จ๋าเลยละ

เมื่อครบ 6 ชั่วโมงแล้ว สบู่แข็งตัวพอตัดได้ จึงนำสบู่ออกมาจากพิมพ์ แล้วตัดตามที่เห็นในภาพ

ใส่ไว้ในตะกร้า ผึ่งลมอีก 1 สัปดาห์ ก็สามารถที่นำสบู่มาใช้ได้เลยนะคะ

จริงๆ แล้ว สบู่ตุ๋นนี้ ทำเสร็จวันนั้นก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องรอให้สบู่เอจเหมือน สบู่ที่ใช้วิธีการกวนแบบ CP

อย่าถามถึงความหมายของสบู่ HP หรือ CP นะคะ ป้าแอ๊ดตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช่กูรู ค่ะ

กูรู้ แค่นี้แหละค่ะ

Create Date : 05 มีนาคม 2556

Last Update : 5 มีนาคม 2556 10:30:57 น.

97 comments

Counter : 82805 Pageviews.

เ้ยี่ยมมากเลยค่ะป้าแอ๊ด
ตอนใช้โซดาไฟนี่ต้องระวังมากๆเลยนะคะ แค่ได้กลิ่นก็คงมึนตึ้บเลยนะคะ

โดย: นิธินาฏ ยองประยูร IP: 182.255.9.54 วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:10:59:30 น.

เวลากวนสบู่ อย่าลืมใส่ถุงมือและคาดผ้าปิดจมูกด้วยค่ะ
อย่าพยายามสูดดมกลิ่นเข้าไปอย่างเด็ดขาด เพราะอันตราย
แต่เมื่อตุ๋นจนสบู่สุกแล้ว โซดาไฟจะหมดฤทธิ์ ใช้ได้เลยนะคะ

โดย: addsiripun

วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:11:08:17 น.

ขอบคุณป้ามากมาย เห็นป้าทำกับหม้อตุ๋น แม่หนูยิมใช้กับหม้อไฟฟ้าได้ใช่ไหมคะ ไม่มีเตาถ่าน เคยรู้มาว่าห้ามใช้กับเตาแก๊สจริงเท็จแค่ไหนรบกวนป้าเฉลยให้นิดนึงคะ

โดย: แม่หนูยิม IP: 1.0.230.117 วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:11:26:40 น.

น เวทา สมฺปรายาย น ชาติ นปิ พนฺธวา สกญฺจ สีลสํสุทฺธํ สมฺปรายสุขาวหํ

เวทมนต์ ชาติกำเนิด พวกพ้อง นำสุขมาให้ในสัมปรายภพไม่ได้
ส่วนศีลของตนที่บริสุทธิ์ดีแล้ว จึงนำสุขมาให้ในสัมปรายภพได้

ปอป้าจะเดินทางไปเชียงใหม่พรุ่งนี้เช้าและจะกลับมาวันที่ ๙
จากนั้นจะต้องติดภารกิจเดินสายหาหมออีก ๒-๓ วัน
พบกันอีกครั้งประมาณวันที่ ๑๒ หรือ ๑๔...นะคะ

...................

ปอป้าตั้งใจอ่านมาก อ่านทุกตัวอักษร และดูภาพประกอบไปด้วย
ได้ข้อสรุปว่า สบู่ของป้าแอ๊ดน่าทานมาก...ค่ะ...555

ก็สีสันออกสวยปานนี้
คนตะกละอย่างปอป้า เห็นแล้วก็คิดแต่เรื่องกิน

ดูกรรมวิธีแล้ว ก็ไม่ยากอะไร
แต่คนมีความเรียบร้อยน้อยอย่างปอป้าคงทำไม่ได้
กลัวมันจะระเบิดบ้านพังก่อนที่จะได้สบู่อ่ะ...ค่ะ

คิดถึงป้าแอ๊ด..จังเลย