เป็นทริปที่ไปกับเจ๊แม่ และคุณเจ๊ โดยพลขับคือคุณเจ๊ของเรา
ค่อนข้างตะเกียกตะกายไม่น้อย เพราะสิ่งที่ทางคุณนุชจากพาราดีบอกทางก็มีประมาณนี้ค่ะ
จากป้ายทางเข้าโบนันซ่า ตรงไปเรื่อยๆเจอสามแยก ถึงป้ายฟาร์มโชคชัย 4 เลี้ยวซ้าย
ตรงไปผ่านหมู่บ้าน เจอ 3 แยกเลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆ
เจอสถานีอนามัยขนงพระเหนือ (ซึ่งมีขนงพระธรรมดาด้วยนะขอบอก งงมาก)
เจอ 3 แยกเลี้ยวซ้าย
เจอ 4 แยกเลี้ยวขวา
เจอโรงเรียน เจอ 3 แยกเลี้ยวซ้าย อีกครึ่งกม.ถึงแน่
... เอิ๊กก่าจะถึง หัวใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆไปหลายรอบ เพราะกลัวขับหลงเข้าไปในฟาร์มนายหัวที่ไหนเข้า เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ไร่ นา ทุ่ง ต้นหญ้า แพะหลับ ฯลฯ
อีกอย่างถ้าเป็นธรรมดาคงไม่เท่าไหร่ แต่ช่วงนี้หนาวแล้ว ค่ำไว๊ไว บรรยากาศตอนหกโมงมืดเยียบยังกะสามทุ่ม คุณนายแม่ก็เริ่มหวั่นใจ แน่ใจนะว่ามีรีสอร์ทอยู่จริง ... แต่สุดท้ายเจ๊ก็ขับพาเรามาจนถึงพาราดีจนได้
วะเวกวิโหวงเหวง... แม่ถามว่ามาเจอรีสอร์ทนี้กันได้ไง
ระหว่างทาง
ระหว่างทาง
-พนักงานที่พาราดีน่ารักมาก ขนาดเจ๊อยากหาอะไรอุ่นๆมาล้างไขมันซี่โครงจากร้านบ้านรมควันที่ทานเป็นอาหารเย็นตอนสี่ทุ่มครึ่ง ทางเด็กๆที่นั่งรวมตัวกันดูทีวีตรงล๊อบบี้ก็วิ่งไปบอกพ่อครัวให้มาต้มข้าวต้มหมูให้เจ๊จนได้ น่ารักมากมายเลยน้องๆพวกนี้
อาหารมื้อดึกของเจ๊ กินหมดด้วยเจ้าค่า...
-การได้กินข้าวต้มหมูตอนเช้า ท่ามกลางลมหนาวบนยอดภูเขา(เทียม) ที่ตั้งของล๊อบบี้พาราดี ถือเป็นความสุขสุดยอดของทริปนี้ก็ว่าได้ เราสามคนนั่งคุยกันไป เม้าท์นั่นนี่โน่นกันไป กินกันไป จะเอาอะไรมากไปกว่าความสุขเล็กๆแบบนี้
ห้องอาหารอยู่จุดสูงสุดของรีสอร์ท มองเห็นวิวรอบตัวไม่เกลือกกลั้วใคร
อีกมุมนึง..
ล๊อบบี้
-พาราดีมีม้านั่งตั้งไว้ตรงมุมโน้นมุมนี้มากมาย เหมาะจะมานั่งอ่านหนังสือ กระหนุงกระหนิง หรือนั่งเล่นๆดูสวนสวยๆที่เค้าแต่งไว้อย่างดีก็ได้ มีสระว่ายน้ำซ่อนมุม มีจักรยานไว้ให้เช่าขี่เล่นไปรอบๆได้
นี่ใช่...
นู่นก็ใช่...
ทางขึ้นไปลานบาร์บีคิว ทำกิจกรรม
ลานกิจกรรม
ซุ้มต้นไม้ด้านหน้าที่พัก
มองจากชั้นบน ลงไปห้องด้านล่าง
ทางเดินห้องชั้นบน
น่านั่ง
น่านอน...ถ้าไม่กลัวกลิ้งตกน้ำ
น่าว่าย...
- คุณนุชอัพเกรดจากห้องธรรมดามากๆ ไปเป็นห้องซูพีเรียให้ เพราะห้องที่จองไว้เค้ากำลังก่อสร้างกัน แต่ด้วยความที่ไปถึงกันค่ำ เหนื่อยก็เหนื่อย เลยโยนข้าวของกันระเนระนาด ไม่อาจถ่ายรูปมาให้ดูได้ กลัวคิดว่าไม่ใช่พาราดี แต่เป็นบ้านผีสิง ก็เหลือแต่ห้องน้ำนี่แหละที่พอทำเนา
แยกส่วนหนักและอาบน้ำไว้คนละด้าน แต่ประตูใสมาก
เดี๊ยนเกือบตาบอดเพราะเจีเดินเข้ามาบอกให้หยิบของ ...
- พอดีแม่บ้านกำลังเปิดประตูทำความสะอาดห้องแกรนด์สวีทซูเปอร์หรูดเลิศอลังการ (หรืออะไรนี่แหละ) เรากะเจ๊ และคุณนายแม่เลยดอดเข้าไปเยี่ยมชมดูเสียหน่อย แม่บอกห้องน้ำใหญ่กว่าห้องนอนอีกวุ้ย...เค้าสับห้องกันหรือเปล่า...แม่ตรู
หนังวัวแต๊ๆ
ห้องอาบน้ำบะละฮึ่ม
เจ๊บอกอยากได้เตียงสี่เสา
นั่งเล่นๆในห้อง
นั่งเล่นๆหน้าห้อง
นั่งเล่นๆในห้อง
นั่งเล่นๆนอกห้อง (จะสับกันทำไมเนี่ยเรา)
- ต้นไม้แยะมาก ใครชอบสีเขียวๆ ดอกไม้สวยๆ ที่นี่มีให้ดูเพียบ เพราะเปิดประตูห้องออกมาก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในป่าอเมซอน (จริงๆนะ)
หน้าห้อง
หน้าห้อง
บันไดลงห้องพักชั้นล่าง
บันไดขึ้นเนิน
บันไดขึ้นห้องอาหาร
จากมุมห้องอาหารมองลงมาด้านล่าง
- เสียอย่างเดียว นอนไม่หลับ เจ๊บอกพี่นอนเสริมแข็งยังกะหินผา ย้ายไปนอนโซฟาก็แล้ว กลับมาเตียงก็แล้ว ยังนอนไม่ค่อยจะหลับ ขณะที่เรานอนตรงประตูห้องน้ำพอดี ปิดไฟจนครบทุกดวงแล้ว ก็ยังมีแสงสว่างลอดมาแยงตา ร่ำๆว่าจะออกไปปิดไฟรีสอร์ตด้านนอกอยู่แล้ว นอนกลิ้งไปกลิ้งมาตั้งน๊านนาน กว่าจะหลับก็กินเวลาไปนานหลายอึดใจอยู่ ขณะที่คุณนายแม่ของเดี๊ยนหลับใหลไม่รู้กระทั่งว่า ลูกออกไปสั่งข้าวต้มกินข้างนอก...เริ่ดป่ะ
เก่งมากที่มืดแล้ว(ทุ่มกว่า)ยังหาที่พักเจอ....เจ๋ง