ครั้งนี้เราไปปายด้วยการขับรถเช่าจากสนามบินเจียงใหม่ รถที่ใช้คือฮอนด้า แจ๊ซ วิ่งไปแล้วประมาณแปดหมื่นกว่าโล สภาพเครื่องก็ไม่แน่ใจว่าฟิตป่าว สภาพยางนี่เบลอใส่ เชื่อใจกันสุดๆ ขับๆ ไปยังคิดเลยว่า เอ...มันจะลื่นไหมหว่า ถ้ามันลื่นแพร่ดออกนอกถนนขึ้นมาจะทำไงดี เสียวโว้ย (แล้วไม่ยอมเช็คลมยางแต่แรกนะไอ้ตัวนี้ )
แต่ปรากดว่าการขับรถไปปาย เป็นประสบการณ์ที่สนุกมากสำหรับเราสองคนที่ขับรถไม่เก่งด้วยกันทั้งคู่ 555
โดยมีขะเจ้า...เอ๋น้อยเป็นสารถี (กัวเมารถ รีบแย่งเลย) ส่วนเจ้าบูรับบทเนฯ ที่ทำหน้าที่ได้ดีมาก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแผนที่ GPS คอยเช็คระยะโค้งให้ตลอดเวลา คอยบอกว่า เดี๋ยวจะมีโค้งขยุกขยุย หรือ พ้นโค้งที่จอดรถนี่ก็หายใจได้อีกพักนึง (โค้งรูปตัวยูค่ะ ส่วนคนที่หายใจไม่ได้น่าจะเป็นเจ้าบู เพราะลุ้นจัด 555) หรือไม่ก็ เดี๋ยวก็ขับสบายแล้ว ให้กำลังใจตลอด สบายไม่สบายนั่นอีกเรื่อง
การขับรถไปตามเส้นทางเชียงใหม่-ปาย ตอนหน้าฝนนี่สนุกจัง เพราะสองข้างทางมีต้นไม้เขียวๆ หลากพันธุ์เรียงตัวกันไปเป็นแนวจนสุดลูกหูลูกตา หลายครั้งที่เราเลี้ยวพ้นโค้งแล้วประสานเสียงกันร้อง อู้หู...โห...อะไรแบบนี้ เพราะต้นไม้สูงใหญ่เทียบเท่ายอดเขา แถมอากาศก็ครึ้มเย็นสบาย ฝนไม่ตก เปิดหน้าต่างได้กลิ่นต้นสนเหมือนที่เจ้าของพริบตาบอกไม่มีผิด
การขับรถหน้าโลว์นี่สบายนะคะ เพราะแทบไม่มีรถนำ และไม่มีรถตาม ถ้าใครมือใหม่เหมือนเรา เจอคนมาจี้ก้น(รถ) ก็ให้ชิดซ้ายเปิดไฟเลี้ยวซ้าย เป็นสัญญาณบอกว่าเราให้คุณแซงนะ อย่าพยายามเร่งเครื่องหนีเค้าเลยค่ะ ขับแล้วเครียดซะเปล่า ยิ่งเราไม่ชินทาง ไม่ชินโค้งแล้ว ขับแบบหวานเย็นมีความสุขกว่าแยะ...ขนาดเราขับฉิ่งฉับมาก ยังใช้เวลาแค่สองชั่วโมงเศษเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะ 4 ชม.แล้วนะนั่น ไปเร็วช้าก็ถึงเหมือนกันเนาะ...
...อีกอย่างจะรีบร้อนไปใย ทางเค้าออกจะสวย มีไว้ให้ชื่นชม...
บางตอนก็มีฝูงวัวนอนขวางให้ใจระลึกเล่นด้วย ฮาเฮกันไป
ผมม่ายหลบค้าบ...พี่จาไปก็แซงปายยยยย
มาเริ่มกันที่ร้านสุดฮิตค่ะ Coffee in Love เราแวะเพราะเป็นทางผ่าน และอยากได้คาเฟอีนเข้าเลือดสักหน่อย ตอนลงรถฝนเริ่มปรอยพอดี ก็เลยนั่งกันพักนึง รู้สึกดีใจมากที่ไม่คลื่นไส้อะไรเลย นับถือเจ้าบูมากที่ก้มหน้าลงมองแผนที่ในมือถือแล้วก็ยังไม่คลื่นไส้ ส่วนกระต่ายน้อยไกด์ทัวร์...หมดแรงแย้วววว
" เจอเจ็ดร้อยก่าโค้ง เวียนเลยค้าบ"
เอ๋สั่งช็อค-มินต์ ส่วนเจ้าบูคือเอสเพรสโซ่ เราสั่ง ช็อคโกแลตเคลือบเมล็ดกาแฟ มาแทะกันด้วย มันคือช็อคโกแลตเคลือบเมล็ดกาแฟนั่นเอง รสชาติไม่หวานมาก เป็นช็อคโกแลตของ Lindtt มีทั้งแบบ white และ dark กินเพลินๆ นั่งเพลินๆ ก็เรียบวุธ แต่สรุปว่า..กินช็อคเปล่าๆ ดีกว่าเพราะเมล็ดกาแฟมาทั้งยวง ขมเชียว แง้ว
อ่ะๆๆ มาเข้าเมืองกันดีกว่า ร้านต่อไปคิดว่าหลายๆ คนต้องรู้จักกันแน่ เพราะอยู่คู่ปายมาแสนนาน คือร้าน all about coffee ค่ะ มีแผนที่จากโทรศัพท์เจ้าบูมาให้ด้วย...
ตรง 4 แยกนั่นคือ แยกปายหนาวค่ะ
หาง่าย เพราะมีถนนเท่ๆ อยู่เส้นเดียว ตรงข้ามร้านมิตรไทย
ตัวร้านเป็นบ้านไม้เล็กๆ ชั้นครึ่ง เราเคยอ่านเจอร้านนี้มาตั้งแต่สมัยปายยังไม่เป็นข้าวสาร ไม่ได้ไปสักที จนตอนหลังอ่านเจอว่ามี บีนอฟฟี่ ซึ่งเป็นญาติกับบานอฟฟี่ แต่ใช้กล้วยน้ำว้าทำแทนกล้วยหอม เลยต้องขอแวะไปลองซะหน่อย ในฐานะสมาชิกชมรมคนรักการบริโภคกล้วย และถ้าพิจารณาจากทั้งหมด เอ๋น้อยชอบซื้อของฝากจากร้านนี้ เป็นประเภทชากาแฟ ฝากเดอะแก๊งค์ก็ซื้อจากร้านนี้ เพราะเค้าทำแพ็คเกจเองและไม่มีใครเหมือน ขออย่าให้มีใครลักลอบทำเลียนแบบเถอะ สาธู้...
นี่ไง ตรงที่ขายของที่ระทึกของร้าน ^^
ที่ร้าน all about coffee เราสั่งช็อคโกบานาน่า เนื้อโกโก้เลยออกหนืดๆ หน่อย...เป็นช้อยส์ที่ผิดพลาดมากเลย เพราะไม่เหมาะกับวันอ้าวๆ ใกล้ฝนตกเป็นอย่างยิ่ง กินแล้วทำให้หิวน้ำเข้าไปอีก...ทางออกคือแย่งกาแฟเจ้าบูซะ ...
ขณะที่กระต่ายน้อย ก็คิดจะมาแย่งช็อคโกบานาน่าเอ๋น้อย หลังจากฟื้นสติเต็มที่
"แง้บๆ ของ่ำบ้างง้าบบบบ"
ส่วนนี่คือ "บีนอฟฟี่" ที่อยากกิ๊น อยากกิน ได้กินสมใจแล้ว หน้าตาเหมือนที่เคยเห็นในรูปมิมีผิดเพี้ยนเลย
ด้านในจะเป็นแบบนี้ กล้วยน้ำว้า ราดด้วยนมข้นหวาน ทับด้วยครีมสด
หลังจากชิมแล้วสรุปได้ว่า... กินกล้วยหอมแบบเดิมดีกว่าเรา กล้วยน้ำว้ากับนมข้นหวานนี่ ถ้าไม่อยากลองจริงๆ นี่ไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ เป็นส่วนผสมที่บอกไม่ถูกจิงๆ ...
ที่ปายมีอะไรเกี่ยวกับกล้วยน้ำว้าเยอะมาก (และเสาวรสด้วย) โรตีก็มีแบบไส้กล้วยน้ำว้า แต่ไม่กล้าลอง ...ใครเคยลองแล้วบอกด้วยน้า
เห็นคนไปยืนออกันร้านโรตีที่สอดไส้ชีส ท่าจะเป็นร้านนี้เองที่เพื่อนบอกว่าอร่อย...แต่เราไปกินของพี่ที่ขายห่างออกมาหน่อย ก็อร่อยเหมือนกันนะ ... รสชาติอาหารหรือจะสำคัญเท่ากับเพื่อนร่วมทาง ฮิๆ
ส่วนอีกร้านนึง เป็นร้านที่คุณทีน่า จากพริบตาแนะนำมาค่ะว่าน่านั่ง เราเลยพุ่งทะยานไปตามแผนที่ๆ กากบาทไว้ให้ แน่นอนค่ะ โดยมีกระต่ายน้อยนำทาง 555
"นี่ค้าบบป๋มมมม..."
จริงๆ แล้วร้าน เข้าท่า เป็นร้านไม้ที่ค่อนข้างเล็กเชียวล่ะ เค้าจะจัดโซนด้านหน้าเป็นม้านั่งยาวเป็นพรืด ให้อารมณ์เหมือนร้านสมัยก่อนมากเลย เวลาคนมาแยะก็จะนั่งเบียดกันหน่อย หนุกดี อาจจะได้เพื่อนใหม่ก็ได้ใครจะรู้
มื้อนี้เอ๋น้อยกร๊อบมาก เพราะสั่งกาแฟคาปูฯร้อน แต่เจ้าบูลอบสังเกตคนอื่นๆ ในร้าน เห็นมีแต่คนสั่งเย็น เลยสั่งกาแฟเย็น ซึ่งอร่อยกว่ามาก....ไม่เป็นไรฮ่ะ แย่งกินก็ล่าย
ส่วนอีกเมนูคือเสาวรสปั่น เพราะแถวนั้นคนปลูกเสาวรสกันแยะ มีน้ำเสาวรสให้กินกันทุกร้าน สดๆ ใหม่ๆ หอมๆ เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดสะใจกันไปข้างเลย
ในร้านมีของเล่นโบราณขายด้วยค่ะ เจ้าบูกะเอ๋น้อยลองเล่น และติดใจซื้อกลับมาด้วยอันนึง เป็นกังหันที่ใช้แรงสั่นสะเทือนเวลาเราขยับไม้ พ่อค้าเจ้าของร้านกาแฟ หอบของไปขายที่ถนนคนเดินตอนกลางคืนด้วย...ขยันจิงๆ เจอกันก็จำได้ ทักทายหนุกหนาน ... เห็นป่าวว่าไปตอนโลว์นี่มันดีจิงๆ ^^
ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันใช้ดี