เลยลีลาวดี - ประสบการณ์นี้ขอบันทึก
สืบเนื่องจากบล็อกเก่าของเอ๋น้อย คือบล้อกร้านกาแฟบ้านก้ามปูนะคะ คราวก่อนเราไปกับเพื่อน ได้คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยชิมิ สุดท้ายเลยไปลงที่เรื่องนึง ก็คือเรื่อง "เลยลีลาวดี" นี่แหละเจ้าค่ะ เลยเอาอัพเดทมาเขียนซะหน่อย (เพื่อนเป็นคนจ.เลย)
เรื่องของเรื่องคือ เลยลีลาวดี "ปิดบริการ" แล้วจร้าาา ที่รู้เพราะพ่อแม่เพื่อน ที่ทำงานเกี่ยวกับแวดวงการศึกษาในจ.เลย (ตอนนี้ออกแล้วนะ) ได้มาทำโปรเจ็กต์ใหม่ คือวางแบบระบบการศึกษาให้กับพระ ที่โรงเรียนนานาชาติพระ ซึ่งจะดัดแปลงจากเลยลีลาวดีนี่เอง
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า เจ้าของเลยลีลาวดีเป็นมหาเศรษฐีอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล คงจะขี้เกียจบริหารรีสอร์ทกว้างใหญ่ ขนาด 700 กว่าไร่ตรงนี้แล้ว (ผลที่ได้ก็คือ ตอนเราไปพักนี่มันช่างแห้งเหือดเสียนี่กระไร อาหารจะกินยังไม่มีเลย นี่ถ้ารู้จากเพื่อนก่อนว่าเจ้าของรีสอร์ทเลิกเอาใจใส่ล่ะก็ จะเมินไม่ไปให้เสียเวลาเลย) เค้าก็เลยยกที่ดิ้นและส่วนควบทั้งหมด คือสวนส้ม ไร่ทานตะวัน สวนฯลฯทั้งหลาย รวมถึงห้องพักทั้งหมด ที่เคยเป็นของรีสอร์ทเลยลีลาวดีให้กับวัดจร้าาาาา
เราได้ทีก็เลยเล่าว่า เออๆ ตอนเราไปพัก ก็เหมือนมี กุ๊ก กุ๊ก กู๋อยู่ด้วยล่ะ เล่นเอาเอ๋น้อยกัวบ้านไม้ไปพักใหญ่เลย (ถ้าอยากรู้ว่ารายละเอียดเป็นไง กรุณาลงไปอ่านด้านล่างที่เอ๋น้อยเคยเขียนไว้นะเจ้าคะ) เพื่อนบอกว่า โอ๊ย...นั่นมันตุ๊กแก แกไม่เคยอยู่บ้านไม้ชิมิ แกจะไปรู้ได้ไง ตุ๊กแกมันผงกหัว มันก็เลยมีเสียงดังเหมือนคนเคาะไม้ ...อ้ะ...ฉันเชื่อแก แกเป็นคนจ.เลย แกเป็นเด็กบ้านนนอก (ทั้งที่มันมาเรียนหนังสือม.ต้นพร้อมเอ๋น้อย จะบ้านนอกได้สักแค่ไหนฟระ) อีกอย่างรู้สึกดี ที่ไม่ต้องผ่านประสบการณ์เฉียดเช่นนั้น
เวลาผ่านไปหลายวันทีเดียวเชียว อยู่ๆ ก็นึกถึงเพื่อนคนนี้ขึ้นมา พอรุ่งเช้า มันก็โทรฯมาหาแต่ไก่โห่เชียว รู้ได้ไงว้า...
มันพุ่งเข้าตรงประเด็นมาก บอกว่าพ่อแม่ไปทำงานที่แล้ว ทางโรงเรียนนานาชาติพระเค้ายกห้องรีสอร์ตให้หลังนึง เลือกเอาห้องไหนก็ได้ จะบ้านดิน บ้านไม้ได้หมด พ่อแม่เพื่อนก็เลยเลือกนอนสบายแฮไป ก็นอนมาได้หลายคืนแล้วล่ะ เพราะเริ่มโครงการแล้ว มีพระมาเรียนแล้ว ปราดว่าเมื่อวาน (ก่อนเพื่อนโทรฯหาเอ๋น้อย) พระก็เข้ามาคุยกับแม่เพื่อน ทักทายปราศรัยกันไป สักพักพระก็เปรยๆขึ้นมาว่า เออ...ที่นี่ผีเยอะดีนะโยม มีทุกแบบเลย ทั้งผีท้องกลม ทั้งอะไรต่ออะไร เต็มไปหมดเลย"
ป้าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.... มันอุตส่าห์โทรฯมาบอกแต่เช้าว่า เออ..ที่เอ็งไปเจอมาน่ะ ท่าทางของจิงว่ะ ดีใจด้วยนะ แล้วก็ขอตัวไปทำงาน
ทิ้งให้ตรูนอนไม่หลับซะงั้น... ใครไม่เคยไป ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ เพราะบัดนี้จะไม่มีรีสอร์ทกุ๊กกู๋ดุให้ท่านหลงเข้าไปพักเหมือนเราแย้ว
ปล.ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะเจ้าคะ
ข้อมูลด้านล่าง เอ๋น้อยเคยเขียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังกลับจากไปพักที่นี่มาเจ้าค่ะ
เลยลีลาวดี
ก่อนไปจ.เลย เราตามล่าหาที่พักในอ.ด่านซ้ายจนมึนตึ้บ อ่านเจอใน bloggang (เค้าไปประมาณปี 49 และขออภัยที่ link หายไปแล้วเจ้าค่ะ) นี่แหละว่าเลยลีลาวดีเป็นที่ๆเจ๋งจิง อากาศดี มีไร่ส้ม ทำให้มีน้ำส้มคั้นสดๆเป็นอาหารเช้าชนิดเติมได้ไม่อั้น แถมยังมีบ้านสร้างจากดิน ที่ทำให้อากาศเย็นได้โดยอาศัยความพยายามจากเครื่องปรับอากาศเพียงเล็กน้อย
อ่านแล้วหูผึ่ง หางชี้ทันที เราไม่รอช้า รีบโทรฯไปจองบ้านพักหนึ่งหลัง หลังจากดูแบบบ้านแต่ละอย่างจนตาแฉะ(มีเป็นเกือบยี่สิบแบบน่ะ) ตอนนั้นจำไม่ได้เหมือนกันว่าเราจองบ้านแบบไหนไป แต่เป็นชื่อดอกไม้ไทยชนิดหนึ่ง ปรากฏว่าตอนที่เราเช็คอินเข้าไปพัก เรากลับได้นอนในบ้านหลังที่ชื่อว่า หลองข้าวแทน
หลองข้าว...น่ารักเนาะ
ทางเดินเข้าบ้าน
ที่นั่งหน้าบ้าน
ด้วยความที่เรากะเจ้าบูไม่ใช่คนเรื่องมาก นอนที่ไหนก็ได้ขอให้มีที่นอน ตอนนั้นก็ค่ำแล้ว อยากอาบน้ำ อยากกินข้าว แล้วก็นอนแอ้งแม้งเต็มที
แวบแรกที่เห็น หลองข้าว เราค่อนข้างชอบมันทีเดียวล่ะ เพราะเป็นบ้านไม้แบบชั้นครึ่ง ให้ความรู้สึกเหมือน ตูบหลบเมีย ที่เกสต์เฮ้าส์แม่ปั้นดินพ่อทำสวน ทางเข้าหรือก็น่ารัก มีต้นไม้ใบหญ้าทั้งด้านหน้าและรอบตัวบ้าน ดูร่มรื่นอย่างบอกไม่ถูก
แต่พอเข้าไปกลับรู้สึกถึงบรรยากาศอีกแบบ มันโหว่งๆแหว่งๆบอกไม่ถูก แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะดันมีปัญหาว่าแอร์เปิดไม่ติด ตู้เย็นไม่ติด ทีวีไม่ติด ติดแต่ไฟอย่างเดียว เราต้องโทรฯเรียกเจ้าหน้าที่มาทำให้ แต่เค้ากลับส่งแม่บ้าน ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกันมา และสุดท้ายก็ต้องไปตามช่างไฟมาอยู่ดี ... เสียเวลาไหม!! นึกว่าเดี๊ยนเสียบปลั๊กกันไม่เป็นหรือไง
รอบๆตัวบ้าน
จริงๆแล้ว หลองข้าว ค่อนข้างเป็นบ้านเล็กๆที่น่ารักเชียวล่ะ มีเตียงนอน มีโต๊ะเล็กๆสำหรับนั่งทำงานได้ มีชั้นบน แต่ความไม่น่ารักของมันก็คือ การที่มีกองทัพยุงกัดเจ็บจำนวนมากอาศัยอยู่ จนเราแทบเปิดประตูทิ้งไว้ไม่ได้นาน และที่สำคัญคือน้ำอุ่นเกิดอาการใช้ไม่ได้ แล้วคิดดูดิว่าอากาศเมืองเลยเย็นเฉียบแค่ไหน น้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึง...โอย...หนังไก่ลุกจ้า
ห้องน้ำกึ่งเอาท์ดอร์ มีประตูเปิดออกไปได้
เราหัวเสียนิดหน่อยกันออกมาทานข้าว และพบว่าจากบรรดาเมนูทั้งหมดเกือบร้อยชนิดนั้น ไม่มีของสดให้ทำเลยสักอย่าง สุดท้ายต้องกินกะเพราหมูสับกับไข่ดาว ซดน้ำแกงป่าแก้ขัดกันไปก่อน ... ฮืออๆ รันทด
ความวิบากกรรมยังไม่จบครับ พอเข้านอนคืนนั้นฝนก็ตกเหมือนฟ้ารั่ว เรากะเจ้าบูหลับๆตื่นๆอยู่หลายรอบ เพราะบ้านเป็นบ้านไม้ เสียงฝันก็ประดังประเดเข้ามาเต็มหู ลมแรงก็กลัวมันจะพัดบ้านทั้งหลังไปเหมือนกันนะ
ในบ้านจ้ะ
และด้วยความที่เราเป็นคนเข้าห้องน้ำบ่อย รอบแรกตื่นขึ้นมาถึงกับร้องกรี๊ดลั่น เพราะมีกองทัพมดดำกัดเจ็บจำนวนมหาศาลมาเกาะโถส้วม คิดว่าพวกมันน่าจะหนีน้ำกันขึ้นมา แต่ทำไมไม่ไปเกาะที่อื่นหว่า...
ส่วนรอบสองเราตื่นเพราะโดนกองทัพยุงกัดจนทนไม่ได้ พอลุกขึ้นมาก็พบว่าประตูห้องน้ำเปิดอ้าอยู่ ทั้งๆที่ตอนเราตื่นไปฉี่รอบแรก เราลงกลอนดีแล้ว มิน่าล่ะยุงได้กรีฑาทัพกันเข้ามาได้เต็มห้อง ต้องอธิบายนิดนึงว่า ห้องน้ำที่นี่ออกแนวกึ่งเอาท์ดอร์ มันก็จะมีช่องอากาศให้มดหนูแมลงต่างๆเข้ามาได้โดยสะดวก ดังนั้นพอประตูห้องน้ำเปิด (ได้ไงหว่า) มันก็เลยพากันเข้ามากินเลือดบุฟเฟต์เรากะเจ้าบูอย่างสะดวกโยธิน เราก็ลุกขึ้นมางัวๆเงียๆไปปิด
ส่วนตื่นรอบสุดท้าย เราได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเคาะอะไรก็ไม่รู้ตรงหน้าต่างด้านเจ้าบู แต่ด้วยความที่ฝนตกแรงมาก ก็เลยเดาไปเองว่าน่าจะเป็นกิ่งไม้โดนลมพัดมาโดน แต่ในก็แอบแผ่เมตตาไปสองรอบ แล้วก็หลับไป ... เฮ้อรอดไปคืนนึงตู
ส่วนคืนที่สองหลังจากเรากลับมาจากเชียงคานอันแสนเหนื่อยอ่อน รีบอาบน้ำ สวดมนต์ แล้วก็เข้านอนตามปกติ
แต่พอประมาณฟ้าสาง (น่าจะตีสี่ตีห้า) เราก็ได้ยินเสียงเคาะแบบเดิมดังขึ้นที่หัวนอน ทั้งๆที่ไม่มีฝนฟ้าคะนองหรือลมกรรโชกเลยสักแอะ...เอาแล้วสิหมู่เฮา
รีบปลุกเจ้าบู ถามว่านี่มันเสียงไรฟระ เจ้าบูงัวเงียบบอกว่า เสียงลมพัด ... (นิ่งไปพักนึง) เจ้าบูเหมือนรู้ว่าลมไม่ได้พัดเลยสักแอะ เลยบอกว่านอนเถอะ อย่าคิดมาก ไม่มีไรหรอก สักพักเสียงนั้นย้ายไปดังอยู่ตรงหน้าต่างฝั่งเจ้าบูที่เดิม แล้วก็ดังอยู่อย่างนั้น... จนดิฉันสวดแผ่เมตตาไปประมาณหลายรอบมาก นึกอยากลุกพรวดขึ้นนั่ง แล้วตะโกนให้ลั่นฟ้า ว่าขอนอนได้หมายอ้าาาาาา (กรุณานึกถึงเสียงสุดหล่อจากแหยมยโสธรจะได้อารมณ์มาก) มันดังจนนอนไม่หลับ...(เนื่องจากดังใกล้หูด้วยไง)
แม้สุดท้ายจะผ่านพ้นไปได้ และเราก็ยังปลอดภัยดีทุกประการ (แม้หัวใจจะทำงานหนักไปบ้างตอนนั้น) แต่ก็สาบานกับตัวเองว่า มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน ว่าอย่าได้มาพักที่นี่อีก...สยิวกิ้ววุ้ย
กลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว เลยลีลาวดีก็ยังแผลงฤทธิ์กับเราสองคนไม่หยุด ด้วยการมีฝูงมดดำเกาะรถตามมาถึงกรุงเทพฯ เราว่ามันน่าจะพากันหนีน้ำฝนขึ้นมาเริ่มสร้างรังบนรถแล้วด้วยซ้ำ เพราะมดเยอะมากกกกกกกก มากจนขนลุกอ่ะ เราเอารถไปล้างพวกมันถึงหายไป ต้องขออโหสิกรรมด้วยนะเจ้ามดนะ
เจ้าบูเองก็เพิ่งมาบอกตอนหลังว่า ตอนเปิดชั้นสองไป (เป็นแบบดันพื้นขึ้น และคนอยู่ไม่ได้เพราะทั้งเตี้ยและมีฝุ่น) รู้สึกบรรยากาศมันแปลกๆบอกไม่ถูก แต่ตอนนั้นไม่อยากกวนใจให้เราสยอง เลยไม่พูดอะไรมาก
ถ้ารีบๆพูดเสียก่อน มีหวังได้แพ็คกระเป๋ากลับไปนอน ภูผาน้ำ
ส่วนเรื่องอาหารเช้าที่เราตั้งความหวังเอาไว้มาก ด้วยความมุ่งมั่นว่าต้องมีน้ำส้มคั้นสดให้ตูกินเพียบแน่ ... แต่สุดท้ายต้องเป็นฝันสลายยยยยย
เพราะนอกจากจะไม่มีน้ำส้มคั้นสด (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) แล้ว ข้าวต้มยังค่อนข้างเย็นชืด ไส้กรอก-ขนมปัง-ไข่ดาว ตกมาตรฐานเราหมด เฮ้อ ถ้าไม่เรียกว่าไม่ประทับใจมากๆแล้ว เดี๊ยนก็ไม่รู้จะพูดไง
เห็นรูปแล้วจำความชืดของมันได้ขึ้นใจ
แต่ที่นี่มีดีตรงสวนนะ แถมยังมีสระว่ายน้ำด้วย
สวนส้มติดกับห้องอาหาร
สวนแก้วมังกร ท้ายรีอสร์ท
ทุ่งทานตะวัน ริมถนนทางเข้า
ทางเข้าบ้านดิน
ทางเดินในรีอสร์ท (กว้างใหญ่มากจ้าที่นี่)
สระว่ายน้ำ
Create Date : 25 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 3 กันยายน 2556 16:23:55 น. |
|
29 comments
|
Counter : 1752 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:39:53 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:05:04 น. |
|
|
|
โดย: pinkyrose วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:49:37 น. |
|
|
|
โดย: Panda IP: 125.25.147.21 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:39:35 น. |
|
|
|
โดย: nLatte วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:04:02 น. |
|
|
|
โดย: chenyuye วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:23:48 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:18:34 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:50:32 น. |
|
|
|
โดย: หนูปุ๊ (ดอกฝิ่นสีคราม ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:17:56 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:29:01 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:51:59 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:54:26 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:08:02 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:28:36 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:35:03 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:59:24 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:36:06 น. |
|
|
|
โดย: i_nookae วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:5:51:16 น. |
|
|
|
โดย: Tangible วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:32:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]
|
อาโหลๆ สวัสดีจ้ะ! อยากให้สิ่งที่เขียนในบล็อกนี้มีประโยชน์และเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวของเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อย แวะมาแล้วก็อย่าลืมทิ้งคอมเมนต์ไว้ให้อ่านกันน้า : )
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ออกไปทำธุระต่อก่องน้า