ไอติมกุหลาบมอญ 25 บาท ที่ชาโตเดอเลย
ชาโตเดอเลย เป็นร้านขายของฝากที่เวิร์กมั่กๆ เพราะนอกจากจะมีพวกของทอด ของเชื่อม ของแห้ง ของเก่า (เติมเอง) วางขายเยอะแยะแล้ว ยังมีของอึ๋มๆอย่างไอติมรสแปลกๆ เช่นรสกุหลาบมอญที่มีที่เดียวในประเทศ (เจ้าบูกิน เรากินรัมเรซินหย่อยมากกก!!) มีเกาลัด (มาได้ไง) และที่สำคัญมีมะเขือเทศปลอดสารพิษสีสันสดใสแดงแป๊ด ราคา 5 ลูก 10 บาท!!! ถ้าอยากกินเลย พี่เค้าก็ล้างให้ด้วยนะ ใจดีเน้ออออออ
ของเขาแดงแหร่มดีไหมล่า...
เราขับรถเข้าไปดู สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน ด้านในด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากเถาองุ่นแก่ๆ เพราะพ้นฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้ว เจ้าบูจะซื้อน้ำองุ่นก็ไม่มีอีก ได้แต่ไวน์หวานเฉียบมาหนึ่งขวด ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้แกะดื่ม (ดีไม่ดีเจ้าบูลืมไปแล้วว่าตัวเองซื้อมา)
เรามุ่งหน้าขึ้น ภูเรือ กันต่อ เห็นว่าเป็นที่ๆไปง่าย ได้เห็นวิวสวยๆของป่าไม้ และสิ่งที่ต้อนรับเราเมื่อถึงจุดชมวิที่ 2 ตรงยอดภูก็คือ "มาม่าหมูสับ" จ้าาาาาา
ขึ้นภูทีไร เป็นต้องเจอกับมาม่าคัพทุกครั้ง อากาศเย็นๆ พอมาเจอกลิ่นหอมๆของมาม่าหมูสับแล้วน้ำลายสอ แต่กลัวว่ากินแล้วเดินขึ้นเขาจะจุก เลยตั้งใจว่าเดี๋ยวค่อยกลับมากินตอนกลับ (เรื่องของเรื่องคืออาหารเช้าปริมาณมหาศาลที่กินเข้าไป ยังย่อยไม่เสร็จดี)
จริงๆแล้วมีรถปิคอัพบริการจากจุดชมวิวไปที่ยอดภู แต่มันก็แค่ 900 เมตรเองนะ เรากะเจ้าบูเลยตัดสินใจเดินย่อยกันดีกว่า อย่างนึงเพราะอากาศดี มีลมพัดตลอดเวลา ได้สูดอากาศสดชื่นด้วย
ภูเรือ
ด้านบนมีหินพระศิวะต้อนรับ ตามด้วยพระพุทธรูป และศาลาชมวิวกันพักนึง ขากลับตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง เดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติริมเขาไปที่ผาโหล่นน้อย (ใกล้กับจุดชมวิวที่ 2 เลย) และก็ไม่ผิดหวัง เพราะสองข้างทางมีแต่สุมทุมพุ่มไม้ มีป้ายบอกรายละเอียดต้นไม้ใบหญ้าให้อ่านประดับความรู้ ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด
อย่างอันนี้...เป็นต้นไม้ที่มีลักษณะลำต้นเอียงตามทิศทางของลมที่พัดตรงช่องเขานี้ประจำ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพื่อความอยู่รอด มันจะได้ไม่โค่นล้มลงมา
อันที่ใบใหญ่ๆด้านหน้านี่แหละ เฟริ์นที่ว่า
ส่วนนี่เฟิร์น กูดหมึก ตอนแรกอ่านผ่านๆ นึกในใจว่าเฟิร์นอะไรฟระชื่อ ตูดหมึก อ้อ...ที่แท้ก็อ่านผิด
ประโยชน์ของมันก็คือช่วยคลุมหน้าดิน ไม่ให้หน้าดินพังทลาย ตรงก้านถ้าเอาไปตากแห้งและดึงไส้กลางออก ใช้ไปชุบหมึกเขียนเป็นปากกาได้ด้วย...สารพัดประโยชน์จริงๆ
เย็นมากจนเฟริ์นขึ้นเขียวอื๋อ
เดิน 700 เมตรไม่เหนื่อยเลยสักกะติ๊ด แต่เริ่มหิวหน่อยๆแล้วล่ะ เราเลยควักเอามะเขือเทศปลอดสารแดงแชดแล้ดออกมากินไป ชมวิวกันไป
ขณะที่เจ้าบูก็ควักเอา healthy buddy ข้าวพองทอดกรอบมานั่งกรุ๊บกรั๊บอยู่ใกล้ๆ พอข้าวพองหล่นลงพื้น ก็มีมดดำเก็บไปกินต่อด้วยล่ะ
ไม่มีใครเลยฟรุ้ย...ดีจิง
ความกร๊อบตอนกลับมาที่จุดชมวิวที่ 2 คือมาม่าหมูสับหมดแล้วววววว!!!!!!!!
(จินตนาการว่าเสียงนี้สะท้อนก้องในหัว) แห้วเลยหมู่เฮา เลยพากันขับลงจากภูเรือ เพราะเห็นท่าว่าฝนใกล้ตก เดี๋ยวขับรถลงจะลำบาก ไปหาข้าวกินดีก่า
ลาบเห็ดหอม
ลงจากภูเรือ ยูเทิร์นรถมาก็จะเจอร้าน ภูเรือโภชนา มากินแบบมั่วๆน่ะ ไม่รู้หรอกว่าอร่อยหรือเปล่า แต่ดมๆแล้วคิดว่าน่าจะเวิร์ก เราสั่งเมนูเห็ดหอมและผักกูดของคู่บ้านคู่เมืองชาวเลยมากินกันอีกแล้ว แต่มื้อนี้กิน ลาบเห็ดหอม ผัดผักกูดเห็ดหอม แกงจืดเต้าหูผักกาดขาว มาโซ้ยกัน ลาบเห็ดหอมอร่อยมาก รสชาติแซ่บได้ใจแถมยังไร้เนื้อสัตว์ ดีต่อระบบย่อยอาหารจริงๆ
ผัดผักกูดดดด
เสร็จจากข้าว เราตีรถกลับมาด่านซ้าย ตั้งใจเข้าเมืองด่านซ้าย ไปพระธาตุศรีสองรักกันก่อน เพราะอ่านแล้วเห็นบอกว่าเป็นที่ๆต้องมาให้ได้ และที่นี่ก็สวยจริงๆด้วยสิ ดอกผึ้งที่พระธาตุฯใหญ่มาก เราถึงกับตะลึงยืนจ้องมันอยู่นานเลยทีเดียว
พระธาตุศรีสองรัก
ข้อห้ามที่นี่มีค่อนข้างแยะ อ่านจากคู่มือบอกว่า พยายามเลี่ยงอย่าใส่เสื้อผ้าแดงมาที่นี่ เพราะถือว่าเป็นสีของเลือด และพอไปถึงจริง ก็ห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าไปด้านใน ต้องฯลฯ ห้ามเยอะน่ะ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร มาเที่ยว ไม่ได้มาตั้งคำถามให้ปวดหัว
ตอนออกจากพระธาตศรีสองรัก ฟ้าก็อึมครึมมาก และพอขับไปถึงวัดโบสถ์เนรมิตวิปัสสนา ก็ดูฟ้าดิ...มืดน่ากั๊วะ
พระธาตุศรีสองรัก
มาจนถึง...วัดโบสถ์ฯ
ตกลงมาจริงๆแล้วคับท่าน ฝนฟ้า เราก็เลยนั่งง่ำข้าวโพดข้าวเหนียว ที่ซื้อมาจากข้างทางด้านหน้าภูผาน้ำรีสอร์ทรอในรถ อันนี้ขอเรคคอมเมนต์ว่าต้องซื้อนะ เพราะมันอ่อนและรสชาติหวานมากเลย ลักษณะฝักจะเล็กหน่อย แต่นุ่มนิ่มหนึบหนับ เหมือนละลายในปากได้ ตอนแรกซื้อมาคิดว่า 20 บาท (6 ฝัก) จะมากไป แต่พอรู้ว่าอร่อยก็อยากซื้อกินอีกแยะๆ แต่กลับไปอีกทีเค้าก็ปิดร้านกลับบ้านกันหมดแว้วอ่ะ
ข้าวโพดแสนเลิศล้ำ หนึบหนับ
ฝนตกไม่ถึงสิบนาทีก็ผ่านพ้นไป เราเดินเล่นจ๋อมแจ๋มกันรอบๆตัววัด สวยมากเลย ดูเผินๆเหมือนอยู่เมืองนอกไหมรูปเน้...
สรุปวันนั้นกว่าจะเข้าไปเช็คอินที่เลยลีลาวดี ก็ล่อเข้าไปเกือบหกโมงเย็นแล้วพระเจ้าค่า ที่นี่มีเซอร์ไพรส์ให้เรากะเจ้าบูเพียบไปหมดเลย ว่างๆแวะเข้ามาอ่านประสบการณ์กุ๊กกุ๊กกู๋ของเรากะเจ้าบูกันใหม่นะจ๊ะ...
เลยลีลาวดี...
ก้อชอบไปพักที่ตรีจุฑารัตน์รีสอร์ท ห้องดีมากๆ ราคาถูก แต่ปีนี้กลับไปกะว่าจะสร้างบ้านน้อยๆไว้ที่สวนแล้ว
แต่ไปทุกทีก็ต้องไปกินข้าวที่ภูผาน้ำนะ ไม่เคยกินที่อื่นเลยอ่ะ