Group Blog
All Blog
|
ลูกคิดมีเรื่องตื่นเต้นมาเล่าให้ฟัง...ผมเกือบจะคลอดแล้วครับ
13 สิงหาคม 2551 (มาม๊าไปตั้งกระทู้ไว้ที่ห้องงานฝีมือ...ที่ ๆ มาม๊าชอบไปเมาท์คับ)
ลูกคิดมีเรื่องตื่นเต้นมาเล่าให้ พี่ ๆ ป้า ๆ น้า ๆ ฟังครับ (ไม่ได้ตั้งกระทู้ผิดห้องหรอกครับ แบบว่าอยากตั้งที่ห้องงานฝีมือนี่แหละครับ แบบว่าหนิดหนมกันอ่ะครับ) เมื่อวาน (วันแม่ 12 สิงหาคม) ผมตื่นนอนพร้อมมาม๊าตอนแปดโมงกว่า ๆ มาม๊าแปรงฟันเสร็จก็อาบน้ำ ปรากฏว่ามีเลือดออกครับ แต่ไม่ปวดท้องเลย ก็ตกใจกันหมดนึกว่าจะคลอดแล้ว หลังจากโทรไปโรงพยาบาล คุณพยาบาลบอกว่าให้รีบไป รพ. หาหมอเพราะไม่แน่อาจจะเป็นอาการเตือนคลอดก็ได้ พบหมอคนแรก (ไม่ใช่หมอที่ฝากท้อง หมอที่มาม๊าฝากท้องผ่าตัดคลอดให้คุณแม่อีกคนนึงอยู่) หมอคนนี้ตรวจแล้วบอกว่า คลอดวันนี้แน่ ๆ เลย ผ่าเลยนะ วันนี้วันดีด้วย แต่เดี๋ยวรอเจอหมอที่ฝากท้องก่อนนะ ก็ขึ้นไปรอที่ห้องรอคลอดเลย รอจนสิบเอ็ดโมงหมอก็ออกจากห้องผ่าตัด (รู้สึกว่าจะมีคนเจ็บท้องกะทันหันมาผ่าคลอดสองคน) ปรากฏว่าหมอบอกว่ายังไม่น่าจะคลอดวันนี้ พรุ่งนี้ก็น่าจะยัง แต่มาม๊ากับปาป๊าก็อดเป็นกังวลไม่ได้เนื่องจากมีเลือดออก หมออธิบายว่า ปากมดลูกเริ่มเปิดแล้ว เลยอาจทำให้มีเลือดจากเส้นเลือดฝอยไหลออกมาได้ หมอเลยบอกว่าถ้างั้นอยู่นอนที่ รพ. คืนนึงละกันถ้าไม่แน่ใจ ระหว่างที่อยู่ รพ. พี่พยาบาลสวย ๆ ทั้งนั้นเลย ก็เอาเครื่องมาตรวจสุขภาพผมครับ ตรวจชีพจรและตรวจการดิ้น ปรากฏว่าสมบูรณ์ดีทุกอย่างครับ เริ่มจากเที่ยงคืน มาม๊าเริ่มท้องตึง ๆ เจ็บจี๊ด ๆ เป็นพัก ๆ ประมาณทุกชั่วโมงจนเช้า ก็ยังคิดว่าจะได้คลอดมั้ย หมอมาตรวจอีกครั้งตอนเก้าโมงครึ่ง หมอยืนยันว่าน่าจะยังไม่คลอดวันนี้ กลับไปนอนที่บ้านก่อนดีกว่า น่าจะอีกหลายวันเลยหละ หมอใช้คำว่า "ปากมดลูกยังไม่สุก" หมอนัดอีกทีวันจันทร์หน้าครับ (วันจันทร์ที่ 18 ตรงกับลูกของแม่หน่อยบุษกรกับพ่อเคนเลยครับ) แต่หมอมีบอกว่าถ้ามีอาการแปลก ๆ ไม่ต้องรอถึงวันจันทร์ ให้มา รพ. ได้เลย ผมก็เลยยังอยู่ในท้องมาม๊าจนถึงตอนนี้... แบบว่าอยู่กับมาม๊าจนชินแล้วก็อบอุ่นครับ เดี๋ยวออกมาชมโลกวันไหนแล้วผมจะมารายงานตัวอีกทีนะครับ มาม๊าบอกว่าตอนคลอดแล้วให้ผมร้องเสียงดัง ๆ เลยครับ จะได้ไม่โดนหมอตีก้นเยอะ มาต่อคับผม ฮิฮิ ดีใจจัง มีแต่คนรอดูลูกคิด แต่ไม่รู้ลูกคิดจะหล่อเหมือนปาป๊าหรือเปล่านะคับ คือถ้าเหมือนปาป๊า ลูกคิดคงจะโกอินเตอร์ ไปเล่นหนังเกาหลีหรือหนังญี่ปุ่นดีน้อ แหะ ๆ ปาป๊าไม่มีเหล่าเต๊งคับ (ตาชั้นเดียว) ลูกคิดอายุ 38 สัปดาห์นิด ๆ แล้วคับผม คุณลุงหมอบอกมาม๊าว่าถ้าอยากจะผ่าก็ผ่าได้เลยคับ เพราะผมแข็งแรงดีแล้ว แต่มาม๊าอยากให้ผมเลือกเวลาเกิดเองมากกว่า ที่คุณลุงหมอใช้คำว่า ปากมดลูกยังไม่สุก หมายถึง ปากมดลูกเปิดแล้ว แต่เปิดแค่นิดเดียวยังไม่ถึง 2 ซม. และยังหนามาก ซึ่งฉีดยากระตุ้นยังไม่ได้ จะทำให้แม่เจ็บมาก ๆ และคลอดเองไม่ได้อีกต่างหาก (ทำให้สุดท้ายอาจจะต้องผ่า เจ็บตัวสองต่อ) ตั้งแต่เมื่อวาน มาม๊าก็ปวดหน่วงแล้วคับ ตอนแรกที่ไม่ปวด ก็งงว่ามันจะปวดยังไง คุณพยาบาลสุดสวยบอกว่าปวดเหมือนปวดประจำเดือนค่ะ มาม๊าก็นึกไม่ค่อยออกว่าปวดยังไง เพราะไม่มีมาเกือบปีแล้วนิ แต่ตอนนี้เริ่มจำได้แล้วหละคับ ถ้าเกิดวันไหนมาม๊าไม่มาป่วนในกระทู้ห้องงานฝีมือ อาจจะแปลว่ามาม๊าไปคลอดผมแล้วนะคับ แม่ยกทั้งหลายคิดถึงผมก็ส่งหลังไมค์ฝากมาม๊ามาได้นะคับ เดี๋ยวผมตอบให้ทุกคนเลยคับ รัก พี่ ๆ ป้า ๆ น้า ๆ ทุกคนเลยคับ จากลูกคิด ปล. ออยตื่นเต้นจังเลย อยากให้คลอดตอนนี้เลยเนี่ย อยากเห็นหน้าลูกคิดใจจะขาดแล้ว ขอบคุณแม่ ๆ ทุกท่านที่มาแชร์ประสบการณ์เจ็บท้องนะคะ ภาวนาให้การคลอดเป็นไปอย่างราบรื่นและเจ็บน้อยที่สุด เพี้ยง! ปล. 2 นี่เป็นรูป "เฮียภูผา" คับ เป็นลูกของพี่ชายมาม๊า หล่อมั้ยคับ ผมจะพยายามหล่อให้ได้เท่าเฮียภูคับ ![]() อ้อ ลืมเล่าตอนสำคัญไปตอนนึงหละ ซึ้งมาก ๆ ใครที่มีจิตใจอ่อนไหว กรุณาเตรียมผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชู่ด้วยค่ะ เนื่องจากคุณฝาละมีต้องไปทำงานวันรุ่งขึ้น (วันพุธ) มาม๊าของออยเลยมานอนเป็นเพื่อนให้ พอตกดึกกำลังจะนอนออยก็เริ่มรู้สึกปวดท้อง แต่ออยก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะยังไม่แน่ใจว่าใช่อาการปวดเตือนหรือเปล่า มาม๊าก็เดินไปรูดผ้าม่านไม่ให้แสงแยงตา จะได้นอนหลับสนิท ออย "มาม๊า อย่าปิดม่านบังนาฬิกา ออยจะดูว่าปวดท้องถี่มั้ย" มาม๊า "อย่าไปดูเลย ช่างมัน จะกี่โมงก็ช่างมัน นอนเอาแรงเถอะ" ออย "ไม่ได้หรอก พยาบาลให้สังเกตดูว่าปวดถี่แค่ไหนแล้ว" มาม๊าเห็นแล้วคงสงสารลูก ที่มองดูแล้วเป็นคนแข็งมาก ๆ แต่ภายในใจอ่อนไหวและเริ่มกังวลกับการคลอดที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า มาม๊าเดินมาจับมือให้กำลังใจ ลูบหัว แล้วพูดว่า "ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ ปวดท้องมากก็เรียกมาม๊าแล้วกันนะ มาม๊าอยู่กับออยที่นี่แหละ" เท่านั้นแหละ น้ำตาไหลพราก เอามือมาม๊ามากอด แล้วก็พยายามลุกจากเตียงไปกอดมาม๊า นึกในใจว่า วันนี้วันแม่ เรายังไม่ได้ให้อะไรแม่เลย แถมยังต้องให้แม่มาเฝ้าอีก ลำบากแท้ ๆ บอกแม่ไปว่า "รักมาม๊านะ" แล้วก็พูดอะไรไม่ออกอีก น้ำตามันไหลไม่หยุดเลย มาม๊าลูบท้องอย่างอ่อนโยนแล้วบอกลูกคิดว่า "ลูกคิดเชื่อมั้ย มาม๊าของลูกคิดเก่งที่สุดในโลกเลย เป็นเด็กดีของอาม่าด้วย ต่อไปเค้าจะต้องเป็นแม่ที่ดีของลูกคิดแน่นอน เชื่ออาม่าสิ" ได้ยินเท่านี้ออยก็ยิ่งร้องไห้ไม่หยุด เพราะไม่ค่อยได้ยินคำชมจากมาม๊าเท่าไหร่ บางทีจะชอบคิดว่ามาม๊าชมแต่คนอื่น ตั้งแต่โตมาออยมักจะได้ยินคำบ่น ตำหนิหรือต่อว่า ที่จริงแล้วเป็นการสอนของมาม๊าที่ไม่อยากให้ลูกโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่เหลวไหล เมื่อมาม๊ามองเห็นว่าเราทำตัวไม่ถูกก็จะเตือนทันที แต่ในใจออยรู้นะว่ามาม๊ารักลูกทุกคนมากแค่ไหน เพียงแต่มาม๊าจะไม่ค่อยชมให้ลูกเหลิง มาม๊าหันไปหยิบกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตาให้ออย แล้วบอกว่า "นอนซะลูก เผื่อว่าจะคลอดพรุ่งนี้จะได้มีแรง อีกไม่นานก็จะได้เห็นหน้าลูกแล้วนะ ทำใจให้สบาย" แล้วสองคนแม่ลูกก็นอนคุยกันอีกเกือบชั่วโมงกว่าจะหลับกันไปพร้อมกับรอยยิ้มและความสุขใจ ปล. ตอนพิมพ์เพิ่มครั้งนี้น้ำตาก็ไหลอีกแล้วค่ะ คิดถึงมาม๊าจัง ลุงหมอยืนยันครับ...ว่าผมเป็นผู้ชาย
วันศุกร์ที่ 25 กรกฏาคม 2551 (35 สัปดาห์)
วันนี้มีนัดกับลุงหมอคับ ที่จริงหมอนัดเมื่อวาน แต่ปะป๊าไม่ว่าง ติดคอนเฟอเรนซ์ (อะแฮ่ม อินเตอร์มั้ยคับ) เลยเลื่อนมาเป็นเช้านี้คับ ไปถึงโรงพยาบาลตั้งแต่แปดโมงกว่า ได้เป็นคิวแรกเลยคับ คุณลุงหมอมาถึงเก้าโมงนิด ๆ ก็เข้าไปรอตรวจ มะม๊าขึ้นเตียงเสร็จหมอบอกว่าต้องอัลตร้าซาวด์ อ้าว ย้ายห้องดิ ย้ายไปห้องอัลตร้าซาวด์ คุณลุงหมอก็เอาเจลมาทาท้องมะม๊าแล้วไถที่ตรวจไปทั่วท้อง พร้อมทั้งวัดขนาดอวัยวะต่าง ๆ มะม๊าก็ถามหมอว่า หัวลูกคิดอยู่ไหน หมอบอกว่าตรงกลางท้องใต้สะดือ ส่วนขาอยู่ท้องด้านขวา มะม๊าก็บ่นกับหมอ "แต่ทำไมชอบเจ็บซี่โครงด้านซ้ายไม่รู้" แล้วมะม๊าก็เลยฟ้องหมออีกว่า "ลูกคิดดิ้นจนเจ็บขาหนีบเลยค่ะ" แต่หมอก็ไม่ได้ว่าอะไร คงเป็นเรื่องปกติ อยู่ดี ๆ ปาป๊าก็ถามลุงหมอว่า "เอ่อ ตกลงว่าเป็นผู้ชายใช่มั้ยครับ" หมอก็ไถแท่งตรวจไปมาแป๊บนึงแล้วบอกว่า "น้องหนีบขา แต่หมอเคยบอกว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหละ" ปาป๊าตอบว่า "ผู้ชายครับ" หมอบอกว่า "ถ้าหมอเคยบอกว่าผู้ชายก็คือผู้ชาย ถ้าบอกว่าไม่แน่ก็คือไม่แน่" แต่หมอก็ไม่ละความพยายาม ก็ไถต่อไป พยายามให้ลูกคิดถ่างขาออกให้ได้ ซักพักนึงหมอก็หยุดแล้วบอกว่า น้องเอาขามาบังอ่ะ แล้วก็ยกขาสองข้างขึ้นมาทำท่าให้ดู บอกว่า "น้องทำท่านี้อ่ะนะ เลยมองไม่เห็นเลย" เอ่อ มาม๊าก็อึ้งไป ไม่น่าเชื่อว่าหมอจะทำท่าให้ดู อิอิ น่ารักดี หมอก็ยังไถต่อไป แล้วหมอก็ส่งเสียงดัง "นี่ไง ๆ ไข่ แล้วนี้ก็ ... " (หมอเรียกภาษาชาวบ้าน แต่มาม๊าเรียก "ช้างน้อย" ละกันนะ) แล้วหมอก็รีบกดอัดภาพให้ทันที ชี้จุดเกิดเหตุด้วย คอนเฟิร์มว่า "ผู้ชายแน่นอน" หมอบอกว่าที่ตรวจครั้งนี้ หมอเน้นดูไต หมอให้ดูไตสองข้าง ว่าน้องมีครบ และมีกรวยไต หมอบอกว่าถ้าคลอดแล้วจะดูไม่ได้ เลยต้องดูตั้งแต่ตอนนี้ โดยรวม ๆ ถือว่าปกติ ส่วนอวัยวะอื่น ๆ ต้องรอดูเมื่อคลอดแล้วอีกทีนึง ส่วนน้ำตาล "ไม่มีครับ" เย้ ๆ (หรือเป็นเพราะตอนเช้ากินแค่ขนมปังคู่เดียวกะนมไม่รู้) ก่อนกลับหมอปริ๊นท์ภาพ "อวัยวะ" ที่ยืนยันว่าลูกคิดเป็น "ผุ้ชาย" กับ ไตสองข้างไว้เป็นที่ระลึก อ้อ ลุงหมอยังบอกว่า กำหนดคลอดน่าจะไม่เกิน 3 - 4 อาทิตย์ ซึ่งก็จะประมาณไม่เกินวันที่ 20 สิงหาคมนี้ จากเดิมที่เคยคำนวณไว้ว่าประมาณ 28 สิ่งหาคม ปะป๊ากับมะม๊าตื่นเต้นจังเลย จะได้เจอหน้าลูกคิดแล้วนะ เรามานับถอยหลังดัวยกันนะจ๊ะ มาม๊าเกือบเป็นเบาหวาน !!!
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2551
เดือนนี้ลุงหมอนัดวันอาทิตย์ที่ 11 ครับ มีนัดตรวจน้ำตาลด้วย ไม่ต้องอดอาหารหรือน้ำ เค้าให้กินน้ำเชื่อม 50 g. มีผสมมะนาวด้วยนิดหน่อย แล้วรอหนึ่งชั่วโมงจึงเจาะเลือด รอ ร้อ รอ...ปาป๊าเลยชวนมาม๊าลงไปนวดฝ่าเท้า...ถามเค้าว่าคนท้องนวดได้ไหม เค้าบอกว่าได้เลยนวดเลย ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงพอดี พอเจาะเสร็จก็ต้องรออีก...พอผลออกก็เข้าไปหาลุงหมอ ลุงหมอบอกว่าทำคะแนนได้สูงดี แต่สอบตก เพราะว่าเกินเกณฑ์และอาจเสี่ยงกับการเป็นเบาหวาน พรุ่งนี้ให้มาตรวจใหม่อีกที แต่ต้องงดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน...แป่ว ถ้าตรวจแล้วน้ำตาลยังสูงเกินเกณฑ์ต้องไปปรึกษาหมออีกท่านนึงเพื่อทำการควบคุมน้ำตาล ทำไงดีหละ ใจก็คิดไป เฮ้อ สองอาทิตย์ที่ผ่านมากินแต่ของหวาน ๆ เค้กเอย บ้าบิ่น หม้อแกง เป๊ปซี่ อันนี้อยากกินเอง ส่วนมังคุดกะเงาะ กินเป็นโล ๆ เลย อี๊ซื้อให้กินอ่ะ ไม่กินก็กลัวเค้าเสียใจ วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2551 วันนี้งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืนมา มาถึง รพ. 7.30 น. พยาบาลมาเจาะเอาเข็มคาไว้ให้ เพราะว่าต้องเจาะเลือดทุกชั่วโมงเป็นจำนวนสี่ครั้ง โอ้ว....และถ้าเจาะทุกครั้งมันก็จะเจ็บสี่ครั้ง เพราะฉะนั้นเจ็บครั้งเดียวดีกว่า 7.30 น. เจาะคาเข็มเสร็จก็เจาะเลือดไว้หนึ่งหลอด แล้วก็กินน้ำหวาน ครั้งนี้หวานมาก น้ำตาล 100 กรัม ตอกแรกนึกว่าเหมือนครั้งที่แล้ว ดูดอึก ๆ โอ๊ย หวานมาก ๆ...แสบคอเลย ทีนี้ก็รออีกหนึ่งชั่วโมง 8.30 น. เจาะเลือดหลังกินน้ำตาลครั้งที่หนึ่ง 9.30 น. เจาะเลือดหลังกินน้ำตาลครั้งที่สอง 10.30 น. เจาะเลือดหลังกินน้ำตาลครั้งที่สาม รอผล....แล้วก็เข้าพบลุงหมอ...ผลปรากฏว่าครั้งนี้สอบผ่าน แต่ลุงหมอบอกว่าต้องควบคุมอาหารหวาน ๆ จำพวกแป้งและน้ำตาลด้วยตัวเองนะ...รอดตัวไป ปล. ในระหว่างนี้ก็อดใจได้บ้างไม่ได้บ้าง กินไปก็รู้สึกผิด แต่ความอยากมันก็มี เค้าว่ากันว่าเบาหวานทำให้เกิดอันตรายกับลูก...แม่จะพยายามนะจ๊ะ ไปหัวหิน...อีกครั้ง
3 - 5 พฤษภาคม 2551
วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2551 วันนี้ได้ไปเที่ยวอีกแล้ว เย้ ๆ คราวที่แล้วได้พักแค่คืนเดียว แต่คราวนี้ได้มาพักสองคืนครับ ออกเดินทางประมาณเก้าโมงเช้า ไปเรื่อย ๆ ก็ถึงหัวหิน พยายามหาร้านบ้านใกล้วัง จะไปกินเค้กมะพร้าวอ่อนที่ร้านนี้ เค้าดังมาก หายังไงก็ไม่เจอขับเลยไปด้วย และเพราะมีงานกาชาดปิดหน้าร้านทั้งหมดที่อยู่ติดหาด เลยได้กินข้าวเที่ยงที่ร้านอยู่เย็น ซึ่งก็เป็นอีกร้านที่แนะนำ อยู่ติดริมหาดเลย บรรยากาศดีมาก ๆ มาม๊าสั่งผัดไทกุ้งสด ปาป๊าสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่อบ อาหารออกรสหวานนำ เลยไม่เข้าตากรรมการ พอกำลังจะกลับ ฝนก็เริ่มตก เลี้ยวรถออกไปพอดีปาป๊าเหลือบไปเป็นป้ายชื่อร้าน โอ้ว ดีใจจริง ๆ นึกว่าจะอดกินเค้กซะแร้ว ปาป๊าให้ลงไปก่อน ซื้อใส่กล่องก็ได้ แต่พอดีหาที่จอดรถได้ ก็เลยมานั่งกินกัน มาม๊าสั่งเค้กมะพร้าวอ่อน ปาป๊าสั่งเค้กช็อกโกแลตนิ่ม อร่อยมาก เนื้อเค้กมะพร้าวนุ่ม หน้าเค้กเนียน โรยด้วยมะพร้าวอ่อน แทบจะละลายไปในปาก ส่วนเค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มมาก ช็อกโกแลตที่ราดด้านหน้ายังอุ่น ๆ เลย เค้าอุ่นราดเวลาที่มีคนสั่ง โหย...คิดแล้วน้ำลายยังสออยู่เลย... เสร็จแล้วก็มุ่งหน้าเขาเต่า เข้าที่พัก I cliff เลยจากที่พักคราวก่อน Millford แค่ตึกเดียวเอง อาคารดูเก่า ๆ เหมือนกำลังซ่อมแซม เห็นเค้าว่าเอาคอนโดเก่ามาทำเป็นโรงแรม ดูไปดูมาน่าจะเป็นเจ้าของเดียวกับ Millford เพราะกุญแจยังพิมพ์ว่า Millford เลยหละ คืนแรกได้ห้องพักวิวภูเขา (Mountain View) ราคาตั้ง 2,300 บาทแน่ะ ค่อนข้างแพงสำหรับห้องแบบนี้ เรียบ ๆ ไม่มีอะไร...ตอนเข้าไป น้ำในชักโครกสีเหลืองอ๋อยเลย ต้องเรียกแม่บ้านมาจัดการขัด แล้วก็เปิดน้ำทิ้งค่อนข้างเยอะ เหมือนไม่เคยมีใครใช้มาก่อน ตอนเย็นออกไปกินข้าว ที่เขาตะเกียบ มีคน (ในเว๊บ) แนะนำร้านจิตตรามา ก็เลยเข้าไปกิน ปรากฏว่าปูหมด ก็เลยสั่งอย่างอื่นแทน เฮ้อ เสียดายจัง วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2551 เช้านี้ตื่นมาอากาศดี กินข้าวเช้าของโรงแรมเพราะรวมอยู่ในค่าห้อง อาหารก็พอใช้ได้ ไม่ถึงกับอร่อย เดี๋ยวนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม แย่จังเลย กินเยอะ ๆ ไว้ก่อน จะได้มีแรง เสร็จแล้วก็ไปว่ายน้ำ กว่าจะหิวก็บ่าย ๆ เลยขับรถเข้าไปในวนอุทยานปราณบุรี อากาศดี คนกินข้าวเยอะ ทำให้รออาหารค่อนข้างนาน แต่ไม่เป็นไร ยังไม่หิว สั่งปูหนึ่งโล ปลาหมึกแดดเดียว และแกงป่าปลาทราย (หรือปลาเห็ดโคน) ปูเนื้อร่วน ๆ อ่ะ ไม่อร่อย แต่ก็อดทนกิน กะว่ายังไงก็ต้องหาปูสดกินให้ได้ แบบว่าอยากมาก แกงป่าอร่อยมากเลย ตอนเย็นก็ยังไม่หิว ทำไงดี เลยขับรถเข้าไปหัวหิน วนไปวนมา กิน Burger King ก็ได้ เหอ ๆ ได้กินตอนมาทะเลทุ้กที (คราวก่อนก็ได้กินตอนไปพัทยา อยู่กรุงเทพไม่ค่อยได้กิน) อ้อ คืนนี้ได้พักห้องซีวิว ราคา 2,500 บาท...ก็งั้น ๆ อ่ะ ถือว่าแพงสำหรับห้องตกแต่งแบบนี้ วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2551 ว้า วันนี้ต้องกลับบ้านแระ...ไม่อยากกลับเลยอ่ะ ชอบทะเล เช็คเอ้าท์ออกตอนเที่ยง เสี่ยงดวงไปดูร้านคุณต้อยที่เขาตะเกียบ ได้กินทั้งปู และกั้งเลยหละ ปูเอาไปนึ่ง ส่วนกั้งเอาไปทอดกระเทียม ... คุ้มจริง ๆ ขากลับแวะซื้อขนมที่แม่บุญล้นตามเคย ซื้อทั้งบ้าบิ่นและหม้อแกง ก็คราวที่แล้วยังกินไม่สะใจเลยอ่ะ แต่ผลปรากฏว่าตอนไปหาหมอตามนัดน้ำตาลขึ้น จนเกือบเป็นเบาหวาน ซึ่งจะเป็นอันตรายกับลูก หมอบอกให้งดของหวาน เฮ้อ .... ไม่น่าเลยอ่ะ พาอาม่าไปเที่ยวทะเล (หัวหิน - เขาเต่า)
14 - 15 เมษายน 2551
วันนี้ได้ไปเที่ยวอีกแล้ว เย้ ๆ คราวนี้พาอาม่าไปครับ แต่ไปแค่คืนเดียวเอง ไปพักที่คอนโดของพี่สาวเตี๋ยตัน ที่อยู่ตรงเขาเต่า ชื่อ มิลฟอร์ดพาราไดซ์ แต่ครั้งนี้เตี๋ยตันไม่ได้ไป มีแต่ครอบครัวโกวมุ้ยไปครอบครัวเดียว แล้วก็เจ้แอน เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ รถก็ติดตามระเบียบครับ กว่าจะถึงก็บ่าย ๆ เหนื่อยทั้งคนขับคนนั่ง ปาป๊าก็นอนพักผ่อนตามเคย อากาศดีมากครับ ตกเย็นปาป๊าพาทุกคนไปกินข้าวที่ครัวคุณต้อยเจ้าเก่าเขาตะเกียบ กินเสร็จเจ้พลอยอยากกินโรตีครับ เตี๋ยชัยเลยพาเจ้พลอยไปซื้อที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน พวกเราแยกกันกลับครับ แต่น้ำมันจะหมด ปาป๊าเลยต้องไปหาเติมน้ำมันที่ตลาดหัวหินเหมือนกัน ไปเจอกันตอนเติมน้ำมันด้วยครับ อิอิ รถติดมากลุ้นแทบแย่ว่าน้ำมันจะหมดก่อนหรือเปล่า ไม่อยากเข็นอ่ะครับ วันรุ่งขึ้นก็ต้องรีบเก็บของกลับบ้านครับ เพราะวันรุ่งขึ้นเจ้พลอยต้องไปยื่นคะแนนแอดมิดชั่นเพื่อเข้าเรียนมหาลัย (ผมต้องรออีก 18 ปีครับ) เฮ้อ ไม่อยากกลับเลย อากาศดีมาก ๆ อยากให้อาม่าได้สูดอากาศบริสุทธิ์อีกเยอะ ๆ เลยครับ ทำไงได้ทุกคนจะกลับแล้ว ขากลับพาอาม่าไปไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคลก่อน แล้วก็แวะซื้อขนมที่แม่บุญล้น บ้าบิ่นอร่อยมากครับ แล้วก็ขนมหม้อแกงด้วย มาม๊าชอบมาก ๆ เลยครับ เอาไว้มาเที่ยวใหม่ละกันนะครับ...บ๊ายบาย |
คุณรักผมและผมรักคุณ
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Friends Blog
Link |