Group Blog
 
All blogs
 

Kamui Gaiden (2009): คามุยยอดนินจา


ญี่ปุ่น

Kamui Gaiden (2009) :
พ่อหนุ่ม เคนอิชิ มัตซึยาม่า หรือ L ขวัญใจสาวๆ จากหนังสุดฮิต Death Note กลับมาอีกครั้งกับผลงานที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนสุดคลาสสิค(อีกแล้ว)เรื่อง The Legend of Kamui ที่ตีพิมพ์ระหว่างปี 1964-1971 ซึ่งก็ดังมากพอที่จะถูกนำไปสร้างเป็นหนังการ์ตูนทีวีอยู่หลายครั้ง และยังเป็นหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ถูกนำไปตีพิมพ์ขายในอเมริกา(ในปี 1987)อีกด้วย แสดงว่าของเขาดีจริงน่ะสิเนี่ย


พ่อหนุ่ม L เรามีโอกาสโชว์ความล่ำอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้
เวอร์ชั่นหนังใหญ่นี้ก็เริ่มต้นด้วยการแสดงให้เห็นว่านินจาหนุ่มหน้ามนคนเจแปน คามุย (มัตซึยาม่า) ไม่อยากเป็นนินจาอีกต่อไป ซึ่งตามกฏของนินจาแล้วการจะยุบสภาลาออกจากการเป็นนินจาได้นั้นก็ต่อเมื่อคนๆ นั้นกลายเป็นศพ ว่าแล้วคามุยเราก็ต้องหนีการตามล่าฆ่าไม่เลี้ยงจากพวกเดียวกัน แล้วระหกระเหินไปพบปะผู้คนและสถานที่อันห่างไกลความเจริญมากมาย แต่มีหรือที่เหล่าศัตรูผู้ตามล่าเขาจะปล่อยให้เขาหนีลอยนวลไปอย่างสบายใจเฉิบ ว่าแล้วก็ต้องตามมาป่วงชีวิตพระเอกเราจนได้บู๊กันกระจาย แล้วก็ปิดท้ายด้วยการทิ้งเชื้อไว้สำหรับภาคต่อเอย(ซะงั้น)


เขาสวมบทนินจาคามุยได้อย่างทะมัดทะแมง
หนังเริ่มต้นมาได้อย่างน่าดู เพราะทั้งโลเกชั่น เครื่องแต่งกาย นักแสดงล้วนดูดีมีชาติการ์ตูน ส่วนฉากแอ็คชั่นที่เน้นการนำสลิงและซีจีเข้ามาใช้นั้น ก็เยอะดีแต่ก็ไม่ได้ดูล้นจนน่าเกลียดอะไร ทว่าพอหนังฉายๆ ไปกลับเริ่มจะเฉื่อยเฉยลงเรื่อยๆ ไปซะงั้น แม้พ่อหนุ่ม มัตซึยาม่า จะดูดีในบท คามุย และเล่นคิวบู๊ได้อย่างทะมัดทะแมงแต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก เพราะหนังดันไปแบบเรื่อยๆ ไม่หือไม่อือจนออกทะเล (ทะเลจริงๆ นะเออ) ฉากบู๊เด็ดๆ ก็ขาดแคลน(ที่มีก็ไปอยู่ในช่วงแรกหมดแล้ว) ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้เลยที่ดูหนังจบแล้วจะรู้สึกว่า 'แหม่ น่าเสียดายจัง' หนังมีศักยภาพที่จะสนุกได้ แต่ก็ทำออกมาไม่สนุกซะงั้น เสียดายๆ


มีดาราคุ้นหน้ามาร่วมแจมหลายคน
  • น่าดูเพราะ: แฟนๆ หนุ่ม มัตซึยาม่า คงไม่พลาดหนังเรื่องนี้กัน แถมเขาก็รับบทบาทได้อย่างทะมัดทะแมงซะด้วยสิ
  • ไม่น่าดูเพราะ: หนังเริ่มต้นอย่างน่าดู แต่ยิ่งดูยิ่งน่าเบื่อไปอย่างน่าเสียดายชะมัด



*ช่วงรู้มั้ยเอ่ย? (แล้วจะรู้ไปทำไมเนี่ย)*

ดาราฮ่องกงอย่าง เจิ้งอี้เจี้ยน (42 ขวบ) จาก The Storm Warriors (2009) เขาก็อุตส่าห์มาร่วมแจมในหนังด้วย ในบท Dumok ตัวโกงใหญ่ของเรื่องเชียวนะจะบอกให้ (โอ้ว!?)




 

Create Date : 28 มีนาคม 2553    
Last Update : 8 มิถุนายน 2554 6:30:25 น.
Counter : 7531 Pageviews.  

14 Blades (2010): จอมยุทธ์ดาบแยะ

ฮ่องกง-จีน

14 Blades (2010) :
ก็ไม่รู้ว่าหนังกำลังภายในเรื่องนี้ของเฮีย เจิ่นจื่อตัน (หรือ Donnie Yen จาก Ip Man [2008]) กะจะเกทับหนังของ ฉีเคอะ เรื่อง Seven Swords (2005) หรือเปล่า เพราะจากชื่อเรื่องก็บอกกันโต้งๆ เลยว่ามีดาบเยอะกว่าเป็นเท่าตัว เห็นแล้วก็คงจะอดคาดหวังเสียไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้คงจะสนุกกว่า บู๊กว่า อลังการกว่า เป็นสองเท่าแน่เชียว ซึ่งอันนี้นั้นเราก็ต้องดูกันอีกทีล่ะเนอะ


เฮียดอนนี่ เยน กระเตงหีบดาบไปไหนมาไหนด้วยตลอดเรื่อง(จะขนกันไปทำไมเยอะแยะ)
หนังพาย้อนไปยังสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งเฮียเขารับบท มังกรเขียว(เป็นบรรพบุรุษของหนอนชาเขียวหรือเปล่าเนี่ย?) หัวหน้าหน่วยสังหารที่ขึ้นตรงกับฮ่องเต้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ในขณะที่ฮ่องเต้กำลังมอมเมากับสุรานารีจนไม่เป็นอันสนใจบ้านเมือง ขุนนางชั่วเลยสมคบคิดกันจะยึดบัลลังค์ มีหรือพระเอกเราจะยอมได้ แต่หน่วยของเขากลับโดนชิงลงมือฆ่าตายเรียบซะก่อน เขาเลยต้องระเห็จหนีการตามล่าไปนอกเมือง เพื่อยับยั้งแผนการชั่วนี้ ซึ่งก็เปิดโอกาสให้หนังได้บู๊กัน ทั้งในป่า ในทะเลทราย โรงเตี๊ยม วัดร้าง ฯลฯ เรียกได้ว่าพระเอกเราโผล่ไปที่ไหน ก็จะได้บู๊กันที่นั่นกันเลยทีเดียว


คุณ จ้าวเหว่ย สามารถพาความสดใสมาสู่ตัวหนังได้เป็นอย่างดี
หนังโดดเด่นในด้านเสื้อผ้าและฉากที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและใส่ใจจากผู้สร้าง รวมทั้งงานด้าน CG ในการเนรมิตเมืองกลางทะเลทรายและโลเกชั่นต่างๆ ได้อย่างดูดี แต่ทว่างานด้านอื่นๆ นั้นกลับออกมาธรรมดาซะงั้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องที่ ฉับๆๆ เดินดุ่ยๆ ตามสไตล์หนังจีนส่วนใหญ่ จนหลายครั้งมักจะพาคนดูสับสน และไม่สามารถทำให้คนดูผูกพันกับตัวละครในเรื่องได้เท่าที่ควร ถ้าจะดูกันที่คิวบู๊ก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหนังกำลังภายในยุคนี้ที่ไม่ได้ดูแย่หรือโดดเด่นเป็นที่น่าจดจำ ในขณะที่เหล่านักแสดง เฮีย เยน เราก็มาในมาดเดิมๆ ของแก ที่ต้องวางหน้าตาย เก๊กเข้าไว้ และมีฝีมือเทพ ส่วนคนอื่นๆ ก็ผลุบๆ โผล่ๆ นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไปตามสไตล์หนังจีน(อีกนั่นแหล่ะ) ยังดีนะที่มีคุณ จ้าวเหว่ย (Mulan [2009]) ที่สามารถพาความสดใสมาสู่หนังได้อยู่บ้าง


คนซ้ายบางอารมณ์แล้วดูคล้ายพี่ติ๊ก เจษฎาพร สมัยหนุ่มๆ เลย
ผกก.Daniel Lee (Three Kingdoms: Resurrection of the Dragon [2008]) พาสไตล์ทำหนังแอ็คชั่นสมัยใหม่ไปสู่หนังกำลังภายในบรรยากาศยุคโบราณได้แบบ อืมม..ดูตลกดี ไม่ว่า หีบดาบที่พระเอกเรากระเตงไปไหนมาไหนด้วยตลอด ที่กลายเป็นกล่องสารพัดประโยชน์ไปซะงั้น ไหนจะหน้าไม้ยิงระเบิดที่ยิงออกมาแล้วดูคล้ายกับปืน RPG สมัยนี้แน่ะ ที่น่าเสียดายคือหนังตั้งชื่อซะให้ความสำคัญกับดาบทั้ง 14 เล่ม แต่ในหนังกลับพูดถึงดาบเหล่านี้อย่างผิวเผิน และไม่ได้เน้นถึงความพิเศษของดาบเหล่านี้สักเท่าไหร่ (ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้ทุกเล่มด้วยมั้ง) แต่เอาน่า โดยรวมแล้วหนังก็อยู่ในระดับพอดูได้ ฉากและเสื้อผ้าดูดี ใครคิดถึงเฮีย เยน ก็ดูแก้คิดถึงกันไปพลางๆ ก่อนจะได้ดู Ip Man 2 ก็แล้วกัน

  • น่าดูเพราะ: มีดีที่เสื้อผ้า ฉาก และหนังอยู่ในระดับที่พอดูได้ ไม่ถึงกับแย่หรือว่าดี
  • ไม่น่าดูเพราะ: เป็นหนังกำลังภายในระดับพื้นๆ ถ้าอยากดูหนังเจ๋งๆ ของเฮียเยนก็ต้อง Ip Man โลด





 

Create Date : 17 มีนาคม 2553    
Last Update : 6 พฤษภาคม 2553 22:18:21 น.
Counter : 4154 Pageviews.  

Mother (2009): หัวอกคนเป็นแม่


เกาหลีใต้


Mother (2009) :
ผลงานล่าสุดของ ผกก.บอง จูนโฮ (The Host [2006]) เรื่องนี้ยังคงเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและเอกลักษณ์แบบที่หาได้จากหนังของเขาเช่นเดิม แถมนักแสดงนำอย่างคุณ คิม เฮจา ก็แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมจนซิวรางวัลนำหญิงยอดเยี่ยมจาก Asia-Pacific Film Festival มาครอง ที่น่าสนใจอีกอย่างคือนี่เป็นหนังเรื่องแรกในรอบ 5 ปีของพ่อหนุ่ม วอน บิน (Taegukgi [2004]) อดีตขวัญใจสาวๆ เชียวนะเนี่ย


ลูกชายโดนจับคุณแม่ก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา
หนังเล่าเรื่องของ เฮจา (ก็ป้าเฮจานั่นแหล่ะ) คุณป้าที่เปิดร้านขายโสมอยู่ในเมืองเล็กๆ แถบภาคใต้ของเกาหลีใต้ ป้าอยู่กันสองคนกับ โดจูน (วอน บิน) ลูกชายวัย 27 ที่ไม่ค่อยจะเต็มสักเท่าไหร่ ซึ่งป้าก็พยายามประคบประหงมลูกเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนลูกชายออกจะรำคาญป้าซะนี่ และแล้วงานก็เข้าเมื่อมีการพบศพสาวมัธยมถูกฆ่าทิ้งไว้บนหลังคาบ้านร้างแห่งหนึ่ง จากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุก็ชี้ตรงมายัง โดจูน ตำรวจเลยรวบตัวไปสวบสวน แต่ด้วยความที่ โดจูน ไม่ค่อยเต็มเลยเซ็นสารภาพผิดไป คุณป้าเราเชื่อเต็มร้อยว่าลูกชายของเธอไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นได้ลงคอ และคงถูกใส่ความแน่ เลยต้องลุกขึ้นมาสืบหาฆาตกรตัวจริงด้วยตนเอง และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยลูกรักของป้าออกมาจากคุกให้จงได้


พ่อหนุ่ม วอน บิน กลับมาอีกแล้วนะจ้ะ แฟนๆ (ยังมีแฟนเหลืออยู่มั้ยเนี่ย?)
หนังมาแนวสืบหาตัวฆาตกรคล้ายๆ กับ Memories of Murder (2003) เพียงแต่เปลี่ยนจากการสืบสวนของตำรวจ เป็นการสืบสวนของคุณแม่สไตล์บ้านๆ ที่รักลูกจนต้องลุกขึ้นมาทำทุกอย่างเพื่อช่วยลูก ซึ่งหนังก็เล่าเรื่องราวได้ดี ไม่ได้จงใจเค้นน้ำตา หรือออกแนวน้ำเน่าแต่ประการใด ที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้นคุณป้า คิม เฮจา ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในบทคนเป็นแม่ ที่ทั้งน่าสงสาร น่าหมั่นไส้ และดูสติแตกอยู่ในที ดูป้าแสดงแล้วอยากจะปูผ้ากราบงามๆ สักทีสองทีด้วยความทึ่งในฝีมือเลยเชียว ส่วนพ่อหนุ่ม วอน บิน นั้นก็ใช่ย่อย ถึงแม้จะห่างหายจากวงการซะหลายปีดีดัก แต่ก็กลับมารับบทหนุ่มไม่เต็มที่ชวนให้คนดูทั้งสงสารและหมั่นไส้ได้เป็นอย่างดีเลย


คนเป็นแม่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อลูกได้มากแค่ไหนกันหนอ
ประเด็นแม่ลูกแบบนี้นั้นสากลจริงๆ เรามักจะพบเห็นคุณแม่ที่รักทะนุถนอมคุณลูกมาก ซึ่งบางทีดูแล้วเป็นการให้ความรักในแบบที่ผิดๆ แต่ถ้ามองข้ามเรื่องเหล่านั้นไปเราจะพบแต่เพียง คุณแม่ที่รักลูกสุดหัวใจ จริงอยู่ที่พ่อแม่ที่แย่ๆ ก็มีอยู่ แต่พ่อแม่ที่ดีก็มีเยอะ ทว่าสุดท้ายแล้ว ในยามยากลำบากของเรา ไม่ว่าเราจะผิดหรือถูกแค่ไหน แม้คนอื่นๆ จะพากันหันหลังใส่เรา แต่ยังมีคนที่พร้อมจะเห็นใจและอยู่เคียงข้างเราเสมอ นั่นก็คือพ่อแม่ของเรานั่นเอง นี่เป็นหนังเกาหลีคุณภาพอีกเรื่องที่คอหนังไม่ควรพลาดครับ

  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังเกาหลีคุณภาพ การแสดงยอดเยี่ยม เรื่องราวเข้มข้น พลาดได้ไง
  • ไม่น่าดูเพราะ: ดูแล้วไม่บันเทิงเริงใจ ถ้าจะดูเอารื่นเริง ก็พึงหลีกเลี่ยงซะนะ





 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 22 เมษายน 2553 12:57:40 น.
Counter : 3978 Pageviews.  

Unholy Women (2006): ผีสามรส


ญี่ปุ่น



Unholy Women (2006) :
หนังผีญี่ปุ่นที่สมานฉันท์กันมาในรูปแบบเรื่องสั้นสามเรื่องสามรส ที่น่าสนใจตรงที่มีชื่อของ Takashi Shimizu (ผู้ให้กำเนิดหนังแฟรนไชส์ผีดุอย่าง Ju-on) เข้ามามีเอี่ยวด้วยในฐานะผู้อำนวยการสร้างและยังเขียนบทให้หนึ่งในสามตอนนี้อีกด้วย อืม งานนี้จะมีผีหน้าขาวคลานมาหลอกอีกมั้ยน๊อ...


มือ(ผี)ขยันมาช่วยขย้ำ
หนังมากันสามตอนสาม ผกก. ซึ่งได้สัมปทานเรื่องละประมาณ 30 นาที ประกอบด้วยเรื่องราวที่พอจะบอกคร่าวๆ (ซึ่งทางเราขอตั้งชื่่อตอนให้แบบขอเอาฮาไว้ก่อน)ได้ดังต่อไปนี้



โฉมหน้าผีแกร๊กๆที่เชี่ยวชาญในการวิ่งไล่หลอกคน
ตอนที่ 1: 'ผีแกร๊กๆ' ผีชุดแดงที่นิยมหลอกผู้คนแบบโฉ่งฉ่าง แถมวิ่งไล่เหยื่อได้อย่างว่องไวปานนักวิ่งลมกรด ที่ดูแล้วผีตัวนี้ก็น่าจะเป็นคู่แข่งของสองแม่ลูกจูออนได้เลยล่ะ (ถ้าอยากรู้ว่าทำไมเราถึงเรียกว่า ผีแกร๊กๆ ก็ต้องหามาดูให้รู้กันเองนะจ้ะ อิอิ)

  • ตอนแรกนี้เน้นหลอกตะบี้ตะบันเหมือนหนังจูออน เพียงแต่ว่าตัวผีจะออกแนวหลอกโฉ่งฉ่างกว่า วิ่งไล่หลอกอย่างว่องไว พ่วงด้วยเอฟเฟกท์ที่ทำให้หน้าตาผีดูพิลึกเข้าไว้ ซึ่งถึงจะไม่มีอะไรใหม่มาให้ดู แต่ก็ทำได้มีลุ้นมีสนุกพอควร แถมตอนจบก็มึนๆ ตามแบบที่หนังผีญี่ปุ่นพึงจะเป็นอีกด้วย



ความพิลึกปนซาดิสม์สไตล์ปลาดิบมีมากำนัลแน่นอน
ตอนที่ 2: 'สาวสยิวกระสอบสยอง' เรื่องราวสุดพิลึกของสาวที่คลุมกระสอบช่วงบนของลำตัวไว้ตลอด แล้วก็ได้ออกเดทกับหนุ่มน้อยหน้ามนที่ดูเหมือนจะไม่เต็มใจนัก แต่เรียวขาเธอสวยเร้าใจ ยั่วยวนให้น่าค้นหาสิ่งที่อยู่ภายใต้กระสอบเสียจริง ซึ่งเขาก็คงจะได้พบกับอะไรพิลึกๆ สยองๆ สไตล์มิติพิศวงแน่นอน

  • ตอนที่สองนี่ฉีกแนวไปเป็นเรื่องของตัวประหลาดที่ให้อารมณ์สยองแบบพิลึกๆ ซึ่งก็เล่าเรื่องได้ดี มีซาดิสม์ และมีความเป็นสากลที่สุดในสามตอนนี้แล้ว



หนูน้อยคนนี้จะเอาตัวรอดได้หรือไม่หนอ
ตอนที่ 3: 'ผีมือกวัก' ตอนสุดท้ายที่เสนอเรื่องราวของคำสาปที่อยู่คู่ตระกูลหนึ่งมาช้านาน โดยผู้ชายในตระกูลมักจะหายตัวไปอย่างลึกลับกัน จนมาถึงรุ่นล่าสุดที่ก็น่าลุ้นว่าจะเอาชนะคำสาปกันได้หรือไม่

  • ในขณะที่ตอนท้ายสุดนี้ ดันทำออกมาได้น่ากลัวน้อยที่สุด และก็ค่อนข้างน่าเบื่อด้วยซ้ำ จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เอาตอนนี้มาไว้ส่งท้าย



อย่ามองกันด้วยสายตาอย่างงั้นสิเจ๊
โดยรวมแล้วหนังมีความหลากหลายอยู่พอควร แม้จะไม่ถึงกับหลอนจับจิตหรือสามารถมอบมิติใหม่ให้กับหนังผีญี่ปุ่นได้ แต่ก็นับว่ายังดูได้เพลินๆ และน่าจะถูกใจคอหนังผีเอเซียทั้งหลายนะจะบอกให้

  • น่าดูเพราะ: เหมาะสำหรับคอหนังผี โดยเฉพาะผีเอเซียสัญชาติญี่ปุ่น

  • ไม่น่าดูเพราะ: ไม่มีอะไรใหม่ๆ และบางตอนก็น่าเบื่อซะ ดูห้าแพร่งของเรายังสนุกกว่าเลย


นี่คือบางส่วนจากในหนัง


ปล.พี่น้องสามารถหาดูหนังเรื่องนี้แบบเต็มๆ ได้ใน Youtube เพราะมีผู้ใจดีได้อัพโหลดไว้ที่นั่นแล้ว ซึ่งก็มีทั้งเวอร์ชั่นซับสเปนกับเวอร์ชั่นซับอังกฤษให้เลือกดูกันตามอัธยาศัยเลยเน้อ




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 11 เมษายน 2553 10:44:15 น.
Counter : 12333 Pageviews.  

Living Death (2009): อพาร์ทเม้นท์ซ่อนผี


เกาหลีใต้


Living Death (2009) :
เดี๋ยวนี้หลายคนคงเอียนหนังผีเกาหลีกันแล้ว เพราะกี่เรื่องๆ ก็มีแต่ผีผมยาวๆ ปิดหน้าปิดตา เที่ยวคลานไปหลอกคนซะให้วุ่น แต่ช้าก่อน หนังผีเกาหลีดีๆ ก็ยังมีออกมาให้ดูกันอยู่เรื่อยๆ และนี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลอนได้ใจ แถมนางเอก นัม ซังมี (Dead Friend [2004]) ก็ยังน่ารักได้อีก


นางเอกคุณสิ่งที่ดึที่สุดของหนังเรื่องนี้
คืนหนึ่ง ฮีจิน (นัม ซังมี) ได้รับโทรศัพท์จากแม่ที่อยู่ ตจว.ว่าน้องสาวของเธอ โซจิน ได้หายไปจากบ้าน เธอจึงรีบตีรถกลับไปและพบว่า แม่ของเธอกลายเป็นคนคลั่งศาสนาไปซะแล้ว และไหนจะต้องพบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดต่างๆ เมื่อบรรดาคนที่อาศัยอยู่ในอพารท์เม้นท์ได้พากันตายไปทีละคนสองคนอย่างมีเงื่อนงำ ซึ่งยิ่งเธอสาวเรื่องราวลงไปลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งค้นพบว่าอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้อาจมีวิญญาณชั่วสิงสถิตย์อยู่ก็เป็นได้


หนังมาแนวหลอนน้อยๆ แต่หลอนนานๆ
ผกก.ลี ยองจู ประเดิมผลงานเรื่องแรกได้อย่างน่าชมเชย ด้วยการผสมผสานบรรยากาศสุดหลอนเข้ากับแนวทริลเลอร์ โดยไม่ต้องพึ่งพาฉากผีหลอกตุ้งแช่ หรือฉากแหว่ะชวนอี๋ ก็สามารถทำให้คนดูสยองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักแสดงนำอย่างคุณ นัม ซังมี ก็สวยขึ้นกล้อง และแสดงได้อย่างถึงตามที่บทต้องการ (หนุ่มๆ คงจะอดลุ้นเอาใจช่วยเธอไปตลอดเสียมิได้แน่) ในขณะที่นักแสดงคนอื่นๆ ก็ล้วนมอบบทบาทที่สามารถสร้างความไม่น่าไว้วางใจให้กับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นหนังผีเกาหลียุคใหม่ที่น่าจะต่อลมหายใจให้กับกระแสหนังผีเกาหลีได้อีก และขอเตือนว่าไม่ควรดูหนังเรื่องนี้คนเดียวนะจะบอกให้ (เพราะมันเหงา) เหอๆ


เมื่อกี้เราได้ชมความน่ารักของนางเอกไปหรือยังนะ? (อิอิ)
สิ่งที่น่าคิดในหนังก็คือ วิญญาณชั่วนั้นมีจริง และมันสามารถเข้ามามีอิทธิพลต่อมนุษย์ได้ก็ต่อเมื่อเขาเหล่านั้นมีความเชื่อในบางสิ่งที่งมงายสุดกู่ ทั้งยังมีความเห็นแก่ตัว และการคิดหาเหตุผลเข้าข้างตนเองในสิ่งที่ตนเชื่อนั้นด้วย นั่นแหล่ะคือสิ่งที่พวกมันแสวงหา และตอนนี้พวกมันก็กำลังวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวทั่นดุจสิงห์คำราม เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ ดังนั้นจงระวังระไวไว้ให้ดีๆ นะครับ เหอๆ

  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังผีเกาหลียุคใหม่ที่ทำได้ดี หลอน และเอิ่ม.. นางเอกน่ารักจัง(ออกนอกหน้าเชียวเรา)
  • ไม่น่าดูเพราะ: ออกแนวหลอนๆ นิ่งๆ ไร้ซึ่งอะไรที่มันตุ้งแช่ ชวนสะดุ้งทุกห้านาที ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าน่าเบื่อจัง





 

Create Date : 23 มกราคม 2553    
Last Update : 22 เมษายน 2553 12:59:15 น.
Counter : 2588 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

Nanatakara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




  • Friends' blogs
    [Add Nanatakara's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.