เกาหลีใต้Castaway on the Moon (2009) : ยอดชายนาย คิม (จูง แจยัง จาก Welcome to Dongmakgol [2006]) เป็นหนุ่มออฟฟิศจิตตกที่เจอปัญหาหนี้สินรุงรังเลยคิดสั้นโดดสะพานตายเห่าซะให้รู้แล้วรู้แร่ด แต่ก็ไม่ได้ตายสมใจอยาก เพราะดันลอยไปเป็นปลาพะยูนเกยตื้นยังเกาะเล็กๆ ที่อยู่กลางแม่น้ำฮัน ไอ้จะหาทางออกจากเกาะก็ทำไม่ได้เพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็น ก็เลยต้องจำใจละทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลังและใช้ชีวิตอยู่บนเกาะนั้นไปตามยถากรรม
คนจิตตกสองคนจะมารักกันให้เราได้เห็นส่วนแม่สาว คิม (จอง รยอวอน จาก My Boyfriend is Type-B [2005]) นี่ก็จิตตกไม่แพ้กัน เพราะเธอเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปไหนมา 3 ปีแล้ว โดยมีคุณแม่คอยส่งข้าวส่งน้ำอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ กิจวัตรประจำวันของเธอก็คือการสร้างตัวตนปลอมๆ ของเธอขึ้นมาในอินเตอร์เน็ต และการถ่ายรูปดวงจันทร์และโลกภายนอกจากหน้าต่างห้องบนอพาร์ทเม้นท์ของเธอเอง
ดูเหมือนสองคนนี้จะซกมกไปกันได้เลยนะเนี่ยแล้วสองคนนี้ก็ต้องมาจ๊ะเอ๋กัน เมื่อสาวคิมดันส่องกล้องไปเจ๊อะพ่อคิมกำลังสติแตกบนเกาะอยู่พอดี ด้วยความที่ทั้งคู่เหมือนเป็นคนที่แปลกแยกจากโลก เลยทำให้เธอเริ่มสนใจในตัวเขา หลังจากที่ถ้ำมองเขาอยู่สองสามเดือน ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจติดต่อไปยังเขา และทำให้เธอได้ก้าวออกมาจากห้องเป็นครั้งแรกในรอบสามปีด้วย (โอ้ว) มิตรภาพอันแสนแปลกประหลาด แต่ก็น่ารัก น่าประทับใจของหนุ่มสาวชื่อเดียวกันคู่นี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามกันได้ตามยถากรรมเทอญ (อ่าว)
สองคนนี้แฟนหนังเกาหลีคงจะคุ้นหน้ากันดี
คุณ ผกก.แฮ จังลี ทั้งกำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ ที่เหมือนไม่มีอะไร ให้ออกมาน่าสนใจได้ไม่น้อย แม้ดูๆ แล้วจะนึกถึงหนังติดเกาะของป๋า Tom Hanks อย่าง Cast Away (2000) อยู่บ้างก็ตามที แต่ก็ไม่ได้ออกมาน่าเกลียดอะไร เพราะเติมเรื่องราวความรักของคู่หนุ่มสาวผู้โดดเดี่ยวเข้าไปได้อย่างน่ารัก และพระนางยังแสดงกันได้ดีซะด้วย เลยสามารถรับผิดชอบหนังที่แทบจะเล่นกันอยู่กันแค่สองคนตลอดเรื่องได้อย่างดี แม้ว่าช่วงท้ายของหนังจะมาแบบเกาหลี๊เกาหลีไปซะหน่อย และถ้าจะว่ากันจริงๆ แล้วพระเอกเราก็น่าจะหาทางออกจากเกาะได้ไม่ยากก็ตามที ก็ยังนับว่าดูกันได้เพลินๆ และมีแง่คิดให้ด้วยนะเอ้อ
สาวคนนี้ดังในบ้านเราอยู่พอดูจะเห็นได้ว่านอกจากชื่อจะเหมือนกันแล้ว พระนางของเรื่องยังเป็นคนที่โดดเดี่ยวและถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเหมือนๆ กัน เพียงแต่ว่าฝ่ายชายจะโดดเดี่ยวอย่างไม่ตั้งใจ ในขณะที่ฝ่ายหญิงนั้นโดดเดี่ยวตนเองด้วยความตั้งใจ แต่หนังก็แสดงให้เราเห็นว่า สิ่งที่ทำให้เขาเลิกคิดสั้นและสู้ชีวิตอยู่ต่อไป และเธอที่ตัดสินใจก้าวเท้าออกจากห้องในรอบสามปี นั่นก็คือ "ความหวัง" ชีวิตที่ไม่มีความหวังก็คงจะมืดมน ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงก็อย่าได้ละทิ้งความหวังใจอันดีของทั่นลงนะจ้ะ สู้ๆ!
- น่าดูเพราะ: ดูเพลิน ฮา น่ารัก มีแง่คิด เป็นหนังรักโรแมนติก-คอมเมดี้ที่ดีอีกเรื่องของเกาหลีเขาเลยล่ะ
- ไม่น่าดูเพราะ: หนังเล่นกันส่วนใหญ่แค่สองคน และมีแต่คนโทรมๆ ซกมกๆ มันไม่ค่อยน่าดูนักหรอกมั้ง