Fly to nanaspace... , Welcome to my place...

เจ้าหญิงเม็ดทราย / อัญชรีย์



เจ้าหญิงเม็ดทราย / อัญชรีย์


อย่าเพิ่งงงนะค้าว่าทำไมถึงเพิ่งมาอ่าน แบบว่าบ้านหลังเขาง่ะ ความจริงช่วงนี้กำลังติดพันอ่านเรื่องtwilight อยู่เลย แต่อ่านได้แค่วันละบทสองบทเท่านั้นแหละ (อ่านไปเปิดดิคไปด้วยมันเหนื่อยนา...) ม้านนก็เลยไม่จบซะที อิฉันเลยได้ฤกษ์หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านซะ เห็นมันล่อตาล่อใจอยู่บนชั้นหนังสือมานานละ..หมั่นไส้ (เอากับอิฉันสิ) ปรากฏว่าวันเดียวก็อ่านจบแล้ว


คำนำในเรื่องนะคะ
..เขาเหมือนเจ้าชายที่คู่ควรกับเจ้าหญิง แต่เธอ...นอกจากจะไม่ใช่เจ้าหญิงแล้ว ยังเปรียบตัวเองเป็นแค่กรวดทรายที่เกือบจะไร้ค่า ไม่มีราคาเมื่อเทียบกับเขา.. ช้อบชอบ หญิงสาวผู้ต้อยต่ำ กับเจ้าชายผู้สูงส่ง อย่างกับซินเดอเรล่า เหอๆ แต่ไม่ใช่หรอกค่ะ พระเอกในเรื่องก็ใจร้ายกับนางเอกไม่น้อย ใจร้ายยังไงมาอ่านต่อค่ะ


เปรียบเธอดั่งเจ้าหญิงเม็ดทราย.. ก็แน่ล่ะ คุณอัญชรีย์เธอให้นางเอกนอกจากจะไม่สวย เรียกว่าขี้เหร่แล้วยังเป็นลูกกำพร้าอีก (จนนั่นแหละ) ด้วยสองคุณสมบัตินี้ก็แทบไม่น่าจะเป็นนางเอกได้แล้วล่ะค่า คุณๆเอ๋ย.. (อย่างน้อย ถ้าไม่รวย ก็ต้องงามแต้ๆเข้าตาพระเอกบ้าง แต่นี่ไม่) นางเอกของเรา "กช" (ไม่รู้ชื่อจริงว่าไรเหมือนกัน จำไม่ได้แล้ว) ตอนเด็กๆเธอถูกใครต่อใครข่มเหงมาตลอด เลยเจียมเนื้อเจียมตัวพอสมควร กระทั่งนายจิรพัส หนุ่มเพลย์บอยเข้ามาในชีวิต ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างที่คุณๆคิด นายจิรพัสก็ไม่ได้เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวแต่อย่างใด หมอนี่เรียกใช้นางเอกอย่างกับทาสเช่นกัน (กชเธอว่างั้นน่ะค่ะ) แต่นายนี่ก็หยิบยื่นเงินให้ ชีวิตอันแสนรันทดก็เลยเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา นางเอกที่แสนงกของเราก็เลยคบกับนายนี่ยืด


กระทั่งเรียนจบแยกย้ายกันไป นายจิรพัสก็ไปก่อเรื่อง มันทำผู้หญิงท้อง แถมกำลังจะแต่งงานกับลูกคุณหนูอีกคน (เลวเจงๆ) งานนี้ก็ต้องถึงคิวหนูกชออกโรงแล้ว เธอรับอาสา (ด้วยเงินล้านที่เป็นค่าจ้าง แบบว่างกง่ะ) ไปเป็นแม่ให้กับน้องโมจิ (ชอบน้องโมจิมาก เราจินตนาการว่าน้องโมจิต้องน่ารักๆ ตัวนุ่มๆนิ่มๆเหมือนก้อนโมจิแน่ๆ ไว้ถ้าที่บ้านเลี้ยงสุนัขได้เมื่อไรจะตั้งชื่อนี้ค่ะ -_-") คราวนี้กชก็เลยได้เป็นนางเอกซะที รักเด็กค่ะ (นั่นมันนางสาวไทยเฟร้ยย)


กชรับหน้าที่เลี้ยงเด็กให้นายจิรพัสและย้ายเข้าไปอยู่คอนโดที่หมอนั่นซื้อไว้ให้ และที่นี่เองที่กชได้เจอกับคิรากร (พระเอกค่า...) นายนี่เข้าใจผิดว่ากชเป็นแม่แท้ๆของน้องโมจิ คุณอัญชรีย์ว่าคิรากรเห็นหน้านางเอกกับหนูโมจิแล้วคงอึ้งสะบัด (อย่างงกับภาษาอิฉันเลย) แม่ที่แสนขี้เหร่จะมีลูกน่ารักน่าชังได้ยังไง พระเอกของเรา (ก็รักเด็กเช่นกันค่า) เอ็นดูน้องโมจิมาก จนพลอยสนิทสนมกับนางเอกไปด้วย


ต่อมาความจริงก็ปรากฏ แท้จริงแล้วคิรากรเป็นพี่ชายของนายจิรพัส (นี่คือเหตุผลว่าทำม้ายย พระเอกของเราถึงเอ็นดูหนูโมจินัก ก็เป็นลุงนี่นา) และผู้หญิงที่จิรพัสจะแต่งงานด้วยเป็นอดีตคู่หมั้นของพระเอกนี่เอง (เลวกำลังสอง แย่งคู่หมั้นพี่ชาย) นายคิรากรโกรธนางเอกมากเมื่อรู้ความจริงนี้ และเริ่มเป็นห่วงเป็นใยอดีตคู่หมั้นขึ้นมา จึงอยากกีดกันกชออกจากชีวิตจิรพัสอย่างเด็ดขาดโดยตัวเองจะแต่งงานกับกชซะเอง (ทำปายด้าย..)


พอกชกับคิรากรแต่งงานกัน (หลอกๆ) นายจิรพัสเริ่มหงุดหงิดเก็บอาการไม่อยู่ เราคิดว่าเป็นอาการของคนหึงขั้นต้นค่ะ อิอิ นายนี่เริ่มตามรังควานกชมากขึ้น ทั้งมาหาที่ห้อง (อ้างว่ามาหาลูกบ้างล่ะ) ส่งข้อความมาป่วนประสาท อันนี้เราฮามากกับข้อความต่างๆที่นายนี่เขียนส่งมาให้นางเอก อ่านแล้วขำกลิ้ง อิอิ (ใครอยากรู้ ไปหาซื้อมาอ่านนะคะ ..ช่วยเขาโฆษณาเฉยเลยตู)


ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน มีเรื่องวุ่นๆอะไรก็ไม่รู้หยุมหยิม แฟนเก่าพระเอกมาค้างที่บ้านบ้างล่ะ นางเอกจู่ๆก็เจอแม่บังเกิดเกล้าบ้างล่ะ เจอเพื่อนสมัยเด็กบ้างล่ะ อันนี้เราว่ามันยืดๆไปหน่อย ทำให้เล่มหนาเกินความจำเป็น แต่อ่านเพลินๆดีค่ะ


ต่อมานายจิรพัสเริ่มรู้ใจตัวเองมากขึ้น สารภาพกับกชว่ารักเธอ นางเอกของเราก็ไม่เชื่อท่าเดียวค่ะ เธอว่านายนี่คงประสาทกลับแน่นอน คิดว่าเขาแค่กลัวจะเสียทาสอย่างเธอไป (คิดไปได้หนอ) ต่อมาความนายคิรากรก็รู้ความจริงอีกว่าโมจิไม่ใช่ลูกของกช นางเอกกับจิรพัสรวมหัวกันหลอกเขา (เอาเข้าไป) คิรากรเลยยิ่งโกรธนางเอกใหญ่ ขณะเดียวกัน นางเอกขอเราก็เริ่มรู้ตัวว่าหลงรักนายคิรากรเข้าแล้ว ทั้งที่นายนี่ก็ดูถูกนางเอกไม่น้อยไปกว่าจิรพัสเลย (พี่น้องสองคนนี้มันน่าโดนอิฉันคาราเต้คิกซะเปรี้ยง) มีไปจูบกับแฟนเก่าต่อหน้านางเอก ออฟเด็กไปนอนด้วย (ตอนหลังนางเอกเข้าใจผิดนะค้า) ดูถูกจนนางเอกของเราทนไม่ได้ต้องยอมจากหนูโมจิแล้วหนีไป ตอนนี้เราแอบน้ำตาซึม แบบว่าคิดถึงน้องโมจิแทนง่ะ และก็ตามระเบียบค่ะ พระเอกเราพอรู้ใจตัวเองขึ้นมาก็ไปตามนางกลับมายังรังรักอีกครั้ง ฮะๆๆ


เรื่องนี้รวมๆ ชอบมากค่ะ แม้จะรู้สึกว่ายืดไปหน่อย เนื้อเรื่องจริงๆมีไม่เท่าไร แต่คุณอัญชรีย์เขียนได้สนุก นางเอกเป็นตัวดำเนินเรื่อง อ่านแล้วเพลินดี รู้สึกคล้ายๆกับสำนวนของตัวเอง เพราะเราก็ชอบเขียนสไตล์นี้ เวลาได้อ่านความคิดนางเอก หรือเวลานางเอกหลอกด่านายจิรพัส คำพูดประชดประชันต่างๆ ตลกดีน่ะค่ะ



ใครอ่านแล้วก็อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ (ช้ามาก... ถ้าจะไปซื้อของที่ตลาด เรียกว่าตลาดวายตีจากหายไปแล้ว เหอๆ) หรือใครยังไม่ได้อ่านก็อย่าเพิ่งอ่านบล็อกเรานะคะ เดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์เรื่อง (บอกช้าอย่างแรงย่ะหล่อน แหะๆ)




 

Create Date : 11 มกราคม 2552   
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2552 2:01:45 น.   
Counter : 10161 Pageviews.  

สาปพระเพ็ง / กิ่งฉัตร



สาปพระเพ็ง / กิ่งฉัตร

พักหลังๆหันมาอ่านงานเขียนวัยรุ่น แนวรักหวานแหววซะมาก พอได้ฤกษ์หยิบจับงานเขียนของนักเขียนฝีมือคุณภาพอย่างคุณกิ่งฉัตรมาอ่านแล้วรู้สึกเต็มอิ่มยังไงไม่รู้ เหมือนขาดอาหารที่มีสารวิตามินครบถ้วนมานาน เหอๆ

ตอนได้นิยายเรื่องนี้ เพื่อนก็พูดกรอกหูมาด้วยว่าไม่ค่อยหนุก อ่านไปได้บทสองบทก็หยุด อ่านไม่จบซะที มันแนวผลกรรมแต่ชาติอดีด ตามมาเอาคืนในชาตินี้ เราก็เริ่มไม่แน่ใจ เคยอ่านบทรีวิวมาก่อนหลายคนว่ามันหนุกนี่นา เอาไงดี กำลังจะไปเที่ยว แบกไปอ่านด้วยดีไหม แต่ด้วยความที่มีตัวเลือกไม่มาก อยู่ไกลบ้านแบบนี้ มีนิยายให้อ่านก็บุญแล้ว... ก็เลยเอาไปด้วย

ปรากฏว่า... อ่านแค่บทนำก็รู้สึกถูกชวนให้ติดตามอ่านต่อได้อย่างไม่น่าเชื่อ อาจเป็นเพราะประโยคทิ้งท้ายว่า ...การทำสงครามครั้งนั้นก่อให้เกิดโศกนาฎกรรมที่ยาวนานกว่าพันปี... สงสัยเราจะชอบนิยายประมาณนี้

พอมาบทที่หนึ่ง ก็กลับมาสู่ยุคปัจจุบัน นางเอกของเรื่อง..คฑารัตน์ เหมือนคุณนายอลินจากสูตรเสน่หาแปลงกายมา หล่อนกรี๊ดวิ้ดบึ้มใส่ทุกคน เป็นเจ้าแม่ในสำนักงาน ใครเห็นเป็นต้องหลบ เว้นแต่นักศึกษาฝึกงานอย่างวิวรรธน์ที่มาในคราบหญ้าอ่อนอยากหม่ำโคแก่ ไม่ว่าจะโดนลงไม้ลงมือ ด่าว่ายังไงก็ยิ้มรับเสมอ อ่านแล้วแอบหลงรักนายนี่ตั้งแต่บทแรกเฉยเลย ..แบบว่าบ้าเด็ก

นอกจากวิวรรธน์แล้วก็เห็นจะมีอีกหนึ่งหนุ่มที่ไม่ยอมยกธงขาวให้กับอลิน เอ้ย คฑารัตน์ก็คือผู้กองสถบดีหรือลูกพี่ของวิวรรธน์ (คฑารัตน์เธอว่างั้นอะ) เป็นเรื่องที่แปลกดี มีพระนางสองคู่ แต่มีไม่ถูกกันเองด้วย นายนี่ไม่ชอบคฑารัตน์ แต่กลับไปชอบรัดเกล้าน้องสาวของเธอ คู่นี้ต่างรู้สึกรักและผูกพันกันอย่างรวดเร็ว ...เป็นผลมาจากชาติปางก่อนอะนะ

มีการดำเนินเรื่องควบคู่กันไประหว่างอดีตกับปัจจุบันคือ การสืบสวนคดีฆาตกรรมในปัจจุบันดึงให้สี่คนนี้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน ในระหว่างสืบเสาะคดีนั้นทั้งหมดบังเอิญไปพบกับนรสิงห์ชายชราลึกลับในบ้านร้าง ที่คฑารัตน์บอกว่าตาแก่นี่คอยแต่จะเล่านิทานให้ฟัง หากแท้จริงแล้วมันคือเรื่องจริงเมื่อพันกว่าปีมาแล้ว นรสิงห์เคยทำกรรมไว้กับสถบดีและรัดเกล้าซึ่งในอดีตเป็นคู่รักกันต้องพรากจากกันจึงต้องตามมาชดใช้โดยคอยช่วยเหลือทั้งคู่ยามเกิดเรื่องร้ายระหว่างการสืบคดี

แม้จะเป็นการเล่าเรื่องเล่าสลับกันไปมาหากเนื้อเรื่องของทั้งในอดีตและปัจจุบันเข้มข้นน่าติดตามไม่น้อยไปกว่ากันเลย การเล่าเรื่องในอดีตก็แปลกดีพิลึกที่จู่ๆคนสี่คนก็มาโผล่ที่บ้านร้างพร้อมๆกัน ส่วนเนื้อคดีฆาตกรรมในปัจจุบันก็ชวนให้คนอ่านลุ้นระทึกไปด้วยจนกว่าปมทั้งหมดจะคลี่คลาย

แต่แล้วปมปริศนาในคดีก็พลิกล็อคอย่างคิดไม่ถึง คนที่เป็นฆาตกรกลับเป็นคนที่อยากฟื้นคดี...ด้วยความโลภที่ไม่สิ้นสุด แถมยังมีผู้ร่วมมือคือพัทธยา ตำรวจหนุ่มที่ดูแลคดีนั้นซึ่งเคยคิดว่าจะเป็นพระนางอีกคู่ในเรื่องด้วยซ้ำ นิยายเรื่องนี้ปิดท้ายที่ปมในคดีฆาตกรรมคลี่คลาย ซึ่งนรสิงห์ก็ได้เข้ามาช่วยสถบดีกับรัดเกล้าโดยดึงมือของคฑารัตน์และวิวรรธน์เพื่อเป็นการชดใช้กรรมที่เคยทำไว้ร่วมกัน

แม้จะยังรู้สึกหดหู่กับการตายของดาราน้อย ลูกสาววัยห้าขวบในอดีตของสถบดีและรัดเกล้าอยู่ก็ตาม แต่โดยส่วนตัวคิดว่าจบที่ตรงแล้วก็เพอร์เฟ็กต์แล้วค่ะ แม้หลายๆคนยังสงสัยว่าจะมีภาคต่อไหม เพราะคุณกิ้งฉัตรทิ้งท้ายไว้ว่าหากนรสิงค์ยังคงต้องตามไปชดใช้กรรมกับคนอีกหลายคนที่เขาเคยทำไว้ และคำพูดที่เคยมีคนสาปแช่งไว้กับนรสิงห์ยังคงติดตัวเขาต่อไปซึ่งก็คงจนกว่าการชดใช้กรรมนั้นจะหมดสิ้น




 

Create Date : 04 มกราคม 2552   
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2552 2:01:25 น.   
Counter : 1142 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

nanaspace
Location :
Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




A novelist,
Wanna be, not Born to be, though
nanaspace | Promote Your Page Too
New Comments
[Add nanaspace's blog to your web]