แล้ว...ซากุระก็จะบาน / Kisaraเรื่องนี้อ่านมาเมื่อประมาณชาติเศษๆ และมีโอกาสได้อ่านแค่ครั้งเดียวก่อนจะต้องทิ้งมันไว้ที่เมืองไทย ไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย แต่เพราะชอบมากๆวันนี้เลยนึกครึ้มอยากย้อนรำลึกความหลังอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ายังมีอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง แต่คงไม่มากก็น้อยล่ะ ยังไงก็อยากบันทึกอะไรเก็บไว้บ้าง และเผื่อว่าใครยังลังเลไม่ตก เห็นหน้าปกสวยๆก็แล้วยังตัดสินใจว่าซื้อไม่ซื้อดีไม่ได้ซะที จะได้ช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้น (ได้ข่าวว่ามันวางแผงมาจะครบปีแล้ว เหอๆๆ) รุจิกร (นางเอกค่า) นักศึกษาสาวชาวไทยที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศญี่ปุ่น ทว่าจู่ๆทุนการศึกษาที่เคยได้รับก็หลุดไปซะงั้น เมื่อไม่ใช่เด็กทุน หอพักที่เคยอาศัยก็เตะเธอกระเด้งออกมาด้วย (เป็นหอพักที่ช่างแปลกและโหดร้าย แทนที่จะให้คนที่ไม่ได้ทุนการศึกษาพัก ว่าไหม?) ทุนไม่มี ที่ซุกหัวก็กำลังจะไม่มี ไอ้ที่มี (เงิน) ก็ร่อยหรอลงทุกวัน ช่างเป็นช่วงชีวิตที่รันทดมากๆ อิฉันเข้าใจๆเลยค่ะ (โดยเฉพาะอันหลังสุด กะตังค์ไม่ค่อยมีเนี่ย แหะๆ) ที่บริษัทนายหน้าหาห้องเช่า เธอบังเอิญเจอกับฮาเซกาว่าซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา (พระเอกค่า) เขาก็กำลังมาหาห้องพักใหม่เช่นกัน นายหน้าห้องเช่าก็มีหน้าที่พาคนทั้งคู่ไปดูห้องที่มีสเป็คใกล้เคียงกับงบและความต้องการ เมื่อเห็นว่าคนทั้งคู่รู้จักกันก็เลยพาไปพร้อมกัน เธอตกใจมากตอนที่แอบเห็นตัวเลขงบประมาณค่าเช่ารายเดือนที่อาจารย์หนุ่มของเธอกรอกใส่แบบฟอร์ม เพราะมันราคาแพ้งแพง อาจารย์หนุ่มสุดหล่อเลยได้ห้องขนาดใหญ่ที่มีสองห้องนอน (พี่แกจะเอาไปหลอกคนที่บ้านว่าที่ต้องย้ายเนี่ยเพราะมีคุณแฟนแล้ว ไม่ต้องมาหาคู่ให้เขา) ส่วนนางเอกของอิฉันขอห้องที่ถูกสุด จะเก่าหรือจะโกโรโกโซแค่ไหนก็ช่าง ใช้ซุกหัวนอนได้เป็นพอ -_-" (น่าฉงฉาน) ต่อมาพระเอกก็งานเข้าเมื่อคุณยายป่วย และตามมารยาทคุณแฟน (ซึ่งไม่มีตัวตน) ของพระเอกก็ควรจะไปเยี่ยม คนอื่นๆในครอบครัวก็อยากเห็นหน้า (ไม่แปลกหรอกค่ะ ขนาดแฟนพี่สาว แฟนน้องสาว หรือแฟนเพื่อนสนิทคนไหน ถ้ารู้ว่ามีอิฉันยังอยากเห็นหน้าเลย แล้วลูกๆหลานๆมีแฟน ใครล่ะจะไม่อยากเห็นอยากรู้จัก ใช่มะ?) ฮาเซกาว่าก็ไม่รู้จะไปหาหญิงสาวที่ไหนที่รู้จักเขารู้จักที่พักอาศัยเขามาอุปโลกน์ได้รุจิกรนางเอกของเราก็เกิดปัญหาเหมือนกัน เธอต้องการเงินไปมัดจำค่าเช่าห้อง (เงินหมด แต่ไม่คิดจะกลับประเทศ กะจะหางานพิเศษทำ ช่างไปตายเอาดาบหน้าโดยแท้) มองซ้ายมองขวายังไม่เห็นใครพอจะช่วยได้ จู่ๆเธอก็นึกถึงหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาขึ้นมา เป็นอาจารย์ที่ปรึกษานี่ เห็นมีกะตังค์เยอะด้วย (จำได้ตอนที่เขาใส่จำนวนเงินในงบค่าเช่าห้อง) เธอเลยอยากลองไปรบกวนเขาพอทั้งคู่มาเจ๊อะกัน ก็เลยลงตั๊วลงตัว ฮาเซกาว่าตกลงให้รุจิกรยืมกะตังค์แต่ขอให้เธอช่วยไปแสดงตัวเป็นแฟนให้เขา (ที่มาที่ไปของการมาอยู่ร่วมกันก็เป็นดังนี้แล) แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น เมื่อพ่อของพระเอกซักถามเรื่องย้ายเข้าที่พักใหม่ของคนทั้งคู่ แถมเสนอตัวจะไปช่วยขนของจากหอพักนางเอกเข้าอพาร์ตเมนท์ใหม่พระเอกอีก พอมาถึงตรงนี้แล้วมันก็ต้องเลยตามเลย(( เขียนมาถึงตรงนี้ เพิ่งรู้ตัวว่าจดจำอะไรได้เยอะมากๆ ไม่น่าเชื่อ คงเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว ฮะๆๆ )) อ่ะๆ ต่อๆ ^^รุจิกรย้ายของเข้าที่พักใหม่พระเอก พระเอกก็ไม่ลืมที่จะให้ตังค์ เธอก็รีบเอาเงินไปวางมัดจำค่าห้องใหม่ แต่พอพระเอกรู้ก็ไม่เห็นด้วย เขาเคยเห็นสภาพห้องนั้นแล้ว มันน่ากลัวและอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงคนเดียว สุดท้ายก็เลยปล่อยให้การอยู่ร่วมกันนั้นเลยตามเลย (อีกครั้ง) จากนั้นเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่สาวแสนสวยจากเกาะโอกินาว่าเจ้าของฉายามาดอนน่าเขียนในบล็อกตัวเองว่ากำลังออกเดทกับชายหนุ่มที่มีชื่อย่อว่า H.ซัง ซึ่งทุกคนสันนิษฐานว่าจะเป็นอาจารย์ฮาเซกาว่า ประกอบกับอาจารย์ก็กลับบ้านดึกบ่อยๆ พอนางเอกชวนไปดูดอกไม้ไฟด้วยกันพี่แกก็ไม่มาตามนัดอีก (จริงๆเขาโทรมาบอกแล้ว แต่ติดต่อเธอไม่ได้ต่างหาก -_-") หรือเหตุการณ์ที่รุจิกรต้องไปบ้านเกิดพระเอกกับครอบครัวของเขาในช่วงโอบ้ง เธอไปงอนใส่เขาด้วย (แต่พระเอกก็ไม่ค่อยจะง้อเท่าไร ฮะๆๆ) เพื่อนๆของนางเอกจากเมืองไทยมาเยี่ยมและจะมาพักด้วย อาจารย์หนุ่มของเราก็เลยต้องเนรเทศตัวเองไปนอนที่อื่น (ทั้งๆที่เป็นเจ้าของห้อง)กระทั่งใกล้เวลาที่เธอจะเรียนจบ ต้องกลับเมืองไทย รุจิกรไม่อยากกลับอยากหางานทำที่ญี่ปุ่น อยากอยู่กับพระเอก แต่พระเอกก็ไม่เห็นจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย นางเอกก็งอนๆ (ตอนนี้พระนางของเรื่องเป็นแฟนกันแล้ว แต่เป็นตั้งแต่เมื่อไร จำบ่ได้ค่ะ มันอ่านนานแล้ว...) เธอเก็บกระเป๋ากลับประเทศ แต่ก็ตั้งใจว่าจะกลับมาอีก แต่ที่บ้านไม่ให้มา แถมหาคู่ไว้ให้ด้วยแน่ะ (พล็อตนิยายไทยโดยแท้ อิอิ) ฮาเซกาว่าของเราก็เลยต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาหา (ตามระเบียบ) พี่แกเข้าใจว่าพ่อของนางเอกป่วยเลยซื้อดอกไม้ไปเยี่ยมด้วย (ซื้อพวงหรีดอ่ะค่ะ ฮะๆๆ) และก็ได้คุยกับนางเอกจนเข้าใจกัน และท้ายสุด...ซากุระก็บานสมใจค่ะ จบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ^__^ถามว่าเรื่องนี้หวานไหม? "ไม่" อ่านแล้วฮาไหม? "ไม่" บีบเค้นอารมณ์ตอนเศร้าไหม? "ไม่" งั้น...พระเอกหื่นไหม? "ไอ้บ้า อาจารย์นะโว้ย" เอ้า งั้นโหด เถื่อน แบดบอย ยากูซ่าไหม? "เริ่มมั่วแล้วนะเอ็ง" แต่ถ้าถามว่าชอบไหม "ชอบค่า..." เสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้สำหรับเราคือ อ่านแล้วมันทำให้เห็นภาพชีวิตของนักศึกษาต่างชาติในประเทศญี่ปุ่นได้ดีมากๆ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูง ดังนั้นนักศึกษาต่างชาติจำนวนไม่น้อยต่างต้องอาศัยทุนการศึกษาด้วยกันทั้งนั้น หรือเรื่องประสบการณ์การหาที่พักอาศัย (การเช่าอพาร์ตเมนท์ในญี่ปุ่นต่างต้องผ่านนายหน้าทั้งนั้น) ที่นางเอกจะไปนอนค้างคาราโอเกะแบบโอเวอร์ไนท์ (คิดได้ไง?) เอากระเป๋าไปเก็บที่ล็อกเกอร์ในสถานีรถไฟเพื่อไม่ให้พนักงานร้านคาราโอเกะสงสัยว่าตั้งใจมานอนไม่ใช่มาร้องเพลง (สงสัยว่าคุณKisara เคยทำ อิอิ) หรือการที่พระเอกซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาจำชื่อจริงนางเอกซึ่งเป็นลูกศิษย์ผิดๆ (อันนี้จึกกับตัวเองเล็กน้อย แต่ต่างกันตรงที่อิฉันจำชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาผิด สมควรเรียนจบไหมเนี่ย -_-") ยังมีเรื่องการเขียนบล็อกซึ่งคนญี่ปุ่นชอบเหลือเกิ๊น แล้วก็การใช้ชื่อคนนู้นคนนี้เป็นอักษรย่อ และที่ฮา+โดนใจสุดคือการที่พระเอกเข้าใจมาตลอดว่านางเอกคือคนไต้หวัน อ่านตรงนี้แล้วขำกลิ้ง คิดไม่ถึงว่าคุณKisara จะหยอดมุขนี้ (คนญี่ปุ่นเป็นคนโรคจิตค่ะ ชอบคิดว่าคนไทยคือคนไต้หวัน เจอกับตัวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว... ไทยแลนด์โว้ย ไม่ใช่ไต้หวัน)นอกจากนั้น ถ้าใครอ่านเรื่องนี้แล้วและบอกว่าพระเอกไม่หวานเล้ย... ก็แน่ล่ะ หนุ่มญี่ปุ่นมันหวานที่ไหนกันล่ะ เย็นชาล่ะไม่ว่า ดังนั้นนายฮาเซกาว่า นายนี่แหละหนุ่มญี่ปุ่นของแท้!! อ่านตั้งแต่ต้นจนจบจะเห็นเลยว่าพระเอกไม่เคยบอกรักนางเอกเลย ซึ่งทำให้การขอนางเอกแต่งงานของพระเอกโดนใจเราเต็มๆ พี่แกบอกว่าให้นางเอกไปอยู่กับเขาและคอยรับโทรศัพท์ในนามฮาเซกาว่า กรี๊ด... (กรี๊ดทำไม?) นี่ล่ะค่ะ หวานสุดแล้ว... ฮะๆๆส่วนข้อติติง (ช่างกล้า...) บางประการก็คือเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆเฉื่อยๆสักหน่อย ยังไม่มีจุดไคลแมกซ์ที่เรารู้สึกได้ นางเอกเอะอะๆก็โทรหาน้องชายพระเอกให้ช่วยเหลือเรื่อย แต่ก็ตลกดี มีตอนที่งอนพระเอก โทรให้น้องชายพี่แกมาหา น้องชายพี่แกกลับไม่มา ฮะๆๆ (ธุระไม่ใช่นี่) แต่ก็ได้น้องชายคนนี้นี่ล่ะค่ะที่ช่วยให้พระนางของเราลงเอยกันได้ อันที่จริงแล้วน้องชายแกชอบอยู่กับเจ๊มาดอนน่า (ที่เขียนบล็อกว่าออกเดทกับ H.ซัง ซึ่งก็นายฮาเซกาว่าคนน้องนี่ล่ะค่ะ) และรู้ว่าหากเรียนจบแล้วตัวเองต้องไปอยู่โอกินาว่าเลยอยากให้พี่ชายรีบๆมีแฟน (เป็นน้องชายที่น่ารักมากๆ)เขียนไปเขียนมารู้สึกว่าเขียนละเอียดจัง แทบไม่เชื่อว่าอ่านมาแล้วเกือบครึ่งปี เพื่อนๆอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงงง ยายนี่มันเขียนรีวิวหรือเรื่องย่อหรือเปล่าเนี่ย ฮะๆๆ มันคือบันทึกหลังการอ่าน (เมื่อชาติที่แล้ว) ค่ะ ดังนั้นเราจึงเขียนรายละเอียดทั้งเนื้อเรื่อง อารมณ์หลังอ่าน และบทรีวิวปะๆปนๆกันไปนี่ล่ะค่ะ อิอิใครเคยอ่านแล้วก็อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันนะคะ
เป็นแฟนกันอย่างงงๆ เหมือนใครแถวๆนี้ไม่รุเหมือนกัน น่ารักดี ชอบเหมือนกันค่ะ