Group Blog
All Blog
|
ผัดเปรี้ยวหวาน & ไก่กระเทียมน้ำขลุกขลิก
 ผัดเปรี้ยวหวานสูตรไทยเดิม 555 ทำตั้งชื่อให้มันโบราณไปซะงั้นล่ะ แต่มันก็โบราณจริง ๆ ล่ะ ^^" เพราะใช้น้ำมะขามเปียกแทนซอสมะเขือเทศหรือพวกซอสสำเร็จรูปทั้งหลาย หลังจากโดนคุณแฟนค่อนขอดว่าเธอน่ะเป็นแม่ครัวกึ่งสำเร็จรูป เชอะ วันนี้เลยไม่ง้อแระซ๊อสผัดเปรี้ยวหวานของโรซ่า โทรไปถามสูตรจากแม่ก็อร่อยได้เหมือนกัน อิอิ เครื่องปรุง 1.เนื้อหมูมากน้อยตามชอบเลยค่ะ แต่วันนี้เจ้าของ blog อยากกินผักเยอะ ๆ เลยใส่หมูแค่นิดเดียว 2.แตงกวา 6-7 ลูก 3.มะเขือเทศลูกใหญ่ 2 ลูก 4.หอมใหญ่ 1 หัว 5.สับปะรดซื้อรถเข็น 10 บาท (เพราะขืนซื้อมาทั้งลูกมีหวังไม่ได้กินแน่ค่ะ ปอกไม่เป็น ^^") 6.กระเทียมสับละเอียด 10 กลีบมากน้อยกว่านี้ตามชอบค่ะ 7.น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา (จะใส่เกลือป่นแทนก็ได้ค่ะ) วิธีทำ 1.เจียวกระเทียมให้เหลืองหอมแล้วนำหมูลงไปผัดให้สุก 2.เทน้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลาหรือเกลือป่นลงไปคลุก ๆ เติมน้ำนิดหน่อย ชิมให้ได้ 3 รส เปรี้ยว หวาน และเค็มแค่นิดเดียว 3.ใส่แตงกวาลงไปผัดสักครู่ แล้วตามด้วยสับปะรด หอมใหญ่ มะเขือเทศตามลำดับ เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ ไก่กระเทียมพริกไทยน้ำขลุกขลิก  เครื่องปรุง อกไก่ครึ่งกิโล กระเทียมตามชอบ พริกไทย รากผักชี 3 อย่างนี้ตำให้เข้ากัน ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ชอบหวานก็ไม่ต้องใส่ค่ะ) วิธีทำ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้ากับเนื้อไก่ที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ ให้เข้ากันทิ้งไว้ประมาณครึ่งชม.หรือมากกว่านั้น (เราทำใส่โถแก้วแช่ตู้เย็นทิ้งค้างคืนไว้เลยค่ะ เครื่องเทศจะแทรกซึมเข้าไป ให้เนื้อไก่นุ่มหอมมาก ๆ) 2.เจียวกระเทียมให้เหลืองแล้วตักกระเทียมที่ได้พักไว้ ก่อนจะเทไก่ลงไปผัด ๆ จนสุก แล้วเติมน้ำเปล่า กะให้เกือบ ๆ ท่วมไก่แล้วชิมให้ออกรสเค็มนิดหนึ่ง ถ้าไม่เค็มก็เติมซีอิ้วขาวค่ะ เพราะเดี๋ยวเวลาตักราดข้าวแล้วจะได้รสชาติพอดี 3.พอน้ำเดือดขึ้นมาก็ใส่กระเทียมที่เราเจียวไว้คลุกให้เข้ากัน เหยาะพริกไทยนิด ใส่ใบผักชีหน่อย ตักราดข้าวสวยร้อน ๆ อิ่มง่าย ๆ ไปอีก 1 มื้อ ปล.ไก่กระเทียมเป็นอาหารอีกอย่างที่สามารถทำแล้ว เก็บในตู้เย็นได้หลายวันโดยไม่เสียอรรถรสในการรับประทาน ^^
หมูทอดหมักผงกะหรี่
 อยากกินหมูทอด ก็เลยทอดหมู อิอิ สูตรนี้แม่เราทำให้กินตั้งแต่เด็ก ๆ คิดถึงๆ ก็เลยทำกินเองบ้าง ^__^ เครื่องปรุง เนื้อหมูครึ่งกิโลเราใช้เนื้อสันที่ไม่ติดมันน่ะค่ะ ไม่อยากกินมัน ๆ เยอะ ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา กระเทียม พริกไทย รากผักชีตำละเอียด (กะปริมาณตามต้องการนะคะ เราไม่เคยตวงเลย ^^") น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ซอสถั่วเหลือง น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะครึ่ง (ถ้าใครชอบหวานจะใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วยก็ได้ค่ะ) วิธีทำ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เท่ากัน ใส่ภาชนะมีฝาปิดทิ้งไว้สัก 2 ชม. (แต่ถ้าหิวสุด ๆ ลดเหลือ ครึ่งชม.ก็พอค่ะ ^^ บีบน้ำจากเนื้อสับปะรดหรือนมสดลงไปผสมนิดหน่อย จะทำให้หมูนุ่มเร็วขึ้น) ส่วนเจ้าของ blog เอาเข้าตู้เย็นค้างไว้ 1 คืนค่ะ 2.ใช้ไฟอ่อน ๆ แบบร้อนแต่ไฟไม่แรงน่ะค่ะ ใจเย็น ๆ ทอดไปเรื่อย ๆ ชอบขอบเกรียม ๆ ก็ทอดต่อไปอีก หลังจากที่หมูเหลืองสุกแล้ว แต่ถ้าชอบไหม้ ๆ ก็ทอดไปเรื่อย ๆ แล้วนั่งดูทีวีไปด้วย 555 แค่นี้ล่ะค่ะเสร็จแล้วเราก็จะได้หมูทอดหอมเครื่องเทศไว้ทานคู่กับข้าวเหนียว หรือข้าวสวย ตามชอบค่ะ ^__^ มากินผักกันเถอะ : มื้อเบา ๆ เพื่อสุขภาพกับสลัดทูน่าน้ำใสสไตล์ญี่ปุ่น
 วิธีทำง่ายมาก ต่อให้ชีวิตนี้ไม่เคยทำกับข้าวเลยก็ทำกินได้ ^^ เพียงคุณมี ซีเลคทูน่าสลัดน้ำใสสไตล์ญี่ปุ่น (เอาน่ายุคนี้มันยุคแม่บ้านสำเร็จรูป 555) ซักครึ่งซองก็พอ ใส่เยอะเดี๋ยวมันอร่อยเกิน แคลอรี่เยอะ เจริญอาหารกินหลายชามอีก - -" (แต่อร่อยจริงค่ะน้ำสลัดสำเร็จรูปของซีเล็คสูตรนี้ พึ่งเคยลองหอมงากลมกล่อมมมากกกกก) คลุกเคล้าเข้ากับผักสดที่ชอบ เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค ผักกาดแก้ว แครอท และข้าวโพดอ่อนกับบร๊อคโคลี่หรือกะหล่ำดอกอบไมโครเวฟก็ได้ตามชอบเลย ก่อนจะโป๊ะทูน่าลงไปครึ่งกระป๋องแค่นี้ก็ได้สลัดรสชาติกลมกล่อมเปรี้ยวนิด ๆ อมหวานหอมน้ำมันงาแล้ว ^___^ ประโยชน์จากจานนี้ กรีนโอ๊คและเรดโอ๊ค เรดโอ๊คมีกากใยอาหารมากช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดพวกไขมันและอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในลำไส้ได้ ส่วนกรีนโอ๊คช่วยในการสร้างเม็ดเลือด บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาท และกล้ามเนื้อ บร็อคโคลี่ ผักชนิดนี้บ้านเราเริ่มที่จะรู้จักดี มีหน้าตาคล้ายดอกกระหล่ำ แต่มีสีเขียวและประกอบไปด้วยสารที่มีประโยชน์อย่างมาก ได้แก่ ซัลโฟราเฟน (sulforaphane) และ อินโดล-ทรี-คาร์บินอล (indole-3-carbinol) ซึ่งอาจสามารถทำลายสารก่อมะเร็งก่อนที่จะมีอัตรายต่อร่างกายได้ มีหลายการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า สารต่างๆ ที่อยู่ในบร๊อคโคลี่ สามารถลดความเสี่ยงในการเกิด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งกระเพาะอาหาร บร๊อคโคลี่ยังประกอบไปด้วย เบต้า-แคโรทีน (beta-carotene) เส้นใยอาหารและวิตามินซี การรับประทานบร๊อคโคลี่ให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ควรใช้ไฟอ่อนในการปรุงอาหาร และเคี้ยวขณะรับประทานให้ละเอียด สำหรับผักในตะกูลเดียวกับบร๊อคโคลี่ เช่น กระหล่ำปลี ก็ให้คุณค่าทางอาหารเช่นเดียวกัน แครอท นอกจากจะมีสาร "เบต้าแคโรทีน" ที่มีอำนาจยับยั้งเซลล์ของมะเร็งต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดีและช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกายแล้ว ยังมีแคลเซียมเพคเตท ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ลดการเกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลว ช่วยบำรุงเซลล์ผิวหนังและเส้นผมให้มีสุขภาพดี มีวิตามินเอสูง ช่วยลดการเสื่อมของตา เช่น ต้อกระจกมีสารต่างๆ ที่เป็นทั้งเกลือแร่และวิตามินอีกมากมาย เช่นธาตุแคลเซียม มีฟอสฟอรัส เหล็ก มีวิตามินเอ บี1 บี2 และวิตมินซี ดังนั้นสามารถที่จะทานบ่อยๆ ได้ แต่อาจทำให้มีผิวเหลืองจากสารเบต้าแคโรทีนได้ ผักกาดแก้ว มีแร่ธาตุและวิตามินสูง มีธาตุเหล็กสูงจึงมีประโยชน์สำหรับผู้มีปัญหาโลหิตจางโดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ช่วยป้องกัน โรคโลหิตจาง มีแคลเซียมสูง บำรุงธาตุ ข้าวโพดอ่อน ถ้ากินข้าวโพดอ่อนเป็นประจำ จะช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือด ป้องกันเส้นเลือดแข็งตัว ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการบวมน้ำ รักษาโรคไตอักเสบเรื้อรัง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง และจมูกอักเสบเรื้อรัง ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้เจริญอาหาร กระตุ้นให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีอีกด้วย ปลาทูน่า ปลาทูน่ากระป๋องเป็นอาหารที่มี โปรตีนสูง ไขมันและโคเลสเตอรอลต่ำ เป็นแหล่งของวิตามินและเกลือแร่ ทั้งวิตามิน B12 ไอโอดีน ฟอสฟอรัส ซิลิเนียม สังกะสี และแคลเซียม อีกทั้งยังให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ คือ โอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ และยังช่วยลดโคเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันไขมันอุดตัดหลอดเลือด และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คนรักสุขภาพ เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ข้อมูลอ้างอิงประโยชน์ของพืชผักแต่ละชนิดจาก //www.guidescenter.com/message_board.php?msg_type=4&msg_id=1119 (บร็อกโคลี่) //www.ackhydrofarm.com/php/index_thai_about.php?page=thai_about.php&body=about_nutrition.php (กรีนโอ๊คและเรดโอ๊ค) //www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%97 (แครอท) //www.paktho.ac.th/student/m62549/usa/cabbag%20%20gass%20.html (ผักกาดแก้ว) //www.thaihealth.or.th/node/8471 (ข้าวโพดอ่อน) //www.tropical.co.th/FAQ.html (ปลาทูน่า) มาม่าผัดเบคอน
 เมนูง่าย ๆ ที่ขอการันตีว่าอร่อยมากๆโดยเฉพาะเวลาหิว 555 เครื่องปรุง 1. มาม่า 1 ห่อ สำหรับ 1 ที่ เลือกรสตามชอบเลยค่ะ เราใช้ยำยำรสหมูสับเพราะมันเข้ากั๊น เข้ากัน 2. เบคอน 50 g. ใครชอบกินเยอะก็ใส่มากปริมาณตามชอบเลยค่ะ แต่เราเลือกอันที่มีมันน้อยที่สุด เพราะกำลังไดเอท (ขนาดไดเอทนะเนี่ยะ เมนูแอบแฟนกิน 555) 3.ไข่ไก่ 1 ฟอง 4.กะหล่ำปลีและผักอื่น ๆ ตามชอบ 5.เครื่องปรุงรส ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย วิธีทำ 1.ตั้งน้ำเดือดแล้วเอามาม่าลงลวกพลิกไปพลิกมา สัก 1.5 นาทีก็พอ เพราะเดี๋ยวเราต้องเอาไปผัดอีกไม่งั้นเส้นจะอืดและเละ ๆ ตักขึ้นมาพักไว้ในชาม 2.เจียวเบคอนให้เหลือง ๆ หน่อย ไม่ต้องใส่น้ำมันนะคะ เพราะน้ำมันจากเบคอนก็เยอะมากๆแล้ว (แต่เราไม่ชอบมัน ๆ ก็เลยเทน้ำมันจากเบคอนทิ้งเอาแค่ให้เหลือแค่เคลือบกระทะไว้หน่อยเดียวพอ) พอดีมีลูกชิ้นเหลืออีก 5-6 ลูกจากการทำแกงจืดก็ใส่ลงไปด้วย 3.ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน วันนี้ในตู้เย็นมีข้าวโพดอ่อนกับกะหล่ำปลีก็คลุก ๆ ลงไป (ข้าวโพดอ่อน เอาไปลวกในน้ำที่เหลือจากต้มมาม่าสัก 30-45 วินาทีจะประหยัดเวลาผัดขึ้นมาก) 4.ใส่ซีอิ้วขาวนิด น้ำตาลทรายหน่อยชิมให้แค่มีรสพอปะเล่ม ๆ ระหว่างผัดก็หยอดน้ำลงไปด้วยนิดหนึ่ง กะให้ก้นกะทะไม่แห้ง จะได้ไม่ไหม้เปลืองแรงขัดขจัดคราบ 5.เกลี่ยผักที่ผัดเบคอนไปไว้มุมใดมุมหนึ่ง แล้วตอกไข่ลงละเลง ๆ บนด้านที่ว่าง ก่อนจะเอาผักกับเบคอน มาผัดคลุกให้เข้ากัน 6.เทมาม่าใส่เหยาะเครื่องปรุงลงไปครึ่งซอง (ใส่หมดเค็มโซเดียมเยอะ) ปรุงรสตามชอบ คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันก็หม่ำได้ ปล.เราใส่พริกป่น น้ำตาลทราย บีบมะนาวลงไปอีก 1 ซีก ได้รสชาดเหมือนนั่งกินผัดไทย 3 รส เปรี้ยว หวาน เลยค่ะ  ปล.2 อาหารจานนี้หากอยากให้หน้าตาสีสันสวยงามขึ้น ก็จักแครอทเป็นรูปดอกไม้ลงไปด้วย สีส้มสดใสของแครอทตัดกับสีเขียวของผักและเหลืองอ่อนของเส้นมาม่า จะอัพเกรดมาม่าธรรมดา ให้ดูน่ากินขึ้นอีก 8 หน่วย อิอิ อดข้าวดอกเจ้าชีวาวาย มิตายหรอกเพราะอดสเน่หา
Blog ส่วนนี้ไม่ได้เปิดมาแข่งตอบปัญหากับท่าน นพ.นพพร
แห่งดิลินิวส์นะคะ อิอิ ขึ้นหัวข้อไว้ซะน่าหวาดเสียว แต่ความจริงแล้วว่าด้วยเรื่องอาหารการกินล้วน ๆ ขอเปิดตัวด้วยอาหารแห่งความของเราสุขละกันค่ะ เป็นอาหารทำง่าย ทานง่าย แต่เต็มไปด้วยความทรงจำที่อบอุ่น ทุกครั้งที่ได้ทาน เพราะแต่ละเมนูทำให้เรานึกถึงรสมือของแม่และยาย ที่ใส่ใจลงไปในการทำอาหารเพื่อสมาชิกทุกคนในครอบครัว 1.ผัดเผ็ดไก่  เครื่องปรุง ไก่ น้ำปลา พริกแกง น้ำมันพืช กระชาย ใบกระเพรา วิธีทำ ตั้งน้ำมันพืชให้ร้อน ใส่พริกแกงลงผัดจนหอม แล้วใส่ไก่ลงผัดให้สุก ถ้าแห้งไปก็เติมน้ำ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใครจะใส่มะเขือลงไปด้วยก็ใส่ตอนที่ไก่เริ่มสุกได้ค่ะ เผอิญที่ทำเป็นผัดเผ็ดไก่ล้วนฉบับขาดแคลนผักในตู้เย็น พอสุกดีแล้วก็เอากระชายหั่นฝอยใส่ ก่อนจะใส่ใบกระเพราเป็นลำดับสุดท้าย ใครไม่ชอบกระเพราจะใส่ใบโหระพาหรือใบยี่หร่าแทนก็ได้ค่ะ **พริกแกง สูตรของที่บ้านเราจะประกอบด้วยพริกแห้งเม็ดเล็ก พริกใหญ่(อันนี้จะทำให้แกงสีสวย) เกลือ ข่า ผิวมะกรูด ตะไคร้ กระเทียม ถ้ามีดอกกระเพราหรือดีปลีก็ใส่ลงไปด้วยจะหอมมากขึ้น** 2.ผัดคะน้ากับเต้าเจี้ยวใส่ไก่  เครื่องปรุง คะน้า ไก่ เต้าเจี้ยว (ใครไม่ชอบจะใช้เป็นน้ำมันหอยกับซีอิ้วขาวก็ได้ค่ะ) น้ำตาลทราย กระเทียม พริกไทย วิธีทำ ตั้งน้ำมันให้ร้อนเจียวกระเทียวที่บุหยาบ ๆ แล้วให้เหลืองหอม (เวอร์ชั่นขี้เกียจใช้กระเทียวเจียวสำเร็จรูปค่ะ อิอิ ใส่น้ำมันน้อย ๆ จะได้ไม่เพิ่มพูนไขมัน) เสร็จแล้วก็เอาไก่ลงผัดใกล้สุกก็ใส่เต้าเจี้ยวน้ำตาลทรายชิมรสตามชอบโรยพริกไทยให้หอม ถ้ามันติดกระทะก็เติมน้ำไปในขั้นตอนนี้เลย ก่อนจะเอาผักคะน้าลงผัดจนสุก เสร็จแล้วค่ะง่ายมากเมนูนี้ **ผักคะน้าลวกน้ำร้อนทิ้งก่อน 1 น้ำนอกจากช่วยล้างสารเคมีตกค้าง ยังทำให้ผักนุ่มและประหยัดเวลาในการปรุงลงไปอีกครึ่งหนึ่งทีเดียวค่ะ** 3. ลาบหมู  เครื่องปรุง หมูสับ ข้าวคั่ว เครื่องเทศ(นอกจากข้าวคั่วบ้านเราจะใส่ตะไคร้+ข่า+ใบมะกรูดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ คั่วในกระทะแล้วตำให้ละเอียด เพิ่มความหอมลงไปด้วย)น้ำปลา มะนาว หอมแดง พริกป่น หอมผักชีหั่นละเอียด วิธีทำ นำหมูสับไปรวนในให้สุก แล้วคลุกด้วยข้าวคั่ว ผงข่าตะไคร้ หอมแดง ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว โรยพริกป่น ชิมรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ตามชอบ ใส่หอมผักชีหั่นละเอียดลงไปคลุกให้ทั่วอีกครั้ง โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่สด ตามชอบ ยกเสริฟพร้อมกระหล่ำปลีสด ถั่วฝักยาว **หมูสับนำไปหมักในน้ำมะนาวก่อนนำมารวนจะทำให้เนื้อหมูนุ่มขึ้น** **ถ้าจะใส่ตับหมูและหนังหมูหรือเครื่องในให้นำไปต้มให้สุกก่อน แล้วถึงนำมารวนพร้อมกับหมูสับตอนที่หมูสับใกล้สุก** แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะมีเมนูไหนเป็นอาหารแห่งความสุขกันบ้างเอ่ย 
|
ชิฟฟอนคาปูชิโน่
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?] ชอบน้ำหอมก็เลยเปิดร้านน้ำหอมมินิเป็นงานอดิเรก เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เห็นคนอื่น Happy กับกลิ่นหอมที่ถูกใจค่ะ *** สิทธิ์เป็นของผู้เขียน และผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านต่างๆ หากนำไปใช้รบกวนให้เครดิตด้วย จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณค่ะ*** ติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ wisa.p@me.com @@@@@@@@@@@@@@@@@ I Am Beautiful "ไม่สำคัญว่าใครจะมองเรายังไง แต่มันสำคัญที่ว่า เรามองตัวเองยังไง" Friends Blog
|
|||||||||||||
