ความรู้คือ วัคซีนของชีวิต เพลินอ่านนิยายดี
Group Blog
 
All Blogs
 

สุวรรณภูมิย้อนกลับดอนเมือง ?

เขียนโดย ลูกแก้ว

ก่อนปีใหม่ข่าวระเบิดในกรุงเทพฯกลบเกลื่อนข่าวใหญ่ชิ้นหนึ่งไป มิใช่ข่าวผู้นำรัฐบาลเป็นเจ้าของที่ดินในป่าสงวนหรือทะเบียนสมรสซ้อนของผู้นำคมช. แต่เป็นข่าวรัฐบาลเวียดนามประกาศสร้างสนามบินใหญ่ที่สุดในโลกบนพื้นที่สามหมื่นไร่และตั้งใจทำให้เป็นศูนย์กลางการบินของโลกและของเอเชีย ด้วยศักยภาพด้านเศรษฐกิจของเวียดนามและอุปนิสัยขยันอดทนของเขาซึ่งพัฒนาชาติหลังจากสงครามยาวนานในประเทศให้เจริญรุ่งเรืองผิดตาจากอดีตจนกระทั่งกลายเป็นคู่แข่งทางการค้าด้านข้าวของไทยโดยชิงตำแหน่งที่หนึ่งของไทยไปแล้ว แล้วยังเลื่อนระดับชั้นด้านการส่งออกยางพาราสู่ตลาดโลกเป็นอันดับต้นรองจากมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย เท่านั้น ไม่นานนี้จะเข้าเป็นสมาชิกเดียวกับเราในการกำหนดราคายางพาราของโลกด้วย หากเวียดนามไม่สร้างผลผลิตข้าวและยางพาราได้สูงมาก คงไม่มีโอกาสเข้าเป็นสมาชิกกำหนดราคาสินค้าดังกล่าวได้แน่ ประเทศนี้แย่งลูกค้าไปจากไทยหลายครั้งด้วยปริมาณสินค้าจำนวนสูงและราคาที่ไม่แพง โดยเฉพาะตลาดโลกให้ความไว้วางใจสูงจากความซื่อสัตย์ของเขา ดังนั้น นอกจากจีนแล้วคู่แข่งที่ไทยต้องต่อสู้รักษาตลาดเดิมไว้ คือ เวียดนาม
ภูมิประเทศของเวียดนามคล้ายคลึงกับไทยจึงมีผลผลิตในบ้านเมืองคล้ายกัน ผู้บริหารประเทศของเขาเริ่มมองเห็นว่าการโดดเดี่ยวตัวเองมิใช่ทางเลือกที่ดีและไม่อาจทำให้ประชากรอิ่มท้องได้ เมื่อชาวเวียดนามมีศักยภาพในการปลูกพืชและผลิตสินค้า กอปรกับมีนิสัยขยัน อดทน ประหยัด รัฐบาลเห็นผลผลิตที่มีคุณภาพอยู่จำนวนมากและยอมรับความจริงว่า สมัยใหม่โลกเปลี่ยนแปลง แนวความคิดต้องเปลี่ยนให้รับกับความใกล้ชิดกันของนานาประเทศ ผู้นำจึงเร่งเจรจาเปิดการค้ากับหลายประเทศเพื่อระบายผลผลิตของประชากรแล้วนำเงินรายได้เข้าไปพัฒนาประเทศ แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเคยเป็นศัตรูทางการเมืองกันมาก่อน ผู้นำรัฐบาลเวียดนามยังยอมเจรจาเปิดการค้ากับสหรัฐซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของโลกเพื่อเห็นแก่ความอยู่ดีเป็นสุขของประชากร ทุกวันนี้เวียดนามจึงเป็นประเทศคู่ค้าของสหรัฐและแย่งคำสั่งสินค้าที่เคยเป็นของไทยไปได้มากมาย พ่อค้าไทยหลายประเภทสินค้าต่างร้องโอดครวญกับการทำงานเชื่องช้าของไทยในการรักษาตลาดลูกค้าดั้งเดิมอย่างสหรัฐไว้ นอกจากนั้นเขายังมีนโยบายดึงฐานการผลิตสินค้าจากไทยไปในประเทศของเขาอย่างได้ผลต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ไทยเกิดปฏิวัติรัฐบาลจากการเลือกตั้งและมีนโยบายที่เป็นผลร้ายโดยการขับไล่นักลงทุนต่างชาติ เวียดนามจึงกลายเป็นแหล่งลงทุนใหม่ของต่างชาติไปแล้วนอกเหนือจากมาเลเซียซึ่งพยายามคิดนโยบายที่ชักชวนนักลงทุนนำเงินไปลงทุนในประเทศซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าและพัฒนาคนในประเทศไปพร้อมกันด้วย
แผนพัฒนาประเทศเวียดนามล่าสุดคือ การใช้ศักยภาพพื้นที่อันกว้างใหญ่อันเป็นที่ราบในการสร้างสนามบินแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลังจากเห็นความยิ่งใหญ่ของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นพื้นที่ราบเช่นเดียวกัน ไร้สิ่งกีดขวางที่เป็นอันตรายต่อการบินอันเป็นที่ชื่นชอบของนักบินทั่วโลก รายได้มหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่ไทยซึ่งคุ้มค่ากับหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างมัน เวียดนามยอมทุ่มทุนเงินตราที่หาได้จากการค้าขายเพื่อสร้างสนามบินแห่งชาติใหม่ที่เชิดหน้าชูตาของประเทศและสร้างรายได้มหาศาล เมื่อเห็นสนามบินสุวรรณภูมิใช้พื้นที่ก่อสร้างเต็มโครงการจำนวนสองหมื่นกว่าไร่ เวียดนามจึงประกาศสร้างบนพื้นที่สามหมื่นกว่าไร่ หากเสร็จสิ้นโครงการวันใดสนามบินของเขาจะเป็นสนามบินที่ใหญ่สุดของโลก เราต้องไม่ลืมว่าการหาพื้นที่ว่างและเหมาะด้านภูมิศาสตร์ในการสร้างสนามบินมีน้อยลงทุกวันในทุกประเทศ หากชาติใดมีทำเลเหมาะและพื้นที่กว้างขวางจะครองอันดับความยิ่งใหญ่นี้ไปได้นานและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเพราะจะมีความสะดวกในการใช้บริการอยู่ในเนื้อที่เดียวกันโดยไม่ต้องเดินทางไกลเกินเหตุอันควร
ขณะนี้มีแนวความคิดหนึ่งเกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความยิ่งใหญ่ของสนามบินสุวรรณภูมิของไทยซึ่งกำลังครองอันดับหนึ่งของโลกอยู่ คือ ความคิดที่จะให้สายการบินต้นทุนต่ำซึ่งให้บริการบินในและนอกประเทศไปให้บริการอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งเคยเป็นสนามบินแห่งชาติมานานหลายปี เมื่อสนามใหม่เปิดใช้บริการทุกสายการบินจึงต้องย้ายไปที่สุวรรณภูมิตามนโยบายของรัฐบาลเดิมที่ต้องการให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินของไทยและของโลก นอกจากนั้นยังมีเป้าหมายสำคัญคือ ลดค่าใช้จ่ายด้านการเช่าที่ดินของกองทัพอากาศลงเพราะที่ดินของสนามบินใหม่เป็นของรัฐ จึงไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ความกว้างขวางของพื้นที่ใช้สอยจักเพิ่มศักยภาพในการหารายได้สูงขึ้นเพื่อนำไปใช้หนี้สินที่ใช้สร้างสนามบินให้หมดโดยเร็ว แผนการใช้สนามบินใหม่กำหนดบนพื้นฐานของความเป็นศูนย์กลางการบินของเอเชียและของโลกด้วยศักยภาพด้านภูมิศาสตร์ของไทย จึงมั่นใจว่าถ้ามีการให้บริการของสายการบินหลากหลายจะนำรายได้เข้าสู่ประเทศมากมายเพียงใด เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าสนามบินใหม่และใหญ่โตขนาดนี้ย่อมต้องมีปัญหาในการปฏิบัติงานในช่วงแรกที่เปิดอย่างแน่นอน สนามบินในฮ่องกงซึ่งเปิดใหม่ล่าสุดก่อนสุวรรณภูมิไม่กี่ปียังประสบปัญหามากและนานอยู่ครึ่งปีเศษ จึงเข้าสู่ภาวะปกติได้ ตอนนี้ก็เป็นที่ยกย่องว่าเป็นสนามบินทันสมัยแห่งหนึ่งของโลก เมื่อกลับมามองสุวรรณภูมิของไทยซึ่งเพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่เดือน การแก้ปัญหาหลายอย่างคลี่คลายไปได้มากแล้ว การใช้เทคโนโลยีบริหารทุกระบบในสนามบินต้องย่นเวลาสั้นลงเมื่อเทียบกับการใช้งานของคน ความผิดพลาดของเครื่องยนต์หรือคอมพิวเตอร์ไม่อาจเกิดจากตัวมันได้ แต่มาจากคนใช้เครื่องที่ขาดประสิทธิภาพ การบริหารคนในสนามบินก็ต้องมาจากผู้นำองค์กรไม่อบรมคนให้พร้อมในการทำงานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ คณะบริหารสนามบินที่ขาดคุณภาพในการแก้ไขปัญหาที่มากและจุกจิก แต่มักง่ายด้วยการย้ายสายการบินในประเทศออกจากพื้นที่โดยไม่คำนึงถึงการขาดรายได้และความไม่สะดวกของผู้ใช้บริการ อันเป็นการลดศักยภาพของสนามบินลงหรือใช้สนามบินอย่างไม่เต็มศักยภาพที่ใช้เงินกู้ลงทุนไปมากมาย พวกเขาคิดแค่ต้องการให้รัฐจ่ายค่าเช่าสนามบินดอนเมืองต่อไป เจ้าของสถานที่จะไม่ต้องหาผู้ใช้พื้นที่ใหม่แล้วยังเพิ่มงานอีกชิ้นหนึ่งแก่กลุ่มอิทธิพลเก่าซึ่งตนสนับสนุนเข้าหาผลประโยชน์ในสุวรรณภูมิได้แล้วโดยอาศัยอำนาจของคณะปฏิวัติ และยังหาประโยชน์จากสนามบินเก่าได้อีก กลุ่มที่ได้ประโยชน์จะเริ่มมองเห็นชัดขึ้นว่ามิใช่ประชาชนหรือกลุ่มลูกค้า แต่กลุ่มผู้มีสีหลากหลายต่างหาก
ข้ออ้างที่ว่าการใช้สนามบินแห่งชาติสองแห่งเคยมีปฏิบัติกันในอังกฤษและฝรั่งเศส แต่มองให้ถ่องแท้ในศักยภาพของสองประเทศกับไทยนั้นแตกต่างกันมาก พื้นที่ของอังกฤษหรือฝรั่งเศสซึ่งเป็นเกาะหรือมีความห่างของสนามบินทั้งสองแห่งไม่มากนัก การจราจรไม่ติดขัด อากาศเย็นสบาย แต่กรุงเทพฯของไทยมีการจราจรติดขัดตลอดทุกวัน อากาศร้อนอบอ้าว ความไม่สะอาดของอากาศมีสูง จึงทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางระหว่างสนามบินทั้งสองแห่งไกลและน่าเบื่ออย่างเหลือเชื่อ ต้นทุนการบริหารสนามบินสูงโดยใช่เหตุ แทนที่จะใช้สนามบินโดยไม่มีค่าเช่า กลับต้องจ่ายค่าเช่าที่ดอนเมืองอีกแห่ง เมื่ออดีตไทยยังไม่มีงบประมาณมากพอหรือพื้นที่เหมาะสมในการสร้างสนามบินแห่งชาติเพื่อการพาณิชย์ได้ ก็จำต้องเช่าที่ดินจากกองทัพอากาศก่อน เมื่อเศรษฐกิจของชาติดีขึ้นและมีพื้นที่ของตัวเองแล้ว สุวรรณภูมิจึงถือกำเนิดขึ้นและเปิดใช้งานแล้ว เหตุไฉนไม่คืนพื้นที่ดอนเมืองเพื่อให้กองทัพอากาศนำไปพัฒนาศักยภาพของกองบินเพื่อปกป้องประเทศชาติให้มั่นคงปลอดภัยขึ้น แต่ยังคิดจะนำไปหาประโยชน์ต่อไป อย่างน้อยคนเสนอความคิดนี้ควรละอายใจต่อกองทัพอากาศที่ควรเติบโตและทันสมัยกว่านี้ถ้าได้พื้นที่ดอนเมืองกลับไป เขาอาจใช้พัฒนากองทัพอากาศหรือทำเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานของเอเชียตามศักยภาพกำลังพลของเขาได้ มันจะเป็นการพัฒนากองพลและกองทัพให้ดีขึ้น ส่วนการหาประโยชน์ทางการค้าควรใช้สุวรรณภูมิเท่านั้น เหตุไฉนยังหวนถวิลหาแต่อดีตที่ควรกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว
สนามบินสุวรรณภูมิเป็นความภูมิใจของคนไทยว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นศูนย์กลางการบินของเอเชียและของโลก แม้วันหนึ่งอาจมีเวียดนามหรือจีนมาแย่งตำแหน่งนี้ไป แต่เป็นหน้าที่ของผู้บริหารสนามบินจะต้องรักษาชื่อเสียงของมันให้อยู่ยาวนานที่สุดเท่าที่ควรจะทำอย่างเต็มความสามารถ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นในสนามบินแห่งนี้ทุกคนควรใช้ศักยภาพด้านความรู้ ความสามารถ พิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นว่าคนไทยดูแลคลี่คลายปัญหาของสนามบินใหญ่แห่งนี้ได้เยี่ยงเดียวกับสนามบินฮ่องกงหรือฮีทโทรว์ของอังกฤษ ด้วยความก้าวหน้าและเทคโนโลยีสมัยใหม่คนไทยก็ใช้มันแก้ปัญหาต่างๆได้ เราไม่ใช่คนป่าที่รู้จักใช้หอกดาบตามภาพพจน์ที่ชาวตะวันตกมองคนไทยอีกแล้ว แต่มีสนามบินซึ่งคนทั่วโลกต้องทึ่งใจกับพื้นที่กว้างขวางและความเก่งกาจของคนไทยที่อยู่ร่วมกับเทคโนโลยีล้ำยุคได้เยี่ยงเดียวกับชาวตะวันตกหรือคนสิงคโปร์หรือคนฮ่องกง ผู้บริหารสนามบินของไทยไม่ควรแก้ปัญหาง่ายๆด้วยการลดขนาดการใช้สนามบินใหม่ลง แต่ควรใช้สติปัญญาและความรอบรู้ในการเพิ่มศักยภาพของมันเพื่อดึงดูดลูกค้าหลากหลายเข้ามาใช้บริการของสนามบินอันส่งผลต่อรายได้ของสนามบินและการขยายตัวตามแผนจะเกิดเร็วขึ้นได้ จงละทิ้งอคติว่าคนของใคร แต่มองที่ความสามารถของเขาว่ามีประโยชน์ต่อสนามบินแห่งความหวังของไทยมากแค่ไหน ละทิ้งผลประโยชน์ส่วนตัวและคิดถึงเกียรติภูมิของชาติไว้ก่อน หากตั้งใจลดความสง่างามของมันลงและคิดใช้ดอนเมืองเพื่อเจตนาแอบแฝงด้านประโยชน์ส่วนตนซึ่งทำลายแผนการเงินของสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้กระทำควรถูกประณามว่าทำลายเกียรติภูมิของชาติมากกว่ารักชาติยิ่งชีพแน่ ผู้ใหญ่ทุกฝ่ายควรใช้สติไตร่ตรองให้รอบคอบว่าจะรักษาความยิ่งใหญ่ของสุวรรณภูมิแห่งนี้ไว้ในประวัติศาสตร์ไทยและของโลก หรือ จะทำลายมันเพื่อแลกผลประโยชน์ที่ตนได้รับจากดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ปัญหาเกิดขึ้นให้คนแก้ไข จึงต้องเผชิญหน้ากับปัญหา มิใช่เมินหน้าหรือหนีลงจากเวที มันจะกลายเป็นที่ขบขันของชาวโลกที่คนไทยไม่รู้คุณค่าของสุวรรณภูมิและแก้ไขปัญหาของสนามบินใหญ่ที่สุดของโลกด้วยการพาลูกค้านั่งรถฝ่าการจราจรติดขัดกลางกรุงเทพฯไปขึ้นเครื่องบินในประเทศที่ดอนเมือง แทนที่จะเดินรอเที่ยวบินสบายๆในอาคารเย็นด้วยแอร์แล้วซื้อของที่ระลึกจากไทยติดมือกลับบ้านเกิดหรือต่อเที่ยวบินได้ทันทีในอาคารเดียวกัน แม้ต้องนั่งรอก็ไม่ใช่กลางอากาศร้อนจัดของเมืองไทยซึ่งเป็นที่หวั่นกลัวของลูกค้าต่างชาติมาแล้ว หากผู้บริหารมีใจบริสุทธิ์และรักชาติจริง ควรช่วยแก้ไขปัญหาร่วมกับคณะทำงานของสนามบินสุวรรณภูมิให้มากขึ้น อย่าเกี่ยงว่าเขาเป็นคนที่ใครแต่งตั้งเข้ามาทำงาน แต่ต้องทำงานประสานกันเพื่อลดปัญหาลงให้เร็วที่สุด มันเป็นสปิริตของผู้ใหญ่ที่มีอำนาจและน่านับถือมิใช่วิสัยของผู้มีอิทธิพลที่คิดกอบโกยประโยชน์อย่างเดียว คนไทยไม่อยากให้ชาวโลกเห็นเป็นตัวตลกขบขันและไร้ความสามารถทั้งที่มีสนามบินใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ในมือ แต่ผู้ที่จะไม่ทำให้เกิดภาพขบขันหรือดูแคลนได้ คือ ทีมบริหารสนามบินสุวรรณภูมิ เท่านั้น ดังคำโบราณที่ว่า ไก่ได้พลอย จึงไม่เห็นคุณค่าของพลอย คนไทยมีสุวรรณภูมิอยู่ในครอบครอง แต่ไม่มีปัญญาบริหารงานสร้างรายได้และชื่อเสียงให้ประเทศได้ หลายคนคงหัวเราะขำน้ำตาร่วงกันแน่

*********************************




 

Create Date : 13 มกราคม 2550    
Last Update : 13 มกราคม 2550 14:27:49 น.
Counter : 509 Pageviews.  

เหตุระเบิดกรุงฯกับคนมักง่าย

เขียนโดย ลูกแก้ว

ข่าวระเบิดตามจุดต่างๆในกรุงเทพฯในวันส่งท้ายปีเก่าของพ.ศ.2549สร้างความตื่นตระหนกใจแก่คนไทยอย่างมาก เนื่องเพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยซึ่งทุกคนต่างมั่นใจว่ารัฐบาลต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่ จึงมีการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนานโดยไม่กังวลต่ออันตรายใดๆ อีกทั้งหลายปีที่ผ่านมามีข่าวก่อการร้ายตามชายแดนภาคใต้ซึ่งรัฐบาลชุดเดิมให้ความสนใจต่อการควบคุมขอบเขตภัยใต้ไว้ในจังหวัดเป้าหมายและรอบคอบในการดูแลมิให้ลุกลามเข้าสู่เมืองหลวงเด็ดขาดซึ่งพวกเขาทำได้มาตลอดวาระการเป็นรัฐบาล หลังการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลของประชาชนหลายคนยังเชื่อว่าเมื่อทหารปกครองบ้านเมืองก็น่าจะมีความปลอดภัยดังในอดีต แต่วันอาทิตย์ที่ 31ธันวาคม 2549 ทำลายความหวังของคนไทยต่อประสิทธิภาพการทำงานของผู้มีอำนาจสูงสุดตามกฎอัยการศึก
นอกจากเห็นความด้อยประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยของเมืองหลวงจากการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติซึ่งแปลงสภาพจากคณะปฏิวัติและรัฐบาลมอบหมายให้ดูแลความมั่นคงทั้งระบบเพียงกลุ่มเดียวพร้อมกับมอบงบประมาณเป็นพันล้านบาทให้ใช้สอยตามต้องการโดยแยกจากงบปกติของกองทัพทหารหรือหน่วยงานความมั่นคงทั่วไปด้วย ผู้นำคณะมนตรีฯและผู้นำรัฐบาลยังใช้คำพูดชี้นำคดีนี้อันถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรออกจากปากของผู้ใหญ่ที่ทำงานจนเกษียณอายุเลย หลังจากเกิดระเบิดไม่ถึงหนึ่งวันพวกเขาประกาศทันทีว่าเป็นฝีมือของผู้เสียประโยชน์ทางการเมือง ขณะที่ตำรวจยังเก็บวัตถุพยานในพื้นที่เกิดเหตุอยู่และยังบอกไม่ได้ว่าเป็นระเบิดชนิดใด กอปรกับฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าไม่ทราบข่าวล่วงหน้าเลย ผู้ใหญ่บางคนเพิ่งลงจากเครื่องบินก็บอกได้ทันทีว่าใครทำ ผู้ใหญ่อีกคนก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าต้องเป็นฝีมือของนักการเมืองในรัฐบาลชุดก่อน หัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรครีบเสนอความเห็นเอาใจรัฐบาลยืนยันว่าเป็นฝีมือหัวหน้ารัฐบาลชุดก่อน ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชนสร้างความอนาถใจกับสภาวะทางจิตใจของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอย่างมากเมื่อคนไทยต้องฝากชีวิตให้พวกเขาปกครองดูแลเนื่องเพราะเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นพวกเขาควรตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจะพูดประกาศความผิดของคนอื่น แม้จะเป็นเจ้าของอำนาจกฎอัยการศึกที่จะกล่าวหาหรือลงโทษผู้ใดตามอำเภอใจก็ได้ แต่จะไร้ความสง่างามและเป็นที่น่าดูแคลนในสายตาของประชาชนเมื่อขาดความยุติธรรม อีกทั้งจะสร้างความระแวงใจแก่ทุกคนด้วยว่า สักวันหนึ่งเราอาจเป็นเหยื่อถูกใส่ร้ายและปรักปรำจากพวกเขาก็ได้ ข้อกล่าวหาที่โยนให้รัฐบาลชุดเดิมเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน การตรวจสอบความผิดมีความยุติธรรมเพียงพอหรือไม่ มันกลายเป็นคำถามคาใจของคนไทยไปแล้ว
หนึ่งในอดีตผู้นำเสรีไทยซึ่งถือเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือของคนในสังคมยังอดพูดเตือนผ่านสื่อมวลชนไม่ได้ว่า เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นต้องตรวจสอบให้ถ้วนถี่ก่อน มิใช่ออกมาโยนความผิดใส่ฝ่ายตรงข้ามกับตัวเองทันที มันเป็นหลักความยุติธรรมพื้นฐานที่มนุษย์พึงมีให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ยิ่งเป็นผู้นำรัฐบาลหรือผู้นำคณะมนตรีฯย่อมต้องยึดถือปฏิบัติเข้มงวดมากเพื่อมิให้มีคำครหาติฉินด้านคุณธรรมทึ่พึงมีให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ข่าวการวางระเบิดในกรุงเทพฯมีออกมาเป็นระยะสืบเนื่องจากปัญหาภาคใต้ที่ต้องการสร้างข่าวให้ยิ่งใหญ่และกลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศซึ่งจะดึงต่างชาติให้เข้าช่วยเหลือพวกเขาสมความปรารถนาในการมีประเทศของตนเอง โดยเฉพาะช่วงนี้ผู้นำทางทหารและกฎอัยการศึกยังเป็นคนนับถือศาสนาเดียวกันและพวกเขาเชื่อว่าจะได้รับความเห็นใจหรือสนับสนุนแนวคิดนี้ จึงถือเป็นโอกาสทองในการโหมไฟใต้แรงขึ้น ทั้งที่ตอนแรกผู้นำรัฐบาลเชื่อว่าการพูดขอโทษและกราบเท้าผู้นำทางศาสนาต่อสาธารณชนและปล่อยผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายในหลายคดีออกจากคุกโดยไม่ตรวจสอบหลักฐานให้ถ้วนถี่เพื่อแยกคนทำความผิดออกจากผู้บริสุทธิ์ก่อน จักช่วยลดความรุนแรงลง แต่กลับกลายเป็นการเพิ่มความรุนแรงขึ้น คนตายถี่ขึ้น เพราะบุคคลที่ปล่อยไปจากคุกในหลายคดีอาจเป็นผู้ถูกจับคาหลักฐานก็ได้ เขาจึงไปรวมตัวกันก่อกวนเมืองอีกครั้ง มันเท่ากับรัฐบาลส่งเสริมการทำงานของพวกเขานั่นเอง หลังจากนั้นยังมีข่าวลือกันต่อเนื่องว่าพวกเขาจะก่อกวนเมืองหลวงด้วยวิธีเดียวกับที่ทำในภาคใต้ คนไทยได้ยินข่าวนี้มานานหลายปีแล้ว รัฐบาลชุดเดิมให้ความเอาใจใส่กับข่าวนี้มากเพราะมันกระทบต่อภาพพจน์และเศรษฐกิจของบ้านเมืองอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมาข่าวนี้จึงไม่เคยเป็นจริงสักครั้ง
ส่วนข่าวการต่อต้านจากพวกรัฐบาลเดิมจะออกจากปากของผู้ร่วมคณะปฏิวัติเป็นหลัก ขณะที่ตำรวจซึ่งเป็นเจ้าของคดีไม่เคยบอกชัดว่าผู้ใดเป็นคนทำและไม่เคยจับผู้ต้องสงสัยที่จะสาวไปถึงข้อกล่าวหาจากผู้ใหญ่ของคณะมนตรีฯเลย แต่ละข้อกล่าวหาของพวกเขามุ่งเน้นทำลายความน่าเชื่อถือของนักการเมืองจากรัฐบาลชุดเดิมโดยไม่เคยแสดงหลักฐานชี้ชัดพอจะลงโทษได้ว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหานั้น ถ้ามีหลักฐานชัดเชื่อได้ว่าพวกเขาคงลงโทษคนที่ถูกกล่าวหาไปแล้ว มิใช่ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นรายวันกล่าวหาโยนความผิดสารพัดเรื่องให้คนในรัฐบาลเดิม โดยมีพรรคการเมืองที่เคยพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งหลายครั้งพูดโยนทุกเหตุร้ายโดยปราศจากหลักฐานทับถมอดีตผู้ชนะเพราะต้องการยืมมือคณะมนตรีฯกำจัดคู่แข่งทางการเมืองอย่างไร้ศักดิ์ศรีของนักกีฬาในสนามประชาธิปไตย
ด้านพรรคการเมืองซึ่งถือกำเนิดในระบอบประชาธิปไตย แต่แสดงตนฝักใฝ่กลุ่มเผด็จการเพื่อหวังใช้อำนาจของพวกเขาโค่นล้มคู่แข่งที่มีศักยภาพสูงออกจากสนามเลือกตั้งด้วยการพูดแถลงการณ์สนับสนุนทุกการกระทำของพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงความเป็นธรรมในสังคม บทบาทของพรรคการเมืองของประชาธิปไตย หน้าที่นักการเมืองที่ถูกต้องท่ามกลางระบอบเผด็จการที่แย่งอำนาจของประชาชนซึ่งเคยเลือกตั้งพวกเขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนฯมาก่อน การแสดงบทบาทของผู้นำบางพรรคการเมืองที่เอาใจกลุ่มที่แย่งสิทธิของประชาชนไปโดยใช้อาวุธเพียงต้องการผลักดันตนกลับขึ้นสู่อำนาจอีกครั้ง แทนที่จะปกป้องประชาธิปไตยหรือให้ความยุติธรรมแก่เพื่อนนักการเมือง มันบ่งบอกนิสัยประจบสอพลอเพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์ของตนเป็นใหญ่จึงสามารถละเลยหรือเมินเฉยต่อความถูกต้องและเป็นธรรมต่อประชาชนได้ตลอดเวลา ผู้ที่มีนิสัยประจบสอพลอมักเป็นคนอ่อนแอและเจ้าเล่ห์ ย่อมไม่มีความจริงใจต่อใคร ยึดถือประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกับเขา เช่น การทรยศหักหลังจากเพื่อนร่วมรัฐบาลที่บังคับให้ลาออกจากตำแหน่งสูงสุด จนกระทั่งต้องมีคนช่วยประคองให้เดินออกจากห้องแถลงข่าวอันเป็นภาพที่ดูอนาถใจ โครงการผักริมรั้วที่ทำคาใจไว้ เป็นต้น เขาจะใช้มันเป็นบทเรียนสอนใจมิให้เกิดขึ้นอีกและกลับไปสานต่อโครงการผลประโยชน์ต่างๆ โดยใช้ทุกคนเป็นเครื่องมือส่งเสริมความปรารถนาของตนและอาศัยความหลงลืมอดีตง่ายๆของคนไทย ดังนั้น คนไทยหัวใจประชาธิปไตยที่เห็นพฤติกรรมของพรรคการเมืองที่ไม่รักประชาธิปไตยและลืมบุญคุณของผู้ให้กำเนิดระบบพรรคการเมือง จึงควรต่อต้านโดยไม่เลือกพรรคที่ส่อแสดงเจตนาไม่ดี ไม่มั่นคงต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย เพราะถ้าปล่อยให้เข้าบริหารบ้านเมืองอีกครั้ง จะเป็นการส่งงูพิษไปสร้างครอบครัวงูพิษเพื่อทำร้ายเจ้าของเสียงเลือกตั้งและทำลายความเข้มแข็งของประเทศชาติโดยเฉพาะเวลาที่เขาเคยปกครองประเทศได้พิสูจน์ฝีมือการบริหารแล้วว่าเก่งมากน้อยแค่ไหน ความอ่อนแอในการบริหารรัฐบาลจนเกิดการทรยศหักหลังโดยไม่รู้ตัว การคอรัปชั่นมีน้อยลงหรือเพิ่มความหลากหลายขึ้น ประวัติศาสตร์ส่วนของเขาบอกศักยภาพความเป็นผู้นำว่าเหมาะสมกับยุคสมัยโลกไซเบอร์นี้เพียงใดโดยไม่ต้องรอให้เขาประกาศคุณสมบัติของตัวเองเลย คนไทยต้องปกป้องระบอบประชาธิปไตยด้วยหัวใจและการกระทำผ่านช่องทางของกฎหมายหรือสิทธิของคนไทย นอกจากนั้นต้องไม่ลืมคิดถึงการระเบิดกลบเกลื่อนข่าวเชิงลบกับผู้นำประเทศและคณะมนตรีฯที่ทำลายความน่าเชื่อถือของทั้งสองซึ่งประชาชนจับจ้องมองเพื่อหาคำตอบอยู่ มันเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของคนส่วนใหญ่โดยอาศัยศักยภาพของตน มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดคำนึงถึงตัวละครทุกคนด้วย นอกเหนือจากปัญหาภาคใต้หรือฝีมือของผู้เสียประโยชน์ดังที่ผู้นำประเทศภายใต้กฎอัยการศึกหรือผู้นำตามกฎอัยการศึกบอกกล่าวต่อสาธารณชน บางคนอาจเลือกทำลายชาวบ้านให้ดูเหมือนตนจะเดือดร้อน แต่ต้องการเบี่ยงเบนความเดือดร้อนส่วนตัวไปทางอื่น การระเบิดจึงเป็นเรื่องใหญ่กว่าการขุดคุ้ยปัญหาส่วนตัว มันเป็นเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งได้ คนไทยต้องคิดให้รอบด้านและมีไหวพริบในการวิเคราะห์ข่าวสารต่างๆ จึงเท่าทันเกมกลการเมืองหรือความคิดของกลุ่มผู้นำการบริหารได้

*************************************




 

Create Date : 07 มกราคม 2550    
Last Update : 7 มกราคม 2550 16:43:12 น.
Counter : 417 Pageviews.  

กฎอัยการศึก ปี2550

เขียนโดย แก้วมณี

หลังจากคณะปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนและรัฐธรรมนูญจึงใช้กฎอัยการศึกปกครองบ้านเมือง เมื่อแต่งตั้งรัฐบาลและรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ยังมีการประชุมยกเลิกกฎอัยการศึกในบางท้องที่ต่อสาธารณชนตามเสียงเรียกร้องของประชาชนส่วนใหญ่ แม้บางพรรคการเมืองจะสนับสนุนให้ใช้กฎอัยการศึกนี้ต่อไป แต่คำประกาศชัดเจนของรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามคำพูดนั้นด้วยข้ออ้างที่ไม่สมเหตุผลว่ายังอยู่ในขั้นตอนทางธุรการ จึงทำให้ในทางปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วกฎอัยการศึกยังคงใช้บังคับเหนือรัฐธรรมนูญอยู่ ทั้งที่กฎหมายหลายฉบับหรือการแต่งตั้งบุคคลในรัฐบาลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในวาระเดียวกันนำออกใช้เป็นรูปธรรมแล้ว
ลักษณะของกฎอัยการศึกนั้นจะมีความเด็ดขาดในทางปฏิบัติและเป็นการออกคำสั่งจากผู้นำสูงสุดของฝ่ายทหารเท่านั้น แม้จะมีรัฐธรรมนูญแต่ก็บังคับใช้ไม่ได้เพราะกฎอัยการศึกจะมีอำนาจสูงสุดเสมอเนื่องจากจุดประสงค์ของกฎอัยการศึกคือการบังคับใช้เด็ดขาดและรวดเร็วเพื่อความมั่นคงแห่งชาติเป็นหลัก จึงต้องลดขั้นตอนและการบังคับบัญชาให้สั้นที่สุด การตรวจสอบน้อยที่สุด อันแตกต่างจากกระบวนการทางรัฐธรรมนูญซึ่งจะมีการคานอำนาจและตรวจสอบกันตลอดเวลาโดยเน้นการให้ความยุติธรรมเป็นหลักใหญ่ ถ้ามีกฎอัยการศึกใช้บังคับ รัฐธรรมนูญย่อมใช้บังคับไม่ได้ สิ่งที่บัญญัติคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคนไทยจะไม่ใช้บังคับ มันจึงเป็นเพียงอักษรที่เขียนไว้เท่านั้น ความเป็นผู้นำสูงสุดและมีอำนาจแท้จริงจะมิใช่นายกรัฐมนตรี แต่จะเป็นผู้นำทางทหารสูงสุดเพียงคนเดียว การบังคับใช้กฎหมายจะอยู่ที่บุคคลนั้น หัวหน้ารัฐบาลที่ได้รับการแต่งตั้งภายใต้กฎอัยการศึกจึงทำหน้าที่ต้อนรับแขกเมืองตามพิธีการเท่านั้น การลงโทษตามกฎหมายหรือคำสั่งตามกฎอัยการศึกจะอยู่ในอำนาจของผู้นำทางทหาร รวมไปถึงการดูแลบ้านเมืองทั้งในและนอกประเทศ ตำรวจทำงานภายใต้บังคับบัญชาของผู้นำกฎอัยการศึกและตามการมอบหมายอำนาจเฉพาะเท่านั้น มิใช่ตามกฎหมาย ผู้นำกฎอัยการศึกมีอำนาจเลือกใช้หรือเลิกกฎหมายใดก็ได้ กลุ่มที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านเมืองมิใช่รัฐบาล แต่เป็นกลุ่มทหารที่ทำงานตามกฎอัยการศึก
ความศักดิ์สิทธิ์และความเฉียบขาดของกฎอัยการศึกนั้นหากอยู่ในมือผู้ใช้ที่เป็นคนดีและทำเพื่อบ้านเมืองแท้จริง ก็จะเป็นประโยชน์ในช่วงสั้น ถ้าใช้ด้วยระยะยาวนานประวัติศาสตร์การปฏิวัติบอกยืนยันว่า ผู้ใช้มักเหลิงอำนาจที่จะบันดาลทุกสิ่งในปฐพีได้ดังใจ แค่รำพึงออกมาเท่านั้น ส่วนผู้ที่รู้ลึกซึ้งถึงคุณและโทษของกฎอัยการศึกอย่างดีคือ ชาวตะวันตก เพราะเขาเข้าใจเนื้อหาของกฎอัยการศึกอย่างแท้จริง อันแตกต่างจากคนไทยซึ่งเคยเผชิญกับอิทธิฤทธิ์ของมันหลายครั้ง แต่ลืมเลือนได้ง่าย ตัวอย่างจากประวัติศาสตร์ความอยุติธรรมของการปกครองภายใต้กฎอัยการศึกซึ่งยังเป็นที่ตราตรึงในความทรงจำของปู่ย่าพ่อแม่ของหลายคน คือ ถ้ามีไฟไหม้ที่บ้านหลังใด เจ้าของบ้านจะถูกประหารชีวิตที่หน้าบ้านต้นเพลิงโดยไม่ต้องไต่สวน หรือ ผู้ใดถูกกล่าวโทษว่าเป็นนักเลง จะถูกจำขังตลอดชีวิตทันทีโดยไม่ต้องขึ้นศาล หรือ การลักพานักการเมืองที่ไม่เป็นที่พึงพอใจไปสังหารตามอำเภอใจ หรือ การบังคับขืนใจลูกเมียของคนอื่นโดยผู้มีอำนาจ เป็นต้น ยุคมืดของไทยภายใต้กฎอัยการศึกเป็นที่หวั่นเกรงของประชาชนอย่างมากเพราะบางคนอาจถูกใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งด้วยความหมั่นไส้กันโดยยัดเยียดข้อหาหรือสร้างไฟในบ้านของศัตรูเพื่อป้ายความผิดแล้วจับประหารทันที หลายครอบครัวต้องรับทุกข์ทรมานจากคำสั่งเหล่านี้จนเป็นที่อนาถใจกันหลายปีกว่าอำนาจเผด็จการจะสูญสลายไปตามวัฏจักร คุณสมบัติเด่นของกฎอัยการศึกจึงเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มทหารเป็นพิเศษ เพราะเขาจะได้ประโยชน์สูงสุดและเป็นผู้ครองแผ่นดินตัวจริง มิใช่ประชาชน ขณะที่ชาวตะวันตกจะรังเกียจกฎอัยการศึกอย่างมาก แต่จะนำข้อดีของมันไปตราเป็นกฎหมายพิเศษเพื่อบังคับใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แล้วยังควบคุมการใช้อำนาจของรัฐบาลไว้ในระดับหนึ่งด้วย ส่วนรัฐธรรมนูญนั้นกำหนดผู้นำสูงสุดของประเทศไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ผู้นำกฎอัยการศึกจะปกครองประเทศก็ต้องเปลี่ยนสถานะไปเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน ตัวแทนประเทศไทยคือนายกรัฐมนตรีทั้งด้านพิธีการและการปฏิบัติงาน กฎหมายสูงสุดของประเทศคือ รัฐธรรมนูญ ทุกคนไม่ว่าจะมีอาชีพใดหรือนับถือศาสนาใดต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน อันแตกต่างจากกฎอัยการศึกที่ผู้นำทางทหารและกลุ่มทหารจะอยู่เหนือกฎหมายและเป็นผู้ออกกฎหมายหรือระเบียบเพื่อใช้ในการปกครองประเทศ
คุณสมบัติพิเศษของกฎอัยการศึกมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีจึงสมควรใช้ในระยะเวลาไม่นานนักเพราะต่างประเทศจะต่อต้านการใช้กฎอัยการศึกซึ่งทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญที่ใช้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและมีกระบวนการตรวจสอบการทำงานทุกขั้นตอน ทำให้ประเทศที่ใช้กฎอัยการศึกมักถูกคว่ำบาตรทั้งทางตรงและทางอ้อม การเจรจาการค้าหรือการเมืองต้องระงับเพราะเขาไม่ยอมพูดคุยกับรัฐบาลที่มาจากระบอบเผด็จการ มันกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและการค้าขายซึ่งลดถอยลง หากประเทศชาติขาดรายได้หรือเงินตราการลงทุนจากต่างชาตินานวัน เศรษฐกิจจะถดถอยลง ประชาชนไม่ยอมกลับไปทำไร่ไถนาดังที่บรรพชนกระทำในอดีตตามที่รัฐบาลต้องการอย่างแน่นอน ยิ่งเกิดความขาดแคลนอาหารหรือเงินในการซื้อสินค้าประจำวันหรือการตกงานมีเพิ่มขึ้นเพราะกิจการต้องปิดตัวเองจากใบสั่งการผลิตสินค้าน้อยหรือไม่มีเลย มันจักกลายเป็นแรงบีบคั้นให้ผู้นำระบอบเผด็จการต้องทบทวนบทบาทของตนเองและเปลี่ยนแนวคิดไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเพื่อความอยู่รอดของชาติหรือรอวันที่ประชาชนซึ่งกำลังอดอยากโค่นล้มตนตามวัฏจักร หลายชาติในโลกที่ใช้กฎอัยการศึกพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าขาดความเจริญ พัฒนาตัวเองช้า การใช้อำนาจคุกคามสิทธิเสรีภาพของคนทั่วไปมีเพิ่มขึ้น แต่ปิดข่าวได้ดี การคอรัปชั่นกว้างขวางและไม่กลัวเกรงกฎหมายเพราะตนเป็นคนออกและบังคับใช้เอง อีกทั้งไม่มีคนกล้าพูดประณามหรือตรวจสอบได้ เสรีภาพของคนหรือสื่อมวลชนจะมีน้อยลง ผลข้างเคียงด้านลบจากกฎอัยการศึกเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยตั้งแต่สมัยคุณปู่ยังมีชีวิตอยู่และยังปรากฏให้เห็นในคนรุ่นปัจจุบันโดยคนกลุ่มเดียวกัน คือ ผู้บังคับใช้ตามกฏอัยการศึกซึ่งมีพวกเดียวเท่านั้น คือ ทหาร อันบอกแก่ประชาชนได้ชัดเจนว่า พวกเขากับบรรพชนที่บังคับใช้กฎอัยการศึกยังไม่เคยเปลี่ยนแนวความคิดให้ทันโลกสมัยใหม่เลย หากไม่แก้ไขเรื่องการรู้จักโลกยุคใหม่ที่แยกบทบาททหารกับนักปกครองออกจากกันอย่างเด็ดขาดแล้ว เมืองไทยไม่ว่าจะใช้เกวียนหรือเครื่องบินเพื่อการเดินทางก็จะต้องพบการปฏิวัติและกฎอัยการศึกจากคนกลุ่มนี้ตลอดไป ทั้งที่ปัจจุบันนี้เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าการต่อสู้ระหว่างประเทศอยู่ในสนามการค้าซึ่งต้องอาศัยนักปกครองที่ฉลาด มีไหวพริบ ความรู้สูง ส่วนทหารต้องทำหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติเป็นหลักใหญ่เพราะประเทศชาติสงบและปลอดภัยจากรั้วแห่งชาติที่เข้มแข็งและมีกองทัพทันสมัย ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของต่างชาติในประเทศของเราและต่อชื่อเสียงของไทยในการเจรจาระหว่างประเทศด้วย ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างเป็นเลิศในหน้าที่ของตนย่อมทำให้ประเทศชาติเติบใหญ่อย่างมั่นคง เป็นที่เกรงขามของเพื่อนบ้านและนานาชาติดังเช่นที่เห็นในจีนหรือสหรัฐอเมริกา
นักปกครองหรือทหารต่างมีความรู้และเชี่ยวชาญคนละด้าน จึงไม่สมควรในการเข้าไปก้าวก่ายงานของกันและกัน แต่ควรส่งเสริมให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องประเทศและสร้างประโยชน์แก่ประชาชน ตามประวัติศาสตร์ด้านการปฏิวัติของไทยจะเห็นชัดว่าทหารอยากเข้ามาสวมบทบาทเป็นนักบริหารประเทศโดยใช้อาวุธเป็นหลัก จึงกลายเป็นการทำร้ายประชาชนและประเทศชาติให้ตกต่ำลงจากการคว่ำบาตรของต่างชาติเพื่อสนองความปรารถนาของตนและพรรคพวกโดยไม่สนใจว่าโลกจะหมุนเปลี่ยนหรือพัฒนาเจริญทางความคิดไปมากเพียงใด หากมองไปรอบโลกจะเห็นสถาบันทหารของเขามีความมั่นคงและรู้จักบทบาทหน้าที่ของตนอย่างดี จึงเป็นการส่งเสริมให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง การเมืองแข็งแกร่ง ประชาชนอยู่ดี กินดี ตัวอย่างเช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐ อังกฤษ จีน เป็นต้น ประเทศเหล่านี้สถาบันทหารของเขาอยู่ในระเบียบวินัย ความคิดทันสมัย รู้จักหน้าที่ในโลกปัจจุบันว่าควรดูแลให้บ้านเมืองมั่นคงซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชาติและประชาชนไม่อดอยาก ประเทศชาติไม่อาจขาดนักปกครองและทหารได้ แต่จะมีแค่ทหารอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะทหารได้รับการฝึกสอนให้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการสร้างความมั่นคงให้แก่บ้านเมือง มิได้ปลูกฝังให้เรียนรู้ทุกศาสตร์ในการบริหารประเทศหรือเป็นพหูสูตรแห่งชาติ การปกครองประเทศต้องอาศัยหลายศาสตร์เพื่อดูแลประเทศ เราไม่อาจใช้ศาสตร์แห่งการต่อสู้ในสนามรบไปบริหารประเทศได้ซึ่งเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ สมัยนี้เราคงถือปืนไปรุกรานเพื่อนบ้านหรือแย่งสิ่งของจากคนอื่นได้ยากกว่าเวลาพันปีที่ผ่านมา การแพ้ชนะต้องอาศัยปัญญาและไหวพริบในการเปิดตลาดการค้าระหว่างประเทศเป็นหลัก น้อยคนจะยอมรับว่าต้องใช้ปืนไปเปิดประตูการค้าของอีกประเทศหนึ่ง หรือ คิดจะแย่งทรัพย์สินของอีกประเทศต้องฆ่าคนของเขาทั้งหมดก่อน ผู้นำเผด็จการคนล่าสุดของยุคนี้ คือ ซัตดัม ได้รับโทษประหารจากการใช้อำนาจเผด็จการกับประชาชนของตนแล้วยังใช้กองทัพบุกไปแย่งชิงบ่อน้ำมันของเพื่อนบ้าน จึงต้องรับเคราะห์กรรมในบั้นปลายชีวิตซึ่งเป็นไปตามหลักกรรมสนองกรรมของพุทธศาสนานั่นเอง มันคงเป็นบทเรียนสอนใจแก่ผู้นำเผด็จการหลายคนว่า ไม่มีอำนาจใดอยู่ยั่งยืนชั่วฟ้าดินสลาย เมื่อวันที่มันโรยราพร้อมกับตัวเลขอายุ เขาอาจต้องยุติลมหายใจไปพร้อมกับมันอย่างไม่เต็มใจ จึงควรสำนึกด้วยว่าการปฏิวัติทำลายชาติ ระดับของกรรมควรสนองผู้กระทำมากน้อยแค่ไหน คนไทยจึงเชื่อได้เลยว่าคำสอนเรื่องกรรมเป็นความจริงคู่โลกเสมอ เราแค่เป็นคนมองดูผลกรรมสนองผู้กระทำหรือทายาทของเขาเท่านั้น มันเป็นหน้าที่ของคนไทยที่ต้องติดตามดูและใช้สอนลูกหลานไว้เป็นบทเรียน

*******************************




 

Create Date : 07 มกราคม 2550    
Last Update : 7 มกราคม 2550 16:32:09 น.
Counter : 1127 Pageviews.  

เงินทุนปฏิวัติกับงบลับ

เขียนโดย ลูกแก้ว

การสร้างธุรกิจหรืองานสักชิ้นย่อมต้องมีต้นทุนดำเนินงานจึงผลิตผลงานออกสู่สายตาของประชาชนได้ ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การขายชิ้นงานหรือสินค้าได้เป็นการเรียกเอาต้นทุนคืนและมีกำไรหรือขาดทุนก็ได้ จึงเป็นที่ยอมรับกันในสังคมว่าการทำงานต้องมีต้นทุนซึ่งอาจมาจากสมองหรือเงินก็ได้ นักศิลปะเขียนภาพชิ้นหนึ่งต้องอาศัยจินตนาการจากสมองและอุปกรณ์เขียนระบายสีซึ่งเป็นต้นทุนในการดำเนินงานผลิตภาพเขียน แล้วนำไปวางขายโดยตั้งราคาตามต้นทุนและกำไรที่เขาพึงได้ เมื่อลูกค้าพอใจผลงานและจ่ายเงินซื้อภาพเขียน รายได้นั้นจะกลายเป็นต้นทุนผลิตภาพใหม่และกำลังใจของนักศิลปะ
ถ้าเราคิดถึงขั้นตอนการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลซึ่งต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างในการสร้างอำนาจให้สูงล้ำเหนือรัฐบาลด้วยเวลารวดเร็ว ต้นทุนที่เห็นชัดคือ จำนวนทหารและอาวุธ ปัจจัยที่จะทำให้มีคนมาร่วมงานได้ คือ เงินและความน่าเชื่อถือของผู้นำ คงต้องยอมรับกันว่าไม่มีการลงทุนใดที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน คนทำงานเพื่อแลกเงินเดือน คนขายยาเพื่อแลกเงิน คนเรียนหนังสือเพื่อหวังจะมีรายได้สูงในอนาคต การปฏิวัติครั้งใดก็ตามหากไม่มีสิ่งจูงใจที่สูงค่าพอคงไม่มีทหารคนใดจักเสี่ยงชีวิตถือปืนมายืนเฝ้าตามจุดต่างๆของประเทศเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลของประชาชนแทนที่จะกลับไปมีความสุขกับครอบครัวหรือทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับการสั่งสอนสืบทอดกันมาแน่ สิ่งตอบแทนที่ได้รับย่อมมีแตกต่างกันตามความสำคัญในตำแหน่งของตน เช่น ชั้นล่างก็ได้รับเงินพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือน ระดับสูงก็ได้ตำแหน่งในองค์กรต่างๆที่จะมีเงินเบี้ยเลี้ยง ผลประโยชน์ และอำนาจเพิ่มขึ้น การก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารประเทศโดยไม่ต้องเสียเวลาเลือกตั้ง และอื่นๆ ความเสี่ยงชีวิตกับหน้าที่การงานและผลตอบแทนต้องคุ้มค่าที่จะล้มล้างรัฐบาล กฎหมายสูงสุดของประเทศ และภาพพจน์ในสายตาของประชาชนที่มีต่อเขาและครอบครัว
เมื่อการปฏิวัติต้องมีเงินทุนเพื่อจ่ายแก่คณะร่วมทำงานที่มีจำนวนหลายพันหรือหมื่นคนแล้วแต่ความยากง่ายของงาน ที่มาของเงินย่อมมาได้หลายทาง นอกเหนือจากนายทุนที่มาจากหลากอาชีพซึ่งทำงานสุจริตแต่ถูกรีดไถหรือแลกกับผลประโยชน์ภายหลังหรือพวกที่อยู่มุมมืดเช่น พวกค้ายา พวกขายหวยใต้ดิน กลุ่มเสียประโยชน์จากการทำงานของรัฐบาลเดิม เป็นต้น อีกทางหนึ่งซึ่งกระทำกันมานานและเป็นที่รู้กันดีในสังคมไทยตั้งแต่ยุคปู่ย่าของเราแล้วว่า งบลับซึ่งผู้นำทางทหารมีอำนาจสั่งจ่ายเป็นทุนในการล้มล้างรัฐบาลอันดับแรกเสมอ เนื่องเพราะมันไม่มีขั้นตอนมากและอำนาจสั่งจ่ายอยู่ในมือของผู้นำทางทหารเท่านั้น แม้แต่รัฐบาลยังตรวจสอบการใช้เงินประเภทนี้ได้ยากซึ่งแตกต่างจากในสหรัฐซึ่งมีขั้นตอนดูแลงบประเภทนี้ที่รอบคอบอย่างมาก ทหารจึงไม่อาจใช้งบลับเพื่อล้มรัฐบาลสหรัฐได้เลยเพราะมันอยู่ในสายตารัฐบาลของประชาชนตลอดเวลา งบลับมีประโยชน์มากในการปฏิบัติงานหลายอย่างจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับกันได้ระดับหนึ่งในหมู่ประชาชนและรัฐบาล แต่สิ่งที่ยอมรับไม่ได้คือ ผู้นำทหารมักใช้เงินงบลับเพื่อสนองความใฝ่สูงทางลัดของตนด้วยการปฏิวัติรัฐบาลของประชาชน ซึ่งตามประวัติศาสตร์จะเห็นว่าผู้นำทางทหารซึ่งมีเงินเดือนประจำไม่สูงและไม่เคยทำงานเอกชนที่จะมีรายได้พิเศษหรือเงินออมมากพอจะทำการปฏิวัติได้ มักเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติทุกครั้ง และจะเป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพเสมอ ส่วนพวกที่มียศต่ำมักจะทำงานล้มเหลว หากพิเคราะห์แล้วน่าจะเกิดจากแหล่งเงินทุนที่แตกต่างกัน ฝ่ายหนึ่งได้จากงบลับด้วยอำนาจหน้าที่ของตน อีกฝ่ายทำงานด้วยหัวใจและความเชื่อเดียวกัน
ถ้าเราสมมติการปฏิวัติเป็นเสมือนการสร้างบริษัทจักเห็นโครงสร้างได้ชัดว่าจะต้องใช้เงินทุนในการก่อตั้งบริษัทเพื่อสร้างฐานะครอบครัวอย่างไร เงินทุนจดทะเบียนมักมาจากครอบครัวของผู้ก่อตั้งหากยังไม่เคยทำงานมาก่อนหรือจากเงินออมสำหรับคนที่เคยทำงานมาแล้ว ส่วนนักปฏิวัติน่าจะมาจากเงินเก็บออมส่วนตัว ตามประวัติศาสตร์แล้วไม่เคยมีผู้ใดใช้เงินออมของตนทำงานใหญ่เช่นนี้ แต่ที่มาของเงินทุนเป็นที่คาดเดากันคือเงินงบลับของฝ่ายทหารและเหล่านายทุนทุจริตและสุจริตที่ถูกรีดไถปะปนกัน เมื่อเปิดบริษัทได้แล้วก็ต้องจ้างพนักงานเพื่อช่วยกันสร้างบริษัทให้รุ่งเรืองซึ่งต้องมีเงินเดือนให้พวกเขาด้วย คงไม่มีใครทำงานโดยปราศจากสิ่งตอบแทนและนายจ้างก็ต้องละอายใจที่ใช้แรงงานของเขาโดยไม่จ่ายค่าจ้างเช่นกัน การปฏิวัติต้องอาศัยคนและอาวุธเป็นหลัก อีกทั้งต้องทำให้ทุกคนร่วมแรงใจและกายเดียวกันโดยจำต้องมีตัวเชื่อมโยงไว้ มันน่าจะเป็นความหวังซึ่งอาจเป็นเงินทองหรือตำแหน่งหน้าที่เนื่องเพราะทุกคนทำงานเพื่ออนาคตของตนและครอบครัวเป็นหลักใหญ่ เมื่อมีคนทำงานแล้วย่อมมองหาเป้าหมายและลำดับของงานเป็นอันดับต่อไป ผลสำเร็จของงานขึ้นอยู่กับความพร้อมด้านการเงินและแผนการเท่านั้น
เราจักสังเกตได้ว่าทุกขั้นตอนในการสร้างบริษัทนั้นล้วนมีเงินเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอและมากน้อยแตกต่างกัน มันขึ้นอยู่กับความสำคัญของงาน หากเราวางใจเป็นกลางและยอมรับความจริงว่าการทำงานทุกอย่างต้องมีจุดมุ่งหมายทั้งสิ้น บ้างทำเพื่อสร้างครอบครัวให้ดีขึ้น บ้างเพื่อตำแหน่งการงานที่เด่นดัง บ้างต้องการไปให้ถึงความฝันของตน แต่ทุกเส้นทางที่จะไปถึงจุดหมายมีเงินเป็นสะพานเชื่อมกับความสำเร็จเสมอ คงยากจะปฏิเสธว่าการตั้งบริษัทหรือการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลของประชาชนไม่ต้องใช้เงินเลย ลองสังเกตวิธีตอบแทนผู้ร่วมงานตามหน้าหนังสือพิมพ์จักเห็นว่ามีแตกต่างกันตามยศบรรดาศักดิ์ของแต่ละคนและผลประโยชน์ที่ได้รับจะอาศัยข้อกฎหมายและข้ออ้างเพื่อความมั่นคงแห่งชาติซึ่งฝ่ายตนได้เปรียบและไม่สามารถตรวจสอบได้ง่ายนักเนื่องเพราะพรรคพวกควบคุมองค์กรตรวจสอบไว้ทั้งหมด โดยการจ่ายเงินพิเศษอาศัยข้อกฎหมายตามอำนาจของตน เงินสดนอกบัญชี หรือแต่งตั้งพรรคพวกไปอยู่ในองค์กรของรัฐซึ่งมีเงินเดือนและค่าตอบแทนสูงที่กฎหมายเปิดช่องไว้โดยไม่คำนึงถึงความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกับองค์กรเหล่านั้น การสั่งซื้ออาวุธให้กองทัพต่างๆซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไปในสังคมว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่กับบรรดาผู้นำและผู้เกี่ยวข้องกับใบสั่งซื้อโดยเฉพาะจักสังเกตเห็นการยกเลิกเงื่อนไขการแลกสินค้ากับการซื้ออาวุธซึ่งเป็นผลประโยชน์โดยตรงของประเทศ แต่รัฐบาลและกลุ่มปฏิวัติเร่งกำจัดทันทีอันเป็นการเปิดโอกาสให้ซื้อง่ายและไม่ต้องมีหน่วยงานอื่นเข้าเกี่ยวข้องด้วย มันเป็นการจ่ายเงินตอบแทนความร่วมมือของพวกเขาโดยใช้เงินของรัฐ ส่วนพวกนายทุนจะเห็นการปลดผู้นำองค์กรหรือเลิกสัญญาของบริษัทเดิม เพื่อใช้เป็นข้ออ้างเลือกบริษัทนายทุนของตนเข้าทำงานแทน การยกเลิกหวยบนดินอันเป็นรายได้ของรัฐเพื่อตอบแทนนายทุนหวยใต้ดินด้วยข้ออ้างสารพัดรวมทั้งความมั่นคงแห่งชาติด้วย ดังนั้น คำลือที่แพร่ในสังคมมาตั้งแต่โบราณว่า เงินงบลับคือเงินทุนในการปฏิวัติที่หยิบใช้ง่ายที่สุดของทหารและมีการใช้อย่างแพร่หลายในประวัติศาสตร์นานแล้ว ด้วยเหตุผลหลายอย่างประกอบกับเหตุปฏิวัติในอดีตหลายคนจึงมีความเชื่อเช่นนั้น โดยเฉพาะผู้มีอำนาจใช้งบลับมักไม่ยอมให้ตรวจสอบการใช้งบดังกล่าวหลังการปฏิวัติทุกครั้ง มันจึงเป็นหลุมดำในจิตใจของเจ้าของเงินภาษีมาตลอดเวลา แม้การปฏิวัติหลายครั้งจะกลายเป็นประวัติศาสตร์แล้วก็ตาม
หากศึกษาการปกครองจากต่างประเทศที่ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารบ่อยเท่าไทย เช่น อังกฤษ สหรัฐ ประเทศทางยุโรป เป็นต้น พวกเขามีกฎหมายกำหนดขั้นตอนตรวจสอบการใช้งบลับของกองทัพทั้งแบบเป็นการภายในหรือต่อหน้าสาธารณชนผ่านรัฐสภาได้ เพราะต้องการให้เงินภาษีถูกนำไปใช้เพื่อความมั่นคงของชาติอย่างแท้จริง มิใช่ตอบสนองความใฝ่สูงของบางคนโดยข้ออ้างเดิมตามประวัติศาสตร์ว่าทำเพื่อชาติ แต่หลังจากสิ้นอำนาจแล้วฐานะการเงินในครอบครัวของผู้นำปฏิวัติพลิกกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านคนใหม่ด้วยเวลาไม่ถึงปีซึ่งคนธรรมดาที่ทำงานสุจริตคงทำได้น้อยมาก ส่วนลูกหลานของพวกเขาต่างมีชีวิตแตกต่างกับคนที่มีบิดารับราชการเป็นทหารทั่วไปเพราะมีทรัพย์มรดกตกทอดหลายร้อยล้านบาททั้งที่ไม่เคยทำงานมาก่อนหรือรับราชการในยศหรือขั้นไม่สูงนัก เราสามารถศึกษาชีวิตของผู้นำปฏิวัติในประวัติศาสตร์ของไทยกับสมาชิกครอบครัวของเขาซึ่งหลายคนยังมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลหรือสังคมอยู่ รวมทั้งผู้นำปฏิวัติที่พ่ายแพ้และต้องกลายเป็นกบฏหรือต้องโทษประหารชีวิตไปแล้วด้วยฝีมือของผู้ชนะว่าแต่ละคนมีความแตกต่างกันอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นประวัติศาสตร์ให้ชนรุ่นหลังศึกษาวิเคราะห์กันได้ ข้อสังเกตเหล่านี้น่าจะสะกิดหัวใจของคนไทยสุจริตทั่วไปให้หันมองการใช้เงินงบลับเพื่อปฏิวัติล้มล้างรัฐธรรมนูญหรือรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนให้ใกล้ชิดขึ้นด้วยการปฏิวัติขั้นตอนการใช้เงินงบลับให้อยู่ในสายตาของประชาชนมากขึ้นโดยผ่านรัฐสภาหรือองค์กรพิเศษด้วยการนำความรู้และประสบการณ์ของต่างประเทศมาปรับใช้ควบคุมเงินงบลับของกองทัพมากขึ้น มันจะเป็นขั้นตอนแรกที่นำไปสู่การล่มสลายของแนวคิดปฏิวัติด้วยอาวุธของกองทัพซึ่งยังไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ต้องการให้กองทัพมีบทบาทหลักในการปกป้องมาตุภูมิของตนเท่านั้น มิใช่สนองความปรารถนาของตนด้วยความอยากบริหารประเทศสักครั้งในชีวิตโดยอาศัยอาวุธเป็นทางลัดนำสู่อำนาจสูงสุดนั้น หากต้องการยุติความชอบปฏิวัติของกองทัพ จักต้องเริ่มที่คนไทยเจ้าของเงินภาษีเป็นหลัก เพราะตัวแทนกองทัพย่อมไม่ทำสิ่งที่เกิดความเสียหายต่อตนอย่างแน่นอน เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการรวบรวมคนและอาวุธล้มล้างรัฐบาลของประชาชน หากควบคุมไม่รอบคอบ ย่อมต้องเห็นการปฏิวัติเกิดขึ้นต่อไปแน่นอนไม่ว่าประเทศจะเจริญมากเพียงใด การดูแลและให้ความรู้เกี่ยวกับหลักปกครองแบบประชาธิปไตยที่ต้องเคารพกติกา ระเบียบ ของบ้านเมือง แก่ทหารเป็นเรื่องสำคัญอันดับต่อไปที่ต้องช่วยกันปลูกฝังในกลุ่มทหารเพื่อป้องกันมิให้รุ่นใหม่มีแนวคิดมักง่ายอย่างคนรุ่นเก่า ชาติจักมั่นคงขึ้นเยี่ยงเดียวกับสหรัฐหรืออังกฤษซึ่งเป็นต้นแบบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง คนไทยที่มีอุดมกาณ์ประชาธิปไตยแท้จริงและไม่ต้องการรับใช้ระบอบเผด็จการในอนาคต จึงเป็นความหวังเดียวในการเปลี่ยนแปลงแนวคิดปฏิวัติของกองทัพได้ โดยเฉพาะบิดามารดาที่มีลูกหลานเป็นทหารต้องปลูกฝังแนวคิดระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องให้พวกเขาเพื่อวันหนึ่งที่เติบโตเป็นผู้นำกองทัพจะปกป้องประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็งและไม่กลายเป็นผู้นำปฏิวัติและหัวหน้าระบอบเผด็จการที่ประชาชนและคนทั้งโลกรังเกียจและประณามหยามเหยียดให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของครอบครัวยามที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและของโลกว่าไม่ยอมรับกติกาของการปกครองและเป็นผู้นำทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยบนแผ่นดินแม่ของตน

*********************************




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2549    
Last Update : 30 ธันวาคม 2549 14:15:27 น.
Counter : 642 Pageviews.  

มารยาททรามของคนรับน้ำใจ

เขียนโดย แก้วมณี

การบริหารประเทศด้วยคุณธรรมและจริยธรรมของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องยืนอยู่บนข้อเท็จจริงและเหมาะสมกับยุคสมัย หากจะให้เป็นที่น่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นคงต้องเริ่มที่ผู้ใหญ่กระทำตนเป็นแบบอย่างก่อน จึงดึงดูดให้ผู้อ่อนวัยเลียนแบบได้เพราะการบังคับให้ทำย่อมไม่มีความยั่งยืน ยามรัฐบาลหมดอำนาจตามวาระหรือพบอุบัติเหตุไม่อาจทำงานต่อไปได้ การเลียนแบบนั้นจะยุติลงเพราะมิได้เกิดจากความเต็มใจหรือเห็นคุณค่าแท้จริงของมัน
ข่าวหนึ่งในหนังสือพิมพ์ซึ่งอาจกระทบต่อจริยธรรมที่รัฐบาลและคณะปฏิวัติเร่งให้เกิดขึ้นในสังคมไทย คือ การพูดเหยียดแคลนต่อผู้ที่เคยเกื้อหนุนตนขึ้นสู่อำนาจและตำแหน่งสูงสุดของข้าราชการซึ่งตามวัฒนธรรมไทยที่บิดามารดาสั่งสอนลูกหลานไว้ว่ามิควรปฏิบัติอย่างยิ่ง แต่ผู้ใหญู่บางคนกลับพูดเช่นนั้นต่อหน้าธารกำนัลอย่างไม่ละอายใจทั้งที่ต้องกระทำตนเป็นตัวอย่างของผู้มีคุณธรรมสูง มันสร้างความคลางแคลงใจต่อชนรุ่นหลังว่าสิ่งใดควรปฏิบัติตามระหว่างคำสั่งสอนของบิดามารดาและพฤติกรรมของบุคคลนั้น
ลองคิดทบทวนคำสั่งสอนในครอบครัวและของครูบาอาจารย์ในสถานศึกษากรณีที่เกิดความขัดแย้งในบทบาทของตน เช่น ตำรวจกับพ่อแม่ที่เล่นการพนัน ข้าราชการรับสินบนกับลูกหลาน ครูอาจารย์กับลูกเกเร ผู้พิพากษากับลูกนักเลง เป็นต้น พวกเขาจะสอนให้เราทำงานตามหน้าที่แล้วปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ห้ามด่าประณามบุคคลเหล่านั้นเพราะถึงอย่างไรก็ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดและบุญคุณที่มีต่อกัน ดังนั้น แม้พ่อแม่จะรับเงินสินบนเพื่อไปเลี้ยงลูกให้เติบโตและมีการศึกษาสูง หากวันหนึ่งพวกเขาถูกคำพิพากษาให้จำคุกเพราะคดีสินบน บุคคลเดียวที่ไม่มีสิทธิ์ประณามพวกเขา คือ ลูกหลานเพราะเป็นผู้รับผลประโยชน์จากการกระทำของพ่อแม่โดยตรง การแสดงความกตัญญูต่อบุพการีที่พึงกระทำได้คือ การไม่ร่วมกับคนอื่นพูดประจานพ่อแม่
การเลื่อนขั้นหรือตำแหน่งในทางการงานนั้นเราต่างก็ยอมรับกันว่า แต่ละขั้นหรือยศเดียวกันย่อมมีหลายคนที่มีคุณสมบัติเท่าเทียมกัน แต่การจะได้รับแต่งตั้งให้มีอำนาจสูงสุดจักมีคนเดียวเท่านั้น เช่น ตำแหน่งข้าราชการระดับ 10 หรือ ทหารยศพลเอก ซึ่งมีสิทธิ์ในการเป็นหัวหน้าองค์กรของตนต้องมีหลายคน แต่จะมีเพียงคนเดียวที่ครองตำแหน่งนั้น เป็นต้น ผู้ใหญ่ไม่อาจมองเห็นทุกคนในขั้นหรือยศเหล่านั้นได้ทั้งหมด จึงต้องมีการเสนอตัวหรือแสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา ไม่มีตำแหน่งลอยมาคล้องคอบุคคลหนึ่งแค่เพียงนั่งฝันเท่านั้น แต่ละคนต้องหาวิธีนำเสนอตนผ่านผู้ใหญ่หรือแสดงความสามารถให้เห็นเด่นชัด อันเป็นการสร้างโอกาสแย่งชิงตำแหน่งมาเป็นของตน แรงสนับสนุนของผู้ใหญ่จึงเป็นส่วนสำคัญในชัยชนะและครองตำแหน่งสูงสุดขององค์กรได้ ผู้ชนะจึงเป็นคนรับน้ำใจจากผู้ใหญ่ซึ่งต้องระลึกถึงพระคุณนี้ไว้ ห้ามการเหยียบย่ำผู้ให้การสนับสนุนเขาเด็ดขาดไม่ว่าด้วยวาจาหรือกิริยา มิฉะนั้นจะถูกประณามไปทั่วสังคมว่า เป็นคนขาดคุณธรรมพื้นฐานของมนุษย์และอกตัญญูต่อผู้ใหญ่ กรณีที่ผู้ใหญ่คนนั้นต้องเข้าสู่การพิจารณาคดีในศาลหรือกระบวนการใดอันเกิดจากการกระทำของผู้เคยรับน้ำใจนั้น มันเป็นเรื่องทำตามหน้าที่ของพลเมืองดีหรือข้าราชการผู้มีหน้าที่ แต่คำพูดประณามหรือเหยียดแคลนว่าเป็นเซลส์แมนหรือเด็กเลี้ยงแกะไม่สมควรออกจากปากของบุคคลที่รับน้ำใจจากผู้ใหญ่เพราะเป็นการกระทำที่ผิดคุณธรรมและจริยธรรมอย่างร้ายแรง แต่ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางสังคมและคนทั่วไปที่จะประณามการกระทำนั้น คำพูดต้องกลั่นจากสติปัญญาที่มีคุณธรรมควบคุมไว้ โดยเฉพาะผู้ชนะต้องระวังเป็นพิเศษเพราะมันจะเป็นการลดคุณค่าและศรัทธาของตนเองในสายตาของประชาชนได้ การใช้คำพูดเหยียดแคลนผู้มีน้ำใจต่อตนเองทั้งในที่ลับและที่แจ้งเป็นเรื่องต้องห้ามในกลุ่มคนไทยที่มีวัฒนธรรมทางจิตใจสูงและได้รับการสั่งสอนสืบทอดกันมาแต่โบราณ คนพูดจักกลายเป็นผู้ถูกดูแคลนจากคนอื่นเสียเอง
มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่มีศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมควบคุมพฤติกรรมให้แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉาน อีกอย่างหนึ่งการแข่งขันในเวทีต่างๆผู้ใหญ่จักสั่งสอนให้เด็กรู้จักแพ้ รู้จักชนะ ให้อภัย ให้เกียรติแก่ผู้แพ้เสมอ การที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองพูดประณามผู้ที่เคยให้โอกาสในหน้าที่การงานแก่ตนอันเป็นที่รู้กันทั้งประเทศด้วยวาจาจาบจ้วงและไม่ให้เกียรติ มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกระดับศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมของตนว่ามีสูงต่ำเพียงใด และเหมาะสมจะถือเป็นแบบอย่างให้ชนรุ่นหลังประพฤติตามหรือไม่ ความจริงที่ยากจะปฏิเสธคือ การปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนเป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักกฎหมายสากล การพูดเหยียดหยามผู้ที่เคยมีน้ำใจและเมตตาต่อตนเป็นการกระทำน่ารังเกียจ ทั้งที่แค่ทำงานตามหน้าที่ก็เพียงพอแล้ว ไม่ถือเป็นบุคคลที่มีศักดิ์ศรีหรือบารมีมากพอจะให้ผู้คนกราบไหว้ว่าเป็นคนดีมีศีลธรรมสูง เนื่องเพราะคนดีต้องรู้จักให้เกียรติคนทุกระดับ แม้จะเป็นนักโทษในคุกหรือเด็กทารกก็ตาม หากคนเลียนแบบพฤติกรรมเช่นนี้มาก ความหวาดระแวงกันมีเพิ่มขึ้น บ้านเมืองย่อมวุ่นวายหนัก โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ต้องพึ่งพาความกตัญญูของเด็กยามแก่ชราหรือคนด้อยโอกาสในหน้าที่การงานซึ่งต้องการแรงสนับสนุนจากผู้มีอำนาจ หากความเมตตาที่ให้เขา จักได้รับการตอบแทนด้วยคำพูดเหยียดหยามจากผู้รับน้ำใจ ผู้ใหญ่คงไม่ยอมช่วยเหลือเกื้อหนุนผู้ใดแน่ ดังนั้น คนไทยต้องสั่งสอนลูกหลานให้รู้จักบุญคุณ มีน้ำใจ ทำงานตามหน้าที่ การตอบแทนพระคุณในขอบเขตอันควร งดใช้คำพูดให้ร้าย หมิ่นแคลน ผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่เคยมีน้ำใจต่อตน ต่อต้านและกำจัดบุคคลที่ประพฤติผิดคุณธรรมของคนกตัญญูออกจากสังคมเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนไทยรุ่นต่อไป

*************************************




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2549    
Last Update : 21 ธันวาคม 2549 14:35:39 น.
Counter : 628 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

arbel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add arbel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.