Love and Monsters Review : เมื่อหนังสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกทำเป็นหนังเด็ก
วันก่อนนั่งเปิด Netflix ดูไปเรื่อย ๆ ก็เห็นตัวอย่างของเรื่องนี้เล่นขึ้นมา Love and Monsters ดู Trailer แล้วก็เห็นว่าเป็นหนังเกี่ยวกับวันสิ้นโลกที่ดูไม่เครียดดี ฉันก็เลยนั่งดูสักหน่อย เพราะไม่ได้ดูหนังแนวนี้มาสักพักแล้ว



ความรู้สึกหลังดู (ไม่สปอย)
ฉันคิดว่าตัวหนังทำ World Setting ออกมาได้น่าสนใจมาก และเล่าผ่านมุมมองของเด็กวัยรุ่นมันก็เลยไม่ได้ดูเครียดซีเรียสอะไร ด้วยความที่เรทของหนังอยู่ที่ PG-13 เราก็จะไม่ได้เห็นอะไรแบบในหนังซอมบี้อื่น ๆ เช่น ต้องฆ่าคนเพื่อให้มีอาหารเพิ่มขึ้น ตัวละครที่เป็นมนุษย์ในเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นคนดีมีจิตใจช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน
ในหนังมีการใส่มุขเข้ามาเป็นระยะ ๆ แต่ฉันไม่ขำกับมุขที่เขาใส่มาเลยสักมุข ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะมันเป็นมุขฝรั่งก็ได้ ฝรั่งอาจจะขำก็ได้นะ
สัตว์ประหลาดในเรื่องดูเหมือนจะน่ากลัว แต่เอาเข้าจริงค่อนข้างกากด๋อยนะ แรก ๆ คือทำไมมันโหดจังวะ คือเหมือนพยายามจะทำให้คนดูกลัว แต่พอเจอพระเอกเท่านั้นแหล่ะ ... คิดว่าหนังอยากจะให้คนดูได้เห็นการพัฒนาของตัวละครพระเอก ซึ่งก็ทำได้ดีพอสมควรนะตามความเห็นของฉัน (ในแง่อื่นที่นอกเหนือไปจากสกิลสู้สัตว์ประหลาดนะ)
ตัวหนังน่าจะทำออกมาเพื่อหยั่งกระแส ถ้าประสบความสำเร็จสามารถปูทางไปภาคต่อได้ หรือจะจบตรงนี้เลยก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดเหมือนกัน
สำหรับฉัน พล็อตของหนังค่อนข้างดี ขอให้คะแนนตามความรู้สึกไว้ที่ 7/10 คะแนน
ดูได้เรื่อย ๆ ในวันหยุดพักผ่อนน่ะ ดูได้ทั้งครอบครัวเด็ก ๆ ก็ดูได้ ถ้าไม่กลัวอะไรหยีแหวะ (สัตว์ประหลาดค่อนข้างน่ากลัวพอสมควร แต่มันไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น บางตัวออกจะน่ารักด้วย แล้วก็ไม่ได้ออกมาบ่อยขนาดนั้น ที่จริงถ้านับจำนวนสัตว์เลือดเย็นทั้งโลกแล้วทำให้มันเป็นตัวใหญ่ ฉันคิดว่ามันน่าจะมีเยอะและถี่กว่านี้นะ อันนี้มีฉากที่พระเอกกับหมาและผองเพื่อนเดินกันชิว ๆ ไม่มีสัตว์ประหลาดค่อนข้างเยอะเลย)
 


วิเคราะห์องค์ประกอบ (สปอยนะคะ)
องก์ที่ 1 : World Setting Introduction & Protagonist introduction
องก์นี้ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงที่หนังแนะนำให้ฟังว่าโลกนี้มันเกิดอะไรขึ้น จนถึงตอนที่พระเอกออกเดินทาง
พระเอกมีหน้าที่ทำอาหารกับซ่อมวิทยุ ความฝันคือตามหาแฟนที่แยกกันไปตั้งแต่เด็ก ซึ่งทุกคนดูสบายดีมากถ้ามองว่าโลกล่มสลายมา 7 ปีแล้ว มีอาหารอยู่ครบด้วย ดูเหมือนว่าพระเอกเราจะเป็นน้องเล็กที่สุดในบังเกอร์ที่พระเอกอยู่
เห็นบังเกอร์แล้วฉันก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเรื่องมันเกิดในประเทศแถว ๆ นี้ คงตายกันหมดเพราะไม่มีใครสร้างบังเกอร์ไว้แบบหนังฝรั่ง ๕๕๕
ฉันว่าจริง ๆ หนังสามารถเล่นเรื่องปมที่ทำให้พระเอกอยากออกเดินทางได้มากกว่านี้ เพราะยังรู้สึกว่าพระเอกไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องออกเดินทางไปเสี่ยงอันตรายขนาดนั้นเพื่อนางเอก มันดู Puppy Love  ไปหน่อย ทำให้พระเอกดู Innocence มาก ๆ
ส่วนสัตว์ประหลาดก็แนะนำตัวได้น่ากลัวมาก คือจู่ ๆ ก็มาเจาะรัง(?)ของพวกพระเอก แล้วพระเอกก็จะขยับตัวไม่ได้ถ้ากลัวมาก ๆ สัตว์ประหลาดที่มาเจาะรังก็ทำให้เพื่อน ๆ พระเอกตายไปสองสามคน โหดจัด ๆ มาก ๆ
ทุกคนที่ดูคงคิดว่ามันออกไปคนเดียวตายแน่ และใช่ พระเอกก็เลือกที่จะออกเดินทาง
 
องก์ที่ 2: The Journey
พระเอกออกเดินทางจากบังก์เกอร์ของตัวเอง แล้วไปเจอกับเพื่อนร่วมทางเป็นหมาหนึ่งตัว ที่เจ้าของฝึกไว้ดีมาก ๆ น้องมาช่วยชีวิตพระเอกตอนเจอกันครั้งแรกด้วย แล้วพระเอกก็ได้น้องมาเป็นเพื่อนร่วมทาง



จากนั้นพระเอกก็ไปเจอเพื่อนร่วมทางอีกสองคน ที่ช่วยให้พระเอกได้เรียนสกิลเอาตัวรอดต่าง ๆ ที่พระเอกไม่รู้ เดินทางกับเพื่อนสองคนนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง พระเอกก็ได้รับสกิลมากมายมา พร้อมกับทิปส์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้พระเอกตัวรอดได้ในภายหลัง
เช่น การสำรวจพื้นที่จากที่สูงก่อน, การกินอาหารและการนอนต้องทำแยกกัน, การฝึกซ้อมวิชาต่อสู้กับสัตว์ประหลาด เช่นยิงธนู อะไรแบบนั้น





หลังจากแยกกัน เขาก็มีฉากแอคชั่นให้พระเอกแสดงสกิลพระเอกสักหน่อย ก่อนจะเดินทางไปถึงโคโลนีของนางเอก แล้วตอนเจอกันคือพระเอกโดนพิษปลิง ก็เลยเบลอ ๆ เมา ๆ เกือบตาย แต่กินหญ้าถอนพิษได้ทัน แล้วนางเอกก็เดินมาเจอพอดี
ฉันว่าตรงนี้เนื้อเรื่องมันเร่งไปหน่อย แต่อย่าไปคิดอะไรมากเลยหนังเด็ก เอาเป็นว่าพระเอกปลอดภัยได้เข้าไปในโคโลนีของนางเอก ซึ่งนางเอกเป็นเหมือนผู้นำของโคโลนี เพราะเด็กที่สุด บรรยากาศเหมือนบ้านพักคนชราที่มีนางเอกเป็นพยาบาลอยู่คนเดียวเลยแหล่ะ
องก์ 3 : The Climax and The end
สิ่งแรกที่พระเอกค้นพบเมื่อมาถึงก็คือ นางเอกที่เขาอุตส่าห์ดั้นด้นมาหานั้นไม่ได้มีใจให้เขาอีกต่อไปแล้ว เพราะเวลามันผ่านมาตั้งแต่วันสิ้นโลกแล้วตั้ง 7 ปี นางก็ไปมีแฟนใหม่แล้วแฟนใหม่ก็ตายไปแล้วด้วย
ตอนนี้พระเอกก็เลยคิดถึงเพื่อน ๆ ที่โคโลนีของตัวเอง เลยติดต่อกลับไปบอกว่าตัวเองปลอดภัยดี ส่วนคนที่โคโลนีของพระเอกก็ส่งข่าวมาบอกว่า ตอนนี้บังเกอร์กำลังจะพังแล้ว มีสัตว์ประหลาดบุกเข้ามาทุกวันและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พระเอกเป็นห่วงมาก
ต่อมาโคโลนีของนางเอกเจอกลุ่มโจรที่ปลอมตัวมาเป็นคนดีน่าไว้ใจ แต่ความจริงมันจะมาปล้นเอาอาหารและยาของพวกนางเอกไปใช้กันเอง ที่จริงเดาไม่ค่อยยาก เพราะมันดูขี้โม้เกินไปหน่อย ๕๕๕
พระเอกกับนางเอกก็ได้มีซีนบู๊ สู้กับโจร และแน่นอนว่าต้องชนะ แล้วสุดท้ายพระเอกก็ค้นพบว่าตัวเองอยากจะเดินทางกลับไปโคโลนีของตัวเองเพื่อช่วยเพื่อนๆ ออกมาจากบังเกอร์
พระเอกให้ไดอารี่ที่ตัวเองจดความรู้เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดและพวกวิธีการเอาตัวรอดไว้กับนางเอก เผื่อว่าวันไหนนางเอกจะต้องออกเดินทางไปที่ ๆ ปลอดภัยมากขึ้น แล้วกลับไปที่โคโลนีตัวเอง พร้อมกับเชิญชวนให้ทุกคนออกมาสู้สัตว์ประหลาด พร้อมกับบอกว่า อ่อนด๋อยอย่างเขายังสู้ได้เลย ทุกคนก็ต้องสู้ได้ ออกมาสู้กันเถอะ! จบ
 
ปล.หมาในเรื่องก็น่ารักและรู้เรื่องมากกก อยากเทรนหมาที่บ้านให้รู้เรื่องได้เท่านี้บ้าง บางทีฉันก็สงสัยนะว่าหมาบ้านฉันมันปัญญาอ่อนหรือเปล่า ๕๕๕ ทำไมมันติงต๊องจัง

 



Create Date : 29 เมษายน 2564
Last Update : 29 เมษายน 2564 12:40:03 น.
Counter : 1596 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณnewyorknurse

  
ผมเป็นคนชอบหนัก post apocalypse อ่ะครับ
เรื่องนี้ก็ดีความออกมาอีกแบบนึง
หนังไม่เครียดดีครับ ไม่เหมือนแนวนี้เรื่องอื่นๆ ที่กดดัน เครียด สิ้นหวัง
เรื่องนี้มันจะจี้ๆหน่อยๆ 55555

ชอบอ่านรีวิวหนังที่มีความรู้สึกผู้เขียนหลังการดูด้วยครับ
เหมือนได้เพื่อนดูหนัง ^^
เพิ่งรู้ว่า PG-13 ถึงว่า ไม่กดดัน โรคจิตๆ เหมือน Bird box
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:13:36:51 น.
  
ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีโอกาสจะมาเขียนรีวิวหนังอีกนะคะ
โดย: Kurobina วันที่: 30 เมษายน 2564 เวลา:13:03:42 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Kurobina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีที่ได้รู้จัก หวังว่าเราจะได้ทำดีต่อกัน

ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใด ทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดใน Blog นี้ ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าจะเป็นการส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Motivation and Habits are keys to success.
  •  Bloggang.com