Group Blog |
ไดอารี่ 12 เมษายน 2566 #Diary 8.50 น. Starbucks Timesquare กลับมาจากอุบลทีไร จะเกิดคำถามในหัวทุกครั้งว่า “ฉันมาทำอะไรที่นี่” Lifestyle ที่อุบลมันดีมาก งานก็มีให้ทำ พ่อแม่พี่น้องก็อบอุ่น อาหารก็อร่อย ชีวิตก็อยู่อย่างลูกคุณหนู ฉันมีความสุขมาก ฉันมากรุงเทพทำไม ไม่มีอะไรที่ฉันชอบสักอย่าง มีแค่เพื่อน ๆ นี่แหล่ะ แต่มันนาน ๆ ทีเจอก็ได้นี่ ไม่เห็นว่ามีความจำเป็นต้องประจำอยู่กรุงเทพ ยกเว้นเรื่องที่แต่งงานมีสามีแล้ว ฉันชอบวิถีชีวิตที่อุบล ตื่นเช้า ๆ มาช่วยแม่ขนทอง เฝ้าร้าน คอยดูลูกค้า คุยกับพี่ไกร อ่านนิยายที่ชอบ ฟังเพลงที่อะป๊าเปิด ฟังอะป๊าร้องเพลง ดูละครกับคุณแม่ คุยปรัชญากับน้องภีม สนทนาธรรมกับหมูเอย พอตกเย็นก็เข้าห้องใครห้องมัน มีเวลาส่วนตัว หรือถ้าเซ็งก็ออกไปเดินเซ็นทรัล ภีมบอกว่าที่อุบลมีห้างน้อยเกินไป น่าจะมีเดอะมอลล์มาอีกสักยี่ห้อ ฉันชอบมาก ๆ วิถีชีวิตที่อุบล ตั้งใจว่าสอบ CPA ผ่านเมื่อไหร่จะกลับไปอยู่ถาวร ประกาศขายคอนโดที่กรุงเทพหรือไม่ก็ปล่อยเช่าไป กลับไปวิ่งธุระให้ที่บ้าน ทำระบบให้ ปฏิบัติธรรมไปด้วยก็ได้ มันดีมากเลย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางวันละชม. สองชม. ไม่ต้องอดทนโดนหัวหน้าดุด่า ไม่ต้องเครียดกับงานที่เยอะเกินพิกัด แล้วยังมีเวลาทำงานอดิเรกมากกว่าด้วย ฉันมาทำอะไรที่นี่อยู่วะ —— 9.22 น. สตาร์บั๊ค TimeSquare มานั่งรอเรียน P square เอาคอมมาทำงานร้านทองด้วย มีเรื่องนึงที่สังเกตตัวเองได้ อาทิตย์ก่อนตอนอยู่ที่ร้านทอง ฉันเล่น Facebook หนักมาก ในคอมนี่แหล่ะ เพราะลบจากมือถือไปแล้ว Twitter ก็เล่น ไปส่งข้อความให้ผู้ติดตามรู้ว่าช่วงนี้ทำ Social Detox อยู่ + แปะลิงค์ ReadAWrite ด้วย เผื่อใครตามไปอ่านแฟนฟิค แต่ยิ่งเล่น Social ยิ่งรู้สึกเหงา มันคือหลุมดำอะไรสักอย่างจริง ๆ รู้สึกคาดหวังว่าต้องมีคนมาคุยกับเราตลอดเวลา อยากพูด อยากคุย อยาก ๆ ๆ มันเป็นความรู้สึกแบบ เฮ้อ ไม่มีใครทักมาเลย อยากคุยจัง ทั้ง ๆ ที่ตอนไม่เล่นก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกแบบนี้ แล้วมันจะทำให้เราไถไม่หยุด หรือในกรณีฉันก็คือหาคอนเทนต์มาโพสต์ไม่หยุด อยากเห็นผู้คนคุยกัน เกี่ยวกับ MT ฉันก็ไปเลื่อนดูคอมเม้นต์ชาวบ้านคุยกันได้ทั้งวี่ทั้งวัน โคตรเสียเวลาเลย สุดท้ายก็มานั่งรู้สึกผิด หรือไม่ก็รู้สึกแย่เวลามีใครว่ารูเดียส Social Media ตัวร้าย อย่ายอมแพ้มันนะฟ้า!! —— 10.05 น. Starbucks Timesquare เมื่อกี้ไปเล่นพันทิป แล้วก็เอาไดอารี่ไปใส่บล้อก (Bloggang) ที่จริงอยากอัพโหลดไว้หลาย ๆ ที่ แต่คงไม่ได้เริ่มอัพตั้งแต่ต้นปี เริ่มจากปัจจุบันเป็นต้นไปดีกว่า เอาไว้อ่านเองนี่แหล่ะ ฉันชอบอ่านไดอารี่ตัวเอง รู้สึกว่าบล้อกนี่แหล่ะเป็น Platform ที่อยู่ยั้งยืนยงที่สุดละ บล้อกที่เขียนตั้งแต่ปี 2554 ยังอยู่ ๆ เลย ถ้าเก็บที่อื่นมันหายไปนานละ แล้วยังมีเพื่อนด้วย คราวก่อนตอนที่อิน Mushoku Tensei แรก ๆ ฉันก็เบียว เขียนบล้อกว่าอยากใช้ชีวิตจริงจัง มีคนมาคอมเม้นต์ยาว ๆ ด้วย ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครผ่านมาเห็นด้วยซ้ำ เขินชะมัด แต่ฉันชอบแชร์ไดอารี่ให้เพื่อนอ่านอยู่แล้ว ถึงโตแล้วมันต้องคัดบางอย่างออกไปบ้าง (เช่นพวกเนื้อหา 18+ บนเตียงของฉันกับสามีอะไรพวกนั้น) แต่ส่วนใหญ่ก็น่าจะยังแชร์ได้อยู่ เผื่อปสก.ชีวิตฉันมันเป็นประโยชน์กับใคร ชีวิตฉันก็ค่อนข้างน่าสนใจ ถ้าให้พูดอ่ะนะ… —- 11.36น. P Square เรียนมาประมาณ 1 ชม. แล้ว วันนี้มาเรียนต่อจากเมื่อวาน ยังเป็น PPE อยู่ แม่เจ้าโว้ยยย ทำไมมันยากขนาดนี้ ยากมาก ยากมาก ๆ ๆ ๆ ๆ มันมีหลายเรื่องมาพันกันอ่ะ PPE ไม่เหมือนสมัยที่ฉันสอบผ่านเลย ตอนนั้นยัง Simple กว่านี้เยอะ (ฉันทำวิชาบัญชี 1 หลุดเลยต้องเตรียมสอบใหม่) ฉันขนลุกไปหมด แล้วนี่แค่บทแรก ฉันต้องหยุดวิดีโอจดตามตั้งหลายครั้ง พิจารณาแล้ว โหดมาก ๆ T-T แต่ฉันจะต้องพยายามให้มันได้ ตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้ได้ ก็ต้องทำให้ได้!!! ตอนแรกตั้งใจจะรีบเรียนให้จบก่อนเริ่มทำงานที่ Mazars วันที่ 18 แต่เนื้อหามันซับซ้อนโคตร ๆ ฉันต้องทำความเข้าใจอะไรเยอะมากๆ คิดว่าไม่น่าจะเรียนจบทันถ้าจะเอาแบบเข้าใจทุกอย่าง มันต้องหยุดวิดีโอบ่อยมาก ๆ เลย โห แล้วนี่พึ่งมาถึงคลิปที่ 5 จาก 9 คลิปของ PPE มันพันไปหลายบทเลย ต้นทุนกู้ยืม สัญญาเช่า การด้อยค่า สินค้าคงเหลือ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ประมาณการหนี้สิน เครื่องมือทางการเงิน ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนจะอ้วก ข้าวก็หิว ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย กลืนน้ำลายเอื้อก ฉันเอาตัวเองมาเจอกับอะไรเนี่ย ทำไมมันโหดขนาดนี้ !!! แต่ต้องสู้นะ จะท้อไม่ได้เด็ดขาด สู้มันๆๆๆ —— 17.45 น. P Square จองไว้ถึง 18.30 น. เป็นเวลาที่สถาบันปิด ฉันเรียน PPE จบแล้ว แล้วก็ต่อด้วย IP PPE ยากมากกก IP ไม่เท่าไหร่ รู้สึกได้พักสมอง ที่จริงจะเรียน Intangible Asset ต่อก็ได้ แต่ถ้าเรียนต่อน่าจะไม่จบเนื้อหา ต้องค้างกลางคันแน่ ก็เลยหยุดก่อน ไว้ค่อยมาต่อพรุ่งนี้ ออกก่อนเวลาที่จองได้ 1 ชม. ฉันก็ออกได้แล้วล่ะ อยากจะไป TK park แต่ก็อยากไปร้านหนังสือภาษาญี่ปุ่นมือ2 ที่เห็นใน Ticktock วันก่อน จะไปหาดูว่ามี Mushoku Tensei ไหม คิดว่ายังไงพรุ่งนี้ TK park ก็เปิด แต่ร้านหนังสือไม่รู้จะเปิดไหม ลองโทรไปถามก่อนดีกว่าว่าวันนี้ปิดไหม สงกรานต์ร้านอะไร ๆ ก็ปิด —— 18.52 น. ร้านอาหารญี่ปุ่น ไปมาแล้วร้าน Keybooks ได้ Mushoku Tensei เล่ม 1 มา ตื่นเต้นมาก!!! ที่จริงตอนแรกไปผิดร้าน ไปแวะร้านเล็ก ๆ ก่อน ฉันก็ตะหงิดว่าไหนในรีวิวเขาบอกว่ามี 3 ชั้นวะ อันที่เข้าผิดไปมันเป็นร้านเล็ก ๆ แบบห้องแถวเล็ก ๆ นิดเดียว ผิดหวังเลย เพราะไม่มี ฉันอุตส่าห์เหนื่อยเดินเท้าจากตึก Time Square มาซอยสุขุมวิท 33 ตั้ง 20 นาที ที่จริงระหว่างทางเดินมาก็เพลิดเพลินดีแหล่ะ แต่วันนี้กระเป๋าหนักเลยไม่ค่อยสนุก ใครใช้ให้แบกคอมมาเล่า พอเดินคอตกออกจากร้านก็กำลังจะกลับ ไปเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีร้านหนังสืออีก แล้วป้ายชื่อร้านเบอร์เริ่ม Keybooks เอ้ออออ นี่สิ ร้านในรีวิวที่ว่า ต้องร้านนี้ หนังสือมือ 2 สามชั้น ตอนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นงานอดิเรกฉันคือไปขลุกอยู่ตามร้านหนังสือกับของเล่นมือ 2 ของญี่ปุ่นนี่แหล่ะ ฉันมีความสุขกับสถานที่มีหนังสือเยอะ ๆ มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว มันเป็นสิ่งที่ Spark Joy ฉัน ยิ่งร้านหนังสือมือ 2 นี่สนุกมาก ของมันเปลี่ยนเรื่อย ๆ บางทีเราแค่อยากจับอยากลูบหนังสือการ์ตูนที่เราชอบตอนนั้น ถ้าโชคดีก็ได้ของราคาถูกเหมือนได้ฟรี ฉันมักจะเก็บสะสมหนังสือการ์ตูนที่ชอบเป็นภาษาญี่ปุ่น กะว่าสักวันเก่งภาษาญี่ปุ่นแล้วจะอ่าน ซึ่งเลเวลฉันตอนนี้ก็อ่านรู้เรื่องแล้วประมาณ 60% ที่เหลือก็เปิด Google Translate ส่องเอา ฉันเห็นร้าน Keybooks เลยรีบเดินเข้าไป ในร้านมีคนเยอะกว่าที่คิดนะ เอ่อ แต่พนักงานคุยกับฉันเป็นภาษาญี่ปุ่น แน่แหล่ะ นี่ร้านหนังสือญี่ปุ่น เขาก็คงคิดว่าเป็นคนญี่ปุ่นอยู่แล้ว ฉันขึ้นไปหาที่ชั้น 2 โซนการ์ตูน ไม่มี ไม่มี ฮือออ แล้วก็ขึ้นไปชั้น 3 เจอแล้ว!! อยู่ในโซน Light Novel เรียงกันอยู่ 4 เล่ม มีเล่ม 1 , 10 , 11, 12 เล่ม 1 สภาพดี ห่อปกไว้ด้วย แต่เล่ม 10,11,12 นี่สันซีด น่าจะมาจากคนละบ้าน ฉันเลยซื้อมาแค่เล่ม 1 รูเดียสที่รัก ❤️ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสจะแวะมาอีก เผื่อมีเล่มอื่น ๆ สภาพดี ๆ ซื้อที่นี่จะถูกกว่าสั่งมือหนึ่งประมาณ 90 บาท ฉันสนุกตรงที่ได้ลุ้นด้วยว่าจะมีของไหม —- 19.17น ร้านอาหารญี่ปุ่น กินเสร็จแล้ว สั่งข้าวหน้าเท็มปุระ ราคาพอ ๆ กับร้านเกาหลีตอนกลางวัน ถ้ากินแบบนี้ทุกวันฉันจนแน่ ๆ -_-; กรุงเทพค่าครองชีพแพงจัง ตอนนี้กำลังอ่านนิยายเรื่อง ปาฏิหาริย์ร้านอาหารเทพเจ้า เลยอยากกินอาหารญี่ปุ่น เรื่องที่อ่านเมื่อเช้าเกี่ยวกับเท็มปุระ เลยสั่งเท็มปุระ เลี่ยนอ่ะ กินแล้วเลี่ยน แต่อย่างน้อยน้ำเปล่าร้านนี้ก็ราคา 15 บาท ไม่ใช่ 30 บาท มื้อต่อไป อยากจะกินอาหารไทยแล้ว น้ำพริกผักต้ม หรืออะไรทำนองนั้น -_- แค่คิดว่า พรุ่งนี้ต้องเข้ามาเรียนอีกก็เหนื่อยแล้ว 😣 แต่ถ้าไม่รีบเรียนตอนนี้ฉันจะหาเวลามาเรียนยากแล้ว ต้องรีบเรียนไว้ เหนื่อยจัง ระหว่างเดินมาแถวนี้ ก็คิดในใจว่าหรือจะเอางานที่น้องมุกเสนอมาให้ดี งานแอดมินภาษาอังกฤษ งานสบาย ๆ ได้เงินเยอะ แต่ไม่มีทั้งความมั่นคงและ Career Path พอทำได้สักปี 2 ปีก็ลาออกกลับไปอยู่อุบล ไม่รู้สิ วันนี้ไม่ค่อยมีแรงบรรดาลใจเลย เหมือนหมดไฟ อยากยอมแพ้ อยากหนีกลับบ้าน เต้น Just Dance กับแม่ทุกวัน วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไรมากมาย แปลโดจิน วาดแฟนอาร์ตไปเรื่อย ๆ งานก็ทำเท่าที่อยากทำพอ เฮ้อ ชีวิตฉันแค่นั้นได้ไหมนะ —- 19.50 น. รถไฟฟ้า เหนื่อยจัง -_-; ขอทวนสิ่งที่ได้เรียนมาวันนี้เท่าที่ยังเหลือในสมอง PPE : 1. การบันทึก มูลค่าของ PPE ตอนวันที่ได้มา บันทึกที่ราคาทุนเสมอ ตัวที่ซับซ้อนก็จะมี ภาษีซื้อที่ขอคืนไม่ได้ พวก 2/10 n30 หักออกได้ ระวังพวกค่าอบรมพนักงานให้ใช้งาน PPE เป็น อันนั้นห้ามรวมเป็นต้นทุน โจทย์ชอบหลอกมา 2. ต้นทุนการรื้อถอน PPE ต้องบันทึกคิดเป็น PV มารวมกับต้นทุนของ PPE ด้วย ถ้ามันมีเพิ่มหรือลดก็ต้องไปปรับเข้า PPE ด้วย ถ้ามีค่าเสื่อมที่ยังตัดไม่หมดก็จะซับซ้อนขึ้นไปอีก 3. PPE บันทึกได้ 2 วิธี วิธีแรกคือวิธีราคาทุนที่ทำกันทั่ว ๆ ไป คือตั้งทุน หักค่าเสื่อม หักด้อยค่า อีกวิธีไม่ค่อยได้เห็นคือวิธีตีราคา มันจะซับซ้อนเพราะเวลาตีราคาเพิ่มจะวิ่งเข้า OCI หรือหัก PL ที่เคยบันทึก/เวลาตีราคาลงต้องิ่งเข้า PL หรือหัก OCI ที่เคยลด มึนมาก 4. ค่าเสื่อมราคามีวิธีคิด 4 วิธี จุดหลอกแตกต่างกันหมด 1. เส้นตรง รู้ ๆ กัน แต่อย่าไปคิดลด Residual Value โดนหลอกกันตรงนี้ แล้วตัวหารคือ Useful Life ไม่ใช่ Economic Life แยกให้ออก (Useful Life คือตามความตั้งใจของผบห.บริษัทเรา Econ Life คืออายุที่ชาวบ้านเขาใช้กันทุกคน) 2. Double Declining คำนวณเป็นเรทตัด *2 เท่า แล้วก็หักออกจากต้นทุนทั้งยังงั้นเลย จะไปล็อก Residual value ตอนจบ เพราะงั้น ไม่ต้องหัก Residual Value 3. Sum of the yr digit ระวังตอนซื้อระหว่างปี จะถัว ๆ เอาแบบวิธีอื่นไม่ได้ ดูดี ๆ แล้วอย่าเรียงปีผิด ต้นทุนที่ให้คูณต้องหัก Residual Value ด้วย 4. Production Unit ปีไหนไม่ใช้ก็ไม่ต้องคิดค่าเสื่อม แต่ให้ระวังด้อยค่าแทน IP : ขาเข้า : ครอบครอง (เป็นเจ้าของเอง) หรือเช่าแบบ ROU ขาปล่อย : ให้เช่าแบบดำเนินงาน ถือไว้แบบไม่รู้จะทำอะไร ถือไว้เก็งกำไร พวก CIP ก็นับเป็น IP ได้ถ้าวัตถุประสงค์คือ IP IP มีวิธีบันทึก 2 แบบ คือ ต้นทุนกับวิธีมูลค่ายุติธรรม วิธีมูลค่ายุติธรรม ≠ วิธีตีราคาใหม่ (ของPPE) ข้อสอบเคยออกให้บอกความแตกต่างด้วย -_-; ที่จำได้คือมันต่างกันตรงที่ถ้าเป็นวิธีของ PPE ต้องมีส่วนที่บันทึกเข้า OCI แต่ของ IP จะเข้า PL เสมอ แล้วของ PPE ไม่ได้ให้ตีราคาใหม่ทุกปีเหมือน IP แค่ตีราคาสม่ำเสมอก็พอ ทีนี้ก็จะมี Inven มาพันด้วยบางที เช่น บริษัทขายบ้าน ก็ต้องบันทึกบ้านเป็น Inven ไม่ใช่ PPE หรือ IP ข้อสอบจะชอบออกหลอกเรื่องนิยาม ในปรนัยอ่ะ ฉันหลุดตลอดเลยตอนพี่แพทพาทำโจทย์ ต้องกลับไปทวนเยอะ ๆ 😓 ที่จริงเรียนเยอะมากกกกกวันนี้ เฮ้อ ไม่ชอบเลย อยากสอบผ่านไวไวจุง —- 21.33 น. คอนโด กลับถึงบ้านก็วางกระเป๋าแล้วอาบน้ำสระผมก่อนเลย เหนื่อยมาก ทำไมไปเรียนมันถึงเหนื่อยขนาดนี้นะ นั่งทั้งวันด้วย ไม่ดีต่อสุขภาพเลย พรุ่งนี้กับมะรืนก็ยังต้องลุยแบบนี้อีก ทรหดจัง ตอนเด็ก ๆ เรียนตั้งแต่เช้าจรดเย็นไปได้ยังไงกันนะ? แล้วฉันก็นอนเล่น FB วันนี้ไม่มี Schedule Post ที่ตั้งเวลา Post ไว้ล่วงหน้าแฮะ ฉันเลยเอา Fanart ที่วาดเมื่อวานไปลงกลุ่ม ฉันชอบมากเลยรูปนี้ ครอบครัวสุขสันต์ รู้สึกฝีมือในการวาดซิลฟี่พัฒนาขึ้น แล้วก็กะจะตั้งโพสต์ล่วงหน้า ปรากฏมือลั่นไปโพสต์ลงกลุ่มเลย ก็เลยเอาตามนั้นแหล่ะ ไม่ล่วงหน้าก็ได้ วันนี้จะรีบนอน เมื่อคืนวานนอนไม่ค่อยหลับ เพราะอะไรไม่รู้ รู้สึกนอนหลับตาอยู่นานมาก ๆ ๆ ๆ |
Kurobina
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ยินดีที่ได้รู้จัก หวังว่าเราจะได้ทำดีต่อกัน ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใด ทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดใน Blog นี้ ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าจะเป็นการส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด |