Group Blog
สาปรัก...บท 8/1
ปฐวีนำรถเข้าไปจอดในลานจอดรถหน้ากุฏิแล้ว จึงถือถังสังฆทานลงจากรถและเดินตามหลังคุณพุดซ้อนเข้าไปในเรือนแสดงธรรมที่อยู่ติดกับกุฏิของเจ้าอาวาสด้วยอาการเซ็งหน่อยๆ เนื่องจากตลอดเวลาที่นั่งรถมาด้วยกัน คุณพุดซ้อนเอาแต่บ่นเป็นหมีกินผึ้งถึงเรื่องที่เขาไปรับเธอช้า

ความจริงไม่ตั้งใจจะเอ้อระเหยดั่งที่มารดาว่า แต่เนื่องจากใจไม่แข็งพอ...ก็เหมือนทุกคราวที่พอมีสาวสวยๆ หุ่นเซ็กซี่ๆ มาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ทีไร เป็นต้องใจอ่อนยวบ ไม่เคยปฏิเสธได้สักที ฉะนั้นเมื่อสุนิษาเดินเปลือยกายเข้ามาในห้องน้ำพร้อมด้วยหุ่นกลมกลึงขาวสล้าง ทำให้ตบะซึ่งมีอยู่น้อยนิดอยู่แล้วแตกกระเจิง สุดท้ายเลยเถิดและไปจบลงที่เตียงนอนเหมือนเช่นทุกคราว แถมหลังจากนั้นยังกินเวลาอีกเกือบชั่วโมงกว่าพวกเขาจะสามารถผละออกจากกันเพื่อลุกไปอาบน้ำรอบสอง แล้วจึงไปคลินิก ก่อนจะพาสุนิษาไปส่งที่คอนโดฯ และวกกลับไปรับมารดาที่บ้าน ทั้งหมดกว่าจะเสร็จสิ้นก็กินเวลาไปอีกเกือบ ๒ ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้เมื่อไปเจอคุณพุดซ้อน เธอจึงทำหน้าหงิกและพร่ำเทศนาเขามาตลอดทางนับตั้งแต่ออกจากซอยบ้านสุขารมณ์มาจนถึงปากทางเข้าวัดเลยทีเดียว

เรือนไม้ทรงไทยเปิดผนังโล่งทั้งสามด้าน ลมพัดโกรกเย็นสบาย คุณพุดซ้อนคลานเข้าไปทรุดนั่งพับเพียบหน้าเจ้าอาวาสที่นั่งอยู่บนอาสนะสูง แล้วก้มลงกราบสามครั้ง ก่อนหันไปขยิบตาให้ลูกชายทำตาม ปฐวีคุกเข่าแล้วก้มกราบตามเงียบๆ จากนั้นก็เปลี่ยนมานั่งพับเพียบตาม ปฐวีนั่งค่อนข้างไกลจากคุณพุดซ้อนและเจ้าอาวาส จึงเป็นเหตุให้ถูกตวัดตาค้อนจากคุณพุดซ้อน ไม่รู้เลยว่าในใจเธอกำลังนึกเขม่นอย่างหนัก

พ่อลูกชายตัวดีทำยังกับเข้าใกล้พระใกล้เจ้าแล้วต้องร้อนรุ่มทนไม่ได้ ต้องถอยไปนั่งไกลๆ... คุณพุดซ้อนนึกอย่างเขม่นด้วยว่ายังโกรธไม่หายกับการที่นัดแนะให้มารับบ่าย ๒ โมง แต่ลูกชายตัวดีล่อไปเกือบ ๔ โมง ฉะนั้นกว่าจะมาถึงท่าน้ำเมืองนนท์ เวลาก็ล่วงเลยมาเย็นมากแล้ว ดีที่เจ้าอาวาสยังไม่เข้าไปเตรียมตัวสำหรับการทำวัตรเย็น

“นมัสการค่ะหลวงพ่อ”

“เจริญพรโยมพุดซ้อน”

“ดิฉันต้องกราบขออภัยที่มาช้าเจ้าค่ะ พอดีว่าลูกชายเกิดติดธุระนิดหน่อย” มือพนมไหว้ ขณะที่บอกเหตุผล แล้วปรายตามองไปทางบุตรชายที่นั่งอยู่ข้างหลังด้วยแววตาตำหนิ

พระเกจิดังปรายตามองตามแล้วถามขึ้นเบาๆ ว่า “คนนี้เหรอโยมพุดซ้อน ที่โยมอยากให้อาตมาผูกดวง หาฤกษ์แต่งงาน”

“ใช่เจ้าค่ะ ลูกชายคนรองของดิฉันเอง ชื่อปฐวี แล้วนี่ดวงของปฐวีกับหนูอัปสรเจ้าค่ะ” บอกพลางยื่นแผ่นกระดาษเล็กๆ ไปตรงหน้าพระเกจิดัง

เจ้าอาวาสใช้ผ้ารับประเคน รับกระดาษไปจดอะไรบางอย่างลงในสมุดบันทึก คำนวณตามสูตรโหราศาสตร์ ครูใหญ่ๆ จึงเงยหน้า แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“มีอะไรหรือเจ้าคะ” คุณพุดซ้อนถามด้วยความกังวลเมื่อเห็นเจ้าอาวาสอึ้งไป

พระเกจิดังไม่ตอบ แต่พูดไปอีกเรื่องว่า “วันหลังพาผู้หญิงคนนั้นมาด้วยนะโยมพุดซ้อน”

“คะ?” ตวัดถามเสียงสูง “ทำไมหรือเจ้าคะ?”

“ดวงเธอบอกถึงคนมีบุญญาธิการ เวลาตกฟากดีมากๆ ชนิดที่อาตมาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพียงแต่...”

“แต่อะไรหรือเจ้าคะ?” มือยังคงพนมไหว้ ขณะที่ถามด้วยความห่วงใย

“อายุเธอไม่ยืน เหมือนจะมีเคราะห์หนัก อาตมาอยากเตือนอะไรบางอย่างกับเธอ”

คุณพุดซ้อนพูดไม่ออก ขณะที่ปฐวีฟังแล้วอึ้งไปเหมือนกัน

“ที่บอกอายุไม่ยืน เธอจะมีอายุสักแค่ไหนเจ้าคะ”

“อาตมาตอบไม่ได้หรอกโยมพุดซ้อน จนกว่าจะได้คุยได้ซักถามอะไรบางอย่างกับเธอก่อน”

“ถ้างั้นจะเกี่ยวกับเรื่องที่เธอช่วยต่ออายุให้ผู้คนหรือเปล่าเจ้าคะ?”

“โยมพุดซ้อนหมายความว่าไง”

“คือหนูอัปสรครองสมณเพศผู้ทรงศีลอยู่ค่ะ เธอบวชชีพราหมณ์และคอยจับยามสามตา ช่วยดับเคราะห์ให้กับผู้คน ถ้าใครอายุสั้นเธอก็จะช่วยต่ออายุให้”

“เธอบวชชีพราหมณ์อยู่แล้วจะแต่งงานได้เหรอ?”

“เรื่องนี้ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ แต่เธอขอตาวีว่าแต่งงานแล้วขอไม่มีอะไรด้วย”

ผู้ที่ครองผ้าเหลืองฟังแล้วอึ้ง มองไปทางหนุ่มสูงใหญ่ที่คุณพุดซ้อนพูดถึงแล้วถอนหายใจ เอ่ยว่า “คงเป็นกรรมเก่าที่ทำร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อนจริงๆ กรรมนี้หนักนัก”

“อะไรหรือเจ้าคะ? หลวงพ่ออย่าพูดเป็นปริศนาแบบนั้นสิคะ ดิฉันฟังแล้วใจคอไม่ดีเลย”

“โยมอัปสรกับโยมปฐวีเป็นเนื้อคู่กันมาทุกภพทุกชาติไป ดวงของคนทั้งคู่เกื้อหนุนกันมาก...”

“อะไรนะครับ?” ปฐวีทะลุกลางปล้องขึ้น ไม่รอจนเจ้าอาวาสพูดจบ “หลวงพ่อช่วยตรวจดูอีกรอบได้ไหมครับ บางทีอาจตาฝ้าฟางเพราะแก่แล้ว เลยดูตัวเลขผิดไป”

“เจ้าวี!” คุณพุดซ้อนเรียกขึ้นด้วยความตกใจ “ทำไมเสียมารยาท ทำนิสัยแย่ๆ แบบนั้น รีบกราบขอโทษหลวงพ่อเดี๋ยวนี้นะ”

พระเกจิดังไม่ถือ เขายังตอบด้วยแววตาปรานี สีหน้าออกจะแสดงความเคารพระคนยำเกรงผู้ที่ตัวเองกำลังเจรจาพาทีอยู่ด้วยซ้ำ “ไม่เป็นไรหรอกโยมพุดซ้อน” แล้วหันไปทางปฐวี กล่าวต่อว่า “เชื่ออาตมาอย่างนะ ผู้หญิงคนนั้นคือเนื้อคู่ของโยมจริงๆ เธอมาเกิดครั้งนี้ก็เพื่อโยม ถ้าหากสงสารและหวังดีต่อเธอ ก็ขออย่าทำอะไรให้เธอผิดหวังเด็ดขาด”

“หลวงพ่อหมายความว่าไงครับ ผมไม่เข้าใจ”

เจ้าอาวาสถอนหายใจ เอ่ยว่า “อาตมาไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรได้มากน้อยแค่ไหน เอางี้ก็แล้วกัน...ถ้าโยมอัปสรบอกให้โยมอยู่ห่างๆ โยมก็ทำตามเธอก็แล้วกัน เพราะนั่นแสดงว่าเธอตรองดีแล้วว่าจะดีกับโยม”

ปฐวีเลิกคิ้วหนักขึ้น “ดีกับผม? ผมไม่เข้าใจ คือไม่ใช่ว่าผมอยากหลับนอนกับคนอัปลักษณ์อย่างเธอหรอกนะครับ คือ...งี้นะครับ” ลูกชายคุณพุดซ้อนอธิบายขึ้นเมื่อเห็นสีหน้างุนงงของเจ้าอาวาส “คนที่มีบุญญาธิการของหลวงพ่อไม่ได้หน้าตาสะสวยหรอกนะครับ ตรงกันข้ามเธออัปลักษณ์เป็นที่สุด เพราะงั้นผมถึงไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องเล่นตัวกับผม ความจริงควรจะถือเป็นบุญคุณของผมด้วยซ้ำถ้าผมจะฝืนใจเข้าหอด้วย”

“โอ๊ย...ฉันจะเป็นลม” คุณพุดซ้อนพูดพลางโงนเงน เธอยกมือพัดลมไปมา สีหน้าซีดขาวราวกับจะเป็นลมจริงๆ ในใจรู้สึกตกอกตกใจที่ปฐวีหยาบคายต่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่ด้วยการเอาเรื่องบัดสีบัดเถลิงมาพูดต่อหน้าท่าน

“ไม่เป็นไรโยมพุดซ้อน อย่ากังวลไปเลย ถ้าโยมไม่สบายเนื้อสบายตัว จะออกไปสูดอากาศข้างนอกก็ได้นะ” เจ้าอาวาสแนะขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบช้าภายหลังลืมตาขึ้นจากการเพ่งญาณ คำบรรยายรูปลักษณ์ของอัปสรที่หลุดจากปากปฐวีทำให้พระเกจิดังต้องใช้ญาณเพ่งถึงบุคคลที่ถูกพาดพิง ด้วยว่าขัดกับดวงของผู้มีบุญญาธิการ พลันที่เห็นภาพในนิมิต แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่ก็บอกได้ทันทีว่า... อัปสรไม่ธรรมดา

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ดิฉันสบายขึ้นแล้ว” คุณพุดซ้อนตอบอุบอิบ พยายามยืดตัวนั่งตรง

เจ้าอาวาสยิ้มด้วยแววตาปรานี หันไปทางปฐวี กล่าวต่อว่า “อาตมาบอกอะไรโยมอย่างนะ จงอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น เพราะสิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น”

ปฐวีนิ่วหน้า “หลวงพ่อจะบอกว่าแท้จริงแล้วเธอคือนางฟ้าที่สวยหยาดฟ้ามาดินอย่างงั้นหรือครับ?” ไม่ได้ตั้งใจจะประชด แต่ก็อดไม่ได้ตามประสาคนปากไว

พระเกจิดังถอนหายใจ คลี่ยิ้มมุมปาก “แล้วแต่บุญแต่กรรมเถอะ”

คนฟังขมวดคิ้วหนักขึ้น ด้วยคำตอบของผู้ทรงศีลแฝงปริศนามากกว่าเดิม “ผมไม่เข้าใจ”

“ไม่ต้องห่วง ถ้าโยมทำบุญมามากพอ ก็จะค้นพบความจริงเอง”

ปฐวียังคงทำหน้ามึนงง ขณะที่คุณพุดซ้อนถามขึ้นว่า “หลวงพ่อหมายความว่าถ้าใครมีบุญมากพอถึงจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหนูอัปสรหรือคะ” เห็นเจ้าอาวาสเพียงแค่คลี่ยิ้มด้วยแววตาปรานี เธอก็กล่าวต่อว่า “งั้นถ้าเป็นอย่างที่หลวงพ่อว่าจริงๆ แสดงว่าที่ดิฉันเคยคิดว่าเธอเกิดมาบุญน้อย ถึงมีใบหน้าอัปลักษณ์ไม่ต่างจากท้าวแสนปม ก็ไม่จริงแล้วสิคะ”

“ไม่เลย ตรงกันข้ามห่างไกลจากคำว่า บุญน้อย นัก เชื่ออาตมาเถอะ ขึ้นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นต่างหากว่าต้องการเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงให้ใครเห็นเมื่อไหร่”

อืม... เกิดเสียงครางในลำคอขึ้นพร้อมกันทั้งคุณพุดซ้อนและปฐวี

คุณพุดซ้อนยิ้มอย่างสมใจ เอ่ยว่า “ถึงว่าดิฉันก็ว่าแล้วว่าแปลกๆ เพราะผิวพรรณเธอผ่องใส ขาวสะอาดสะอ้านเกินกว่าจะเป็นคนธรรมดา แต่ความจริงเรื่องอัปลักษณ์ ดิฉันก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะคะ ตรงกันข้ามนับวันมีแต่จะรักและสงสาร ยังเคยคิดด้วยซ้ำว่าถ้าหนูอัปสรไม่ว่ายังโง้นยังงี้ ดิฉันจะพาเธอไปทำศัลยกรรม”

เจ้าอาวาสเพียงแค่ยิ้ม ไม่กล่าวเสริมใดๆ ขณะที่ปฐวีถามต่อว่า

“ทำยังไงผมถึงจะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอครับ”

“อาตมาบอกแล้วถ้าโยมทำบุญมามากพอ”

“งั้นแสดงว่าที่ผ่านมากรรมผมคงหนักมาก เพราะไม่เห็นเค้าลางเลยว่าเธอจะสวยขึ้นมาได้”

พระเกจิดังแทบหลุดเสียงหัวเราะ โชคดีที่สะกดกลั้นไว้ได้ทัน เจ้าอาวาสตอบเสียงเนิบช้าว่า

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ถ้าหนักจริง โยมไม่มีทางได้เจอเนื้อคู่ในชาตินี้หรอก เอาล่ะ...นี่ฤกษ์แต่งงานของโยม จัดงานแต่งตามฤกษ์นี้แล้วทุกอย่างจะดีเอง”

คุณพุดซ้อนยกมือกราบนมัสการ ก่อนหยิบเศษกระดาษจากผ้ารับประเคนมาอ่านออกเสียงดังๆ “๓ เมษายน เวลา ๑๙.๔๔ น.”

ปฐวีเบิกตาโต “คุณแม่พูดเล่นแน่ นั่นมันสัปดาห์หน้าแล้วนะครับ”

“โยมฟังไม่ผิดหรอกโยมปฐวี ฤกษ์แต่งงานที่ดีที่สุดคือ ๓ เมษายน จริงๆ ถ้าผิดจากนี้ ต้องรอไปอีกปี ซึ่งถึงตอนนั้นอาตมาก็ยังไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะดีเท่าปีนี้ไหม”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาทิตย์หน้าก็อาทิตย์หน้า ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ยังไงดิฉันก็เตรียมตัวทัน งั้นดิฉันขอถวายสังฆทานนะเจ้าคะจะได้ลาไปเตรียมงานแต่ง วี…มาช่วยแม่ประเคนสังฆทานแร้ว” ประโยคหลังหันไปทางลูกชาย

ปฐวีคลานเข้ามาใกล้คุณพุดซ้อน ต่างกล่าวสวดอาราธนาศีล สมาทานศีล ตั้งนะโมสามจบก่อนจบด้วยการกล่าวคำถวายสังฆทาน จากนั้นสองแม่ลูกก็ช่วยกันประเคนถังสังฆทานชุดใหญ่วางบนผ้ารับประเคน พร้อมซองขาวที่บรรจุธนบัตรหนาเป็นฟ่อนวางบนพาน เจ้าอาวาสกล่าวอนุโมทนาด้วยบทยะถา วาริวหา โดยคุณพุดซ้อนกรวดน้ำไปพร้อมกัน จนเสร็จสิ้นพิธี

“อาตมาคงต้องเข้ากุฏิไปเตรียมทำวัตรเย็นแล้วล่ะ” พระเกจิชื่อดังกล่าวขึ้นเมื่อปฐวีกลับเข้ามาหลังจากนำภาชนะที่ใช้สำหรับกรวดน้ำไปรดพระแม่ธรณีใต้ต้นไม้ใหญ่แล้ว

“งั้นดิฉันกับลูกกราบนมัสการลาหลวงพ่อเจ้าค่ะ”

“เจริญพรโยมพุดซ้อน โยมปฐวี”

คุณพุดซ้อนรอจนเจ้าอาวาสลงจากเรือนไปแล้ว จึงเดินตาม เธอกล่าวขึ้นเบาๆ ว่า “เอาล่ะ...พรุ่งนี้วีไปรับหนูอัปสรมาที่บ้านเลย แม่จะให้ช่างเสื้อประจำตัวของแม่มารอวัดตัวที่บ้าน”

“แต่...” ปฐวีกำลังจะบอกว่าเขามีนัดกับสุนิษา แต่คุณพุดซ้อนไม่รอให้เขาพูดจบ เธอสวนขึ้นว่า

“เรื่องอื่นพักไว้ก่อน เอาเรื่องนี้ก่อน ไม่ได้ยินหลวงพ่อพูดเหรอ หนูอัปสรคือเนื้อคู่ของวีมาแต่ชาติปางก่อน เป็นคนที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เพราะฉะนั้นแม่ต้องรีบจัดงานให้วีแล้ว เดี๋ยวคนอื่นมาคว้าหนูอัปสรไปล่ะแย่เลย... แล้วนี่แม่ยังต้องเตรียมงานอีกเยอะ ไหนจะเลือกการ์ด พิมพ์การ์ด เชิญญาติผู้ใหญ่ เลือกสถานที่จัดงาน ติดต่อช่างภาพ ต่อต่อนักข่าว โอ๊ย...จิปาถะ เพราะงั้นเรารีบไปกันเถอะ”

ปฐวีฟังแล้วลอบเบ้ปาก



………………………………..







Create Date : 07 เมษายน 2557
Last Update : 8 เมษายน 2557 15:44:11 น.
Counter : 1420 Pageviews.

6 comments
  
เอ้า อยากเห็นใบหน้าที่แท้จริง จงทำตามที่นางฟ้าบอกนะจ๊ะปฐวี อย่าลืมว่าคนมีบุญเท่านั้นที่จะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางฟ้า

ฤกษ์แต่งงานอีกหนึ่งอาทิตย์ แหมถ้าสุนิษาทราบมิกรี้ดวงแตกเลยหรือเนี่ย
โดย: susi IP: 115.31.137.102 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:8:31:44 น.
  
อยากรู้ค่ะ ว่าอัปสรจะทำให้ปฐวี ใฝ่ธรรมะได้หรือเปล่า
โดย: พี่สุ...จ้า IP: 182.52.74.132 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:9:08:51 น.
  
จิตใจของนายวีดำมืดซะขนาดนี้ อัปสรจะทำยังไงให้คนแบบนี้เห็นธรรมะได้นะ นึกไม่ออกเลยค่ะ
โดย: pantan IP: 58.9.30.72 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:10:28:29 น.
  
นึกภาพนายวีใส่ยืนคู่นู๋อัปสรในงานแต่งแล้วฮาอะ หนุ่มหล่อกะสาว(ที่ยังไม่งาม) คนมางานคงต้องนึกว่าบ้านนี้เกิดไรขึ้น
โดย: sakeena IP: 124.120.3.175 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:10:49:56 น.
  
เด๋วปั๊ดเหนี่ยวเลย นายวีนี่
โดย: theme IP: 171.96.243.109 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:19:30:42 น.
  
แหมอยากให้เห็นตอนถอดรูปจังเลย
โดย: สกุล IP: 171.96.198.124 วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:13:42:55 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments