Group Blog
สาปรัก...บท 4/2
แม้ปฐมกาลจะพาอัปสรหายลับเข้าไปในห้องประชุมที่อยู่ติดกันแล้ว แต่กระนั้นในสมองของปฐวีก็ยังคงอื้ออึงไปด้วยเสียงของอัปสรที่บอกว่าเขาคือคนที่เธอตั้งใจจะเลือกตั้งแต่ต้น เกิดความรู้สึกคลางแคลงใจว่าทำไมเธอถึงเลือกเขาแทนที่จะเป็นปฐมกาล ในเมื่อเธอมีโอกาสเจอพี่เขาแล้ว ในขณะที่กับเขา เธอยังไม่เคยเห็นหรือรู้จักมาก่อน ฉะนั้นเธอคงต้องเห็นแล้วว่าปฐมกาลมีคุณสมบัติเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งความเป็นสุภาพบุรุษ ความสามารถที่จะเป็นคู่ชีวิตที่ดีให้กับสาวสักคน ซึ่งแน่นอนว่าปฐมกาลมีคุณสมบัติเหล่านั้นเหนือกว่าเขาในทุกๆ ด้าน

แล้วเหตุใดเธอถึงเลือกเขา? ปฐวีไม่สามารถตอบตัวเองได้ ชะรอยมารดาและปานวาด ก็คงรู้สึกไม่ต่างกับเขา ด้วยคุณพุดซ้อนพูดขึ้นว่า

“แม่ล่ะยังงงๆ ว่านี่เราเข้าใจผิดกันไปเองตั้งแต่ต้นเลยเหรอ”

“ถ้าฟังอย่างที่เธอว่า ก็น่าจะเป็นยังงั้นนะคะ” ปานวาดเสริมแล้วหันไปทางพี่ชาย “พี่วีละคะคิดว่าไง ทำไมเธอถึงเจาะจงให้เป็นพี่ นี่พี่แอบไปทำให้เข้าตาเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ถามด้วยสีหน้าล้อเลียน แววตาเต้นพราวระยับเต็มที่

“นี่...ยายวาดไม่ขำเลยนะ” ปฐวีเอื้อมมือไปแจกมะแหงกน้องสาวทีหนึ่ง มีผลให้ปานวาดร้องอูยแล้วคลำหัวป้อยๆ ปฐวีพูดต่อว่า “ยายนั่นทำพี่งงเป็นไก่ตาแตก หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้จนถึงตอนนี้ว่าทำไมถึงเลือกพี่ ไม่เลือกพี่กาล”

“นั่นสิ แม่ก็แปลกใจ เพราะจะว่าไปถ้าแม่เป็นสาวๆ แม่เลือกตากาลมากกว่าเราแน่วี เพราะตากาลไม่ทำให้ผู้หญิงน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่”

ปฐวีหันไปทำเสียงฮึ่มฮั่มใส่มารดา “น้อยๆ หน่อยคุณแม่ เชียร์ลูกชายคนโปรดออกนอกหน้าจริง”

แต่คุณพุดซ้อนก็ไม่ยี่หระ เธอแค่ไหวไหล่กับคำประท้วงของบุตรชายคนรอง

ขณะที่ปานวาดยังคงแหย่ต่อ แววตาติดรอยทะเล้น “หรือว่า...นี่เป็นบุพเพสันนิวาส หรือไม่ก็นางฟ้าอุ้มสมของพี่คะ” เธอแปลงจากคำว่า เทพอุ้มสม เป็น นางฟ้าอุ้มสม ตามความหมายของชื่ออัปสร

“นี่...บุพเพสันนิวาสเหรอ” ปฐวีแจกมะแหงกอีกที “นางฟ้าอุ้มสมบ้าบออะไรกัน นางอัปลักษณ์อุ้มสมล่ะไม่ว่า”

คุณพุดซ้อนนิ่วหน้า “ทำไมวีพูดถึงหนูอัปสรชั่วร้ายอย่างนั้นล่ะลูก เธอคือผู้มีพระคุณต่อเรานะ เธอมาเพื่อช่วยเหลือครอบครัวเรา ช่วยคุณพ่อ เพราะงั้นวีควรจะขอบคุณเธอ พูดถึงเธอและปฏิบัติต่อตัวเธอให้ดีๆ หน่อย”

“ผมว่าคนที่พูดถึงเธอไม่ดีเป็นคนแรกคือคุณแม่นะครับ ไม่ใช่พวกเรา คุณแม่พูดถึงเธอว่าอัปลักษณ์ทุกคำ”

คุณพุดซ้อนหน้างอ ค้อนปะหลับปะเหลือก โบกมือว่อนไปมา “แม่ไม่สนหรอก นั่นมันอดีตไปแล้ว แม่ไม่เก็บคำเหน็บแนมของเรามาใส่ใจหรอก”

เอ่อ...ง่ายดี... ปฐวีหัวเราะ “ผมไม่ถือสาก็ได้ แต่เรื่องที่บอกว่าเธอช่วยครอบครัวเรานี่ผมขอค้านนะครับ แม่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เธอยื่นข้อเสนอขอแต่งงานกับผมนะครับ ไม่ใช่มาช่วยฟรีๆ อย่าแกล้งลืมสิ”

“ก็แค่ขอแต่งงาน ไม่เห็นเป็นไรเลยลูก หนูอัปสรไม่ได้ขออะไรไปมากกว่านั้นสักหน่อย”

“คุณแม่คิดตื้นๆ ไปหน่อยหรือเปล่าครับ ไม่คิดเลยเหรอว่าการแต่งงานครั้งนี้จะตามมาด้วยทรัพย์สินศฤงคารมากมาย อย่าลืมว่าครอบครัวเรามีทรัพย์สินเท่าไหร่ เพราะงั้นอย่ามองข้ามว่าเธอจะไม่หวังอะไรกับการแต่งงานครั้งนี้ แล้วมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอคงไม่โง่ถอยหลังง่ายๆ หรอกครับ อย่างน้อยๆ ทรัพย์สินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นหลังผมจดทะเบียนกับเธอ ก็ต้องมีชื่อเธอพ่วงเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งอยู่ด้วย อย่างนี้แล้วคุณแม่จะหาว่าเธอไม่หวังอะไรอีกหรือครับ? อ้อ...ยกเว้นว่าคุณแม่จะยินยอมให้ผมแต่งกับเธอ โดยไม่ต้องจดทะเบียน เอางั้นไหมล่ะครับ เธอเองก็ไม่ได้ยื่นเงื่อนไขเรื่องใบทะเบียนสมรสอยู่แล้ว ขอแค่เรื่องแต่งกับผมเท่านั้น เพราะงั้นถ้าเราแต่งแต่ไม่จด เธอก็ว่าเราผิดคำพูดไม่ได้” แสร้งย้อนถาม แต่เขาแอบหวังให้มารดาเห็นดีเห็นงามด้วย

คุณพุดซ้อนอึ้ง เธอลังเลเพราะไม่เคยคิดประเด็นนี้มาก่อน แล้วคุณพุดซ้อนก็ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า “จะดีเหรอ? ไม่ดีหรอกมั้งหัวหมอแบบนั้น ผู้หญิงเราแต่งงานทั้งทีในชีวิต ก็อยากหวังอะไรเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเป็นเรื่องธรรมดานะตาวี เอางี้ดีกว่า...แม่ตัดสินใจแล้ว แล้วแต่หนูอัปสรว่าต้องการยังไง ถ้าเธอต้องการใบทะเบียนสมรส ลูกก็จดให้เธอก็แล้วกัน ยังไงทรัพย์สมบัติที่เกิดหลังลูกแต่งงาน คงไม่งอกเงยมากี่มากน้อยหรอก อย่างเก่งก็คงไม่เกินร้อยล้านหมื่นล้าน หรือวีคิดว่าจะมีความสามารถสร้างตัวได้มากกว่านั้น?”

น่าน...ยังจะย้อนกลับมาดูถูกเขาได้อีก ปฐวีกัดฟันแน่น ยอมรับว่าในตระกูลสุขารมณ์ ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเก่งเกินกว่าบิดาเขาที่อายุแค่ ๓๘ ปี แต่สามารถหาเงินก้อนได้มากถึงแสนล้านบาท ซึ่งถือว่ามากที่สุดแล้วในบรรดาลูกหลานสกุลสุขารมณ์ทุกคน และหลังจากนั้นบิดาเขาก็ไม่เคยหาเงินก้อนได้มากเท่าครั้งนั้นอีกเลย ในขณะที่เขาอายุ ๓๕ ปีแล้ว แม้อายุจะน้อยกว่าบิดาในขณะนั้น ๓ ปี แต่จวบจนตอนนี้ทรัพย์สมบัติที่เขาหามาได้ในแต่ละคราว ก็ยังน้อยกว่าหนนั้นของบิดาอยู่หลายเท่าตัว

เมื่อเห็นลูกชายเงียบ ไม่พูดอะไรต่อ คุณพุดซ้อนก็พูดต่อว่า “ถ้าวีไม่สามารถหาเงินได้มากกว่านั้น ก็ปล่อยให้หนูอัปสรมีชื่อเอี่ยวในทรัพย์สินพวกนั้นด้วยเถอะ เพราะแค่ร้อยล้านพันล้านสำหรับครอบครัวเราจิ๊บๆ มาก อีกอย่างแม่ว่าเราจะกระต่ายตื่นตูนเกินไปหรือเปล่า หนูอัปสรนุ่งขาวห่มขาว ปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรมซะขนาดนั้น เธอคงไม่คิดหวังอะไรจากครอบครัวเราก็ได้ เธออาจต้องการมาช่วยคุณพ่อเราด้วยน้ำใสใจจริง ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์เปรียบดั่งแม่พระ” คุณพุดซ้อนรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ตอนที่เห็นเธอเป็นครั้งที่สอง เธอสัมผัสได้ถึงรอยปรานี ความเยือกเย็นและสงบนิ่งในบุคลิกของอัปสร ราวกับว่าชาตินี้เธอไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ เพียงแต่หนแรกทำไมเธอมองไม่ออก? บางทีอาจเพราะความอคติกระมัง...อคติด้วยความเกลียดชัง หนนี้แม้ว่าจะอคติด้วยความเลื่อมใสศรัทธา แต่กระนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่าลางสังหรณ์รอบนี้น่าจะแม่น

“คุณแม่ตื่นเถอะครับ” ปฐวีสะกิดด้วยสีหน้าอ่อนใจ กลอกตาขึ้นลง “จะมองโลกสวยไปไหม เธออยู่ในศีลในธรรมอะไรกันครับ เอาผ้าขาวมาฉาบหน้าล่ะไม่ว่า ถ้าอยู่ในศีลในธรรมจริงๆ ต้องไม่อยากมีผัวแล้ว แต่นี่เธอร้องขอให้ผมยัดเยียดความเป็นผัวให้เธอนะครับ อย่าลืมสิ”

“ว้าย...ตายแล้วนายวี หยาบคายจริงๆ” คุณพุดซ้อนวาดแขนตีเผียะใหญ่ ไม่เบามือนัก ได้ยินเสียงก้องสะท้อนไปทั่วความเงียบกริบของโรงพยาบาลแห่งนั้น ความจริงเธออยากจะตบปากเจ้าลูกชายปากจัดมากกว่า แต่ด้วยความสูงไม่ถึง เพราะปฐวีสูงมาก เธอจึงทำได้แค่เลือกตำแหน่งที่อยู่ใกล้และถนัดมือมากที่สุดแล้วออกแรงเต็มเหนี่ยว คุณพุดซ้อนตวัดตาค้อนขวับใหญ่แล้วเหลียวซ้ายแลขวา ด้วยความเกรงใจว่าอัปสรจะโผล่มาได้ยินเข้า โชคดีทุกอย่างรอบตัวยังคงเงียบสงัด ไม่ต่างจากปานวาดที่สะดุ้งโหยงพอกันกับคำพูดลุ่นๆ โดยไม่ผ่านการขัดเกลาของพี่ชาย คุณพุดซ้อนกล่าวสั่งสอนลูกชายว่า “วี...แม่จะสอนอะไรให้นะ แค่เธอมีใบหน้าที่ไม่สวยถูกใจลูก ไม่เจริญหูเจริญตา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะพูดจาจาบจ้วง ดูถูก หรือก้าวร้าวเธอได้ เธอก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเหมือนๆ กับเรา คนเรามีใบหน้าอัปลักษณ์แล้วก็ใช่ว่าใจจะต้องอัปลักษณ์ไปด้วย อย่าหลงเข้าใจผิดแบบนั้นสิ แม่เองก็เคยเข้าใจผิดแบบนั้นมาแล้ว เพราะงั้นอย่าผิดพลาดเหมือนแม่อีก อย่าตัดสินคนกันด้วยภายนอกหรือเปลือกนอก ดูอย่างหนูอัปสร ถึงภายนอกเธอจะไม่น่าดู เพราะไม่สวยเลิศเหมือนที่เรายึดติดกับรูปรสกลิ่นเสียงซึ่งเป็นเรื่องของกายหยาบภายนอก แต่เนื้อแท้แล้ว หนูอัปสรเป็นทองแท้ เธอเป็นคนดี เป็นแม่พระและเป็นคนประเสริฐโดยแท้ มองให้ลึกๆ ไปถึงข้างในสิ แม่สัมผัสได้ถึงเนื้อแท้ของจิตใจเธอ เวลาเธอพูดมีแต่ความปรานี”

น่าน...แม่เขาจะมาดวงตาเห็นธรรมเอาตอนนี้นี่เอง... นี่ถ้าไม่เกรงใจ เขาคงยกมือท่วมหัว กล่าวคำสาธุแล้ว... ปฐวีนึกขำในใจ แต่แววตายังคงสงบ

“ได้ยินมั้ยวี คนเราอย่ามองกันแค่เปลือกนอก แต่ต้องมองให้ลึกๆ ให้เห็นถึงแก่นแท้เนื้อใน...” คุณพุดซ้อนยังคงให้โอวาท

ปฐวีพยายามปลอบตัวเองว่ามารดาคงคิดและเชื่อแบบนั้นจริงๆ จึงได้กล่อมเพื่อให้เขายอมรับกับการแต่งงานง่ายๆ โดยไม่ต่อต้าน... ไม่ได้หวั่นบิดาจะเป็นอะไรไปหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอัปสร ใช่...ไม่ใช่ด้วยเหตุผลนั้นหรอกนะ... ปฐวีพยายามตอกย้ำ พร่ำบอกตัวเองเพื่อให้เชื่อแบบนั้น

“สาธุ...” ปานวาดยกมือท่วมหัว “ขอบคุณที่เทศน์ค่ะหลวงแม่ หนูจะจำไว้”

กลายเป็นน้องสาวเขาที่ทนฟังไม่ได้เสียเอง... ปฐวีกลั้นยิ้มขำบนใบหน้าซึ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูเยาว์วัยราวกับหนุ่มน้อยอีกเท่าตัว เขาแสร้งย้อนมารดาว่า “แล้วคุณแม่คิดว่าเธอขอผมแต่งงานเพื่อหวังผลอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ”

“จะไปรู้เหรอ คงหวังดัดนิสัยแกมั้ง” คุณพุดซ้อนแสร้งตอกกลับ

ปฐวีสะอึก หน้าตึง

คุณพุดซ้อนไม่สนใจลูกชาย หันไปปรายตามองลูกสาวแล้วว่า “ไม่ต้องมาล้อเลียนแม่เลยยายวาด หัดทำให้ได้อย่างแม่ด้วยล่ะ อ้อ...ตอนไปขอฤกษ์แต่งงานกับพระผู้ใหญ่ แม่กะว่าจะเอาดวงวีกับดวงของหนูอัปสรไปผูกดวงดู เผื่อจะเป็นเนื้อคู่กัน”

ปฐวีสะดุ้งโหยง ร้องขึ้นทันที “โอ๊ย...อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะครับ อย่าเอาดวงผมไปผูกด้วยเด็ดขาด ไม่ต้องไปผูกผมก็รู้แล้วว่าเธอไม่ใช่เนื้อคู่ แต่เป็นเนื้องอกล่ะไม่ว่า”

“เอ๊ะ...ตาวีนี่ยังไงนะแม่บอกแล้วไงว่าไม่ให้ดูถูกคน ความอัปลักษณ์ของหนูอัปสร ก็แค่กายหยาบที่ถูกฉาบไว้ภายนอกเพื่อลวงตบตาคน แต่เนื้อแท้แล้วเธอคือผู้ทรงศีลจริงๆ เชื่อแม่เถอะ”

“แล้วแม่จะอธิบายเรื่องที่เธอขอผมแต่งงานเพราะอะไร?” ปฐวียังไม่ยอมแพ้

ใบหน้าคุณพุดซ้อนนิ่วคิ้ว “อันนั้นล่ะที่แม่ก็ไม่เข้าใจ ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะลางสังหรณ์บอกแม่ว่าการที่เธอขอลูกแต่งงานในครั้งนี้เธอไม่ได้หวังทรัพย์สมบัติอะไรทั้งนั้น แม่สัมผัสถึงมันได้นะตาวี เพราะงั้นแม่ถึงได้คาใจอยู่ถึงตอนนี้ว่าทำไมเธอถึงยื่นเงื่อนไขข้อนั้น เพราะสัญาชาตญาณบอกแม่ว่าเธอคือของแท้ เธอคือแม่พระ และเป็นคนที่ไม่ธรรมดา”

“เธออาจนึกอยากมีผัวขึ้นมามั้งครับ” ปฐวีแสร้งสอด

คราวนี้คุณพุดซ้อนวาดแขนซัดผัวะใหญ่กับการตีรวนของปฐวี ปรายตาค้อน ไม่สนใจลูกชายที่ลูบแขนป้อยๆ เธอว่า “แม่บอกแล้วไง ลางสังหรณ์บอกแม่ว่าเธอไม่ต้องอะไรในตัวลูก แม้แต่เจ้าสิ่งนั้น เพราะเธอคือผู้ทรงศีลจริงๆ”

“งั้นแม่จะบอกว่าเธอต้องการแต่งแค่ในนามอย่างงั้นเหรอ?”

“แม่เชื่อมั่นอย่างนั้นนะตาวี ไม่เชื่อก็ลองดูกันต่อไปล่ะกัน เธอเป็นคนมีสัมผัสพิเศษ มีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า และยังสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ คนแบบนี้แหละที่เราควรต้องคว้าไว้ใกล้ตัวเพื่อความอุ่นใจ”

ฟังมารดาแล้วปฐวีก็ตั้งปณิธานขึ้นในใจเดี๋ยวนั้น บอกตัวเองว่าถ้าหากอัปสรต้องการอะไร เขาจะให้ในสิ่งที่ตรงกันข้าม ถ้าเธออยากแต่งแค่ในนามอย่างที่มารดาว่าจริง เขาจะยัดเยียดความเป็นผัวให้ตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ...จะหลับหูหลับตา กลั้นใจทำภารกิจให้เสร็จๆ โดยเร็ว แต่ถ้าเธอขอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาทั่วไป เขาจะทิ้งเธอให้นอนเฉา เหี่ยวแห้งตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอเหมือนกัน... ปฐวีให้สัญญากับตัวเอง




………………………………..







Create Date : 25 มีนาคม 2557
Last Update : 27 มีนาคม 2557 11:08:22 น.
Counter : 1594 Pageviews.

14 comments
  
นู๋อัปสรเค้าไม่ต้องการเข้าหอนะคุณวี คุณวีจะทำตรงกันข้ามชิมิ กรี๊ดดดดด 55555+++ ขอตอนเข้าหอด่วนๆๆๆๆ
โดย: sakeena IP: 124.121.245.75 วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:9:06:54 น.
  
ยกให้คุณแม่เป็นสุดยอดคุณแม่เลยค่ะ แบบนี้รับรองว่าน้องนางฟ้าต้องไม่มีปัญหาแม่สามีลูกสะใภ้แน่ๆ เลย ยิ่งอ่านยิ่งหมั่นไส้นายวีค่ะ อยากอ่านตอนที่นายวีได้แต่หื่นแต่ทำอะไรไม่ได้ค่ะ รอให้กรรมตามสนองอยู่ อิอิ
โดย: pantan IP: 58.9.30.223 วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:10:07:57 น.
  
คิดว่าจะเปนอย่างแรกเหมือนกันค่ะ หนูนางฟ้าคงไม่อยากเข้าหอร้อกกก 5555
โดย: Kwanita IP: 115.67.226.208 วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:10:54:30 น.
  
จัดเต็มให้นายวีทีค่ะคุณอุ๋ย เอาให้นายวีนำลายหกเลยนะคะ55ล5
โดย: alanta IP: 49.0.68.68 วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:21:46:12 น.
  
จัดเต็มให้นายวีทีค่ะคุณอุ๋ย เอาให้นายวีนำลายหกเลยนะคะ55ล5
โดย: alanta IP: 49.0.68.68 วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:21:47:16 น.
  
คุณวีเดี๋ยวได้กลับคำแน่ๆ
โดย: อร IP: 110.77.179.223 วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:22:20:29 น.
  
คุณแม่เล่นเข้าข้างว่าที่สะใภ้ซ้าขนาดนั้น งานนี้ปฐวีมีหนาวววว และคงจะหนาวยื่งขึ้น ถ้าอัปสรมีสภาพร่างกายกลับสู่ปกติที่เคยเป็น สวย สมชื่อ นางฟ้า

โดย: susi IP: 115.31.137.102 วันที่: 26 มีนาคม 2557 เวลา:13:00:53 น.
  
อยากรู้ว่าจะช่วยให้วีได้ขึ้นสวรรค์ได้ยังไงค่ะ
โดย: พี่สุ...จ้า IP: 124.120.51.162 วันที่: 27 มีนาคม 2557 เวลา:22:37:05 น.
  
คุณ sakeena : คุณ sakeena จุดยืนชัดเจนมาก ฮ่าๆๆๆ

คุณเอ๋ : พอถึงตอนนั้นแล้วจะกลายเป็นว่าคุณเอ๋สงสารอีตาวีป่าว ^_^

คุณ Kwanita : คุณ Kwanita จุดยืนชัดเจนอีกคน ฮ่าๆๆ เดี๋ยวอุ๋ยจัดให้ค่าาาาาาาา ฮ่าๆๆ

คุณ alanta : รับลูกต่อเลยค่ะคุณ alanta เดี๋ยวอุ๋ยจะจัดเต็มให้เลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ

คุณอร : ฮ่าๆๆ นั่นสิคะคุณอร คราวนี้ได้แต่น้ำลายหก แต่ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ฮ่าๆๆ

คุณกานต์ : แม่นแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ งานนี้ตาวีได้แต่หนาวจริงๆ แถมทำอะไรไม่ได้มากด้วยเพราะแม่เข้าข้างว่าที่ลูกสะใภ้เต็มที่ ^^

พี่สุ : มาช่วยคิดกับอุ๋ยกันเถอะค่ะ โจทย์ยากอยู่เหมือนกัน แหะๆๆ
โดย: คณิตยา วันที่: 27 มีนาคม 2557 เวลา:23:21:17 น.
  
ไล่ตามอ่านอยู่ค่ะ
อ่านตอนนี้แล้ว คุณแม่กลายเป็นคนดีผิดหูผิดตาจากตอนแรกไปเลย ที่บอกว่า แม้แต่จะเพื่อคุณชาติ ก็รับลูกสะใภ้แบบอัปสรไม่ได้
ส่วนปฐวี ท่าทางต้องดัดนิสัยยาว แถมอัปสรน่าจะพอรู้ว่า ปฐวีเป็นยังไง จะรอดูว่า อัปสรจะจัดการกับวียังไง
โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 28 มีนาคม 2557 เวลา:16:25:41 น.
  
55 เร่องนิสัยของคุณแม่ คุณลูกๆๆ ก็ตั้งรับไม่ได้ทันเหมือนกันค่ะ เปลี่ยนท่าทีไวมั่กๆๆ พอสามีอันเป็นที่รักจะตายจริงๆ กลับรับไม่ได้ซะงั้น ^^
โดย: คณิตยา วันที่: 29 มีนาคม 2557 เวลา:16:54:10 น.
  
ชิมิๆๆๆๆๆ
โดย: คนใน IP: 110.170.40.98 วันที่: 30 มีนาคม 2557 เวลา:11:01:57 น.
  
แหม มาคนในเชียว นายพี ฮ่าๆๆ
โดย: คณิตยา วันที่: 1 เมษายน 2557 เวลา:1:24:06 น.
  
ก็นุดดีเนอะ
โดย: ต้น IP: 118.174.112.117 วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:16:35:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments