Group Blog
 
All blogs
 

วันมาฆบูชา 2558 ประวัติวันมาฆบูชา


วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม 

วันมาฆบูชา 2558 ประวัติวันมาฆบูชา ความหมายวันมาฆบูชา ความสำคัญของวันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร วันมาฆบูชา 2558วันที่เท่าไหร่ มาดูกัน

วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง และได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง โดย วันมาฆบูชา 2558 ตรงกับวันพุธ 4 มีนาคม วันนี้กระปุกดอทคอม จึงมี ประวัติวันมาฆบูชา ความสำคัญของวันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร มาฝากค่ะ

ความหมายของวันมาฆบูชา

          คำว่า "มาฆะ" นั้น เป็นชื่อของเดือน 3 ย่อมาจากคำว่า "มาฆบุรณมี" หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3

การกำหนดวันมาฆบูชา

          การกำหนดวันมาฆบูชาตามปฏิทินจันทรคติของไทยนั้นจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 แต่ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 และมักตรงกับเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม

ความสำคัญวันมาฆบูชาและประวัติวันมาฆบูชา

          ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์"แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่างๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"

          ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่

1.วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์

2.มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

3.พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6

4.พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"

และเพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งคำว่า "จาตุรงคสันนิบาต" นี้ มีความหมายตามการแยกศัพท์คือ

จาตุร แปลว่า 4
องค์ แปลว่า ส่วน
สันนิบาต แปลว่า ประชุม

ดังนั้น "จาตุรงคสันนิบาต" จึงหมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ 4" นั่นเอง

ทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์

ประวัติวันมาฆบูชาในประเทศไทย

          พิธีทำบุญวันมาฆบูชานี้ ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีมาในสมัยใด อย่างไรก็ตามในหนังสือ "พระราชพิธีสิบสองเดือน" อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" มีเรื่องราวเกี่ยวกับการประกอบราชกุศลมาฆบูชาไว้ว่า 

   ประเทศไทยเริ่มกำหนดพิธีปฏิบัติในวันมาฆบูชาเป็นครั้งแรกในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งมีการประกอบพิธีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2394 ในพระบรมมหาราชวังก่อน โดยมีพิธีพระราชกุศลในเวลาเช้า นมัสการพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศวรวิหารและวัดราชประดิษฐ์จำนวน 30 รูป ฉันภัตตาหารในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

          เมื่อถึงเวลาค่ำ  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออก ทรงจุดธูปเทียนนมัสการ พระสงฆ์ทำวัตรเย็นและสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์ เมื่อสวดจบทรงจุดเทียน 1,250 เล่ม รอบพระอุโบสถ มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนาโอวาทปาติโมกข์ 1 กัณฑ์เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลี และภาษาไทย ส่วนเครื่องกัณฑ์ประกอบด้วยจีวรเนื้อดี 1 ผืน เงิน 3 ตำลึงและขนมต่าง ๆ เมื่อเทศนาจบ พระสงฆ์ 30 รูป สวดรับ

  ในสมัยรัชกาลที่ 4 นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกประกอบพิธีด้วยพระองค์เองทุกปี แต่มีการยกเว้นบ้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องจากบางครั้งตรงกับช่วงเสด็จประพาสก็จะทรงประกอบพิธีมาฆบูชาในสถานที่นั้นๆ ขึ้นอีกแห่ง นอกเหนือจากภายในพระบรมมหาราชวัง

          ต่อมาการประกอบพิธีมาฆบูชาได้แพร่หลายออกไปภายนอกพระบรมมหาราชวัง และประกอบพิธีกันทั่วราชอาณาจักร ทางรัฐบาลจึงประกาศให้เป็นวันหยุดทางราชการด้วย เพื่อให้ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้ไปวัด เพื่อทำบุญกุศลและประกอบกิจกรรมทางศาสนา

นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย

หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติในวันมาฆบูชา

          หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติคือ "โอวาทปาติโมกข์" ซึ่งเป็นหลักคำสอนสำคัญอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เพื่อไปสู่ความหลุดพ้น หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6 ดังนี้

 หลักการ 3 คือหลักคำสอนที่ควรปฏิบัติ ได้แก่

1.การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การลด ละ เลิก ทำบาปทั้งปวง อันได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ซึ่งเป็นทางแห่งความชั่ว 10 ประการที่เป็นความชั่วทางกาย (การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม) ทางวาจา (การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ) และทางใจ (การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม)

2.การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ การทำความดีทุกอย่างตาม กุศลกรรมบถ 10 ทั้งความดีทางกาย (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ความดีทางวาจา (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อ) และความดีทางใจ (ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น มีความเมตตาปรารถนาดี มีความเข้าใจถูกต้องตามทำนองคลองธรรม)

3.การทำจิตใจให้ผ่องใส คือ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลุดจากนิวรณ์ที่คอยขัดขวางจิตใจไม่ให้เข้าถึงความสงบ ได้แก่ ความพอใจในกาม, ความพยาบาท, ความหดหู่ท้อแท้, ความฟุ้งซ่าน และความลังเลสงสัย

  ซึ่งทั้ง 3 หลักการข้างต้น สามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" นั่นเอง


 อุดมการณ์ 4 ได้แก่

1.ความอดทน อดกลั้น คือ ไม่ทำบาปทั้งกาย วาจา ใจ
2.ความไม่เบียดเบียน คือ งดเว้นจากการทำร้าย หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
3.ความสงบ ได้แก่ การปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ
4.นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา


 วิธีการ 6 ได้แก่

1.ไม่ว่าร้าย คือ ไม่กล่าวให้ร้าย โจมตีใคร
2.ไม่ทำร้าย คือ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น
3.สำรวมในปาติโมกข์ คือ เคารพระเบียบวินัย กฎกติกา รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของสังคม
4.รู้จักประมาณ คือ รู้จักความพอดีในการบริโภค รวมทั้งการใช้สอยสิ่งต่างๆ
5.อยู่ในสถานที่สงัด คือ อยู่ในสถานที่ที่มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
6.ฝึกหัดจิตใจให้สงบ คือ การฝึกหัดชำระจิตใจให้สงบ มีประสิทธิภาพที่ดี


วันมาฆบูชา


กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันมาฆบูชา

          การปฏิบัติตนสำหรับพุทธศาสนิกชนในวันมาฆบูชาคือ คือ ในตอนเช้า ควรไปทำบุญตักบาตร ไปวัดเพื่อฟังพระธรรมเทศนา หรือจัดสำรับคาวหวานไปทำบุญถวายภัตตาหาร ช่วงบ่ายฟังพระแสดงพระธรรมเทศนา เจริญสมาธิภาวนา เมื่อถึงตอนค่ำ นำดอกไม้ ธูปเทียนไปเวียนเทียน 3 รอบที่พระอุโบสถ โดยการเวียนเทียนนั้นจะเวียนขวา จำนวน 3 รอบ และช่วงเวลาที่เดินอยู่นั้นให้ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นอกจากนี้พุทธศาสนิกชนควรบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามสถานที่ต่างๆ และรักษาศีล สำหรับตามบ้านเรือน สถานที่ราชการ จะมีการประดับธงชาติ ธงธรรมจักร เพื่อระลึกถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา


ข้อเสนอแนะการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในวันมาฆบูชา

          กิจกรรมเกี่ยวกับครอบครัว

          กิจกรรมที่ครอบครัวควรทำในวันมาฆบูชา อย่างเช่น การทำความสะอาดบ้าน จัดแต่งที่บูชาประจำบ้าน ชักชวนครอบครัวไปทำบุญตักบาตร ฟังศีล ฟังธรรม บำเพ็ญกุศล ปฏิบัติธรรม รวมทั้งควรศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอน และความสำคัญของวันมาฆบูชาด้วย

          กิจกรรมเกี่ยวกับสถานศึกษา

          ในสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอีกแห่ง โดยภายในสถานศึกษาควรมีการร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันมาฆบูชา เช่น จัดนิทรรศการให้ความรู้ ประกวดเรียงความ ตอบปัญหาธรรมะ บรรยายธรรม หรือร่วมกันทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน บำเพ็ญกุศล อีกทั้งประกาศเกียรติคุณนักเรียนผู้ทำประโยชน์ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี

          กิจกรรมเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน

          ควรประชาสัมพันธ์ในที่ทำงาน และจัดให้มีการบรรยายธรรม หรือร่วมบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกัน ร่วมทำบุญ บำเพ็ญกุศลร่วมกัน

          กิจกรรมเกี่ยวกับสังคม

          ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็น วัด มูลนิธิ สมาคม สื่อมวลชน สนามบิน สถานีรถไฟ ฯลฯ ควรช่วยกันประชาสัมพันธ์ความสำคัญของวันมาฆบูชา อาจเป็นการพิมพ์เอกสารให้ความรู้ จัดให้มีการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน เช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม ช่วยกันรณรงค์ให้เลิกอบายมุข แต่รณรงค์ให้ช่วยกันทำประโยชน์ต่อสังคมแทน อาจช่วยกันปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่สาธารณะ ฯลฯ


ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดกิจกรรมในวันมาฆบูชา

          พุทธศาสนิกชนจะมีความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชา รวมทั้งหลักธรรมต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความตระหนักต่อความสำคัญของพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะชาวพุทธ และยังเป็นการช่วยธำรงพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

- dhammathai.org
- culture.go.th
- dhammajak.net




 

Create Date : 02 มีนาคม 2558    
Last Update : 2 มีนาคม 2558 19:49:13 น.
Counter : 1953 Pageviews.  

เตือนสติชาวพุทธอย่าตกเป็นเหยื่อของการทำบุญ.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1whqI5d

เตือนสติชาวพุทธอย่าตกเป็นเหยื่อของการทำบุญ

วงเสวนาร่วมเตือนสติชาวพุทธ ทำบุญอย่างมีสติเพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนา ไม่ใช่ตกเป็นเหยื่อเพราะหวังร่ำรวย หมายเหตุ: เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ภาควิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดงานเสวนาเรื่อง "การบิดเบือนความเชื่อทางพุทธศาสนา....... 

ปล.ทางเวปเขาไม่อนุญาติให้coppy  เพื่อนสามารถเข้าไปอ่านเนื้อหาข่าวได้ที่เวปที่ลงไว้ได้เลยค่ะ

อ่านต่อได้ที่ ://bit.ly/1whqI5d





 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2558 21:12:19 น.
Counter : 853 Pageviews.  

วิธีกรวดน้ำที่ถูกต้อง

ทุกวันนี้เวลาอาตมาไปงานที่ไหนก็ยังเห็นทำกันอยู่
ลองปรับเปลี่ยนกันดูนะครับ

วิธีกรวดน้ำที่ถูกต้อง

กรวดน้ำ คือ การตั้งใจอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เราได้ทำไว้แล้วไปให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมทั้งรินน้ำให้ไหลลงไปที่พื้นดินหรือที่รองรับ แล้วเอาไปเทที่พื้นดินอีกต่อหนึ่งหรือรดที่โคนต้นไม้ก็ได้
เพื่อให้จำง่ายไม่สับสน จึงขอแยกเป็นข้อๆ ดังนี้

๑. การกรวดน้ำมี ๒ วิธี คือ
๑.๑. กรวดน้ำเปียก คือ ใช้น้ำเป็นสื่อ รินน้ำลงไปพร้อมกับอุทิศผลบุญกุศลไปด้วย
๑.๒. กรวดน้ำแห้ง คือ ไม่ใช้น้ำ ใช้แต่สิบนิ้วพนมอธิษฐาน แล้วอุทิศผลบุญกุศลไปให้

2. การอุทิศผลบุญมี ๒ วิธี คือ
- อุทิศเจาะจง ได้แก่ การออกชื่อผู้ที่เราจะให้ท่านรับ เช่น ชื่อพ่อ แม่ ลูก หรือใครก็ได้
- อุทิศไม่เจาะจง ได้แก่ การกล่าวรวมๆกันไป เช่น ญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ทางที่ถูกควรทำทั้งสองวิธี คือผู้ที่มีคุณหรือมีเวรต่อกันมาก เราก็ควรอุทิศเจาะจง ที่เหลือก็อุทิศรวมๆ

๓. น้ำกรวด ควรเป็นน้ำที่สะอาด ไม่มีสีและกลิ่น และเมื่อกรวดก็ควรรินลงในที่สะอาดและไปเทในที่สะอาด อย่ารินลงกระโถนหรือที่สกปรก

๔. ควรกรวดน้ำตอนไหนดี ?
ควรกรวดน้ำทันทีในขณะที่พระอนุโมทนาหรือหลังทำบุญเสร็จ
แต่ถ้าไม่สะดวกจะทำตอนหลังก็ได้ แต่ทำในขณะนั้นดีกว่า ด้วยเหตุผล ๒ ประการ คือ
- ถ้ามีเปรตญาติมารอรับส่วนบุญ ท่านก็ย่อมได้รับในทันที
- การรอไปกรวดที่บ้านหรือกรวดภายหลัง บางครั้งก็อาจลืมไป ผู้ที่เขาตั้งใจรับก็อด ผู้ที่เราตั้งใจจะให้ก็ชวดไปด้วย

๕. ควรรินน้ำตอนไหน ?
ควรเริ่มรินน้ำพร้อมกับตั้งใจอุทิศ ในขณะที่พระผู้นำเริ่มสวดว่า “ยะถาวาริวะหาปูรา...” และรินให้หมดเมือ่พระว่ามาถึง “…มะณิโชติระโส ยะถา...” พอพระทั้งหมดรับพร้อมกันว่า “สัพพีติโย วิวัชชันตุ...” เราก็พนมมือรับพรท่านไปจนจบ จึงจะถือว่าถูกต้อง

๖. อย่าทำน้ำสกปรกด้วยการเอานิ้วไปรองน้ำไว้ ควรรินให้ไหลเป็นสายไม่ขาดระยะ และไม่ควรใช้วิธี เกาะตัวกันเป็นกลุ่มหรือเป็นทางเหมือนเล่นงูกินหาง ถ้าเป็นในงานพิธีต่างๆ ให้เจ้าภาพหรือประธาน
รินน้ำกรวดเพียงคนเดียวหรือคู่เดียวก็พอ คนนอกนั้นก็พนมมือตั้งใจอุทิศไปให้

๗. การทำบุญและอุทิศส่วนบุญ ควรสำรวมจิตใจ อย่าให้จิตฟุ้งซ่าน ปลูกศรัทธา ความเชื่อ และความเลื่อมใสให้มั่นคงในจิตใจ ผลของบุญและการอุทิศส่วนบุญย่อมมีอานิสงค์มาก ผลบุญที่เราอุทิศไปให้ ถ้าไม่มีใครมารับก็ยังคงเป็นของเราอยู่ครบถ้วน ไม่มีผู้ใดจะมาโกงหรือแย่งชิงไปได้เลย

๘. บุญเป็นของกายสิทธิ์ ยิ่งให้ยิ่งมาก ยิ่งตระหนี่ยิ่งน้อย ยิ่งอุทิศให้คนอื่นหมดเลยเราก็ยิ่งจะได้บุญหมดเลย

หวังอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะนำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง...สาธุ

ธรรมะวาไรตี้




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2557    
Last Update : 30 ธันวาคม 2557 18:00:42 น.
Counter : 1086 Pageviews.  

สวดมนต์ข้ามปี 2558 ไหว้พระขอพรรับปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี 2558

รวมสถานทีสวดมนต์ข้ามปี 2558 เสริมสิริมงคลรับปีใหม่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

อีกไม่กี่วันเราก็จะได้เวลานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ 2558 กันแล้ว นอกจากจะมีการเฉลิมฉลองวันแห่งความสุข ในการก้าวเข้าสู่ปีใหม่ของชีวิตด้วยการจัดปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน ยังมีหลายคนที่ต้องการใช้เวลานี้สงบจิตใจเพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วยจิตใจบริสุทธิ์ เพื่อจะได้เริ่มต้นปีใหม่กับชีวิตใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ และเป็นมงคล วันนี้กระปุกท่องเที่ยวจึงได้รวบรวมสถานที่สวดมนต์ข้ามปี 2558 (ระหว่างคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เข้าสู่วันที่ 1 มกราคม 2558) ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจากทั่วทั้งประเทศมาฝากกัน

สวดมนต์ข้ามปี 2558 กรุงเทพมหานคร

สวดมนต์ข้ามปี 2558
ภาพจาก ททท.

           ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ด้วยการไหว้พระสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ฟังพระธรรมเทศนาและร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ลั่นฆ้องชัยต้อนรับปีใหม่โดยพร้อม กันในเขตกรุงเทพมหานคร มีวัดเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 เขต อาทิ วัดเทพลีลา เขตบางกะปิ, วัดพระศรีมหาธาตุเขตบางเขน, วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เขตดุสิต, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร, วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ และวัดยานนาวา เขตสาธร เป็นต้น

           ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการศาสนา โทรศัพท์ 0 2422 8771 หรือ ททท. สำนักงานกรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2250 5500


สวดมนต์ข้ามปี ชีวีสดใส เชียงใหม่ร่วมใจ เทิดไท้ราชันย์

สวดมนต์ข้ามปี 2558
ภาพจาก prd.go.th

           คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาล ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมกิจกรรม "สวดมนต์ข้ามปี 2558" ภายใต้คำขวัญ "สวดมนต์ข้ามปี ชีวีสดใส เชียงใหม่ร่วมใจ เทิดไท้ราชันย์" ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ถึง 1 มกราคม 2558 ณ วัดใกล้บ้าน

           โดย นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้กำหนดจัดให้วัดจำนวน 6 วัด เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรม ได้แก่ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน, วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร นายนาวิน สินธุสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน, วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน, วัดสวนดอก พระอารามหลวง นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียง ใหม่เป็นประธาน, วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร นายโชคดี อมรวัฒน์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน และวัดท่าตอน พระอารามหลวง นายอำเภอแม่อายเป็นประธาน จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2558 ณ วัดที่จังหวัดเชียงใหม่กำหนดหรือวัดใกล้บ้าน


สวดมนต์ข้ามปี ชีวิตดี วันปีใหม่ 2558

             ขอเชิญร่วมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อชีวิตดี เสริมเพิ่มเติมบุญบารมีแก่ท่านทั้ง หลาย ณ อุโบสถหลังเก่า วัดท่าคอย วันที่ 31 ธันวาคม 2557 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป รับน้ำพระพุทธมนต์ เวลา 00.09 น. วันที่ 1 มกราคม 2558 พร้อมรับปฏิทินหลวงพ่อยิ้ม สมปรารถนา เป็นของที่ระลึก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวัดท่าคอย


เชิญสวดมนต์ข้ามปี ณ ต้นบุญธรรมสถาน

             ขอเชิญ สวดมนต์ข้ามปี ณ ต้นบุญธรรมสถาน จังหวัดชลบุรี บุญใหญ่ได้กุศลรับโชคดีปีมะแม ในวันพุธที่ 31 ธันวาคม 2557-วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2558 (2 วัน 1 คืน) ดังนี้

วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2557

             08.00 น.                       ลงทะเบียน  เข้าที่พัก

             08.30-11.30 น.             ธรรมบรรยาย : "เริ่มศกให้สวย ทั้งรวยทั้งสุข" พระอาจารย์ภาสกร ภูริวฑฺฒโน  (ภาวิไล) (ผอ.ธรรมสถาน ม.เชียงใหม่)

             11.30-13.00 น.             ถวายภัตตาหารเพล รับประทานอาหารกลางวันจากครัวต้นบุญ

             13.00-15.00 น.             สนทนาปัญหาธรรมะ (หลวงพ่อบุญเหลือ เจ้าอาวาสวัดเขาช่องลม ชลบุรี
พระอาจารย์ภาสกร  และพระมหาอดิศักดิ์ อภิปญฺโญฺ)

             15.00-16.00 น.             เจริญวิปัสสนากรรมฐาน (เดินจงกรม นั่งสมาธิ) พระมหาอดิศักดิ์ อภิปญฺโญฺ (ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบรมสถล (วัดดอน) กทม.)

             16.00-17.00 น.             ธรรมบรรยาย

             17.00-19.00 น.             รับประทานอาหารเย็นจากครัวต้นบุญ/อาบน้ำ

             19.00-19.30 น.             ทำวัตรเย็น

             19.30-00.30 น.             สวดมนต์ข้ามปี (พระมหาอดิศักดิ์ อภิปญฺโญฺ)

วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2558

             07.00 น.                        ร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป  (อาหารแห้ง) (เตรียมมาเอง/ต้นบุญจัดเตรียมไว้ให้)

             07.30 น.                        พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเช้า รับประทานอาหารเช้าจากครัวต้นบุญ

             09.00 น.                        ถวายสังฆทานพระสงฆ์  9 รูป พระสงฆ์อนุโมทนา รับพร

             10.30 น.                        ทอดผ้าป่า

             11.00 น.                        ถวายภัตตาหาร เชิญทุกท่านรับประทานอาหารจากซุ้มโรงทานต่าง ๆ เดินทางกลับด้วยความเป็นสิริมงคล อิ่มบุญทั้งกาย ใจ ในวันเริ่มต้นปีใหม่ 2558 (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)

สำรองที่พัก : สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รศ.ดร.กมลพร บัณฑิตยานนท์ โทรศัพท์ 09 1636 5594 โรงแรมเดอะสยามเฮฮริเทจ โทรศัพท์ 0 2353 6166 เว็บไซต์ dhammasiri.or.th


สวดมนต์ข้ามปี เพื่อเป็นสิริมงคล ณ วัดป่ามะไฟ

สวดมนต์ข้ามปี 2558
ภาพจาก watpamafai.org

             วัดป่ามะไฟ ตำบลโคกไม้ลาย อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมโครงการ เจริญพระพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติฯ และคุณาจารย์รำลึก ประจำปี 2557-2558 ระยะเวลา 9 วัน 9 คืน 9 พระสูตร (ตลอด 24 ชั่วโมง) รวม 216 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2557-5 มกราคม 2558 ติดต่อสอบถาม จองที่พัก ร่วมเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์อาหารคาวหวาน น้ำปานะ น้ำดื่ม แด่พระภิกษุสงฆ์ แม่ชี และพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่มาร่วมสวดมนต์ แจ้งความจำนงได้ที่ ท่านพระครูภาวนาธรรมธารี โทรศัพท์ 0 81983 6770 และพระปลัดประทีป กิตติวัณโณ โทรศัพท์ 0 81865 2414


เสริมมงคลชีวิต ประสิทธิพรปีใหม่ ปีพุทธศักราช 2558

สวดมนต์ข้ามปี 2558
ภาพจาก ybat.org

             ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอเชิญร่วมงาน "เสริมมงคลชีวิต ประสิทธิพรปีใหม่ ปีพุทธศักราช 2558" ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2558 ณ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ซอยเพชรเกษม 54 กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 2455 2525 หรือ เว็บไซต์ ybat.org

ทั้งนี้ข้อปฏิบัติในการเข้าร่วมงาน : เนื่องจากที่จอดรถในยุวพุทธมีจำนวนจำกัด กรุณาเดินทางโดยรถสาธารณะ, ยุวพทธฯ มีรถรับ-ส่งจากซีคอนบางแค เข้ามา ยุวพุทธฯ ตลอดการจัดงาน และสถานที่ปฏิบัติธรรมโปรดสำรวมและแต่งกายให้สุภาพ

สวดมนต์ข้ามปี 2558 สนามหลวง 31 ธันวาคม รับศักราชใหม่

          กทม. จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2558 สนามหลวง รับศักราชใหม่ 30 ธันวาคม 2557-1 มกราคม 2558 กำหนดการสวดมนต์ข้ามปี 2558 เริ่ม 17.00 น. 31 ธันวาคม

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557 นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ร่วมกันจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2558 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ถึง 1 มกราคม 2558 โดยเน้นการมีส่วนร่วมการอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีไทย ภายใต้แนวคิด "สุขกายสุขใจ สวดมนต์ข้ามปี ทำดีร่วมกัน"

โดยกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2558 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม เวลา 15.00 น. ซึ่ง กทม. จะอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากหอพระภายในศาลาว่าการ กทม. ไปตามเส้นทางต่าง ๆ และอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑปมณฑลพิธีท้องสนามหลวงในเวลา 16.00 น. ให้ประชาชนสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลรับเทศกาลปีใหม่ 2558 จากนั้นจะอัญเชิญกลับศาลาว่าการ กทม. ในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2558

ส่วนของกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีจะเริ่มขึ้นในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม 2557

เวลา 18.45 น. คณะสงฆ์เริ่มประกอบศาสนพิธี

เวลา 20.00 น. พระสงฆ์เริ่มแสดงธรรมและสวดมนต์ตั้งจิต สวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์

เวลา 23.30 น. ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาสเปิดกรวยถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เวลา 23.45 น. พระพรหมบัณฑิต ประธานในพิธีฝ่ายบรรพชิตแสดงพระธรรมเทศนา และนำประชาชนสวดเจริญพระพุทธมนต์และสวดมนต์ข้ามปี

ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และสถานีโทรทัศน์มหานครเมโทร ทีวี ทางช่อง PSI 221 ตั้งแต่เวลา 23.30 น. เป็นต้นไป

ขอเชิญสวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ ณ พระนครศรีอยุธยา

สถานที่เคาท์ดาวน์ 2015
ภาพจาก tiewpakklang.com

          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ขอเชิญทุก ๆ ท่านร่วมสวดมนต์ข้ามปีในช่วงค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2558 ถือเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลที่กล่าวว่าปี 2558 เป็น "ปีท่องเที่ยววิถีไทย" ซึ่งในปีนี้หลาย ๆ วัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้จัดงานดังกล่าวขึ้นอย่างมากมาย ทุกท่านสามารถเข้าร่วมงานได้หลายพื้นที่ ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเมื่อได้สวดมนต์ข้ามปีแล้ว ผลบุญกุศลจะนำพาแต่ความสุข ความโชคดีมาตลอดทั้งปี

          ร้อยตรีชัยวัฒน์ เจริญสุข ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วัดต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้จัดเตรียมพื้นที่รองรับสาธุชน เพื่อร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเอง ซึ่ง ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ได้เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมสวดมนต์ข้ามปีตามวัดต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับร่วมทำบุญตักบาตรในช่วงเช้าของวันที่ 1 มกราคม 2558 อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีดีงามของไทยให้คงอยู่คู่คนไทยตลอดไป

          "พระราชรัตนากร" เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้จัดสถานที่ภายในวัดรองรับพุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางมาประกอบพิธีสวดมนต์ข้ามปีในวัดพนัญเชิงวรวิหารแห่งนี้ และในช่วงเช้าได้จัดให้มีพิธีตักบาตรเพื่อรับอรุณรุ่งแห่งปี 2558 โดยพร้อมเพรียงกัน และในส่วนของ "พระพิพัฒศานกิจวิธาร" รองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง ตำบลบ้านป้อม เปิดเผยว่า ในช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2558 ที่จะถึงนี้ ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อประกอบพิธีการในการสวดมนต์ข้ามปีต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2558 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

          ส่วนที่วัดป้อมรามัญ ตำบลสวนพริก นอกจากจะมีการสวดมนต์ข้ามปีเหมือนที่วัดอื่น ๆ แล้ว "พระเกษมจันทวิมล" หรือ "พระอาจารย์แดง" เกจิชื่อดังของอยุธยา ได้จัดสวด “คาถานะ” เศรษฐีของพ่อปู่ชูชกพร้อมกับลงนะเมตตาให้กับผู้เข้าร่วมพิธีในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วย นอกจากนี้วัดในต่างอำเภอก็ยังได้จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีอีกเช่นกัน ได้แก่ "วัดสะตือ" อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย "นายวิทิต ปิ่นนิกร" นายอำเภอท่าเรือ พร้อมด้วย นางศศิธร  ปิ่นนิกร นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือ ร่วมกับคณะสงฆ์ โดยมี "พระครูประริยัติยาธิคุณ" เจ้าคณะอำเภอท่าเรือ จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี พร้อมกับ "พระอุโบสถกลางน้ำ" ของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ พร้อมชมการแสดง "โขน" ในตอน "ท้าวมารีวราชว่าความ" และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีวัดมเหยงคณ์ วัดบางกะจะ วิหารพระมงคลบพิตรได้จัดสถานที่ให้นักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสวดมนต์บนแผ่นดินมรดกโลกพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้อีกด้วย

          สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

          - สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0 3533 5468
          - มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โทรศัพท์ 0 3524 8098 หรือ 08 7237 6083
          - วัดพนัญเชิงวรวิหาร โทรศัพท์ 0 3524 3867
          - ที่วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร โทรศัพท์ 0 3524 2449
          - ที่วัดมเหยงคณ์ โทรศัพท์ 0 3588 1601-2
          - ที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร โทรศัพท์ 0 3524 1205

          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา จึงขอประชาสัมพันธ์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวมา "สวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ" สอบถามรายละเอียดได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0 3524 6076-7 และสายด่วนเที่ยวทั่วไทย 1672

สวดมนต์เสริมสิริมงคลข้ามปีใหม่ ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ขอเชิญพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรม "สวดมนต์เสริมสิริมงคลข้ามปีใหม่ ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์" โดยมีข้อมูลวัดต่าง ๆ ดังนี้

สถานที่เคาท์ดาวน์ 2015

          หมายเหตุ : ข้อมูลดังกล่าวเป็นการรวบรวมโดย ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กรุณาสอบถามข้อมูลกิจกรรม "สวดมนต์ข้ามปี" ณ วัดใกล้บ้านท่านอีกครั้ง


หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
watthakhoi.com, prd.go.th,




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2557    
Last Update : 30 ธันวาคม 2557 0:24:01 น.
Counter : 1281 Pageviews.  

น้องต่อ 8 ขวบ เด็กกตัญญู คอยดูแลพ่อป่วยสารพัดโรค 2 ปีเต็ม

น้องต่อ 8 ขวบ เด็กกตัญญู คอยดูแลพ่อป่วยสารพัดโรค 2 ปีเต็ม

น้องต่อ 8 ขวบ เด็กกตัญญู คอยดูแลพ่อป่วยสารพัดโรค 2 ปีเต็ม

น้องต่อ 8 ขวบ เด็กกตัญญู คอยดูแลพ่อป่วยสารพัดโรค 2 ปีเต็ม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร 

  น้องต่อเด็กชายวัย 8 ขวบ ยอดกตัญญู คอยดูแลพ่อที่ป่วยสารพัดโรคมา 2 ปีเต็ม ตอนเที่ยงก็จะเอาข้าวที่โรงเรียนไปให้พ่อ โดยต้องปั่นจักรยานกลับบ้านถึง 2 กิโลเมตร วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

วันนี้ (16 ธันวาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นางสังวาลย์ ช่วงบัว คุณครูประจำชั้น ป.2 โรงเรียนดอนแคนดอนหวายสามัคคี หมู่ที่ 16 ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มีนักเรียนในความดูแลของตนคือ ด.ช.จักรินทร์ มโนมัย หรือน้องต่อ วัย 8 ขวบคอยดูแลพ่อที่ป่วยเป็นสารพัดโรคเพียงลำพังมาโดยตลอด เนื่องจากกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเล็ก อีกทั้งพ่อก็ทำงานไม่ได้ ได้แต่นอนซมอยู่กับบ้าน

          ทั้งนี้ นางสังวาลย์ เล่าว่า น้องต่อจะนำอาหารจากที่โรงเรียนไปให้พ่อกินด้วยในช่วงพักเที่ยงโดยจะปั่นจักรยานกลับบ้านที่มีระยะทาง 2 กิโลเมตร รวมไป-กลับเป็น 4 กิโลเมตร ส่วนหลังเลิกเรียนก็จะนำอาหารกลางวันที่เพื่อนกินเหลือเอากลับมาให้พ่อกิน ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะขออาหารจากเพื่อนบ้านและครูในโรงเรียนแทน

น้องต่อ 8 ขวบ เด็กกตัญญู คอยดูแลพ่อป่วยสารพัดโรค 2 ปีเต็ม

          นางสังวาลย์ ยังเล่าอีกว่า เนื่องจากน้องต่อเป็นเด็กที่มีความกตัญญู จึงทำให้เป็นที่รักของครูในโรงเรียน อีกทั้งน้องต่อยังเป็นเด็กที่มีจิตอาสา เพราะเมื่ออยู่ในโรงเรียนน้องต่อก็จะช่วยครูทำงานต่าง ๆ เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างห้องน้ำ ฯลฯ จนตอนนี้น้องต่อได้เป็นที่กล่าวขานของทั้งตำบลไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นเด็กที่มีจิตใจดี

นอกจากนี้ จากการติดตามน้องต่อไปดูแลพ่อที่บ้านในช่วงพักเที่ยง ผู้สื่อข่าวจึงได้เจอกับพ่อของน้องต่อที่กำลังนอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน ซึ่งพ่อของน้องต่อ กล่าวว่า ตนอดีตเคยทำงานในกรุงเทพฯ แล้วก็ได้พบรักกับแม่น้องต่อ ต่อมาในปี 2549 หลังจากที่คบกับแม่น้องต่อได้ 2 ปี ก็คลอดน้องต่อออกมา แต่เมื่อคลอดออกมาได้เพียง 3 เดือน แม่น้องต่อก็ทิ้งไปและไม่กลับมาอีกเลย ตนจึงต้องเลี้ยงลูกอยู่เพียงลำพัง

  ต่อมาตนเกิดป่วยหลายโรคและทำงานไม่ได้มา 2 ปีแล้ว ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาน้องต่อก็เป็นคนที่ดูแลตนมาตลอด ตอนนี้ตนเป็นห่วงแต่เพียงว่าหากตนเป็นอะไรไปก็หวังจะให้ญาติช่วยดูแลน้องต่อแทนด้วย






 

Create Date : 16 ธันวาคม 2557    
Last Update : 16 ธันวาคม 2557 18:19:35 น.
Counter : 723 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.