• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
• ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
• เรื่องจริง,อุทาหรณ์
• ข่าวกีฬาทั่วไป
• ข่าวอาเซนอล
• ข่าวบาซ่า
• ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
• ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
• ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
• ข่าวสารภาพยนตร์
• ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
• ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
• ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
• ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
• ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
• ข่าวสารสุขภาพ
• ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
• สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
• สูตรอาหาร,ขนม
• แนะนำร้านอาหาร
• เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
• เรื่องตลก,ขำขัน
• ข่าวสารแนะนำเกม
• ต้นไม้,ดอกไม้
• ข่าวสารยานยนต์
• ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
• ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
• ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
• กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
• บล็อกส่วนตัวจ้า

สะพรึง ! กู้ภัยเชียงรายถ่ายภาพติดวิญญาณสาวชุดขาว แชร์ว่อนเน็ต เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  สปริงนิวส์ สะพรึง ! กู้ภัยเชียงรายถ่ายภาพติดวิญญาณสาวชุดขาว หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชนและมีผู้เสียชีวิต ยันไม่ได้ตัดต่อ เผยขนลุกเพราะในทีมงานกู้ภัยใส่ชุดเครื่องแบบสีเหลืองกันหมด วันนี้ (12 ตุลาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการแชร์ภาพถ่ายติดวิญญาณในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่า ผู้ถ่ายคือ นายเศกสิทธิ์ เดชคิด อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จ.เชียงราย โดยนายเศกสิทธิ์ได้ถ่ายภาพดังกล่าวจากกล้องมือถือ เป็นภาพอุบัติเหตุรถชนและมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ที่ริมถนนพหลโยธิน ย่านตลาดบ้านดู่ เมื่อคืนวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายเศกสิทธิ์ กล่าวว่า ในคืนดังกล่าวตนเข้าเวรรักษาการ และช่วงประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ ก็ได้รับแจ้งว่ามีรถเก๋งชนเสาไฟฟ้า จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ และเมื่อไปถึงพบร่างของ นางสาวจิราภรณ์ ทะพา อายุ 26 ปี ขับรถฮอนด้าแจ๊ส เสียชีวิตอยู่ในรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนอื่นก็ได้ช่วยนำร่างของเธอออกมา ส่วนตนได้ถ่ายภาพสถานที่เก็บไว้ตามปกติ หลังจากนั้นก็ได้นำรูปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กของตน ต่อมาตนก็เห็นว่ามีคนนำภาพของตนไปแชร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่สักพักก็มีคนบอกว่า ภาพถ่ายของตนมีลักษณะเหมือนวิญญาณของคนตายติดมาในภาพบางภาพ ซึ่งคนที่นำไปแชร์ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้มีการตกแต่งภาพแต่อย่างใด นายเศกสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยต่อว่า เมื่อตนกับเพื่อนนำภาพมาดูอย่างละเอียด ก็ถึงกับขนลุก เพราะมีภาพ ๆ หนึ่งที่มีเงาเหมือนของหญิงใส่ชุดขาวคล้ายกับหญิงคนขับที่เสียชีวิต ซึ่งสะท้อนอยู่ในกระจก ทั้ง ๆ ที่ตนกับเพื่อนกู้ภัยทุกคนใส่ชุดสีเหลืองเครื่องแบบเหมือนกันหมดไม่มีใครใส่ชุดสีขาวเลย   อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/92213   Create Date : 12 ตุลาคม 2556     Last Update : 12 ตุลาคม 2556 20:25:34 น. Counter : 887 Pageviews.   0 comment Share Tweet

แม่เฒ่าตายแล้วฟื้น เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยวัย 105 ปี เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์ นางบุ ขันสิงหา แม่เฒ่าตายแล้วฟื้น เสียชีวิตลงอย่างสงบแล้ว ด้วยวัย 105 ปี ด้านหลานบอกแม่เฒ่าไม่กลับมา เพราะปู่ที่เสียไปมารับไปอยู่ด้วย หลังจากที่เกิดเรื่องอัศจรรย์ เมื่อนางบุ ขันสิงหา แม่เฒ่าวัย 105 ปี จากจังหวัดพิจิตร ได้หยุดหายใจไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2556 และบรรดาลูกหลานและญาติมิตร ต่างเตรียมพิธีศพตามประเพณี แต่หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง แม่เฒ่าก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่า ตอนรู้สึกว่ามีคนพาไปหาหมอ และหมอฉีดยาให้ 1 เข็ม พร้อมให้ตนกลับบ้านได้ จากนั้นตนจึงฟื้นคืนขึ้นมา             ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2556 นางบุ ขันสิงหา แม่เฒ่าวัย 105 ได้หมดลมหายใจอีกครั้ง โดยที่ลูกหลานคนใกล้ชิด ยังไม่นำร่างลงโลงศพ เพราะเกรงว่าจะเกิดปาฏิหาริย์อีก เมื่อเห็นว่านางบุไม่ฟื้นขึ้นมา จึงได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ศาลาวัดหนองโสน 3 คืน พร้อมประกอบพิธีฌาปณกิจศพ ในวันที่ 13 สิงหาคมต่อไป ด้านนางสาวน้ำฝน ขันสิงหา หลานของนางบุ เผยว่า ก่อนที่คุณย่าจะหมดลมหายใจ ท่านบอกว่าไม่ต้องห่วงแล้ว เนื่องจากปู่ที่เสียมารับไปอยู่ด้วย และในครั้งนี้จะไปจริง ๆ ไม่กลับมาแล้ว ก่อนที่ท่านจะหมดลมหายใจอย่างสงบ นางบุเองนั้น มีลูกทั้งหมด 12 คน ปัจจุบันเหลือ 9 คน มีหลาน 40 คน โหลนและเหลนกว่า 100 คน โดยชาวบ้านต่างมาช่วยงานศพเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนางบุ เป็นแม่เฒ่าที่มีอายุยืนยาวกว่า 105 ปี อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/89670   Create Date : 12 สิงหาคม 2556     Last Update : 12 สิงหาคม 2556 17:42:35 น. Counter : 995 Pageviews.   0 comment Share Tweet

สุดฉงน พบอุโมงค์ย้อนเวลาในจีน ลอดผ่านแล้วเวลาเดินถอยหลัง 1 ชั่วโมง เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ NTDTV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม ค้นพบอุโมงค์ย้อนเวลาในกุ้ยโจว ประเทศจีน ย้อนเวลากลับไปได้ 1 ชั่วโมง โดยพิสูจน์แล้วจากโทรศัพท์ 8 ใน 10 เครื่องที่มีการย้อนเวลาจริง ๆ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เว็บไซต์ยูเอฟโอ ไซทิง ฮอทสปอท มีรายงานเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของอุโมงค์ย้อนเวลาที่สามารถทำให้เวลาในโทรศัพท์มือถือของเราเดินถอยหลังกลับไปเป็นเวลา 1 ชั่วโมง หลังจากที่ขับรถลอดไปโผล่ยังอีกด้านหนึ่งของอุโมงค์             โดยอุโมงค์ซึ่งถูกคนท้องถิ่นเรียกกว่า "อุโมงค์แห่งกาลเวลา" แห่งเมืองกุ้ยโจว ประเทศจีน เพิ่งจะถูกสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่เป็นที่น่าแปลกที่มีการค้นพบในเวลาต่อมาว่า มันสามารถย้อนเวลาในโทรศัพท์มือถือของผู้ที่ขับรถลอดผ่านอุโมงค์ยาว 400 เมตร นี้ได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนที่เวลาเหล่านั้นจะกลับมาเดินอย่างถูกต้องอีกครั้ง เมื่อขับรถออกจากอุโมงค์ไปได้สักกิโลเมตรหนึ่ง จากคำเล่าลือของอุโมงค์มหัศจรรย์แห่งนี้ ทำให้นักหนังสือพิมพ์รายหนึ่งของจีนได้เดินทางไปทำการพิสูจน์เรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมันก็ได้พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่าคำเล่าลือดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เพราะอุโมงค์แห่งกาลเวลา ได้ทำให้เวลาในโทรศัพท์มือถือทั้ง 8 เครื่อง จากที่ใช้ทดลองทั้งหมด 10 เครื่อง เดินถอยหลังไปเป็นเวลา 1 ชั่วโมงจริง ๆ โดยหลังจากที่ขับรถเข้าอุโมงค์ในเวลา 9.00 น. และออกมาในเวลา 9.05 น. แต่เวลาที่ปรากฏบนโทรศัพท์นั้นกลับกลายเป็น 8.05 น.             อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่สามารถหาคำอธิบายต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ คลิป Time Travel Tunnel Discovered in China โพสต์โดย คุณ NTDTV //hilight.kapook.com/view/86839   Create Date : 04 มิถุนายน 2556     Last Update : 4 มิถุนายน 2556 19:24:57 น. Counter : 1715 Pageviews.   0 comment Share Tweet

หนุ่มมะกันป่วยแปลก คิดว่าตัวเองตายแล้วนานกว่า 9 ปี เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล           เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 เว็บไซต์เทเลกราฟของอังกฤษ รายงานว่า นายเกรแฮม หนุ่มรายหนึ่ง ป่วยประหลาดเป็นโรคซอมบี้ เชื่อว่าตัวเองตายแล้ว จึงมีชีวิตอยู่อย่างล่องลอยนานกว่า 9 ปี อย่างไรก็ดี ล่าสุดเขาได้รับการบำบัดจนดีขึ้นจากทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เกือบปกติแล้ว   รายงานระบุว่า นายเกรแฮม ป่วยเป็นโรค Cotard’s Syndrome หรือก็คือ โรคซอมบี้ หรือศพเดินได้ มาตั้งแต่ปี 2004 โดยเขามีอาการคิดว่าตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว เขาจึงไม่สนใจพฤติกรรมที่ปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่คนรอบข้าง ไม่รู้สึกอยากอาหาร ไม่อยากพูด สมองว่างเปล่าไม่รับรู้สิ่งอื่นใด เพราะคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งจำเป็น ไม่มีความหมายใด ๆ ต่อคนตายอย่างเขา           อย่างไรก็ตาม โชคดีที่เขาได้รับความช่วยเหลือและการรักษาจากทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอ็กซ์เซเตอร์ สหราชอาณาจักร ด้วยการกินยาและการบำบัดกายภาพเป็นเวลานานกว่า 8 เดือน จนในที่สุดเขาก็มีอาการดีขึ้น แม้จะไม่ได้ฟื้นจากอาการดังกล่าวอย่างเต็มตัวก็ตาม โดยเขาเผยว่า ไม่รู้สึกว่าตัวเองสมองตายอีกต่อไป    ทั้งนี้ สำหรับภาวะ Cotard’s Syndrome  ถือเป็นอาการป่วยที่หายากที่สุดของโลก และมีลักษณะเชื่อมโยงกับภาวะจิตหดหู่และอื่น ๆ โดยที่ผ่านมามีผู้ป่วยรายอื่น ๆ ของโรคนี้ ต้องเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร เนื่องจากตัวเองไม่มีความอยากอาหาร รวมทั้งก่อเหตุฆ่าตัวตายเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากภาวะตายทั้งเป็น //hilight.kapook.com/view/86561   Create Date : 28 พฤษภาคม 2556     Last Update : 28 พฤษภาคม 2556 18:50:15 น. Counter : 900 Pageviews.   0 comment Share Tweet

หน้าตาอาหารแปลกๆๆ ใครทานข้าวเที่ยงกันยังเอ๋ย มาดูรูปอาหารแปลกๆกันบ้าง เผื่อดูแล้วอยากกินข้าวกันอีกรอบ สำหรับสาวๆ ที่ชอบกินผักค่ะ....... เห็นเมนูนี้แล้วทำให้น้ำหนักลด.... เมนูขนมปัง ไซด์ อะไรค่ะเนี่ย.. หน้าแบบนี้ กินไม่ลง... สาวๆคนไหน อยากลดความอ้วน เชิญค่ะ .   Create Date : 15 มีนาคม 2556     Last Update : 15 มีนาคม 2556 14:17:09 น. Counter : 1322 Pageviews.   0 comment Share Tweet