- ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
- ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
- ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
- เรื่องจริง,อุทาหรณ์
- ข่าวกีฬาทั่วไป
- ข่าวอาเซนอล
- ข่าวบาซ่า
- ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
- ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
- ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
- ข่าวสารภาพยนตร์
- ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
- ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
- ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
- ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
- ข่าวสารสุขภาพ
- ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
- สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
- สูตรอาหาร,ขนม
- แนะนำร้านอาหาร
- เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
- เรื่องตลก,ขำขัน
- ข่าวสารแนะนำเกม
- ต้นไม้,ดอกไม้
- ข่าวสารยานยนต์
- ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
- ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
- ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
- กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
- บล็อกส่วนตัวจ้า
|
|
|
|
|
|
ผู้บริหาร LINE ชี้ชัด จะไม่เผยข้อมูลผู้ใช้ ยกเว้นศาลญี่ปุ่นสั่งการ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก LINE Thailand - Official
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไลน์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ยืนยันว่า ทางไลน์ไม่มีนโยบายเปิดเผยข้อมูลลูกค้า ยกเว้นเป็นคำสั่งจากศาลญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานงานอย่างเป็นทางการจากตำรวจไทยแต่อย่างใด
วันนี้ (22 สิงหาคม 2556) ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายโมริคาว่า อาคิระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไลน์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด เผยถึงกรณีที่ตำรวจไทยจะขอเข้ามาตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลและการสนทนาของผู้ ใช้งานไลน์ที่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงและการก่ออาชญากรรมว่า ไลน์ยังไม่ได้รับการติดต่อขอรายละเอียดอย่างเป็นทางการจากทางตำรวจไทย รวมถึงในประเทศอื่นด้วย
ทั้งนี้ ไลน์จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งาน ยกเว้นแต่ทางตำรวจไทยประสานมายังตำรวจญี่ปุ่น เพื่อขอคำสั่งศาล ทางบริษัทก็พร้อมจะปฏิบัติตาม แต่เบื้องต้นทางไลน์ไม่มีนโยบายเข้าไปแทรกแซงการใช้งานของผู้ใช้บริการ ซึ่งการติดต่อสื่อสารสนทนาเป็นระบบปิดจะไม่สามารถนำข้อมูลส่วนนี้มาเปิดเผยหรือให้บุคคลอื่นได้ หากไม่มีคำสั่งจากศาล
ด้านนาย จิน วู ลี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจ ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งดูแลธุรกิจไลน์ ในประเทศไทย กล่าวว่า ไลน์เข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศไหนก็จะเคารพกฎหมายของประเทศนั้น รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศด้วย ยืนยันว่า ไลน์ ประเทศไทยก็ยังไม่ได้รับการประสานใด ๆ ซึ่งหากมีการประสานมา ก็จะต้องมีขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ
โดยตำรวจไทยต้องขออำนาจศาลไทย และติดต่อไปยังรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อขอคำสั่งศาลญี่ปุ่น เพื่อให้ทางไลน์เปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ทางศาลญี่ปุ่น ก็จะต้องพิจารณาคำร้องขอว่า มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
//hilight.kapook.com/view/90133
Create Date : 22 สิงหาคม 2556 | | |
Last Update : 22 สิงหาคม 2556 21:28:30 น. |
Counter : 529 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
หวิดบอด ! ไอโฟน 5 สาวจีนระเบิด ถูกเศษระเบิดกระเด็นเข้าตา
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก macrumors.com
เกิดเหตุไอโฟน 5 สาวจีนระเบิดหลังคุยนาน 40 นาที จนเครื่องร้อน และมีเศษระเบิดกระเด็นเข้าตาของเธอจนเกือบบอด
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา แหล่งข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ไอโฟน 5 ของหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งได้เกิดระเบิดและทำให้ตาของเธอเกือบบอด โดยหญิงคนดังกล่าวได้เล่าว่า ในขณะที่เธอกำลังคุยโทรศัพท์เป็นเวลากว่า 40 นาที เธอก็เริ่มรู้สึกว่าหน้าจอของไอโฟน 5 เริ่มร้อนขึ้น และเมื่อเธอใช้นิ้วแตะที่หน้าจอเพื่อจะวางสาย แต่หน้าจอกลับไม่มีการตอบสนองใด ๆ หลังจากที่เธอพยายามแตะหน้าจออยู่หลายครั้ง หน้าจอก็เกิดไหม้และระเบิดขึ้น ทำให้มีเศษชิ้นส่วนจากการระเบิดกระเด็นเข้าไปที่ดวงตาของเธอ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บและระคายเคืองจนไม่สามารถลืมตาได้เธอจึงรีบไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาในทันที โดยแพทย์ได้กล่าวหลังจากการตรวจว่า ดวงตาของเธอมีสีแดงและมีรอยถลอกจากการถูกชิ้นส่วนกระเด็นเข้าตา แต่โชคยังดีที่ตาของเธอไม่บอดจากเหตุครั้งนี้ นอกจากนี้ หญิงสาวยังได้กล่าวอีกว่า เธอได้ซื้อไอโฟน 5 มาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2012 และก่อนหน้านี้เธอเคยทำไอโฟน 5 ตกพื้นจนมีรอยแตกที่มุมขวาบน แต่ตัวเครื่องยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติอยู่ โดยไม่ได้ระบุว่าที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่เธอใช้อยู่นั้นเป็นของแท้หรือไม่
ทั้งนี้ ทางแอปเปิลได้กล่าวว่า จะดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้ไอโฟน 5 เกิดการระเบิดในครั้งนี้ต่อไป แต่ในกรณีนี้ถือว่าอยู่นอกเหนือจากการรับประกันของทางแอปเปิล พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนใช้อุปกรณ์ที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่เป็นของแท้ที่ผ่านการตรวจสอบจากทางแอปเปิลแล้วเท่านั้น และเสนอโครงการให้ผู้ใช้สามารถนำที่ชาร์จที่ไม่ใช่ของแท้มาแลกเปลี่ยนกับทางแอปเปิลได้ด้วยการเพิ่มเงินเพียง $10 หรือประมาณ 300 บาทเท่านั้น
Create Date : 14 สิงหาคม 2556 | | |
Last Update : 14 สิงหาคม 2556 18:36:09 น. |
Counter : 595 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ไอซีที ลั่น ติดตั้งไวไฟฟรีเพิ่ม 1.5 แสนจุดทั่วประเทศ ภายในปี 2557
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กระทรวงไอซีที ลั่น เร่งติดตั้งไวไฟฟรีเพิ่มอีก 150,000 จุด ทั่วประเทศ ให้แล้วเสร็จในปี 2557 ซึ่งจะทำให้มีไวไฟฟรีบริการมากกว่า 400,000 จุด เพื่อรองรับผู้ใช้บริการถึง 10 ล้านคน
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือกระทรวงไอซีที กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ ICT Free Wi-FI ว่า ตอนนี้มีการให้บริการ ICT Free Wi-FI อยู่แล้วทั้งหมด 270,000 จุดทั่วประเทศ โดยเป็นความร่วมมือภาคีทั้ง 7 องค์กร คือ กสท โทรคมนาคม ทีโอที เอไอเอส ทรูมูฟเอช ดีแทค กสทช. และ 3BB ถือว่าการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศสู่ Smart Thailand ตามนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2557 นี้ จะเพิ่มจุดให้บริการ ICT Free Wi-FI อีก 150,000 จุด โดยจะใช้งบประมาณ 950 ล้านบาท จากกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งจะทำให้ภายในปี 2557 จุดบริการไวไฟฟรีจะมีมากกว่า 400,000 จุด เพื่อรองรับผู้ใช้บริการ 7.5-10 ล้านคนทั้งนี้ การติดตั้งจุดบริการไวไฟฟรีนั้น ทางกระทรวงไอซีทีได้มอบหมายให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
สำหรับประชาชนที่ต้องการใช้งานสามารถลงทะเบียนการใช้งานได้ครั้งละ 20 นาที รวม 2 ชั่วโมง/วัน อายุการใช้งาน 6 เดือน ความเร็ว 2 Mbps
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 12 สิงหาคม 2556 | | |
Last Update : 12 สิงหาคม 2556 17:51:44 น. |
Counter : 671 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
อีกราย ! หนุ่มจีนถูกไฟช็อต เหตุหยิบ iPhone ขณะกำลังชาร์จ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก extremetech.com ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ชายจีนถูกไฟฟ้าช็อตขณะหยิบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 ที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่ขึ้นมา จนอาการโคม่า ตรวจสอบพบเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เพิ่งจะมีรายงานถึงกรณีแอร์โฮสเตสสาวจีนเสียชีวิตเนื่องจากถูกไฟฟ้าช็อตขณะกำลังรับโทรศัพท์มือถือไอโฟน โดยเชื่อว่าอุบัติเหตุไฟช็อตน่าจะมาจากปัญหาอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น ล่าสุดในวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์ซีเน็ต ก็ได้มีรายงานเหตุผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อตขณะหยิบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 ที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่ขึ้นมาอีกรายแล้ว โดยตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ได้รับบาดเจ็บรายนี้ก็ได้ใช้อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นกัน
สำหรับผู้บาดเจ็บรายนี้คือ นายอู่เจียนถง วัย 30 ปี ซึ่งน้องสาวของเขาเล่าว่าเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่พี่ชายของเธอหยิบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 ที่เสียบต่อกับสายชาร์จอยู่ เขาก็ถูกไฟฟ้าช็อตจนน้ำลายฟูมปาก และเมื่อพาตัวมาถึงโรงพยาบาลเขาก็ไม่หายใจแล้ว แต่โชคยังดีที่แพทย์สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน
อย่างไรก็ตาม แพทย์เผยว่าหลังจากนั้น นายอู่เจียนถงที่ถูกไฟฟ้าช็อตยังคงอยู่ในอาการโคม่านานถึง 3 วัน เนื่องจากมีระดับออกซิเจนในสมองต่ำ
ทั้งนี้ เชื่อว่าอุบัติเหตุไฟฟ้าช็อตของทั้ง 2 กรณี น่าจะมีความเชื่อมโยงกับการใช้อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ขณะที่ทางบริษัทแอปเปิลก็จะยังคงเดินหน้าตรวจสอบถึงกรณีไฟฟ้าช็อตขณะชาร์จแบตเตอรี่ต่อไป
Create Date : 19 กรกฎาคม 2556 | | |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2556 20:29:10 น. |
Counter : 567 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คนไทยใช้อินเทอร์เน็ต 32 ชม./สัปดาห์-เฟซบุ๊ก อันดับ 1
คนไทยใช้อินเทอร์เน็ต 32 ชม./สัปดาห์-เฟซบุ๊ก อันดับ 1 (ไอเอ็นเอ็น) สพธอ. เผย คนไทยใช้อินเทอร์เน็ต 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนใหญ่ใช้โซเชียลมีเดียถึงร้อยละ 93 ขณะที่ Facebook ครองแชมป์ยอดนิยมอันดับ 1
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2556 นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2556 พบว่า ปัจจุบันคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น ในช่วงระยะเวลา 12 ปี กว่าร้อยละ 76 คิดเฉลี่ยประมาณ 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยพฤติกรรมของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะใช้อินเทอร์เน็ตช่วงเวลาหลังเลิกเรียนถึงหัวค่ำ คิดเป็นร้อยละ 41.2 ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เพื่อความบันเทิง ทั้งเล่นเกมออนไลน์และดาวน์โหลดสื่อบันเทิง
นอกจากนี้ ตัวแปรที่สำคัญทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมาจากใช้งานเพื่อรับส่งอีเมล ค้นหาข้อมูล และพบว่า ส่วนใหญ่คนไทย นิยมใช้โซเชียลมีเดีย สูงถึงร้อยละ 93.8 ผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่ง Facebook ยังคงเป็นที่นิยมอันดับ 1 ของคนไทย และพบว่า เกือบครึ่งของผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เคยซื้อสินค้าและบริการผ่านโซเชียลมีเดีย โดยผู้ชายจะซื้ออุปกรณ์ไอที ขณะที่ผู้หญิงจะซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง และมูลค่าการซื้อสินค้า เฉลี่ยต่อครั้งกว่า 2,500 บาท
นางสุรางคณา เปิดเผยอีกว่า รูปแบบการทำธุรกิจการตลาดแบบปากต่อปาก หรือการเปิดร้านค้าออนไลน์ผ่านสื่อ ถือว่าเป็นช่องทางที่มีต้นทุนต่ำ แต่ให้ผลลัพธ์สูง ซึ่งโครงการที่ตนจะเร่งพัฒนา คือ เรื่องของ online customer protection ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่คอยประสานงานช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างเบ็ดเสร็จ
//hilight.kapook.com/view/88130
Create Date : 04 กรกฎาคม 2556 | | |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2556 19:02:57 น. |
Counter : 687 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|