ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปัจจุบันได้มีการใช้วิธีการวางระเบิดในรถยนต์หรือ “คาร์บอมบ์” บ่อยครั้งมากขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ทำงานในพื้นที่ก็ต้องทำงานอย่างหนักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการข่าวและการตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยที่คนร้ายอาจนำมาก่อเหตุได้

ด้วยปัญหาดังกล่าว ทำให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่สำคัญในพื้นที่ภาคใต้ ได้พัฒนา “ระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถ” ขึ้นมา โดยหวังนำไปใช้แก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้

โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบจะทำการบันทึกภาพและประมวลผล เพื่อเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล ใช้ตรวจสอบรถแปลกปลอมได้ในราคาไม่แพง

ดร.นิคม สุวรรณวร  อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ.  ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน กล่าวว่า ระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถที่ทางคณะได้พัฒนาขึ้น ใช้ต้นทุนต่ำเพียง 300,000 บาท ใช้ในการตรวจหาและบันทึกแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์  โดยทำการประมวลผลภาพจากกล้องวิดีโอ ซึ่งจัดเก็บบันทึกภาพไว้ในฐานข้อมูล  การทำงานดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกในการใช้งานและสามารถเรียกดูฐานข้อมูลอัตโนมัติผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้

โครงสร้างของระบบ ได้ออกแบบด้านฮาร์ดแวร์ออกเป็น 2 ส่วน คือ ระบบการวิเคราะห์ภาพตามเวลาจริง ที่จะทำการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลป้ายทะเบียน ประกอบด้วย 3 หน่วยการทำงานย่อย คือ การวิเคราะห์ป้ายทะเบียน ระบบการควบคุมการบันทึก และระบบการตรวจสอบข้อมูลและเตือน

ส่วนที่สอง คือ ระบบการจัดการข้อมูลภาพป้ายทะเบียนและรถ  โดยแบ่งเป็นส่วนที่จะทำงานตามความเร็วจริง ซึ่งจะจัดเก็บข้อมูลที่ได้จากผลการวิเคราะห์ และส่วนที่ทำงานแบบออฟไลน์ ซึ่งจะเป็นส่วนสืบค้นและจัดพิมพ์

ดร.นิคม กล่าวต่อว่า ระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถยนต์มีการนำมาใช้งานจริงในงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือในหน่วยงานระดับประเทศอยู่แล้ว แต่การลงทุนติดตั้งระบบต่าง ๆ ต้องใช้งบประมาณสูงหลักล้านบาท  แต่ในส่วนของระบบที่ได้คิดและพัฒนาขึ้นมาใหม่นี้ จะเน้นการติดตั้งในหน่วยงานระดับกลางและขนาดเล็ก ใช้งบประมาณที่ถูกกว่า จึงเหมาะกับการนำไปใช้กับหน่วยงานราชการ ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีรถเข้า-ออกในแต่ละวันจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงจากยานพาหนะที่เป็นอันตราย

โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบและตรวจค้นรถเป้าหมายต้องสงสัย ซึ่งในปัจจุบันฝ่ายความมั่นคงมีการแจ้งเตือนมาอย่างต่อเนื่อง

การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยถือเป็นผลงานที่น่าสนใจ ซึ่งหากมีการนำไปใช้งานจริงในหลาย ๆ พื้นที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อุ่นใจขึ้น และเจ้าหน้าที่ก็มีเครื่องมือที่ช่วยให้การตรวจสอบแม่นยำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย.

//www.dailynews.co.th/technology/155594