Group Blog
 
All blogs
 
ป้องกันตนเองจากการ ข่มขืน




การป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อในคดี "ข่มขืน"
พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ วปอ.51

           ในสภาพสังคมปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ ทำให้สังคมไทย ที่ส่วนใหญ่เคยเป็นสังคมชนบท ต้องกลายมาเป็นสังคมเมือง การเอื้อเฟื้ อ ช่วยเหลือ อาทร ภายในชุมชนสังคมมีน้อยลงในขณะที่ชุมชน สังคมมีค่านิยมทางวัตถุเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ความเสื่อมของศีลธรรมมากขึ้นไปด้วยปัญหาของผู้หญิงหรือแม้กระทั่งเด็ก ถูกล่วงละเมิดทางเพศในสังคมไทย เป็นปัญหาที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะเป็นเพราะก้าวหน้าของการสื่อสารติดต่อกันด้วยระบบอินเตอร์เน็ต มีการเล่นเกมส์บนอินเตอร์เน็ตคล้ายของจริง ทำให้ภาพลามกปรากฏ เผยแพร่ได้ง่าย ทั้งในรูปของอินเตอร์เน็ตและแผ่นซีดี ซึ่งมีขายไปทั่วทุกตลาดหรือการนำภาพโป๊ ที่แอบถ่ายเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตเผยแพร่สู่สาธารณชนทำได้ง่ายขึ้น เช่น เมื่อเดือนกันยายน 2551 นักร้องสาวโฟร์และมดถูกแอบถ่ายคลิปวิดีโอขณะเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น แล้วถูกนำเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตทำให้เด็กและเยาวชนถูกมอมเมา และเป็นตัวเร่งให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศทั้งในแง่ของผู้ถูกกระทำและผู้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศที่พบมากและเป็นภัยสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้หญิงทั่วไปมากที่สุดก็คือการข่มขืนกระทำชำเรา แต่เดิมนั้น ความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญานั้นหมายความถึง การที่ชายได้ใช้อวัยวะเพศของตน ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของฝ่ายหญิงโดยที่ฝ่ายหญิง(ที่ไม่ใช่ภรรยาของตน) ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือสำคัญผิดว่าชายนั้นเป็นบุคคลอื่น (แต่เติมผู้ชายข่มขืนกระทำชำเราภรรยาของตนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย)

          ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2550 ได้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 275 ซึ่งเป็นความผิด ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ให้กว้างขวางกว่าเดิม การข่มขืนกระทำชำเราตามความผิดที่แก้ไขใหม่นี้หมายถึงการกระทำของหญิงหรือชายก็ได้ ที่ได้ทำต่อเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน โดยฝ่ายที่ถูกกระทำไม่สามารถขัดขืนได้หรือเข้าใจผิดว่าเป็นคนอื่น เพื่อเป็นการสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำ กระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่นแต่ในบทความนี้ จะจำกัดการเสนอการป้องกันตนเองของผู้หญิง จากการถูกชายข่มขืนกระทำชำเรา ด้วยการใช้อวัยวะเพศ ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของหญิงผู้ถูกกระทำ ซึ่งเป็นปัญหาของการล่วงละเมิดทางเพศ ที่พบมากที่สุด ในสังคมไทย โดยตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือน กันยายน 2551ทั่วทั้งประเทศไทย มีผู้หญิงที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรามาแจ้งความกับตำรวจ เป็นจำนวนถึง 3,575 คน

ผลการวิจัย และทฤษฎีการเกิดอาชญากรรม

          จากผลการวิจัยและผลงานทางวิชาการทางด้านอาชญาวิทยา ที่ได้ศึกษาความผิดเกี่ยวกับข่มขืนการกระทำชำเรานั้น จะเกิดขึ้นได้ ก็โดยใช้หลักทฤษฎีการเกิดอาชญากรรมตามสถานการณ์ มาเป็นแนวทางในการศึกษา จะทำให้สามารถวิเคราะห์สาเหตุการเกิด และนำไปสู่การหาทางป้องกันแก้ไข ไม่ให้เกิดการกระทำความผิดได้อย่างเป็นหลักทางวิทยาศาสตร์

          ทฤษฎีอาชญากรรมตามสถานการณ์ (SITUATION THEORY) นั้น มีหลักการว่า การจะเกิดอาชญากรรมได้ จะต้องมีองค์ประกอบสามประการ คือ เหยื่อ (ผู้ถูกกระทำ) คนร้าย และ โอกาส ที่มีความเหมาะสม ถูกตามเวลา หากปัจจัยของ เหยื่อ คนร้าย และโอกาส ไม่มีความเหมาะสมกันทางด้าน ศักยภาพ และเวลาแล้ว การกระทำผิดหรืออาชญากรรมก็จะไม่เกิดขึ้นในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรานั้น ได้มีผลการวิจัยผู้หญิง ที่มีโอกาสจะเป็นเหยื่อในการถูกข่มขืนกระทำชำเราไว้ว่า มีลักษณะอย่างไร โดยส่วนมากทั้งการวิจัยในประเทศไทย และการวิจัยในต่างประเทศ มักจะใช้แบบสัมภาษณ์ผู้ต้องขังในเรือนจำ ที่ถูกตัดสินให้จำคุกในความผิดฐานข่มขืน และมักจะสอบถามควบคู่ไปกับ โอกาส หรือเวลาที่เหมาะในการกระทำการข่มขืนกระทำชำเรา โดยสถาบันวิจัยสังคม แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้วิจัยค้นพบว่า การที่ผู้หญิงแต่งกายยั่วยุอารมณ์ทางเพศ อยู่ในที่เปลี่ยว มีโอกาสถูกข่มขืนถึง 70% ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยสำรวจของ Robert R Hazelwood แห่งสถาบันฝึกอบรมแห่ง FBI สหรัฐอเมริกา ได้ทำร่วมกับ Janet Warren แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียร์ ตีพิมพ์ในหนังสือ DEVIANT AND CRIMINAL SEXUALITY ตีพิมพ์เมื่อปี 1993 ได้ผลการวิจัยสำรวจว่าสถานที่ และอายุ ของเหยื่อ มีผลต่อโอกาสการที่คนร้ายจะเลือกข่มขืนกระทำชำเราถึง 55%

ประเภทของคนร้ายที่กระทำการข่มขืนกระทำชำเรา

          จากการแยกแยะลักษณะของคนร้ายที่เป็นชาย ได้ข่มขืนกระทำชำเราหญิงที่เป็นเหยื่อทางเพศ สามารถแบ่งได้ตามแรงจูงใจและลักษณะการทำผิดในการข่มขืนกระทำชำเราได้ดังนี้

          1 ) ทำผิดหลังหรือก่อนข่มขืน (Felony rape) คือมีการทำผิดอย่างอื่นด้วยเช่น ปล้นทรัพย์แล้วข่มขืน
          2 ) พวกโรคจิตก่อกวน (Nuisance offence) คือพวกที่ชอบเข้าไปข่มขืนในบ้าน หอพักเป็นต้น
          3 ) ข่มขืนคนในครอบครัว (Domestic sexual assault) เช่นพ่อข่มขืนลูก เป็นต้น
          4 ) บุคคลที่คุ้นเคย (Social acquaintance rape) ซึ่งมักเป็นคนที่รู้จักกัน เมื่อสบโอกาส จึงทำการข่มขืน เช่น คนข้างบ้านที่ไว้ใจกัน ปล่อยให้เข้ามาในบ้านแล้วอยู่ตามลำพัง จึงข่มขืน เป็นต้น
          5 ) สมภารกินไก่วัด (Subordinate rape) เช่นข่มขืนชำเราผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกศิษย์ เป็นต้น
          5 ) ซาดิสซ์ (Sadistic rape) เป็นพวกโรคจิต ที่เห็นความเจ็บปวดในทางเพศแล้วมีความสุข
          7 ) ลักพาแล้วข่มขืน (Abduction rape) เป็นกรณีคนร้ายฉุดพาขึ้นรถแล้วนำไปข่มขืน เช่นรถตู้
          8) แก๊งค์ข่มขืน (Formal gang sexual assault) เป็นลักษณะองค์กรอาชญากรรมในการค้าประเวณีข้ามชาติหรือค้ามนุษย์
          9) กลุ่มวัยรุ่นฉุดคร่า (Informal gang sexual assault) เป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่อาจคึกคะนอง หรือมั่วสุมสิ่งเสพติดแล้วสบโอกาส เห็นเหยื่อที่เหมาะโอกาส จึงลงมือฉุดคร่า ข่มขืนกระทำชำเรา

การป้องกันแก้ไขปัญหาการถูกข่มขืนกระทำชำเรา

          การป้องกันแก้ไขปัญหาการถูกข่มขืนกระทำชำเรา แยกพิจารณาได้ 2 ขั้นตอน คือ

          1) ขั้นตอนการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุข่มขืนกระทำชำเรา
          2) ขั้นตอนการเผชิญเหตุการณ์จะถูกข่มขืนกระทำชำเรา

          จากบทความทางวิชาการทางด้านอาชญาวิทยาหลายเรื่อง ได้แนะนำว่า การแก้ไขปัญหาในขั้นตอนเผชิญเหตุการณ์จะถูกข่มขืนนั้น เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยง และมักไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการที่จะป้องกันแก้ไขให้ผู้หญิงรอดพ้นจากเหตุการณ์นั้นได้อย่างปลอดภัย เนื่องจาก มีปัจจัยที่ต้องนำพิจารณาในการแก้ไขปัญหาภายใต้ภาวะวิกฤติบีบคั้น ซึ่งผู้ที่ไม่เคยฝึกมาก่อน จะไม่มีความสามารถหรือทักษะที่จะจัดการแก้ไขปัญหาได้ โดยมีปัจจัยหรือตัวแปรที่จะต้องดำเนินการให้เหมาะสมเมื่อจะถูกข่มขืนกระทำชำเราคือ

          1 ) เวลาและสถานที่ การจะถูกข่มขืนในห้องน้ำโรงภาพยนตร์ กับในซอยเปลี่ยว ย่อมมีความแตกต่างกันในการใช้วิธีการแก้ไข เช่นในห้องน้ำอาจใช้การตะโกนร้องให้คนช่วย แต่ในซอยเปลี่ยวแม้ใช้นกหวีดที่ผู้หญิงเตรียมติดตัวไว้เป่ายามฉุกเฉิน ก็ไม่แน่ว่าจะมีโอกาสเป่ าหรือไม่ หรือถ้าเป่ าได้แล้วจะมีใครได้ยินหรือไม่

          2 ) ความแข็งแรงของผู้หญิงที่เป็นผู้จะถูกข่มขืน หากผู้หญิงที่ถูกข่มขืนมีความสามารถในการวิ่งเร็วหลบหนีได้ หรือเป็นนักยูโด ทีมชาติหรือเป็นมือปื น ที่มีความชำนาญในการยิงต่อสู้ ก็น่าเชื่อว่าจะแก้สถานการณ์ การจะถูกข่มขืนได้

          3) ลักษณะจำนวน และอาวุธคนร้าย หากผู้หญิง เพียงคนเดียว เดินในซอยเปลี่ยว ไปพบคนร้ายแบบแก็งค์วัยรุ่น มีหลายคน และมีอาวุธปืน แม้ผู้หญิงที่จะเป็นเหยื่อการจะถูกข่มขืนจะเก่งเพียงใด มีอาวุธปืนที่ใช้ได้ดีเพียงใด ก็เป็นเรื่องที่จะแก้ไขปัญหาลำบาก

          จากตัวแปรข้างต้น การจะแก้ไขปัญหาในสถานการณ์การจะถูกข่มขืน ว่าจะใช้วิธีการใด จึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงตัวแปรดังกล่าว และใช้ให้เหมาะสม ซึ่งในทางวิชาการทางด้านอาชญาวิทยาแล้ว ไม่แนะนำที่จะเสนอแนะวิธีการใด ที่เป็นสูตรสำเร็จ หรือวิธีการสำเร็จรูป ที่แก้ไขปัญหาหรือสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างครอบจักรวาล หรือที่สามารถเผชิญหน้ากับคนร้ายได้ทุกรูปแบบ หรือประเภทของคนร้ายที่จะมาข่มขืน ดังนั้นในทางวิชาการทางด้านอาชญาวิทยา จึงเน้นในการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดสถานการณ์การจะถูกข่มขืนขึ้น โดยใช้ทฤษฎีสถานการณ์ (SITUATION THEORY) เป็นแนวทางป้องกันปัญหา คือ

          1 ) การลดช่องโอกาส เช่น ไม่ไปในที่เปลี่ยว หากจำเป็นต้องไป ก็ต้องมีเพื่อนร่วมทางที่พอเหมาะกับเหตุร้ายที่อาจเกิดขื้น การแต่งกายของผู้หญิงไม่ยั่วยุ มีความรัดกุม ถอดยาก หรือถ้าหากคนร้ายที่มีศักยภาพที่จะข่มขืน เป็นคนรู้จักคุ้นเคย วิธีการป้องกันก็ไม่ควรไปในที่ลับตากับบุคคลดังกล่าวตามลำพังหรือการที่จะไม่นั่งรถแท็กซี่เพียงคนเดียว เป็นต้น

          2 ) เพิ่มความแข็งแรงให้กับผู้หญิงที่จะเป็นเหยื่อ เช่น ให้ผู้หญิงพกอุปกรณ์ป้องกันตัวเมื่อคราวจำเป็น เช่นนกหวีด สเปรย์พริกไทย กรรไกร ร่มกันแดด หรือฝึกการต่อสู้ป้องกันตัว

          3 ) การควบคุมคนร้ายผู้เสี่ยงต่อกระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา เป็นหน้าที่ของชุมชน และสังคมทุกส่วน ในการกวดขันไม่ให้วัยรุ่นจับกลุ่มมั่วสุม รวมถึงเสนอกฎหมายในการ จัดทำฐานข้อมูลผู้กระทำผิดทางเพศ (SEX OFFENDER REGISTRATION ACT) แบบในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลผู้เคยกระทำผิดทางเพศ ไว้ ให้สาธารณชนเข้าถึงข้อมูล เพื่อช่วยกันระมัดระวังจับตาดูเพราะว่าผู้กระทำผิดทางเพศส่วนใหญ่ ได้รับโทษจำคุกไม่นาน เมื่อพ้นโทษมาแล้วมักกระทำผิดอีกและมักทำผิดไม่ไกลจากที่พักอาศัย โดยเฉพาะคนร้ายโรคจิต

สรุปวิธีการป้องกันแก้ไขการถูกข่มขืน

          สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แนะนำ วิธีการป้องกันแก้ไขปัญหาการถูกข่มขืนไว้ 10 ประการ คือ

          1 ) อย่านุ่งกระโปรงสั้น การแต่งกายต้องรัดกุม ไม่โป๊ เกินไป
          2) อย่าดื้อรั้นลองยา หมายถึงกรณี ยาเสพติด หากเพื่อนนำมาให้ลองแล้วใจอ่อนจะเป็นปัญหา
          3 ) อย่าพึ่งพาคนแปลกหน้า คนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนมาเกี้ยวพาราสีหรือ ทำทีเป็นแนะนำช่วยเหลือ
          4 ) อย่าคบหาเพื่อนไม่ดี ส่วนมาก เพื่อนที่ไม่ดี มักจะนำสิ่งที่ไม่ดีมาให้
          5 ) อย่าหลีกหนีพ่อแม่ ยุคนี้เด็กสาวมักจะ "โตเกินวัย” กับพ่อแม่ก็มักจะไม่ได้มีเวลาใกล้ชิด
          6 ) อย่าพ่ายแพ้ความฟุ่มเฟือย หญิงจำนวนมากอาจต้องจำใจ "ขายตัว-ขายยาเสพติด” เพื่อแลกเงิน
          7 ) อย่าเฉื่อยแฉะเที่ยวเตร่ ควรมีผู้ใหญ่ในครอบครัวร่วมไปด้วย ยิ่งเป็นการ เที่ยวกลางคืน
          8 ) อย่าเกเรไม่กลับบ้าน การที่หญิงสาวไปนอนค้างอ้างแรมเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างยิ่ง
          9 ) อย่าเผาผลาญเงินทอง
          10) อย่ามัวแต่มองเพื่อนชาย เด็กสาวที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนชาย มักเสียตัวโดยไม่เต็มใจ คุณผู้หญิงหรือผู้ปกครอง ควรนำมาใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะได้ป้องกันแก้ไขปัญหาการถูกข่มขืนกระทำชำเรา เพื่อที่จะได้ไม่เป็นรอยแผลใจไปตลอดชีวิต เพราะถูกคนร้ายข่มขืนกระทำชำเรา

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร


//icare.kapook.com/rape.php?ac=detail&s_id=37&id=2927





Create Date : 28 ตุลาคม 2556
Last Update : 28 ตุลาคม 2556 17:44:59 น. 0 comments
Counter : 809 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.