All Blog
แต่ปางก่อน : แก้วเก้า





แต่ปางก่อน


บทประพันธ์ : แก้วเก้า


ISBN : 978-974-253-368-7 ฉบับปก สำนักพิมพ์ทรีบีส์, พิมพ์ครั้งที่ 13, 2556.


รายละเอียด

ราวพ.ศ.2490 ราชาวดี ปชาธร เรียนจบจากคอนแวนต์แล้ว ก็มาเป็นครูประจำโรงเรียนกุลนารีวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตวังเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 6 สถานที่แห่งนี้นำหล่อนมาพบดวงวิญญาณ หม่อมเจ้ารังสิธร (ท่านชายใหญ่) อดีตเจ้าของวังและตำหนักริมน้ำ-อาคารฝรั่งแบบบ้านในอังกฤษสมัยราชวงศ์ทิวดอร์ ราชาวดีรู้สึกผูกพันและสนใจตำหนักริมน้ำมาก กระทั่งความสนใจพาหล่อนเข้าไปพัวพันกับ หม่อมราชวงศ์จิรายุส เจ้าของวังและตำหนักริมน้ำคนปัจจุบัน

คุณชายจิรายุสหลงรักราชาวดี ทั้งที่หมั้นอยู่กับ หม่อมราชวงศ์สวรรยา แต่ราชาวดีไม่ได้มีใจอย่างเดียวกับคุณชายจิรายุส หล่อนผูกพันอยู่กับวิญญาณหม่อมเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ท่านชายใหญ่พาหล่อนเข้าไปล่วงรู้อดีตชาติ ว่าครั้งหนึ่งหล่อนคือ เจ้านางม่านแก้ว (เจ้านางน้อย) เจ้าหญิงจากต่างแดนที่เคยพำนักอยู่ในวังเก่าแห่งนี้ และเคยเป็นคนรักของท่านชายใหญ่

แต่อนิจจา! หนทางแห่งรักของท่านทั้งสองมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันจบลงด้วยโศกนาฏกรรม และเวรกรรมเมื่อกาลก่อนยังไม่ไปไหน ยังคงหมุนวนตามรอยเดิม ย้อนกลับมาหาราชาวดีในปัจจุบันชาติด้วย เมื่อหล่อนมีเหตุให้ต้องไปอาศัยอยู่ในวังของ หม่อมเจ้าหญิงวิไลเลขา (ท่านหญิงแต้) ท่านป้าของคุณชายจิรายุส หญิงชราผู้ผูกพยาบาทเจ้านางน้อย

ราชาวดีจะรอดพ้นจากแรงพยาบาทรึไม่ หล่อนจะกลับไปร่วมเรียงเคียงรักกับท่านชายใหญ่ได้อย่างไร ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกรรมแต่ปางก่อน


ร่วมเรียงเอย ร่วมเรียงเคียงหน้า

แจ่มจันทร์ขวัญฟ้า เทพเทวาเป็นพยาน

วันนี้วันดี สุขศรีวันวาร

พี่ขอรักนงคราญ จวบจนนิรันดร์กาลเอย

- แต่ปางก่อน


REVIEW

แต่ปางก่อน น่าจะเป็นนวนิยายที่มีคนเคยรีวิวไว้มากแล้ว แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมารีวิวอีก เพราะผมชอบบทประพันธ์และละครเรื่องนี้เหลือเกิน จำได้ว่าตอนละครแต่ปางก่อนเวอร์ชั่นศรราม-แอน ฉายเมื่อราวปี 2548 เพลงประกอบละครเพราะมากๆ จนผมต้องซื้อแผ่นซีดีมาฟังเลย และผมเชื่อว่าต้องมีนักอ่านหลายคน หลงรักนวนิยายของคุณแก้วเก้าจากบทประพันธ์เรื่องนี้บ้างแน่ๆ

แต่ปางก่อนว่าด้วยเรื่อง ชาติภพ ความรัก และการรอคอย ตลอดสามภพชาติของพระเอก-นางเอก ที่กว่าจะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาครองคู่กันได้ในชาติสุดท้าย คือ ม.ล.จิราคม กับ อันตรา

ตัวละครหลักคือ ราชาวดี หล่อนเคยเกี่ยวข้องกับเหตุโศกนาฏกรรมความรักในอดีต ซึ่งชักนำให้หล่อนกลับมายังสถานที่เดิม มาพบเจอกับวิญญาณท่านชายใหญ่ ผู้รอคอยหล่อนหวนกลับมา นวนิยายเรื่องนี้เล่าเรื่องความรักข้ามชาติภพได้อย่างมีเสน่ห์และงดงาม การรอคอยของท่านชายใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความทุกข์ระทม หลุดพ้นยังไม่ได้ ท่านคอยเจ้านางน้อยด้วยแรงรักและปรารถนาดี เรื่องนี้จึงไม่มีลักษณะของวิญญาณอาฆาต แต่ความพยาบาทกลับคุกรุ่นอยู่ในใจท่านหญิงแต้ ดับไม่ได้ จนท่านต้องใช้เล่ห์อุบายทำร้ายราชาวดี สนองความแค้นเก่าๆ นี่แหละ! ที่เขาว่าสวรรค์ในอกนรกในใจ ทำให้เรามองเห็นข้อเปรียบเทียบว่า “คนเรานั้นร้ายกว่าผี” เป็นความจริง

ความสงสารที่มีต่อราชาวดี ทำให้ลุ้นและเอาใจช่วยหล่อน อย่างฉากที่หล่อนเจ็บไข้อยู่ในวังท่านหญิงแต้ ผมรู้สึกอึดอัดแทนจริงๆ นึกถึงคนที่กำลังทรมานจวนตาย แถมรู้แก่ใจว่ามีคนคิดร้าย แต่เราจะหาทางรอดก็ไม่ได้ จะยอมตายก็ไม่ดี กระทั่งความโล่งอกของราชาวดีมาฉายฉัดในฉากที่หล่อนเห็นถวิล

“...พอราชาวดีเห็นถวิลโผล่เข้ามาในห้อง ความอดทนทั้งหลายก็สิ้นสุดลงแต่เพียงนั้น หล่อนผวาเข้ากอดเพื่อนไว้ น้ำตาไหลพรากจนถวิลถึงกับตกใจ...”

อ่านบทบรรยายนี้แล้วเข้าใจหัวอกนางเอกเลยครับ

ในเรื่องมีตัวละครเด่นๆเยอะ แต่ละตัวมีเอกลักษณ์ มีมิติ ให้แง่คิดจากมุมมองชีวิตที่แตกต่างกัน เช่น...

คุณชายจิรายุส เป็นคนรักสันโดษ ชอบความสงบเรียบง่าย แต่เขาก็มีจิตใจที่ไม่หนักแน่นนัก กระทั่งยอมสูญเสียหลายสิ่ง แม้แต่ความสุขในชีวิต เพื่อรักษาศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูล

คุณหญิงสวรรยา ตัวแทนของสาวสังคมแบบผู้ดียุคเก่า ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย หลงระเริงแสงสีอบายมุข จนบั้นปลายชีวิตก็ยังหาความสงบไม่ได้

ถวิล เพื่อนรักของราชาวดี หญิงผู้มีน้ำใจ ใฝ่ดี เมื่อแต่งงานมีครอบครัวก็เสริมส่งสามีจนเติบโตเป็นเศรษฐีใหม่ กลายเป็นผู้ดียุคใหม่ มีหน้ามีตาในสังคม และบุญกรรมที่ถวิลได้ทำร่วมกับราชาวดี ยังทำให้หล่อนได้เป็นแม่บังเกิดเกล้าของอันตราด้วย

นวนิยายเรื่องนี้อ่านสนุก ภาษาสวย รายละเอียดเนื้อหาค่อนข้างแน่น ถ่ายทอดได้ดีทั้งฉากและอารมณ์ของตัวละคร เป็นนวนิยายรักและชีวิตที่ดีเรื่องหนึ่งเลย ส่วนที่ผมชื่นชอบมากคือ “จดหมายฉบับสุดท้ายของราชาวดีเขียนถึงถวิล” เป็นการปิดฉากภพชาติของราชาวดี ก่อนที่หล่อนจะไปเกิดอีกครั้ง เพื่อพบกับอุปสรรคครั้งใหม่ในชาติสุดท้าย ซึ่งเนื้อความในจดหมายมีวรรคหนึ่งที่กินใจดีครับ เขียนว่า

“...ชีวิตคนเราสั้นนัก แต่ในช่วงสั้นๆ นี้ ฉันภูมิใจที่รู้ว่าฉันเกิดมาเพื่ออะไร และถ้ามีทางเดินสองทางเลือกให้ฉัน ฉันจะเลือกทางไหน ฉันได้เลือกแล้วด้วยความมั่นใจ...”

ทุกชีวิตมีทางเลือกเสมอ จริงไหมครับ



คงเป็นรอยบุญมาหนุนนำ

รอยกรรมรอยเกวียนหมุนเปลี่ยนเสมอ

ให้เราได้มาเจอะเจอ ฉันและเธอพบกันร่วมสุขสมดังรอคอย

-เพลง แต่ปางก่อน

คำร้องและทำนอง : วิรัช อยู่ถาวร




ม.จ.รังสิธร และ เจ้านางม่านแก้ว

ละคร แต่ปางก่อน ช่อง ONE


Jim-793009 

11 : 08 : 2015




Create Date : 10 สิงหาคม 2558
Last Update : 25 กันยายน 2559 22:06:59 น.
Counter : 13780 Pageviews.

11 comment
เจ้าบ่าวรับจ้าง : มัลลิกา




เจ้าบ่าวรับจ้าง


บทประพันธ์ : มัลลิกา


ISBN : 978-616-00-0961-9  ฉบับปก พิมพ์คำสำนักพิมพ์, พิมพ์ครั้งที่ 12556.


รายละเอียด

พัชระ (เพชร) ต้องการเงินเพื่อส่งแม่ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งไปรักษาตัวที่อเมริกา จึงจำเป็นต้องยอมรับข้อเสนอเป็น “เจ้าบ่าวรับจ้าง” ให้แก่ นภสร (ส้มโอ) นักธุรกิจสาวสวย เจ้าของโรงแรมธราธร ซึ่งวางแผนให้ นิลยา (ชมพู่) น้องสาวของหล่อนตัดใจอย่างเด็ดขาดจากเซลส์แมนขายรถยนต์หน้าหล่อแต่ต่ำต้อยอย่างเขา แต่ความรักมักไม่เข้าใครออกใคร เมื่อนภสรดันเผลอใจหลงรักสามีรับจ้างของตัวเองเข้าเต็มเปา แต่อำนาจเงินหาซื้อความรักได้ไม่ งานนี้นภสรจึงต้องจ้างด้วยหัวใจ เพื่อให้ได้ความรักจากพัชระมาครอง


ผมอยากได้หัวใจคุณ

ถ้าคุณยอมจ่าย ผมจะรับจ้างคุณตลอดไป

- เจ้าบ่าวรับจ้าง


REVIEW

นิยายเรื่องนี้ผมเริ่มจากการลองอ่านตัวอย่างในเว็บไซด์สถาพรบุ๊คส์ก่อน ทีแรกเห็นชื่อนึกว่าจะออกแนวจำเลยรัก มีกักขัง ทารุณจิตใจกัน แถมผมยังข้ามไม่อ่านคำโปรยด้วย เลยเป็นการสุ่มอ่านจริงๆ แต่พอได้อ่านตัวอย่างไปสักบทสองบทก็ตัดสินใจรีบไปซื้อนิยายเล่มมาอ่านต่อทันที

ชื่อเรื่อง “เจ้าบ่าวรับจ้าง” มักทำให้นึกถึงนิยายที่มีโครงเรื่องทำนองว่า พระเอกหรือนางเอกจ้างอีกฝ่ายเพื่อล้างหนี้สินของครอบครัวแต่นิยายเรื่องนี้ผิดถนัด เพราะนางเอกจ้างพระเอกมาเป็นสามี เพื่อกีดกั้นน้องสาวของตัวเองให้ตัดใจจากพระเอกอย่างเด็ดขาดเสียทีเพราะเขาเป็นสามีของพี่สาวไปแล้ว

เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นความรักเบาๆ แนวโรแมนติกคอมเมดี้ (Romantic Comedy) พัชระ พระเอกหนุ่มหล่อ ไม่ได้หล่อธรรมดา เพราะผู้เขียนตั้งใจจะสื่อว่าเขาหล่อมากๆ เรียนจบด้านบัญชี ทำงานเป็นเซลแมนขายรถยนต์ และใช้เวลาว่างเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส สาวๆในฟิตเนสพากันติดใจและรู้จักเขาในชื่อ ครูพอล ส่วนนางเอกหรือ นภสร เป็นนักธุรกิจสาวสวย เจ้าของโรงแรมธราธร กำลังประสบปัญหาอย่างหนักทั้งจากงานในโรงแรม และปัญหาจาก นิลยา น้องสาวต่างมารดา ซึ่งทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย สอบตกทุกวิชา แถมยังติดพันเซลส์แมนขายรถยนต์ จน คุณจิตตา ผู้เป็นแม่กระวนกระวายใจ เดือดร้อนให้นางเอกช่วยแก้ไข

ทั้งหมดคือจุดเริ่มต้นของเรื่อง นางเอกมีโอกาสได้เจอพระเอกมาก่อนแล้วในฐานะครูพอลสุดหล่อตามคำแนะนำของ ผาณิตา ผู้เป็นเพื่อน แต่โลกมันช่างกลม เมื่อครูพอลดันเป็นโจทย์คนเดียวกันกับเซลส์แมนที่หล่อนพยายามกำจัดออกจากชีวิตน้องสาวเสียนี่ แผนสัญญาจ้างเลยเกิดขึ้น ถึงแม้พระเอกจะทะนงตนว่าเงินซื้อเขาไม่ได้ แต่เพราะอาการป่วยของแม่ต้องใช้เงินรักษาโดยด่วน งานนี้จึงเลยตามเลย

ตัวละครหลายตัวช่วยสร้างสีสันให้เรื่องสนุก อย่างคุณจิตตาแม้บทบาทจะน้อย แต่ขอบอกตามตรงว่าเป็นตัวละครตัวหนึ่งเลย ที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อเรื่องนี้มาอ่าน เพราะตอนแกโทร.มาโวยวายฟ้องนางเอกเรื่องนิลยา ทำให้ผมทั้งตลกและขำอยู่หลายฉาก ถ้าลองคิดแทนนางเอกตอนรับโทรศัพท์ คงบ่นทำนองว่า “หา! โทร.มาอีก เฮ้อ!!”

เจ้าบ่าวรับจ้าง มีคู่รองที่พ่อแง่แม่งอนใส่กันไม่แพ้คู่พระเอก-นางเอก เป็นอีกคู่ที่ทำให้ลุ้นและสนุกคั้นอารมณ์คู่หลักได้เป็นช่วงๆ นอกจากนั้น ก็มีปมปัญหาฉ้อโกงในโรงแรมเข้ามาพัวพันด้วย ถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยขมวดปมให้พระเอก-นางเอกได้รู้ใจตัวเอง แต่ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างไรนั้น ต้องลองไปลุ้นกันตอนอ่านดูครับ เพราะยังมีพันธะผูกพันบวกประเด็นชิงรักอีกนิดหน่อยด้วยล่ะ

ด้านภาษาอ่านง่าย ดำเนินเรื่องกระชับ บทพูดของตัวละครก็เขียนได้ดี อ่านแล้วอมยิ้มบ้าง ขำบ้าง ฉากฮาๆก็เยอะ มุกเสี่ยวๆก็มีบ้าง แม้โครงเรื่องไม่ได้แปลกใหม่มากนัก แต่ผมการันตีความสนุกปนฮาที่ผู้เขียนเขียนไว้ได้ดี ใครชอบนิยายสไตล์พระเอกหล่อสุดๆ นางเอกสาวมั่น ฝีปากกล้า เนื้อหาสบายๆ ผมขอแนะนำ “เจ้าบ่าวรับจ้าง” ไว้อีกเรื่องครับ


Jim-793009

04 : 08 : 2015




Create Date : 04 สิงหาคม 2558
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2559 20:59:46 น.
Counter : 1348 Pageviews.

2 comment
กลิ่นการเวก : พงศกร





กลิ่นการเวก


บทประพันธ์ : พงศกร


ISBN : 978-974-253-342-7 ฉบับปก : สำนักพิมพ์เพื่อนดี : พิมพ์ครั้งที่ 4, 2556.


รายละเอียด

อรรำไพ บรรณาธิการสาวของนิตยสารรวี ตัดสินใจมาตามหาคุณชายอายุธถึงวังเทวินทร์ เหตุเพราะคุณชายเคยค้างส่งต้นฉบับนิยาย “รอยรักข้ามกาลเวลา”มานาน จนหล่อนกลัวว่าจะตีพิมพ์ไม่ทัน แต่แล้วจู่ๆเมื่อต้นฉบับตอนต่อไปมาถึงมือ เรื่องราวและสำนวนกลับตาลปัตร จนบก.สาวสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักเขียนใหญ่ผู้ใช้ชีวิตสันโดษ ปลีกวิเวกอยู่ในวังเก่า

ก่อนหน้านั้น หัสดินทร์ ผู้เบื่อหน่ายงานวิศวกร ได้ผันตัวมาสมัครเป็นเลขาฯของ ม.ร.ว.อายุธเทวินทร์ นักเขียนชื่อดัง แต่ตลอดเวลาที่ชายหนุ่มทำงานอยู่ในวังเทวินทร์ กลับไม่เคยพบหน้าค่าตานายจ้างเลย เจอก็แต่ลุงกล่ำคนสวน เด็กจุก และโน้ตสั่งงานของนายจ้าง ซึ่งมอบหมายให้ชายหนุ่มแต่งนิยายของเขาที่ค้างไว้ให้จบ นานวันเข้าหัสดินทร์ก็เริ่มระแคะระคายถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในวังเก่าแก่แห่งนี้ มาประจวบพอดีกับที่อรรำไพพยายามค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ใต้ความลึกลับของวังและคุณชายนักเขียน

เมื่อปริศนาที่เกิดในวังผสานกับความสงสัยใคร่รู้จากนอกรั้ว เรื่องราวลึกลับของคุณชายนักเขียนผู้ไม่เคยปรากฏตัว จึงค่อยๆถูกเปิดเผย โชยมาพร้อมกลิ่นดอกการเวกหอมเย็นยามพลบค่ำ


วังเทวินทร์...วังเก่าแก่ที่มีต้นการเวกขึ้นอยู่อย่างแน่นขนัด

วังโบราณที่ ‘กลิ่นการเวก’ หอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ

นับตั้งแต่ตะวันเริ่มทอแสงจวบจนเย็นย่ำสนธยา

กลิ่นของการเวกที่หอมเยือกเย็นกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของความรัก

ความลวง ความชอบ ความชัง และความตาย

- กลิ่นการเวก


REVIEW

กลิ่นการเวก นิยายแนวลี้ลับสยองขวัญจากปลายปากกาพงศกร เป็นเรื่องหนึ่งที่สร้างบรรยากาศหลอนๆ หนาวจับทั่วไขสันหลังได้ดีทีเดียว

กลิ่นการเวก เปิดเรื่องด้วยปมปัญหาชัดเจน เมื่อคุณชายอายุธนักเขียนชื่อดังไม่ยอมส่งต้นฉบับนิยายมาให้ทางสำนักพิมพ์นิตยสารรวี สร้างความร้อนรนใจแก่ อรรำไพ บรรณาธิการสาวมั่น กระทั่งหล่อนได้ต้นฉบับทันตามกำหนดแล้ว ก็ดันมีปัญหาให้กลุ้มอีก เพราะเรื่องราวกับสำนวนเขียนตอนใหม่ มันต่างกับตอนก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับดินทีเดียว นั่นคือจุดเริ่มต้นที่บก.สาวตัดสินใจไปเยือนนักเขียนใหญ่ถึงวังเทวินทร์

ทว่าจะพยายามสักกี่ครั้ง อรรำไพก็ไม่เคยเข้าพบถึงตัวคุณชายอายุธเลย หล่อนพบเจอก็แต่ หัสดินทร์ เลขาฯของคุณชายนักเขียน เลยยิ่งทวีความสงสัยใคร่รู้ของบก.สาวเข้าไปอีก แต่จะนับประสาอะไรกับคนนอกอย่างหล่อน เพราะแม้แต่คนที่อาศัยทำงานอยู่ในวังเทวินทร์ทุกวันแท้ๆ ก็ยังไม่เคยพบหน้านายจ้างเลยสักครั้งเดียว ความสงสัยในใจหัสดินทร์จึงไม่ต่างกับความใคร่รู้ของอรรำไพเลยก็ว่าได้ หรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ

การเปิดเรื่องชวนติดตาม และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านได้มากพอๆกับตัวละครในเรื่อง การที่คุณชายอายุธทำตัวเป็นปริศนา ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครได้เห็น ไหนจะความหลังอันเจ็บปวดจากชีวิตคู่ที่ไม่สมหวัง พี่น้องไม่ห่วงใย ดีแต่จะคอยยื้อแย่งทรัพย์สมบัติ เป็นภูมิหลังและปริศนาที่ทำให้เรื่องสนุก เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อยากตามอ่านให้จบ

ถ้ายกกลิ่นการเวกเป็นนิยายหลอนสยองขวัญเรื่องหนึ่งก็ย่อมได้ เพราะบรรยากาศในเรื่องผนวกกับความลึกลับของคุณชายนักเขียนชวนหลอนอยู่เนื่องๆ แต่ในขณะเดียวกัน กลิ่นการเวกก็แทรกด้วยหลากหลายอารมณ์ มีมุกและฉากชวนตลกขำขันอยู่บ้าง สิ่งนี้อาจทำให้คนอ่านที่คาดหวังการดำเนินเรื่องแบบลี้ลับ หลอนตลอดทั้งเรื่องผิดหวังอยู่บ้างก็ได้ เพราะบางจุดผมก็รู้สึกตลกแปลกๆ แต่การดำเนินเรื่องโดยรวมถือว่าสนุกและชวนติดตามได้ดี

อย่างน้อยผู้อ่านต้องอยากรู้ให้ได้ว่า คุณชายอายุธเป็นอะไร ? ทำไมถึงไม่ยอมปรากฏตัว ใจจริงผมอยากจะเฉลยเหมือนกันนะ แต่เอาไว้ลุ้นกันตอนอ่านเองน่าจะดีกว่า เพราะบางคนอาจคาดถึง หรืออาจคาดไม่ถึงเลยก็ได้

เรื่องความหลอนน่ากลัวในเรื่องต้องยกให้ “ดอกการเวก” ที่เติบโตปกคลุมวังเทวินทร์ มักส่งกลิ่นหอมเย็นในยามพลบค่ำ ผมเคยได้กลิ่นดอกการเวกยามค่ำคืนมาก่อน เดิมทีก็ไม่คิดว่าเป็นกลิ่นชวนหลอน แต่พอได้อ่านเรื่องนี้แล้วนึกตาม บอกได้เลยว่ามันชวนขนลุกได้จริงๆ และยิ่งทำให้น่ากลัวเข้าไปอีก เมื่อประกอบกับความหลังสมัยเรียนชั้นประถมฯของหัสดินทร์ พระเอกไม่ค่อยชอบกลิ่นหอมของการเวกยามพลบค่ำนัก เพราะมันทำให้เขานึกถึงเรื่องผีครูชีวิน

โดยส่วนตัวผมขอยกเรื่อง “ผีครูชีวิน” ให้เป็นจุดหลอนสุดๆของเรื่อง ผมรู้สึกถึงความสยองที่มากกว่าความหลอนของวังเทวินทร์ จึงไม่แปลกใจเลยที่พระเอกจะไม่ชอบกลิ่นดอกการเวก และความเกลียดกลัวกลิ่นดอกการเวกของพระเอกนี่เอง ที่ทำให้บรรยากาศในวังเทวินทร์น่ากลัวตามไปด้วย แต่ผมอ่านแล้วก็งุนงงอยู่สักนิด ตรงที่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดดอกการเวกถึงกลายเป็นดอกไม้ปีศาจไปได้ ไม่รู้ว่าตัวเองอ่านข้ามหรือสับสนอะไร ใครเคยอ่านเรื่องนี้มาแล้ว ช่วยตอบผมด้วยจะขอบคุณมากครับ

เรื่องกลิ่นการเวกถือเป็นนิยายอ่านสนุก มีหลากหลายอารมณ์ และดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม เหนือกว่าความน่ากลัวสยองขวัญ และความเฮฮา เรื่องนี้ยังสอนให้เรารู้ว่า...

“ความผูกพันอย่างแรงกล้าต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะผลักดันให้เราพยายามทำสิ่งนั้นให้สำเร็จจนได้ แต่ในทางกลับกัน การยึดติดผูกพันไม่ว่าทางดีหรือร้าย ก็อาจส่งผลให้เราหลงลืมสิ่งดีๆในตัวเอง และอาจเปลี่ยนเราให้ร้ายไปเลยก็ได้เหมือนกัน ดังนั้นการปล่อยวางจึงเป็นหนทางสู่ความสงบสุข”

สวัสดีครับ





ปกเก่า สวยดีครับ


Jim-793009

01 : 08 : 2015




Create Date : 01 สิงหาคม 2558
Last Update : 1 สิงหาคม 2560 21:56:27 น.
Counter : 4537 Pageviews.

2 comment
ทายาทอสูร : ตรี อภิรุม





ทายาทอสูร


บทประพันธ์ : ตรี อภิรุม


ISBN 947-604-867-8  ฉบับปก สำนักพิมพ์ดับเบิ้ลนายน์. พิมพ์ครั้งที่ 2, 2543.


รายละเอียด

วรนาฏ หญิงชราวัยแปดสิบสอง ยังคงผุดผ่อง ท่าทางแคล่วคล่อง สวยราวสาวใหญ่วัยห้าสิบ ทั้งฉลาด ทันคน ล้ำลึก รู้ทันเหตุการณ์ล่วงหน้า ดูไม่ธรรมดาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนขอย้ายมาอยู่กับครอบครัวของ สุดาดวง มนัสวาณิชย์ หลานสาว ผู้มีทายาทวัยดรุณีนามว่า วรินทร์ หรือ อุ้ย

จุดมุ่งหมายของคุณยายยังสาว คือต้องการสืบทอดวิญญาณอสูรสู่ทายาทฝ่ายหญิง หล่อนคือต้นเหตุแห่งความวุ่นวาย เรื่องเลวร้าย การตายปริศนาของหลายชีวิต ทว่าจนแล้วจนรอดอำนาจมืดก็ไม่อาจทำตามประสงค์ได้สำเร็จ ด้วยมีคนคอยขัดขวางตลอดเวลา จึงเกิดเป็นแรงอาฆาตแค้นหลอมรวมกับกลยุทธ์ไสยดำ นำมาซึ่งการจองล้างอันน่าสะพรึง

ก่อนถูกระบุชื่อเป็น ทายาท อย่าเพิ่งดีใจไป ดูให้ดีเสียก่อนว่า ทายาททรัพย์สิน หรือ ทายาทอสูร


ตะขาบลำตัวกว้างหนึ่งนิ้ว

ค่อยๆโผล่แย้มออกมาจากปากเหี่ยวย่น ตีนยุ่บยั่บ หนวดสองเส้นกระดิก

แสงสีตองอ่อนเปล่งจากตัวตะขาบแกก้มหน้าใกล้วรนาฏ...

เด็กหญิงส่ายหน้าหลบอย่างกะปลกกะเปลี้ย

พยายามเม้มริมฝีปาก ทั้งเกลียดทั้งกลัวแทบว่าจะช็อก

อรพิษเรืองแสงโผล่ยาวออกมาทุกขณะ

ในที่สุดมันก็เกาะที่ปากเธอ

เลื้อยชำแรกแบบถ่ายทอดทายาท ที่ดำเนินมาหลายชั่วคน...

- ทายาทอสูร


REVIEW

ทายาทอสูร เป็นนิยายสร้างชื่อเรื่องหนึ่งของนักเขียนอาวุโส ตรี อภิรุม ผู้เขียนนิยายแนวลึกลับฝากไว้ในบรรณพิภพหลายเรื่อง เช่น แก้วขนเหล็ก อนิลทิตา จอมเมฆินทร์ ฯลฯ สำหรับทายาทอสูรหรือที่ใครหลายคนรู้จักผ่านชื่อตัวละคร “คุณยายวรนาฏ” เป็นบทบาทหนึ่งที่สร้างชื่อให้นักแสดงนำเสมอมา คงเพราะคุณชไมพร จตุรภุช ผู้รับบทวรนาฏคนแรก (พ.ศ.2535) แสดงไว้ดีมาก ผมเองหาเรื่องทายาทอสูรมาอ่าน ก็เพราะได้ยินเสียงร่ำลือถึงความสนุกมานานแล้ว พอได้อ่านก็ไม่ผิดหวังจริงๆครับ 

ทายาทอสูรเปิดเรื่องด้วยการสืบทายาทจาก ยายทรัพย์ สู่ เด็กหญิงวรนาฏ ผู้ถูกเลือกให้เป็นทายาทคนล่าสุด พร้อมทั้งย้อนเล่าถึงความหลังในอดีตกาล ว่าเหตุใดการสืบทอดอสูรร้ายนี้ จึงกระทำติดต่อกันมานานหลายชั่วคน ผ่านเชื้อสายฝ่ายหญิงของพระยาเชลียง นับแต่สมัยกรุงสุโขทัยจวบจนปัจจุบัน ด้วยอายุที่ล่วงเข้าสู่วัยชรา วิญญาณอสูรในร่างวรนาฏจึงต้องการหาทายาทคนใหม่มารับช่วง เป็นเหตุให้หล่อนเข้ามาขออยู่ร่วมกับครอบครัวของสุดาดวง โดยมีเป้าหมายทายาทคือ อุ้ย (วรินทร์) เด็กสาวผู้มีศักดิ์เป็นหลานยาย แต่ด้วยสัญชาตญาณของเหยื่อ อุ้ยจึงไม่สู้ชอบยายวรนาฏ รู้สึกแปลกๆเสมอที่อยู่ใกล้ 

การเปิดเรื่องดี ไม่อ้อมค้อม แม้ในฐานะคนอ่านที่รู้แก่ใจว่ายายวรนาฏต้องเข้ามาปั่นป่วนครอบครัวนี้แน่ๆ แต่ก็ยังมีความตื่นเต้น อยากเจอ อยากเห็นหล่อนแสดงอิทธิฤทธิ์

การเล่าถึงความลี้ลับในทายาทอสูร ไม่ได้ดำเนินเรื่องอย่างเป็นปริศนา หรือทิ้งเงื่อนงำให้สงสัยมากนัก แต่ดำเนินไปอย่างเปิดเผย ค่อยๆปล่อยด้านร้ายกาจของอสูรร้ายออกมาทีละนิด จนเกิดการต่อสู้ระหว่างอสูรกับหมอผี ผู้มีวิชา ใช้ไสยเวทมนตร์ดำห้ำหั่นกัน แรกๆหมอผีจะตายก่อนตามระเบียบ แต่พักหลังชักตายกันเยอะ ผมเลยทั้งลุ้น ทั้งหงุดหงิด อยากให้มีใครสักคนปราบยายวรนาฏได้สักที เพราะหล่อนร้ายเหลือเกิน ตามไปจัดการหลายคนมาก เรียกว่า สนุกที่ได้เอาใจช่วยบรรดาหมอผี และตัวละครในเรื่อง 

ส่วนตัวผมชอบตัวละคร วรนาฏ ชอบการพูดจา การอ้างเหตุผล แกจะว่ากล่าวอย่างมีชั้นเชิงเสมอ ใครคิดจะทำอะไรรู้ทันหมด บางครั้งเลยรู้สึกหมั่นไส้ไปพร้อมกันด้วย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะวิญญาณอสูรมีชีวิตอยู่มานานมาก ย่อมต้องรู้ทันคนมามากแล้วล่ะ แต่ก็แอบขัดใจ ว่ายายเก่งเกินไปแล้วนะ!

ตัวละครส่วนใหญ่จะไม่ชอบยายวรนาฏ ตั้งแง่ใส่กันแต่แรกพบ เช่น โอฬาร และ รัชโรจน์ สามีและลูกชายคนโตของสุดาดวง ทั้งคู่เป็นตัวตั้งตัวตีในการหาวิธีกำจัดยายวรนาฏ เพราะเชื่อว่าเป็น “แม่มดยุคไฮเทค” ใช้อาจารย์ปราบผีหมดเปลืองไปหลายคน ลุ้นอยู่หลายรอบ ว่าจะสำเร็จไหมหนอ ? แต่แก่นแท้ของเรื่องคือ “ธรรมะก็ย่อมต้องชนะอธรรม” วิญญาณอสูรมักพ่ายแก่ของวิเศษชิ้นหนึ่งเสมอ คนธรรมดาสามัญเลยพอจะมีหนทางต่อกรกับคุณยายอสูรจำแลงได้บ้าง

ด้านสำนวนภาษา ผู้เขียนใช้ภาษากระชับ เข้าใจง่าย มีความร่วมสมัย และมีสำนวนภาษาเฉพาะตัว อ่านๆไปจะรู้สึกได้เองครับ --- Dialogue ของตัวละครก็เขียนออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ เห็นชัดคือ ยายวรนาฏ กับ แม่ชีแสงบุญ ประโยคหนึ่งที่ผมอ่านแล้วหัวเราะ (ไม่รู้ทำไมถึงตลก) คือตอนยายวรนาฏถูกแม่ชีทำคุณไสยกลับ แกบ่นว่า...

“ยายแก่ซาดิสม์ ฉันมีโอกาสเมื่อไหร่ แกลงโลง”

ด้านบทบรรยาย ไม่เยอะ ไม่ยืดยาว และไม่ค่อยมีบทพรรณนา ซึ่งดูเหมาะกับเรื่องราวที่ต้องการให้ลุ้น ติดตาม ดำเนินเรื่องได้รวดเร็วทันใจ บางครั้งก็เร็วมากๆ จนรู้สึกว่า "อ้าว! จบกันง่ายๆ อย่างนี้เลยเรอะ" ทว่าโดยรวมทายาทอสูรเป็นเรื่องที่อ่านสนุก อ่านเพลิน นานๆถึงจะวางหนังสือลงได้ทีหนึ่ง 

ใครชอบแนวลี้ลับแบบร่วมสมัย เรื่องนี้ต้องไม่พลาดครับ การันตีความสนุกจากการตีพิมพ์รูปเล่มครั้งแรกกับ สำนักพิมพ์หมึกจีน พ.ศ.2534 พอปีถัดไปก็ได้ทำเป็นละครโทรทัศน์ทันที และยังคงตราตรึงผู้อ่าน-ผู้ชมมาจนถึงทุกวันนี้ ผมคนหนึ่งล่ะครับที่กำลังรอชม “ทายาทอสูร” เวอร์ชั่นล่าสุดทางช่อง 3


Jim-793009

27 : 07 : 2015





Create Date : 27 กรกฎาคม 2558
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2560 22:16:51 น.
Counter : 9453 Pageviews.

8 comment
บ่วงบุพเพ : รตา




บ่วงบุพเพ


บทประพันธ์ : รตา


ISBN : 978-616-00-0567-3  ฉบับปก สำนักพิมพ์ Sugar Beat : พิมพ์ครั้งที่ 1, 2555.



รายละเอียด

บุพเพสันนิวาสดึง หวันยิหวา ให้มาพบกับ อัยการ หนุ่มหล่อผู้มีเชื้อมีสาย ทว่าชีวิตมันตลกร้าย เมื่ออัยการดันถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน มีข่าวซุบซิบกับ ณดล เพื่อนสนิท ผู้เป็นดาราหนุ่มสุดฮอต ร้อนถึง หม่อมยาย (หม่อมอรอนงค์) กับคุณแม่ (ม.ร.ว.อรอุษา) กระวนกระวายใจจนต้องคิดหาผู้หญิงดีๆสักคนมาผูกหัวใจชายหนุ่มให้อยู่หมัด

ประจวบเหมาะพอดี! เมื่อหวันยิหวาเป็นเพื่อนกับ เหมือนแพร ลูกสาวของเพื่อนม.ร.ว.อรอุษา หล่อนจึงมีโอกาสได้รู้จักอัยการและครอบครัวของเขา บวกกับช่วงกำลังตกงาน พ่อป่วยเข้าโรงพยาบาล ต้องการใช้เงิน ม.ร.ว.อรอุษาเลยวางแผนแยบยล เสนองานอัดฉีดเงินให้หวันยิหวาได้เข้ามาใกล้ชิดสนิทกับลูกชาย

งานนี้ชายรักชายตัวปลอมอย่างอัยการเลยยินดีเล่นตามน้ำ สาวใสซื่อก็ซื่อไปตามระเบียบ อาสาช่วยชายหนุ่มปกติตัวตนปลอมๆของเขา จนหัวใจหล่อนเผลอให้เขาไปตอนไหนไม่รู้ แต่มันจะเป็นจริงไปได้อย่างไร ในเมื่อหวันยิหวามี แทนไท เพื่อนชายซึ่งกลายมาเป็นคนรักอยู่แล้ว


เขากับเธอจะทำอย่างไร

ในเมื่อบุพเพใช้หัวใจเป็นเครื่องพันธนาการ

ให้ตกอยู่ในบ่วงรักอันแสนหวาน

-บ่วงบุพเพ


REVIEW

บ่วงบุพเพของคุณรตา เป็นหนึ่งในนิยายรักหวานๆ เพียงไม่กี่เรื่องที่ผมเคยอ่าน ซื้อมาอ่านโดยไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พออ่านๆ ไปเรื่องนี้ไม่เลวเลยครับ เนื้อหาเบา สบาย ไม่เครียด และสนุกจนผมต้องค้นหาว่านักเขียนท่านนี้ เขียนเรื่องอะไรไว้อีกบ้าง

บ่วงบุพเพ เปิดเรื่องได้สมกับชื่อ เพราะตัวละครหลักเกือบทุกตัวดูเหมือนกำลังถูกโชคชะตากลั่นแกล้งพร้อมๆกัน ทั้งพระเอก นางเอก เพื่อนนางเอก ครอบครัวพระเอก แล้วบุพเพสันนิวาส หรือจะเรียกว่าโลกกลมก็คงไม่ผิดนัก ที่ชักนำให้ทุกคนโคจรมาพบกัน กระทั่งเหนียวแน่นขึ้นเพราะแผนจับลูกสะใภ้มาให้ลูกชายของม.ร.ว.อรอุษา ความสนุก เฮฮา หวานน้ำตาลเยิ้ม ก็เริ่มต้นขึ้น

อัยการ หรือพระเอก มีบุคลิกสุขุม วางมาด หล่อสำอาง สไตล์นี้สาวๆหลายคนคงชอบ ส่วน หวันยิหวา นางเอกออกแนวซื่อๆ แต่ไม่เซ่อ มีแววฉลาดกล้าหาญ แต่คงเพราะเป็นคนหัวอ่อน ว่านอนสอนง่ายระดับหนึ่ง ถึงได้ตกอยู่ในเกมของคนอื่นๆ ทั้งพระเอก แม่พระเอก และแทนไท ชีวิตหล่อนอีรุงตุงนังเพราะเป็นคนใจอ่อน เห็นใจคนรอบข้าง ยอมไปเสียทั้งหมดโดยเฉพาะกับพระเอก แต่ถ้าจะตั้งข้อกล่าวหาว่า “นางเอกซื่อบื้อ” สักประเด็น ผมก็เห็นแค่จุดเดียว คือหล่อนหลงเชื่อสนิทใจว่าพระเอกชอบผู้ชาย แต่ก็ตรงนี้แหละครับ จุดขายที่ทำให้คนอ่านเคลิ้มล่ะ ซึ่งบางทีผมก็คิดนะว่า เอ๊ะ! หรือนางรู้แล้ว แต่แกล้งโง่ หลอกแต๊ะอั๋งพระเอกอีกที

อ้าวๆ ไว้ไปลุ้นตอนอ่านดีกว่าครับ ^^

อีกอย่าง เรื่องนี้มีปมรักสามเส้า สี่เส้าเข้ามาเกี่ยวพันด้วย เลยต้องอาศัยระยะเวลาคลี่คลายปม ซึ่งผู้เขียนถือว่าดำเนินเรื่องราวได้ดี ไม่เร็ว ไม่ช้าเกินไป

ตัวละครที่ผมชื่นชอบมาก คงต้องขอยกให้ ม.ร.ว.อรอุษา แม่ของพระเอก นอกจากจะเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง ยังเป็นตัวชูโรง เรียกความสนุกอยู่เรื่อยๆ แต่หลายครั้งก็นึกหมั่นไส้บ้างเหมือนกัน ก็เล่นเจ้าแผนการจริงๆ ทว่าถือเป็นตัวละครหนึ่งที่น่ารักดีครับ

แทนไท เป็นอีกตัวละครที่ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้น อ่านตอนแรกๆเราจะนึกสงสารเขา ในฐานะที่เป็นทั้งเพื่อนและแฟนของหวันยิวา การถูกแย่งชิงคนรักย่อมสร้างความเจ็บปวด แต่แทนไทเลือกใช้วิธีเอาชนะที่ไม่ถูกนัก จุดจบของเขาจึงไม่น่าสงสาร มีแต่ความเห็นใจและเข้าใจในเหตุผล อีกคนคือ เหมือนแพร หญิงผู้มีความหลังกับการแอบรักข้างเดียว หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีต่อหวันยิวามากๆ และผมชอบตอนจบของเหมือนแพร เพราะหล่อนทำให้ผมรู้สึกว่า “ชนะอะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าชนะใจตัวเอง”

ภาพรวมของเรื่อง เป็นนิยายรักสบายๆ อ่านสนุก ภาษาใช้ได้ มีแง่คิดปิดท้าย แม้ผู้เขียนจะออกตัวในส่วน “คำนำ” ว่าหวานจนเลี่ยน แต่ส่วนตัวผมคิดว่า บ่วงบุพเพเป็นรสหวานแบบกลมกล่อม กำลังพอดี อ่านแล้วอมยิ้มได้ตามประสานิยายรัก แถมพาไปเที่ยวในเมืองไทยตั้งหลายที่

ใครชื่นชอบนิยายรักหวานๆ ไม่ดรามาชิงรักหักสวาท “บ่วงบุพเพ” เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ และขอปิดท้ายด้วยตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ...

“คุณถามผมว่าจูบกับผู้หญิงเป็นยังไงใช่ไหม ผมคงตอบไม่ได้ ถ้าไม่ได้ลิ้มลองด้วยตัวเอง ไหนๆ ก็ช่วยผมมาตลอดแล้ว ช่วยอีกสักเรื่องนะยิหวา ขอผมจูบที”


สวัสดีครับ


Jim-793009

23 : 07 : 2015




Create Date : 23 กรกฎาคม 2558
Last Update : 3 พฤษภาคม 2559 14:13:07 น.
Counter : 1471 Pageviews.

4 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

Jim-793009
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



"เขียน" ถ้าสิ่งนั้นคือความสุขอย่างแรกที่เรามองเห็นและนึกถึง ^_^

วรรณกรรมจึงงามกว่าเพชร คมกว่าดาบ เป็นโอสถอันประเสริฐยิ่งของชาวโลก
- กฤษณา อโศกสิน

"หนังสือบางเล่มผมไม่ได้อ่านเพราะชอบหรือไม่ชอบ เมื่อเป็นนิยายรักยอดนิยม ถ้าไม่อ่านก็เสียโอกาสทำความเข้าใจคนอื่น...ดีสำหรับผม ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่านแล้วจะเข้าใจ หรือชอบในระดับเดียวกัน"
- ประชาคม ลุนาชัย [ร้านหนังสือที่มีแต่นิยายรัก]

"...สำหรับนักอ่าน หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต คือการพบว่าตัวเองเป็นนักอ่าน ไม่ใช่แค่อ่านออก แต่ตกหลุมรักมัน ตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ตกหลุมรักหัวปักหัวปำ หนังสือเล่มแรกที่ทำให้เกิดผลเช่นนั้นจะไม่มีวันถูกลืม..."
- Finders Keepers, Stephen King
New Comments