Group Blog
 
All Blogs
 
จังหวะที่เสียศูนย์ กับบางสิ่งที่สูญเสีย



โค้งสุดท้ายของการปิดเทอมแม่สังเกตเห็นว่าลูกของแม่เปลี่ยนไป จากที่เคยเชื่อฟัง และมีระเบียบวินัยพอควร กลายเป็นเด็กขี้โมโห ขี้แย และไม่เชื่อฟังอย่างเคย เมื่อไม่ถูกใจก็จะแสดงอาการโมโหรุนแรง อาการของหนูมีมากขึ้น จนแม่เริ่มรู้สึกเหนื่อย ผู้ใหญ่ในบ้านเริ่มมองหน้ากัน ว่าลูกสาวแม่เป็นอะไร ตอนนี้เปิดเทอมแล้ว หนูขึ้นป.1 เรียนกับคุณครูคนใหม่ชื่อครูน้ำค้าง แม่เริ่มปรึกษาครู แต่คุณครูกลับพูดถึงหนูในทางตรงกันข้าม หนูเป็นเด็กดี น่ารักและเชื่อฟังเมื่อหนูอยู่ที่โรงเรียน.....แล้วลูกแม่เป็นอะไร ทำไมลูกแม่ถึงไม่เป็นเหมือนเคยในเวลาที่ลูกอยู่ที่บ้าน..........

แม่นั่งทบทวนถึงพฤติกรรมของลูกสาวว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่....แล้วคำพูดของคุณแม่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นคุณแม่ของรุ่นพี่ที่รร.ลูก ก็ผุดขึ้นมาในความคิดของแม่...

“ช่วงที่ผ่านชีวิตพี่วุ่นวาย มีหลายสิ่งหลายอย่างต้องทำ กลับบ้านดึกกว่าเคย จังหวะชีวิตของพี่เสียไป แล้วผลที่ได้คือคุณครูเรียกพี่ไปพูดคุย ถามว่าที่บ้านมีอะไรเกิดขึ้น น้องมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป หลังจากหารือกัน สรุปความกันได้ว่า ลูกซึมซับทุกอย่างจากผู้ใหญ่รอบข้างโดยเฉพาะพ่อแม่ เมื่อจังหวะชีวิตของพ่อแม่สับสน ลูกก็เกิดความสับสนภายใน และแสดงออกมาด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป พี่จึงต้องปรับตัวเองเพื่อกลับมาใช้ชีวิตที่เป็นจังหวะที่เหมาะสมเช่นที่เคยเป็น แล้วผลที่ได้คือลูกพี่ก็ดีขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างโอเคแล้ว ทั้งพี่และลูก....”

แม่มาสะดุดกับเรื่องนี้ แม่ลืมไปได้อย่างไร จริงๆแล้วจะเรียกว่าลืมก็คงไม่ถูกนัก เรียกว่าไม่ได้ละเอียดละออกับเรื่องนี้น่าจะถูกกว่า ทั้งๆที่แม่เคยเขียนเรื่อง “จังหวะนั้น สำคัญฉะนี้” แต่แม่เองกลับลืมไปได้อย่างไร จังหวะชีวิตที่ดีหมายรวมถึง จังหวะของวัน ของสัปดาห์ ของเดือน และของปี ที่จะสัมพันธ์กับชีวิตลูก แต่ไม่เพียงแค่นั้นจังหวะของผู้ใหญ่ก็มีผลกระทบต่อจังหวะของเด็กด้วยเช่นกัน ลูกไม่ใช่ต้นไม้ ที่เพียงรอจังหวะรดน้ำและให้แสงแดด แต่ลูกยังต้องการจังหวะของความรัก ความเอาใจใส่อื่นอย่างสม่ำเสมอทั้งจากพ่อและแม่ ฉะนั้นจังหวะชีวิตที่ดีของพ่อแม่ จะช่วยให้ลูกเกิดความรู้สึกมั่นคงทั้งทางร่างกายและจิตใจ เราควรมีเวลาในการทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ แม่ควรใช้เวลากับลูกอย่างสม่ำเสมอ แต่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แม่ใช้ชีวิตราวกับว่าวันหนึ่งมีซัก 48 ชม. มันเป็นภารกิจที่แม่คิดว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วแม่ก็ใช้เวลามากมายไปกับภารกิจเหล่านั้น โดยปล่อยให้หน้าที่การดูแลลูกเป็นของป๊ะป๋า แม้ป๊ะป๋าของหนูจะทำได้หน้าที่ได้ดีเพียงใด ก็มิอาจมีใครทดแทนใครได้ จังหวะชีวิตที่เสียศูนย์ของแม่ในช่วงนั้น ทำให้ลูกแม่ต้องสูญเสียบางอย่างในตัว ซึ่งแม่ก็ไม่รู้ว่ามันมากมายซักแค่ไหน แม่คงเห็นได้เพียงสิ่งที่ตาสัมผัสได้ แล้วข้างในของลูกล่ะจะเป็นอย่างไร.......

แม่กลับมาเป็นแม่ ทำหน้าที่แม่อย่างที่ควรจะทำ แล้วแม่ก็ต้องแปลกใจ เพียงวันเดียวที่แม่เปลี่ยนตัวเอง ลูกแม่กลับมาน่ารักเหมือนเคย หนูเป็นเด็กดีอย่างที่เคยเป็น ว่าง่าย เข้าใจทุกอย่าง แม่กำลังคิดว่า ข้างในของลูกคงกำลังรอแม่อยู่ พอแม่กลับมาความมั่นคงภายในของหนูก็กลับมา

การศึกษาวอลดอร์ฟ ให้ความสำคัญกับจังหวะของชีวิต จังหวะที่ดีเปรียบเสมือนลมหายใจเข้าและออกที่สมดุล จังหวะการหายใจที่ไม่สม่ำเสมอ ยาวเกินไป สั้นเกินไป ย่อมเป็นผลเสียต่อสุขภาพ จังหวะชีวิตของคนเราก็เช่นกัน ควรประกอบด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกายและจิตใจ ในปริมาณที่สมดุล ต่อเนื่องกัน และเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ จังหวะชีวิตที่ดีจะช่วยสร้างพื้นฐานความรู้สึกที่ความมั่นคง เป็นระบบระเบียบ ไม่สับสนวุ่นวาย รวมถึงทำให้เกิดสุขภาพกายที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ทุกคน

การจัดจังหวะที่ดีในชีวิตเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับแม่ แม่ไม่กล้าสัญญาว่าจะทำได้ แต่แม่สัญญาว่าจะพยายามนะคะ




Create Date : 13 มิถุนายน 2551
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 13:54:11 น. 6 comments
Counter : 342 Pageviews.

 


มาทำความรู้จัก

มาทักทายค่ะ

ยินดีกับสมดุลของครอบครัวที่ปรับแก้ได้ทัน

หลังจากที่เสียศูนย์ไปในระยะสั้น

ยินดีด้วยและขอเป็นกำลังใจ

สาวน้อยมุมบนขวาน่ารักจังค่ะ





โดย: ยายกุ๊กไก่ วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:14:25:56 น.  

 
แม่แหม่ม เข้าใจเลยค่ะ เวลามีปัญหากับลูกนี่ตาจะดูตัวเองก่อนจริง ๆ จะว่าไปเลี้ยงลูกบางทีก็ง่าย บางทีก็ยาก เพียงแต่เราจะทำอย่างที่ต้องทำหรือเปล่า ตามเหตุตามผล

เราเห็นอยู่ว่าลูกกำลังเกเร เราคนเป็นแม่อยู่อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไรที่จะให้ออกมาดีที่สุด ตาเป็นคนหนึ่งที่มักจะปรี๊ดแตกอยู่บ่อย ทั้งที่รู้ว่าพูดกับเค้าดีหน่อยเรื่องก็จะจบ ตาไม่รู้ภาษาที่จะบอกกริยาแบบนั้นของตาจริง ๆ ว่าจะเรียกว่าอย่างไร จะว่าอยากเอาชนะลูกก็ไม่ใช่ หรือ จะคิดแบบว่า เธอจะเกเรแม่เหรอ ชั้นเป็นแม่นะ ทำแบบนี้กับชั้นไม่ได้นะ เฮ้อ ! สติตัวเดียวเลยที่จะกำหราบพวกอารมณ์นี้ได้ แต่เดี๋ยวนี้ลูกไปโรงเรียน สมองว่างเยอะเหมือนกันนะ ได้คิดอะไรบ้าง

งงมั๊ยคะ เขียนอะไรยาว ๆ ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย


โดย: MONROVIA วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:17:09:08 น.  

 




โดย: kateking(แม่คิงคอง) (kateking ) วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:18:18:49 น.  

 


แวะมาเยี่ยมเยียนอีกครั้งค่ะ
ไม่เจ็บไม่ไข้สบายดีนะคะ


เป็นกำลังใจให้ไม้รักต้นนี้เติบโตแข็งแรง
เป็นศูนย์รวมแห่งรักและความภูมิใจของครอบครัว


ป้าอัพบล็อกแล้วนะคะ ………..เปลี่ยนชื่อล็อกอิน………………
ถ้าไปช้าอาจเข้าบ้านป้าไม่ได้ค่ะ
เพราะบ้านจะถูกล็อกกุญแจ



โดย: ยายกุ๊กไก่ วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:22:15:22 น.  

 
ขอบคุณสำหรับแง่คิดดี ๆ ค่ะ


โดย: viji (viji ) วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:14:04:50 น.  

 
ลูกสาวน่ารักจังเลยค่ะ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล็อกนะคะ


โดย: ratta วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:36:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ของลูกสาว
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แม่ของลูกสาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.