|
ใครบ้างไม่เคยเห็นซุปตาร์ รีวิว
ผู้แต่ง: Molly
แปล: เหอมู่
สำนักพิมพ์: ROSE
ขออภัยนะคะที่หายหน้าไปนาน พอดีมีงานเร่งเข้ามาให้ทำแบบต่อเนื่องเชียวค่ะ เลยต้องทิ้งช่วงไปหลายอาทิตย์เลย นอกจากจะมีเรื่องงานแล้ว ก็ยังเป็นเรื่องของนิยายที่ติดตามอ่านในช่วงนี้ด้วยที่แบบ... ตอนนี้อ่านนิยายหลายเรื่องมากค่ะ ประเด็นคือ ส่วนใหญ่ที่หยิบมาอ่าน มันยังแปลไม่จบนี่ล่ะ บางเรื่องก็อ่านไปแค่เล่มแรกเล่มเดียว บางเรื่องก็ไปแล้วสองเล่ม บางเรื่อง แม้จะอ่านไปแล้วเล่มสองเล่ม แต่ก็ไม่นึกอยากจะอ่านต่อแล้ว เพราะไม่สนุกแบบนั้นก็มีอยู่เหมือนกัน พอจะเอาเรื่องเก่าๆ ที่อ่านจบไปแล้วมาเขียน ก็ดันจำรายละเอียดของเรื่องได้น้อยอีก บางเรื่องแนวมันใกล้ๆ กัน อ่านจบไล่ๆ กันก็เอาเรื่องไปผสมปนเปกันบ้างก็มี รีวิวหนังสือนี่มันก็ไม่ง่ายนะเนี่ย
มาค่ะ มาพูดถึงเรื่องล่าสุดนี่บ้าง ใครบ้างไม่เคยเห็นซุป’ตาร์ นี่ไม่ใช่แค่นิยายที่เราเพิ่งอ่านจบล่าสุดเท่านั้นนะคะ ยังเรียกว่าเป็นเรื่องที่เพิ่งออกมาวางแบบสดๆ ร้อนๆ เลยก็ว่าได้ (วันที่ซื้อคือวันที่ 24 สิงหาคม วันที่เขียนถึงคือ 28 สิงหาคมค่ะ) จังหวะเดินไปดูแล้วเรื่องนี้เพิ่งเอามาวางพอดี แถมมาครบสองเล่มจบเลยด้วย ไม่ต้องให้ค้างคากัน สำหรับนิยายเรื่องนี้เนี่ย ก็ยังคงเป็นเรื่องที่วนๆ เวียนๆ อยู่กับวงการบันเทิงของจีน ซึ่งก็ดีนะคะ ชอบอยู่แล้ว เพราะมีความคุ้นเคยอย่างมาก เนื่องจากก็พอจะติดตามวงการนี้ของเค้าอยู่ แม้จะไม่ได้เรียกว่าฮาร์ดคอร์เหมือนแฟนๆ ที่ Royal สุดๆ ทั้งหลาย บวกกับนิยายที่อ่านมาหลายๆ เรื่อง ก็วนเวียนอยู่ในวงการนี้ เราเองตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงทุกวันนี้ แม้จะซาๆ ลงไปบ้าง ก็วนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงนี้กับเขาด้วยเหมือนกันแหละน่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องของนักแสดงหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เจียงจื่อเฉิง เป็นนักแสดงตัวเล็กๆ ในวงการที่ยังไม่ได้มีผลงานโดดเด่นอะไรมากมาย แถมยังสังกัดอยู่ในเอเจนซี่เล็กๆ ที่บริหารงานกันแบบครอบครัว แล้วสุดท้ายก็ไปไม่รอดอีกต่างหาก อาศัยว่าจู่ๆ ก็มีเอเจนซี่อันดับต้นๆ ของประเทศที่บริหารโดยผู้บริการหนุ่มไฟแรงมากความสามารถอย่าง เซี่ยวเป่ยวั่ง มาซื้อไป เจียงจื่อเฉิง จึงได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากสร้างผลงานที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ กับเขาเสียที
จริงๆ เจียงจื่อเฉิง เนี่ย เราอย่าได้เห็นว่าอยู่ในเอเจนซี่เล็กๆ แบบนี้ แล้วจะไม่โดดเด่นนะคะ เพราะว่าเจ้าตัวน่ะเป็นคนที่มีฝีมือในการแสดงมากทีเดียว เรื่องบุคลิกหน้าตาเราไม่ต้องไปพูดถึงกันล่ะ แต่ทำไมคนที่มีรูปสมบัติและคุณสมบัติแบบเขาถึงเลือกที่จะไปอยู่เอเจนซี่เล็กๆ ที่ไร้ฝีมือกันล่ะ นั่นก็เพราะมันเป็นความตั้งใจของเจ้าตัวล้วนๆ น่ะสิคะ เจียงจื่อเฉิงเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดนั่นก็คือ ความสามารถในการอ่านอนาคตของคนจากการมองตาคนๆ นั้น ได้ไม่เกิน 3 ครั้ง เขาก็เลยใช้วิธีนี้แหละ ที่ทำให้ตัวเองค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาแบบที่คนภายนอกมองแล้วก็พูดได้คำเดียวว่า เขาเป็นคนที่โชคดีมากคนนึง
เอาเป็นว่าเจียงจื่อเฉิง เห็นอนาคตตัวเองจากสายตาคนอื่นนั่นแหละค่ะ เขาจึงได้เลือกว่าจะทำงานกับคนนี้ จะร่วมมือกับคนนี้ จะอยู่กับคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าหนทางที่ตัวเองกำลังจะเดินนั้น มีอุปสรรคน้อยลง เรียกว่าเดินทางลัดนั่นแหละค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น อาเฉิงของเราก็ไม่เคยเอาความสามารถนี้ไปใช้ทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรนะคะ เพราะนางก็มีความน่าชื่นชมอยู่ตรงที่เป็นคนมุ่งมั่นพยายามในหนทางของตนมากทีเดียวว่าอย่างนั้น บวกกับหน้าตาก็ดี ฝีมือก็ดีด้วย หากมีความสามารถแล้วนำมาใช้ให้เหมาะควร ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร
ทีนี้ หันไปดูด้านพระเอก เซี่ยเป่ยวั่ง สักหน่อย ทำไมเจ้าของเอเจนซี่ใหญ่ระดับรุ่ยฉือเอนเตอร์เทนเม้นต์ถึงได้สนใจ บริษัทเล็กๆ อย่างเทียนซินเทเลวิชั่น จนถึงขั้นเทกโอเวอร์บริษัทไร้ชื่อแห่งนี้ แถมพอเทกโอเวอร์เสร็จ พนักงานทุกคนที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ก็ขอถอนตัวออกหมด ก่อนจะหันไปเปิดกิจการร้านหม้อไฟตามคำแนะนำของเจียงจื่อเฉิงอีกต่างหาก มันก็น่าคิดนะคะ เหลือแค่เจียงจื่อเฉิงคนเดียว แถมนักแสดงประกอบในค่ายเทียนซินสองคน ยังขอผันตัวมาเป็นบอดี้การ์ดให้เขาด้วยซะงั้น จริงอยู่ ถึงแม้เจียงจื่อเฉิง จะมีดีกรีระดังนักแสดงนำในหนังอาร์ตที่มีชื่อเข้าชิงในเทศกาลหนังเมืองเวนิสแล้วในตอนที่ถูกเทกโอเวอร์ แต่มันก็ออกจะประจวบเหมาะอยู่นะว่าไหมคะ
ปรากฏว่าเซี่ยจื่อหวัง กับเจียงจื่อเฉิงนั้น เคยมีอดีตร่วมกันมาก่อนตั้งแต่เด็กๆ จนมีอันต้องแยกจากกันไป ฝ่ายเซี่ยเป่ยวั่งจำเจียงจื่อเฉิงได้ แต่อีกฝ่ายกลับจำท่านประธานเซี่ยไม่ได้ ยังไม่พอ ดันแอบไปดูอนาคตของท่านประธานแล้วก็เกิดอาการประสาทกิน ตีตนไปก่อนไข้เสียอย่างนั้น ทำให้เราได้เห็นเหมือนกันนะคะว่า จริงๆ ไอ้พลังพิเศษของนายเอกของเราที่เห็นว่ามันก็มีประโยชน์ดีเหมือนกันเนี่ย แท้ที่จริง มันมีประโยชน์จริงอย่างที่คิดหรือเปล่านะ เจียงจื่อเฉิงทำให้เราได้เห็นว่าการที่เราหวังพึ่งจากพลังการเห็นอนาคตมากเกินไป มันก็ทำให้เราไม่อยู่กับปัจจุบันเหมือนกันนะ เพราะยิ่งทำให้เจ้าตัวยึดติดแต่กับภาพอนาคตที่ตัวเองเห็นแค่แว้บเดียวมากเกินไปเสียอย่างนั้น
เรานั่งอ่านไป มีจุดนึงที่แอบรู้สึกรำคาญเจียงจื่อเฉิงนิดหน่อย คือช่วงที่อาเฉิงลังเลอยู่น่ะก็พอเข้าใจได้ แต่จนกระทั่งข้าวสารเป็นข้าวสุกไปแล้ว คือไปถึงขั้นนั้นแล้ว ก็ยังจะลังเลอีก คือตัวเองรู้สึกยังไงกับอีกฝ่าย ก็รู้อยู่ อีกฝ่ายเขาปฏิบัติกับตัวเองดีแค่ไหนมันก็เห็นชัดเจน แต่กลับไม่มั่นใจ กลับลังเล เพราะปักใจกับอนาคตที่ตัวเองเห็นแล้วก็เชื่อมั่นว่าจะต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เป็นแบบนี้แน่ๆ จนกระทั่งตัวเองได้ไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ นั่นแหละ ถึงได้รู้ว่ามันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตัวเองคิดเสียหน่อย อาเฉิงเห็นแค่อนาคตข้างหน้า แต่ไม่ได้มองถึงตอนนี้ที่ตัวเองกำลังใช้ชีวิตแบบวันต่อวันนี้เลย จนทำเอาพระเอกของเราทดท้อไปบ้างอยู่เหมือนกันค่ะ ตัวเองก็เกือบพลาดโอกาสที่ดีในชีวิตไป จนท้ายที่สุดที่เราชอบมากก็คือ ตอนที่อาเฉิงตัดสินใจรับงานโดยใช้ความรู้สึกตัวเองแทนที่จะใช้พลังการหยั่งรู้อนาคตนั่นแหละค่ะ มันเหมือนเจ้าตัวได้ข้ามพ้นทุกอย่างไปแล้วจริงๆ เสียที
พระเอก เซี่ยเป่ยวั่ง ที่จริงเป็นคนน่าสงสารมากนะคะ อ่านไปจะรู้เลยว่าเจ้าตัวต้องผ่านอะไรมามากจริงๆ เพราะมีพ่อแท้ๆ ที่โคตรเจ้าชู้ แถมยังเห็นลูกเป็นแค่เครื่องหาเงินอีก ยังดีนะคะที่ท่านประธานมีน้องสาวที่รักมากอยู่คนนึง แถมเป็นเพราะน้องสาวคนนี้และบวกกับความเข้าใจผิดของอาเฉิงของเรา ก็เลยทำให้ความสัมพันธ์ของคู่นี้ งอกเงยและก้าวหน้าขึ้นมาเฉยเลย ยังดีค่ะ ที่ตอนหลังเจียงจื่อเฉิงตอบรับความรักของท่านประธานเซี่ยอย่างเต็มที่ สมกับที่ท่านทั้งรักทั้งดูแลทั้งสปอยล์มาตลอดแหละค่ะ พอได้เปิดใจเท่านั้นแหละ ความดีงาม ความน่ารักของเซี่ยเป่ยวั่งก็ชัดเจนยิ่งกว่า ขืนเอาแต่ไม่รับรักท่านแถมไปหาว่าท่านโรคจิตตะพึดตะพืออีก มันก็ออกจะใจหินเกินไปละค่ะ
ในนิยายเรื่องนี้มีตัวละครที่น่ารักน่าสนใจอยู่หลายตัวนะคะ เอาจริงๆ พวกทีมงานเทียนซินเทเลวิชั่นที่ผันตัวไปเปิดร้านหม้อไฟจนเจริญรุ่งเรืองตามคำแนะนำของเจียงจื่อเฉิงนั่น จริงๆ ก็แค่พวกเขาไม่เก่งธุรกิจด้านนี้เท่านั้น แต่ในแง่ของนิสัยใจคอแล้ว คนบ้านนี้รักและเอ็นดูอาเฉิงของเราอยู่ไม่น้อย แถมยังซาบซึ้งใจอย่างที่สุดที่อาเฉิงเป็นคนทำให้พวกเขาค้นพบหนทางทำมาหากินที่เหมาะกว่าอีกด้วย น้องสาวของพระเอกเซี่ยเป่ยวั่ง แม้จะเป็นคุณหนู แต่นางสวมวิญญาณแฟนคลับศิลปินสายฮาร์ดคอร์ที่แบบเรียลมาก อ่านแล้วน่าจะโดนใจใครหลายคนอยู่ค่ะ นางน่ารักดีนะคะในเรื่อง บรรดาผู้จักการและบอดี้การ์ดส่วนตัวของนายเอกของเราก็มีบทบาทที่น่ารักน่าสนใจมากอยู่ แนะนำว่าลองไปติดตามอ่านดูค่ะ อ่านเพลินดีเชียวล่ะ แถมยังได้ลุ้นเอาใจช่วยพระเอกนายเอกของเรากันสนุกไปอีก
เนี่ยล่ะนะคะ พอของใหม่ออกมา อ่านเสร็จปุ๊ปก็รีบรีวิวเลย เพราะกลัวจะลืม ก็เลยทำให้นิยายเก่าๆ ที่อ่านจบไปแล้ว ไม่ได้เอามารีวิวซักที ก็ไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองเหมือนกันค่ะ เพราะก็อยากรีวิวแหละ แต่มันลืมรายละเอียดไปเยอะ ซึ่งก็แปลว่าถ้าจะเขียนถึง ก็ต้องเอามาอ่านใหม่อีก พันสารท ยังงี้ อ่านไป 2 รอบแล้วเนี่ย ก็ยังไม่ได้เขียนถึง รัชศกเฉิงฮว่าฯ อย่างงี้ 7 เล่มเข้าไปอีก จะเอามาเขียนก็คือ ต้องกลับไปอ่านใหม่ ทั้งๆ ที่เราชอบคุณเมิ่งซีสือที่เขียนสองเรื่องนี้มากถึงมากที่สุด เรื่องดีๆ ดังๆ อย่าคิดว่าเราจะพลาดนะคะ ไม่ได้พลาด แต่แค่ยังไม่มีโอกาสได้เขียนถึงแค่นั้นเองค่ะ บ้าบอจริงๆ เลย
เรื่องเก่าไม่ได้เขียนไม่เป็นไรค่ะ เขียนเรื่องใหม่ให้แล้ว ใครที่กำลังคิดว่าจะซื้อมาอ่านดีมั้ย ก็หวังว่านี่พอจะเป็นแนวทางให้ได้บ้าง ส่วนตัวแล้ว เราเห็นว่าอ่านเพลินอ่านสนุกดี ไม่เสียหายค่ะ ซื้อเลย ไม่ต้องลังเลกัน! ไว้ติดตามเรื่องต่อไปนะคะว่าจะหยิบอะไรมาเขียนถึงอีก ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
Create Date : 28 สิงหาคม 2563 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2563 9:41:44 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2461 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ๋June IP: 124.122.194.198 วันที่: 30 สิงหาคม 2563 เวลา:9:14:29 น. |
|
|
|
|
fingers-crossed |
|
|
|
|