|
เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น รีวิว
ผู้แต่ง: เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง
แปล: ศีตกาล
สำนักพิมพ์: Rose
อีกหนึ่งผลงานของคุณเยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง ภายใต้การดูแลของ Rose อีกแล้วนะคะ แทบจะกลายเป็นแฟนประจำไปแล้วสำหรับนักเขียนท่านนี้ (รวมคุณศีตกาลที่เป็นนักแปลขาประจำไปด้วยอีกคน) แล้วก็ของทางสำนักพิมพ์นี้ด้วย แต่แหม... ก็ว่าไม่ได้ค่ะเพราะเราก็เพลิดเพลินกับผลงานของนักเขียนท่านนี้มากอยู่ อ่านมาก็หลายเรื่อง ที่เอามารีวิวก็มี อย่าง ‘ตัดสินคนที่หน้าตาก็ต้องเจอแบบนี้’ นี่ก็สามารถเข้าไปหาอ่านกันได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เคยอ่านก็ ‘This Time... Lucky in Game Lucky in Love’ นี่ก็ดีเหมือนกันค่ะ อ่านจบไปนานแล้วแหละ แต่ไม่ได้เอามารีวิวเท่านั้นเอง
ที่จริงสไตล์การเขียนของนักเขียนท่านนี้ ไม่ได้มีการวางพล็อตหรือเส้นเรื่องที่ซับซ้อนมากมายอะไร ออกแนวอ่านไปได้เรื่อยๆ สบายๆ ฟีลกู๊ดด้วยซ้ำ ใครไม่ประสงค์จะเสพดราม่าหนักๆ ชอบพระเอกนายเอกที่เก่งกล้าสามารถ ก็น่าจะชอบงานแนวนี้กัน แน่นอนว่า เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น ก็ยังคงความเป็นเยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่งเอาไว้ได้อย่างไม่ทิ้งลาย สำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของคุณชาย กงซีเฉียว ลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลกงซีที่ได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีใหม่ที่สมบูรณ์แบบไปหมดทั้งรูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติ เกิดมาพ่อแม่ก็รักและตามใจชนิดทูนหัวทูนเกล้า นอกจากจะไม่เสียคนแล้ว ยังเป็นเด็กดีเป็นที่รักของใครต่อใคร เรียนหนังสือรึก็เก่งกาจ เข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศแล้วยังได้รับการยกย่องว่าเป็นศิษย์เก่าตัวอย่าง แถมพอสนใจเรื่องการแสดง เข้ามาชิมลางเรื่องแรกก็ประสบความสำเร็จ ฝีมือเป็นที่ยอมรับจนเจริญก้าวหน้าในวงการได้อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก นี่ยังไม่นับความสามารถในศาสตร์โบราณต่างๆ ตั้งแต่เขียนอักษร วาดภาพพู่กันจีน ดีดฉินอย่างนี้ด้วยนะ ส่วนหนึ่งก็คือ กงซีเฉียวในชีวิตก่อนหน้านั้น เกิดเป็นข้าราชสำนักระดับสูง เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของจักรพรรดิเทียนจิ้นในยุคนั้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องผ่านการใช้ชีวิตและการต่อสู้มามากมายเหลือเกิน พอเกิดใหม่ในชีวิตนี้ ยังจำตัวเองในชีวิตนั้นได้ ความสามารถหลายๆ อย่างจึงถูกส่งต่อมา ทำให้เขาได้กลายเป็นกงซีเฉียวผู้มากความสามารถ เจ้าของฉายาเทพบุตรแห่งชาติในชีวิตนี้นั่นเอง
แน่นอนว่า คนที่โคตรจะสมบูรณ์แบบระดับนี้ ย่อมต้องคู่กับอีกคนที่สมบูรณ์แบบไม่แพ้กัน นั่นก็คือ คุณชายสี หรือ สีชิง แห่งตระกูลสีที่ถือเป็นตระกูลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่ มีอำนาจกว้างขว้างที่สุดในประเทศนั่นล่ะค่ะ แหม... ชอบในความไปให้สุดทางนี้จริงๆ คุณชายสีเนี่ย อายุอานามยังไม่ 30 ปีด้วยซ้ำ แต่เพราะต้องเติบโตขึ้นมาท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดี ประสาตระกูลใหญ่ที่อำนาจเป็นเรื่องสำคัญที่สุดนั่นล่ะ พ่อแม่รึก็เสียไปแล้ว ญาติพี่น้องก็ใช่ว่าจะกลมเกลียวอะไรกันนักหนา สีชิงจึงใช้ทั้งฝีมือและมันสมองฝ่าฟันทุกอย่างมาได้ด้วยตัวเอง เรียกว่า ถ้าไม่แน่จริง ไม่มีความสามารถ ไม่เด็ดขาด ก็ไม่มีทางได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตระกูลชนิดที่ถอนรากถอนโคนคนที่ไม่จงรักภักดี และสร้างระบบขึ้นใหม่ในแบบที่ใครก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาหือเลยแม้แต่คนเดียวได้แน่ๆ
ทีนี้กงซีเฉียว กับสีชิง โคจรมาพบกันได้ยังไง เพราะว่ากันตามจริงแล้ว เส้นทางของทั้งคู่ยากที่จะบรรจบ คนนึงอยู่วงการบันเทิงแถมเป็นแค่เศรษฐีใหม่ จะร่ำรวยมีหน้ามีตายังไงก็ไม่น่าจะเทียบกับอีกคนที่มาจากตระกูลเก่าแก่ร่ำรวยล้นฟ้าได้แน่ๆ แถมถ้ามาสนิทสนมกันได้จริงๆ กงซีเฉียวก็คงไม่พ้นตกเป็นขี้ปากว่าเป็นแค่ไม้ประดับของเศรษฐีผู้ดีเก่าแน่ๆ แต่ปรากฏว่า สีชิงนั้นจำกงซีเฉียวได้ตั้งแต่แรกพบ คือคุณชายสีเนี่ยนะคะ ชีวิตวัยเด็กก็หนักหนาอยู่อย่างที่บอกใช่มั้ยคะแล้วก็ไม่ใช่เด็กที่มีความสุขนักหรอก มีวันนึงที่คงจะเหนื่อยและท้อได้ที่จนต้องมานั่งทอดอาลัยอยู่ข้างทาง ก็มาเจอเด็กนักเรียนมัธยมปลายคนนึงโดยบังเอิญ เด็กคนนั้นนอกจากจะปลอบใจและให้กำลังใจเขาแล้ว ยังชวนเขากินเนื้อย่างเสียบไม้ข้างทางกันอีกด้วยต่างหาก ก็เลยกลายเป็นความประทับใจของคุณชายสีไป และจดจำได้ไม่เคยลืม ขณะที่เด็กคนนั้นเติบโตขึ้นเป็นนักแสดงหนุ่มผู้เพียบพร้อม และจำเรื่องวันนั้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ พอได้บังเอิญมาเจอกันเข้า คุณชายสีก็ถึงกับปวารณาตัวเองเป็นแฟนคลับของคุณชายเฉียวแบบเปิดเผยด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกแบบตรงไปตรงมาว่าชอบผลงาน จนยื่นมือเข้ามาช่วยกงซีเฉียวก็หลายครั้ง สมัครเว่ยป๋อเพื่อติดตามข่าวอีกฝ่าย จนตอนหลังก็เลยกลายเป็นเพื่อนกันไปเลยจริงๆ กงซีเฉียวก็เลยไม่ใช่แค่นักแสดงมากฝีมือที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ชื่นชมของคนในวงการเท่านั้น แต่เพราะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทกับคุณชายสีด้วย ก็เลยยิ่งเสริมบารมีให้เจ้าตัวสูงส่งเพิ่มขึ้นไปอีก กงซีเฉียวเนี่ยเป็นเจ้าของภาพลักษณ์ที่ดูดี สง่างาม จะดูว่าสูงส่งก็ได้ มีระดับก็ใช่ แต่ก็เข้าถึงง่ายไปพร้อมๆ กัน ก็คือ เลิศเลอทั้งไอคิว และอีคิวล่ะค่ะ แถมยังฉลาดมีไหวพริบเป็นกรดเชียวล่ะ ก็ต้องให้เครดิตจากชีวิตที่เคยต้องทำงานอยู่ในราชสำนักในชีวิตก่อนหน้านั้นด้วย ไอ้ที่ตัดสินใจมาเป็นนักแสดงก็เพราะ มั่นใจมากว่า ฝีมือในการเป็นนักแสดง หรือตีสองหน้านั้น ไม่มีทางเป็นรองใครอย่างแน่นอน แถมชีวิตจริงของคุณชายนี่ คนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้จัดการหรือผู้ช่วย ล้วนแล้วแต่รู้เช่นเห็นชาติแล้วว่า คุณชายเฉียวของใครๆ นั้น ที่จริงขี้เกียจตัวเป็นขนเชียวล่ะ ซึ่งเจ้าตัวก็มีเหตุผลแหละค่ะว่า ชีวิตก่อนหน้านั้นมันไม่เป็นสุขเอาเสียเลย เพราะต้องคอยระแวดระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา พลาดพลั้งเพียงนิดก็มีคนพร้อมจะหมายเอาชีวิตแล้ว ในเมื่อเกิดใหม่แล้วมีชีวิตใหม่ที่สุขสบายทั้งที จะปล่อยตัวบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นไร แล้วอย่าให้ได้รู้นะคะว่า ใครบังอาจใช้วิธีสกปรกลอบกัด พ่อเอาคืนแบบไม่ไว้หน้าเลย ใช้ทั้งเส้นสายตัวเอง ใช้เส้นสายของท่านสี แล้วยอมรับหน้าชื่นตาบานเลยด้วยนะว่า ก็เออ เป็นเพื่อนท่านสีจริง ก็เกาะแข้งเกาะขาเขาจริง คนอื่นจะทำไมล่ะ ข้องใจงั้นหรือ คุณชายเอาคืนหมดนะคะ แต่ถ้าใครดีมากก็ดีตอบจนน่าใจหาย บุญคุณความแค้นชัดเจนมากค่ะ ไอ้ที่จะมาแบบ โอว... นายเอกอ่อนแอต้องหวังพึ่งพระเอกตลอดเวลานั้น ไม่ใช่กงซีเฉียวแน่นอนค่ะ ขนาดคุณชายสีเอง ยังถึงกับหนักใจว่า ทั้งที่มีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่พอไปหลงรักคนคนนึง ก็ดันเป็นคนแบบกงซีเฉียว ตัวเขากลับไม่ค่อยได้ทำตัวเป็นประโยชน์ให้คนที่รักซักเท่าไหร่ ระดับคุณชายสียังหวั่นใจกลัวอีกฝ่ายจะไม่รับรักตัวเองขนดานั้นเลยนะคะ เพราะคุณชายเฉียวเธอเพียบพร้อมเกินไปนั่นล่ะ คุณชายสีนี่เอาจริงๆ จะว่าไป ดูดุ เข้มงวด ดูไม่น่าเข้าใกล้ก็เฉพาะกับคนอื่นเท่านั้นแหละค่ะ พอมาเจอกงซีเฉียวเข้าไปนี่ เรียกว่าเสียอาการไปก็หลายหน กลายเป็นชายหนุ่มผู้อ่อนโยน เอาอกเอาใจ เข้าขั้นสปอยล์กงซีเฉียวจนน่าอิดหนาระอาใจทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นท่านสีผู้น่ารักไปเลยเหมือนกัน ว่าไม่ได้ก็คนเขารักของเขานะคะ ถึงขนาดเจ้าตัวทนไม่ไหว จนต้องออกปากสารภาพกันไปเลยตรงๆ ด้านกงซีเฉียวเองก็ไม่ใช่คนโง่ อีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ ไม่รู้ก็บ้าแล้ว แม้ยังไม่รับปากจะคบหาเป็นคนรักทันที ประมาณว่าขอเวลาอีกหน่อยได้ไหม แต่ยังไงผมก็ชอบคุณแหละ ดังนั้นแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ตอบรับรักในตอนนั้นแต่ก็แสดงออกว่ามีใจ แค่นี้ก็ทำคุณชายสีก็ปลาบปลื้มจะแย่ แต่แหม... เอาจริงๆ คนระดับกงซีเฉียวที่มากความสามารถในระดับที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติไม่ว่าจะในฐานะนักแสดง หรือในฐานะศิลปินระดับชาตินะคะ เรียกว่าชีวิตไม่ขาดอะไรเลยอย่างนี้ดีกว่า ดีจนเกินเอื้อมเบอร์นี้ แล้วใครล่ะจะคู่ควรถ้าไม่ใช่ระดับผู้นำตระกูลสี ที่ก็แสดงออกชัดเจนมาก (ก ไก่ล้านตัว) ว่าอยากจะดูแลเหลือเกินขนาดนั้น เรียกว่าแม้แต่ฝ่ายพ่อแม่ของคุณชายเฉียวยังต้องยอมรับกับความจริงข้อนี้อย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้อีกต่างหาก ตัวละครหลายๆ ตัวที่ปรากฏในเรื่องนี้ น่าสนใจมากเชียวค่ะ คุณพ่อคุณแม่ของกงซีเฉียวนี่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะใครๆ ก็ต้องอยากรู้แหละค่ะว่า คนเพอร์เฟ็กต์แบบคุณชายเฉียว ถูกเลี้ยงมายังไง ที่จริงเจอความสปอยล์ลูกขนาดหนักอย่างพ่อแม่คู่นี้ เป็นคนอื่นอาจจะเสียคนไปแล้ว นี่นอกจากลูกชายจะโตมาแบบเพียบพร้อมแล้ว ยังเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายชนิดไม่เคยสร้างความหนักใจให้พ่อแม่เลยด้วย ยิ่งเรื่องรสนิยมสไตล์การแต่งตัวอะไรต่อมิอะไร นี่ถึงกับมีคนแอบขอบคุณที่คุณชายไม่ได้พ่อมาเลยว่าอย่างนั้น แต่คุณพ่อคุณแม่ของคุณชายเฉียวน่ะถือเป็นคู่ชีวิตตัวอย่างที่น่ารักมากเชียวล่ะค่ะ โผล่มาทีไรก็เรียกว่าเรียกรอยยิ้มได้ตลอดเลยจริงๆ เหล่าผู้จัดการส่วนตัว หรือผู้ช่วยทั้งหลายของกงซีเฉียว ไม่ว่าจะเป็นเฉินเคอ เหอเผิง ลู่เสี่ยวเหยา หรือจะเป็นเหล่าผู้กำกับอาวุโสทั้งหลาย นักแสดงเบอร์ต้นๆ เบอร์กลางๆ หรือแม้ตัวตัวเล็กๆ หรือแม้แต่ผู้ช่วยโกว่และเลขามือหนึ่งของพระเอกสีชิง ที่มาปรากฏตัวในเรื่องล้วนแล้วแต่สร้างสีสันให้กับนิยายเรื่องนี้เป็นอย่างมากเชียวค่ะ คือตัวละครที่มาปรากฏตัวในเรื่องเนี่ยเยอะแยะมากมายจริงๆ ทั้งที่มาดี มาร้าย มาแบบซึนๆ หรือหวังดีประสงค์ร้าย บ้างก็โผล่มาบ่อยๆ บ้างก็มาแป๊ปนึงแล้วก็ล้มหายตายจากไปเลยก็มี แต่ล้วนเข้ามาทำให้เนื้อเรื่องสนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก ขอย้ำนะคะว่า เราอย่าไปจุกจิกจู้จี้มากมายกับเรื่องที่ว่า โอ๊ย พระเอกอะไรจะร่ำรวยอำนาจล้นฟ้าเว่อวังปานนั้น โอ๊ย นายเอกอะไรจะสมบูรณ์แบบเกินมนุษย์ขนาดนั้น โอ๊ย มันไม่มีอยู่จริงหรอก หรืออะไรเทือกนี้ เพราะแนวทางของคนเขียนชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไร จริงๆ แค่เริ่มเรื่องที่นายเอกเคยเป็นขุนนางระดับท็อปแห่งยุคมาเกิดใหม่พร้อมความสามารถเดิมที่ติดตัวมาด้วย แค่นี้ก็ควรจะเลิกตั้งคำถามเหล่านี้ไปได้แล้ว เรามีหน้าที่เอนจอยไปกับการอ่านนิยายเบาๆ สนุกๆ อีกเรื่องนึงไปจนจบก็พอค่ะ สำหรับเราถือว่าตอบโจทย์แล้วจริงๆ สนุกมากค่ะ ถ้าคุณเยว่เซี่ยวเตี๋ยอิ่งออกงานมาอีก เราก็จะตามอ่านอีกเรื่อยๆ ไปแบบนี้แหละค่ะ งานของเธออ่านง่าย เบาสมองและสนองนี้ดในใจเราดีออกจะตายไป นิยายเรื่องนี้เราต้องอ่านถึงสองรอบเชียวนะคะกว่าจะได้มาเขียนเนี่ย ไม่ใช่อะไรค่ะ เล่มสามออกมาทิ้งช่วงจากเล่มหนึ่งและเล่มสองนานไปนิดนึง พออ่านเล่มสามจบเลยต้องกลับไปอ่านทวนเพื่อเก็บรายละเอียดมาเขียนถึงนี่ล่ะค่ะ จริงๆ ควรจะเอามาลงตั้งนานแล้ว ขอสารภาพว่ามัวแต่อู้อยู่ คือขี้เกียจนั่นแหละค่ะ แถมสั่งหนังสือมาอีกเพียบ เลยอ่านติดลมไปหน่อย กว่าจะลากตัวเองมาเขียนรีวิวนี้ได้ ก็เลยทิ้งช่วงนานไปหน่อย ขออภัยทุกท่านในความขี้เกียจค่ะ แต่ก็ขอบคุณมากจริงๆ สำหรับการติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องและอบอุ่น อย่าลืมติดตามเรื่องหน้าว่าจะหยิบเอาเรื่องไหนมาเขียนถึงอีกนะคะ
Create Date : 16 ตุลาคม 2563 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2563 9:41:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5923 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
fingers-crossed |
|
|
|
|