WELCOME! WELCOME! and WELCOME!
 
เหรียญทองแดงปราบพิภพ รีวิว

ผู้แต่ง: มู่ซูหลี่

แปล: ใบไม้แดง

สำนักพิมพ์: มิเนอร์วา บุ๊ค

              นี่ต้องถือว่าเป็นนิยายจีนโบราณสายพลังบวกแฟนตาซีที่สนุกมากเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ค่ะ อ่านแล้วถึงกับวางไม่ลงกันเลยทีเดียว เพราะไม่เพียงแต่การดำเนินเรื่องจะสนุกและน่าสนใจมากแล้ว ตัวละครต่างๆ ที่โลดเล่นภายในเรื่องยังน่าสนใจมากไม่แพ้กันด้วย ที่สำคัญความสัมพันธ์อันมากมายของตัวละครก็ยังมีความซับซ้อนและน่าประทับใจอย่างยิ่งอีกต่างหาก นี่เป็นอีกหนึ่งนิยายที่เราหมายมั่นว่าจะต้องหยิบมาอ่านอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอนค่ะ



              อย่างที่เกริ่นเอาไว้นะคะ ที่เป็นนิยายสายแฟนตาซี ดังนั้นการที่จะเปิดมาด้วยเรื่องมังกร แล้วไหนจะยังมีเรื่องของนักบวช มนตรา อาคม ผีสางนางไม้ รวมถึงเวทมนตร์ชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งค่ะ  เรื่องนี้เริ่มขึ้นจากเรื่องเล่าที่ว่ามีมังกรตนหนึ่งร่วงหล่นมาจากฟากฟ้า แล้วก็ถูกคนตัดเส้นเอ็นกระชากกระดูกทั้งเป็น ไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นเช่นไร ตัดภาพมาอีกที ก็กลายเป็นเรื่องของเซวียเสียนชายหนุ่มรูปงามผู้มีพลังเวทย์ก็จริง แต่เนื่องจากเจ้าตัวพิการ ร่างกายท่อนล่างไม่อาจขยับเขยื้อนได้ ก็เลยอาศัยวาดภาพลงบนกระดาษเพื่อให้มีร่างกายชั่วคราว แล้วก็เลยยื่นมือไปช่วยวิญญาณตนหนึ่งที่ชื่อ เจียงซี่อหนิง ให้ได้มีร่าง แล้วก็อาศัยเจียงซื่อหนิงนี่แหละซื้อหาอาหารมาให้

              ขณะที่บุรุษตนหนึ่ง กับวิญญาณตนหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในบ้านร้างร่วมกันได้สักสองสามวัน จู่ๆ ก็มีนักบวชชุดขาวรูปงาม  แต่ก็เยือกเย็นอย่างยิ่ง เงียบขรึมอย่างยิ่ง แถมน่าครั่นคร้ามเสียจนผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้ โผล่มาแงะกระดาษที่เซวียเสียนอุตส่าห์ซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีบนพื้นที่เต็มไปด้วยตะไคร่แล้วแท้ๆ นักบวชชุดขาวที่ผู้นี้มีนามว่า เสวียนหมิ่น เป็นบุรุษลึกลับที่มาที่ไปก็ไม่ชัดเจน ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน รู้แต่ว่าฝีมือไม่ธรรมดา พลังเวทย์รึก็อลังการอย่างยิ่ง



              การเดินทางที่จะนำไปสู่เรื่องราวอันมากมายจึงได้เริ่มต้นขึ้นตอนนี้เอง พออ่านไปได้ซักนิดซักหน่อย เราจะเริ่มรู้แล้วค่ะว่า ทำไมเซวียเสียนจึงได้พิการถึงกับเดินไม่ได้ นั่นก็เพราะแท้ที่จริงเจ้าตัวคือมังกรที่ว่าถูกตัดเส้นเอ็นและดึงกระดูกสันหลังออกไปตนนั้นนั่นเอง หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าตัวแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่หนักหนาจริง มังกรอย่างเขาไม่มีทางที่จะสูญเสียพลังไปจนต้องอาศัยร่างกระดาษอยู่หรอก ทั้งที่จริงๆ พลังในการฮีลตัวเองของมังกรน่ะธรรมดาที่ไหน แต่ก็รอดมาได้นี่แล้วไงล่ะ เพียงแต่ถ้าจะให้กลับมาดีได้ดังเดิมก็จำเป็นจะต้องค้นหากระดูกที่ถูกคนกระชากฉวยไปกลับคืนมาให้ได้เสียก่อน เจ้าตัวจึงพาร่างอันไม่สมประกอบของตัวเองมายังบ้านสกุลเจียง แต่ก็พบว่าบ้านถูกไฟไหม้ ไม่มีใครเหลือรอดอยู่เลย นอกจากวิญญาณของเจียงซื่อหนิง บุตรชายเพียงคนเดียวของท่านหมอเจียงนั่นเอง

 

              เสวียนหมิ่นนั้น ปกติไม่ใช่คนที่ชอบสุงสิงกับใคร เรียกว่าไม่มี social skill เลยค่ะ ไม่แคร์ด้วย เพราะนิสัยเป็นคนพูดน้อยและรักสันโดษมาก สาเหตุที่ให้ต้องมายุ่งเกี่ยวกับวิญญาณสองตนนี่ก็เพียงเพราะความเป็นคนมีเมตตา คิดแค่ว่าหากเป็นวิญญาณร้ายก็จะปราบซะ หากเป็นวิญญาณที่ไม่ไปเกิดก็จะได้ส่งให้ไปเกิดให้เรียบร้อย จะได้ไม่ทำอันตรายชาวบ้านชาวช่องเขา แต่พอไปแซะวิญญาณที่บ้านสกุลเจียงมาเท่านั้นแหละ ชีวิตเรียกว่าถึงกับเปลี่ยนพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว

              แรกๆ เสวียนหมิ่นรำคาญมังกรตนนี้มาก เพราะพูดมาก พูดไม่หยุด แถมยังชัดเจนว่ามีเป้าหมายในการที่จะแหย่เขาเอาสนุกไม่เว้นแต่ละวันเสียด้วย แม้จะรู้ว่าแหย่ไม่ขึ้น แถมยังเหมือนพูดอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็กลายเป็นความบันเทิงหลักของมังกรตัวแสบไปเสียแล้ว พอมาอยู่ด้วยกันแบบนี้เซวียเสียนก็พบว่าเสวียนหมิ่นความจำเสื่อม จดจำเรื่องของตัวเองแทบไม่ได้เลย แถมยังมีอาการป่วยที่ค่อนข้างจะไม่ปกติอยู่ แรกๆ เซวียเสียนคือไม่ให้ราคานักบวชชุดขาวผู้นี้เลยนะคะ เพราะว่าหน้าเด็กมาก ส่วนเหรียญทองแดงในตำนานที่เล่ากันว่าเป็นเหรียญวิเศษที่บรรดาผู้วิเศษทั้งหลายใช้ปราบภูตผี แม้เสวียนหมิ่นจะมีพกพาเอาไว้กับตัวแต่กลับหม่นหมองสนิมจับเขรอะ ไม่มีราศีเอาเสียเลย แต่ที่ไม่สามารถหลอกสายตาของมังกรอย่างเขาได้ก็คือพลังเวทย์อันสูงส่งนั่นแหละค่ะ เจ้าตัวถึงได้ยอมรับขึ้นมา

              ความสนุกมากอีกอย่างของเรื่องนี้ก็คือพล็อตที่วางเอาไว้อย่างน่าติดตามและต่อเนื่องนี่แหละ การที่จะต้องเดินทางตามหากระดูกของมังกรนั้น มันก็จะต้องมีการตระเวนไปตามที่ต่างๆ แล้วที่แรกที่หาเจอก็เรียกว่าบังเอิญอย่างยิ่ง แล้วพอเหมือนได้เจอชิ้นแรก มันก็จะเริ่มจะมีเบาะแสของชิ้นอื่นๆ เข้ามา ที่สำคัญการเจอกระดูกแต่ละชิ้นทำให้ร่างกายของเซวียเสียนค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นด้วยเช่นกัน ทีมเดินทางที่เริ่มจาก 3 ก็เพิ่มจำนวนขึ้นตามสถานที่ที่แวะเวียนไปนั่นแหละค่ะ

              พอเดินทางไปยังเมืองที่สองก็ได้เพื่อนร่วมทางเพิ่มมาอีกคนมีนามว่า ลู่เนี่ยนชี ลู่เนี่ยนชีมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ ลู่สือจิ่ว คนผู้นี้แม้จะตาบอดแต่มีความสามารถในการเห็นภูติผีพลังปราณต่างๆ และเป็นนักทำนายที่แม่นยำ เซวียเสียนตั้งใจไปขอความช่วยเหลือจากลู่สือจิ่ว ปรากกฎว่าที่บ้านของเด็กทั้งสองเหลือแต่ลู่เนี่ยนชีวัยเพียง 15 ปีอยู่บ้านคนเดียว แถมยังเป็นคนปากร้ายน่าดู สุดท้ายทั้ง 4 คนก็พากันออกตามหาลู่สือจิ่วที่เดินทางไปยังเกาะอาถรรพ์ของเมืองนั้นก่อนจะหายตัวไปนานครึ่งค่อนเดือน สิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอบนเกาะทั้งน่ากลัว ทั้งเสี่ยงๆ จะเอาชีวิตไปทิ้งก็หลายรอบ เรียกว่าหนักหนาสาหัส แต่ก็ได้กระดูกกลับคืนมาชิ้นนึงจนได้ รายละเอียดขอให้ไปอ่านดูเอาค่ะ ลุ้นกันสนุกมากจริงๆ

              แล้วสมาชิกก็เพิ่มมาอีก 1 คน นั่นก็คือลู่เนี่ยนชี ที่ก็ได้พลังการทำนายของพี่ชายมาแต่ก็แลกกับการเสียการมองเห็นไปเช่นกัน ทีนี้ก็ตั้งเป้าหมายกันว่าจะไปยังเมืองที่สกุลฟางที่พี่สาวของวิญญาณ เจียงซื่อหนิง แต่งเป็นสะใภ้เข้าไปน่ะคะ คือตัวเจียงซื่อหนิงน่ะเพราะมีเรื่องติดค้างอยู่จึงไม่ยอมไปเกิดเสียที การไปหาพี่สาวครั้งนี้จึงสำคัญนัก บวกกับเส้นทางที่จะไปหาเบาะแสเพิ่มก็ทางเดียวกันนี่แหละ แล้วก็เลยไปได้ตัว สือโถวจาง ตาแก่นักแกะสลักหินจอมพร่ำเพ้อแถมยังขี้กลัวหนักหนามาร่วมการเดินทางนี้อีกคน แม้ตัวสือโถวจางจะกลัวกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่กลัวเท่ากับคนที่จ้องจะเอาชีวิตเขา ก็เลยต้องยอมให้พระลากไป มังกรลากมากันแบบไม่ค่อยมีทางเลือกเท่าไหร่

              ตอนนี้สมาชิกของกลุ่มมีรวมกันทั้งสิ้น 5 คน เซวียนเสียนที่ร่างจริงเป็นมังกรแต่ก็พิการครึ่งท่อน จะไปไหนมาไหนก็ลำบากเสวียนหมิ่นต้องอุ้มไป เสวียนหมิ่นก็เป็นนักบวชไปอีก เจียงซื่อหนิง เป็นวิญญาณ ลู่เนี่ยนชีก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 15 ที่ตาพิการ จะเหลือที่เป็นคนปกติก็มีแค่สือโถวจางที่แม้จะน่ารำคาญไปบ้าง แต่เรื่องการพูดคุยติดต่อกับคนทั่วไป เขาน่าจะปกติที่สุดแล้ว 

              ที่น่าแปลกใจอย่างมากก็คือยิ่งเดินทางไปเรื่อยๆ ทำไมเซวียเสียนถึงไม่ได้รู้สึกอยากจะฆ่าเจ้าลาโง่ (ชื่อเรียกนักบวชแบบเหยียดหยามน่ะค่ะ) นี่มากอย่างแต่ก่อนแล้ว แถมเวลาอยู่ใกล้ๆ ก็มีความคุ้นเคยอย่างมากไปแล้ว แล้วก็เริ่มจะชอบที่ข้างกายมีคนคอยเป็นคู่คิดและค่อยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ซึ่งดีกว่าตอนเป็นมังกรที่ทำอะไรก็ต้องทำเองคนเดียวเยอะเลย แต่ก่อนคิดว่าก็สะดวกดี แต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้ข้างกายว่างเปล่าเหมือนเดิมเสียแล้ว ส่วนเสวียนหมิ่นก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญเซวียเสียนสักเท่าไหร่แล้วเหมือนกัน เวลาเจ้ามังกรร้ายนั่นพูดจาอะไรมา ถ้าไม่หูทวนลมไปเสีย นานๆ เขาก็จะตอกกลับเสียที อีกทั้งยังคอยดูแลเอาใจใส่อีกฝ่ายไปเองทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวนั่นแหละ ถึงขนาดที่ยอมให้เซวียเสียนเก็บเหรียญทองแดงเอาไว้กับตัว หลักใหญ่ใจความสำคัญก็คือเหรียญช่วยฟื้นฟูร่างกายของเซวียเสียนได้ค่ะ และยิ่งไปกว่านั้นเหรียญห้าเหรียญของเซวียเสียนนี่ นานวันไปก็เหมือนจะเป็นตัวเชื่อมโยงสายใยระหว่างทั้งคู่ขึ้นมาให้เหนียวแน่นขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก

              ในเรื่องนี้ยังมีตัวละครสำคัญอีกตัวที่ทุกคนในเรื่องพร้อมใจกันเรียกว่า ท่านราชครู ซึ่งถือเป็นตำแหน่งใหญ่อยู่เคียงคู่บัลลังก์ของฮ่องเต้มานานถึง 4 สมัยทีเดียว ข่าวลือเกี่ยวกับท่านราชครูมีมากมาย แต่ที่ไปในทิศทางเดียวกันก็คือความลึกลับ อำนาจ พลังอันมากล้น และใบหน้าที่น้อยคนนักจะได้เห็น และ ราชครู นี้เองที่มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งยวดกับเสวียนหมิ่น รวมถึงตอนท้ายที่พีคมากถึงกับทำให้เซวียเวียนกับเสวียนหมิ่นเรียกว่าแทบจะแตกหักกัน แต่... เราจะไม่เล่าต่อล่ะนะคะ จะหยุดแค่นี้เพื่อให้ทุกคนได้ไปลองหาอ่านกันเอง เพราะไม่งั้นต้องได้สปอยล์กันหนักแน่นอน แถมเอาจริงๆ เล่าแล้วมันยาวค่ะ ไม่ไหวจะพิมพ์ แต่สนุกมั้ย ไม่ผิดหวังเลย สนุกมาก

              สองสิ่งหลักๆ ที่เราชอบมากใน เหรียญทองแดงปราบพิภพ ก็คือ พล็อตเรื่องที่สนุก ละเอียด เกี่ยวโยงกันแบบ... แบบที่รู้ว่าทำการบ้านมาดีน่ะค่ะ มันมีความต่อเนื่องมาก แล้วไม่สะดุด อ่านไปลุ้นไป แถมยังมีจังหวะซิตคอมแทรกมาตลอดทั้งเรื่องให้ได้ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะกันด้วย อีกอันก็น่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์และความผูกพันกันระหว่างตัวละครทั้งหลายในเรื่อง ซึ่งเอาจริงๆ เราอ่านแล้วประทับใจมากเลยนะ ถึงแม้นี่จะเป็นการรวมตัวกันของตัวละครที่แลดูจะมีแต่แววหายนะ แต่มันลงตัวอย่างยิ่ง แต่ละตัวล้วนมีเสน่ห์ของตัวเองอย่างมาก นี่รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่ไม่แค่ 5 ตัวหลักนี้ด้วยนะคะ อ่านแล้วดีมากจริงๆ

              เซวียเสียนน่าจะเป็นมังกรตนนึงที่กวนตีนที่สุดแล้วเท่าที่เคยอ่านๆ มา แต่ก็มีความตรงไปตรงมาดีนะคะ นิสัยแย่ๆ ก็มีแหละเช่นว่ายโสโอหัง รักหน้าตาศักดิ์ศรีตัวเองยิ่งกว่าอะไร แต่ก็ต้องยอมให้นะ ยังไงซะก็เป็นมังกรอายุกี่พันปีเข้าไปแล้วก็ไม่รู้ แถมยังมาตกอยู่ในสภาพน่าอนาถกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีก ก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อยค่ะส่วนเสวียนหมิ่นก็นั่นแหละค่ะ พูดน้อย เย็นชา แต่พอรู้ภูมิหลังแล้วก็เข้าใจได้ เพราะแท้ที่จริงเขาก็เป็นคนจิตใจดีงามสูงส่งมากเลยแหละ ขำก็ตรงคำจำกัดความที่อาจารย์ของพระเอกบอกว่า ‘ลูกศิษย์ตนคงแพ้ทางสิ่งมีชีวิตที่ ‘ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็จะก่อความวุ่นวายต่อไป’’ นี่มาก ดังนั้นการที่เสวียนหมิ่นมีเซวียเสียนเข้ามาในชีวิตนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่างใดจริงๆ

              เจียงซื่อหนิง แม้จะแลดูเป็นวิญญาณหนอนหนังสือที่ลอยไปลอยมาท่าทางน่าสงสารอย่างยิ่ง แต่เห็นอย่างนี้ พึ่งพาได้นะคะ เพราะจะอย่างไรก็เป็นถึงทายาทของท่านหมอเจียงผู้เปี่ยมไปได้เมตตา แม้จะเป็นผีแต่ก็ยังสามารถยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้อื่นรวมถึงยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย แถมยังน่าจะเป็นคน (ตน) เดียวที่กล้าต่อปากต่อคำกับมังกรร้ายอย่างเซวียเสียน ส่วนลู่เนี่ยนชีนั้น จริงๆ เป็นเด็กที่มีชีวิตค่อนข้างน่าสงสารมากคนหนึ่ง ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเซวียเสียนเดินทางมาเจอเขาเข้า ชีวิตของเขาอาจจะไปไม่ได้ไกลถึงเพียงนี้ แถมยังมีสหายรู้ใจในชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยคิดว่าจะมีด้วย สือโถวจางเอง แม้จะดูเหมือนไม่ค่อยได้เรื่อง แต่กลับมีประโยชน์มากนะคะ จริงๆ ถ้าไม่มีเขาก็อาจจะหาเบาะแสกระดูกของเซวียเสียนยากยิ่งขึ้นไปอีก ในความไม่สมบูรณ์แบบมันก็มีความสมบูรณ์แบบของมันอยู่ล่ะค่ะ

              สรุปก็คือ ไปหามาอ่านกันเถอะนะคะ เรื่องนี้กว่าเราจะหาซื้อได้ ก็ต้องรอให้พิมพ์ใหม่ เพราะหมดยิ่งกว่าหมด กว่าจะได้อ่านคือหลัง นักรบพเนจรฯ ไปอีก ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะซื้อมานานแล้วนะ นี่พออ่านจบแล้วยังฟินไม่หาย ตอนท้ายๆ ที่เป็นตอนพิเศษก็ดีมากค่ะ ฟีลกู๊ดมากจริงๆ

              ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับการติดตาม และเช่นเคยนะคะ ใครอยากจะแชร์อะไรหลังจากอ่านจบแล้ว เรายินดีเสมอค่ะ


Create Date : 04 สิงหาคม 2564
Last Update : 4 ตุลาคม 2564 20:23:21 น. 0 comments
Counter : 1132 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณnewyorknurse

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

fingers-crossed
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวังว่าจะได้รับความบันเทิงจากการเข้าเยี่ยมชม Blog กันถ้วนหน้าจ้ะ
[Add fingers-crossed's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com