WELCOME! WELCOME! and WELCOME!
รีวิวนิยาย
ซีรี่ส์
หนังสือหนังหา
ทรราชหวนคืน รีวิว
เหรียญทองแดงปราบพิภพ รีวิว
นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า รีวิว
ยุทธภพกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ รีวิว
พันสารท รีวิว
เก็บตกปรมาจารย์ลัทธิมาร The Untamed Fun Facts!
อร่อยล้นวัง รีวิว
รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ รีวิว
รัชทายาทบัญชา รีวิว
เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น รีวิว
S.E.R.F สมมติฐานรัก รีวิว
Turing Code โปรแกรมรัก รีเทิร์นรัก รีวิว
ใครบ้างไม่เคยเห็นซุปตาร์ รีวิว
Wilderness รีวิว
เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ รีวิว
ช่วยด้วยครับ ผมเกิดใหม่เป็นลูกชายประมุขพรรคมาร รีวิว
ตัวร้ายอย่างข้า... จะหนีเอาตัวรอดยังไงดี รีวิว
ตัดสินคนจากหน้าก็ต้องเจอแบบนี้ รีวิว
Guardian รีวิว
ชายาคุณธรรมนั้นเป็นยาก รีวิว
เล่ห์กลจักรพรรดิ รีวิว
กลับมาเกิดใหม่เป็นซูเปอร์โมเดล Rebirth of a Supermodel รีวิว
The Untamed ปรมาจารย์ลัทธิมาร - Mo Dao Zu Shi (ม๋อเต้าจู่ซือ) รีวิว
มาอ่านนิยายสนุกๆ กันค่ะ ^^
พันสารท รีวิว
ผู้แต่ง: เมิ่งซีสือ
แปล: Bou Ptrn
สำนักพิมพ์: every
อยากจะกรีดร้องที่ในที่สุดก็ได้หยิบเอา พันสารท มารีวิวซักทีค่ะ น้ำตาจะไหล คือพันสารทเนี่ย จนถึงวันที่นั่งเขียนอยู่นี้ก็เรียกได้ว่าอ่านจบรอบแรกมาจะครบปีอยู่รอมร่อ หยิบเอามาอ่านซ้ำเพราะตั้งใจว่าจะเขียนถึงมานี่ก็รอบที่ 3 เข้าไปแล้ว ถ้ายังจะไม่เขียนอีก รอบที่ 4 เห็นทีจะหนีไม่พ้นค่ะ นี่เราถึงขนาดทำงานด่วนเสร็จแล้วไม่หยุดพักนะคะ มารีวิวหนังสือต่อเลย เพราะกลัวใจตัวเอง ขี้เกียจขึ้นมาอีกล่ะก็เสร็จเลย แล้วจะไม่เขียนถึงก็ไม่ได้ด้วย เพราะนี่เป็นหนึ่งในนิยายอีกเรื่องหนึ่งที่เราชอบมากเลยล่ะค่ะ
นิยายเปิดตัวมาพระเอกเยี่ยนอู๋ซือที่พ่วงตำแหน่งประมุขพรรคมารก็ปล่อยของกันเลย ยืนคุยกับลูกศิษย์ตัวเองไปไม่กี่หน้า อ้าว! นายเอกเสิ่นเฉียวก็ตกเขาลงมาพอดีในสภาพบาดเจ็บสาหัส เปิดตัวพระเอกนายเอกได้รวดเร็วและไดนามิคมากจริงๆ คนอ่านเงิบเลยค่ะ ตอนนั้นก็ยังเพิ่งเป็นมือใหม่ในการอ่านนิยายจีน อ่านชื่อแยกตัวละครอะไรก็ยังไม่คล่อง งงอยู่พักนึงเลยล่ะค่ะ แต่พอเครื่องติดเท่านั้นแหละ วางไม่ลงเลย พันสารทก็เลยกลายเป็นนิยายเรื่องแรกของอาจารย์เมิ่งซีสือที่เราอ่านแล้วก็ขอปวารณาตัวเองเป็นแฟนหนังสืออาจารย์ไปเรียบร้อยค่ะ
เยี่ยนอู๋ซือเป็นตัวละครฝ่ายมารที่ทั้งเก่งทั้งนิสัยเสีย คืออ่านแล้วสมเป็นประมุขพรรคมารโดยแท้จริงๆ เพราะความเก่งนั้นติดอยู่ในระดับ Top 3 ของยุทธภพทีเดียว รูปโฉมก็สง่างามด้วย นิสัยรึก็เย่อหยิ่งเอาแต่ใจ ปากคอเราะราย ไม่เห็นหัวใครทั้งสิ้น ใครอย่ามาพูดเรื่องความดีงามให้ได้ยินเลยเชียว ต่อมหมั่นไส้อยากลองของพ่อทำงานทันที ความลำบากก็เลยมาตกอยู่กับเฉิ่นเฉียว นักพรตเต๋าที่เป็นเจ้าสำนักเขาเสวียนตูคนปัจจุบัน จับพลัดจับผลูรับคำท้าคุนเสียประลองยุทธกัน แล้วก็พลาดท่าเสียทีโดนทำร้ายและตกเขาจนบาดเจ็บสาหัส สาหัสแบบความจำหายไป ตาเกือบบอด สูญเสียวรยุทธ เรียกว่าโคม่าล่ะค่ะ ถ้าเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้ว
เสิ่นเฉียวจริงๆ ต้องเรียกได้ว่าเป็นศิษย์เอกของผู้เยี่ยมยุทธอันดับหนึ่งในยุทธภพ ฉีเฟิงเก๋อ พออาจารย์เสียก็โปรโมทเสิ่นเฉียวนี่แหละให้มารับช่วงต่อ แล้วเจ้าตัวก็คือที่สุดของความโลว์โพรไฟล์นะคะ รูปงาม นามเพราะ นิสัยดี แถมมากฝีมืออีกต่างหาก แต่เพราะปิดตัวไม่ชอบเข้าสังคม ก็เลยไม่ค่อยมีคนรู้จัก เต็มที่ก็มีคนพูดถึงแล้วก็เอาไปเล่าลือกันสารพัดแค่นั้นเลย แต่เนื้อแท้ที่โดดเด่นมากไม่แพ้หน้าตาของเสิ่นเฉียวก็คือหัวใจดีบริสุทธิ์และเชื่อมั่นในความดีงามนี่แหละค่ะ
จังหวะที่ตกเขาลงมาต่อหน้าต่อตาเยี่ยนอู๋ซือและอวี้เซิงเยียนที่เป็นลูกศิษย์พอดี เยี่ยนอู๋ซือก็ตัดสินใจให้ศิษย์ตัวเองช่วยนำตัวเสิ่นเฉียวกลับไปรักษาตัว คือตัวเองไม่แตะต้องด้วยนะ ยกให้ลูกศิษย์ไปเป็นหมาเป็นแมวเลยค่ะ แล้วเหตุผลที่ช่วยก็ไม่ใช่เรื่องดีงามอะไร ก็แค่อยากจะปั่นหัวคนพิการที่ไร้ความจำดูซิว่า คนไม่ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นคนดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องยอมทำชั่วเพื่อตัวเองนั่นแหละ ง่ายๆ ก็คือ ถ้าเสิ่นเฉียวเชื่อว่าเนื้อแท้ของทุกคนมีความดีอยู่ ในความคิดของเยี่ยนอู๋ซือก็คือเนื้อแท้ของทุกคนล้วนเลวเหมือนๆ กัน นี่สุดโต่งกันไปข้างนึงเลย
แล้วเสิ่นเฉียวของเราก็ดีแสนดีจริงๆ นะคะ บททดสอบแรกที่เยียนอู๋ซือมอบให้ สุดท้ายก็ไม่อาจจะเปลี่ยนอุปนิสัยใจคอของเสิ่นเฉียวได้ นั่นขนาดว่าความจำขาดๆ หายๆ นะคะ นอกจากนั้นเจ้าตัวยังรู้ด้วยว่าที่โดนบอกว่าเป็นศิษย์ของประมุขเยี่ยนตอนตกเขาแล้วฟื้นมานั่น ที่จริงเป็นเรื่องโกหก เพราะตัวเองสุดท้ายก็รู้จักตัวเองดีที่สุด จะให้ตัวเขาไปเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีสาเหตุ เป็นเรื่องที่ไม่อาจจะทำได้จริงๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจแยกทางกับอวี้เซิงเยียนและเยี่ยนอู๋ซือไป
ไปๆ มาๆ นี่กลับกลายเป็นจุดเริ่มให้ประมุขเยี่ยนสนใจเสิ่นเฉียวอย่างมาก แล้วก็ยิ่งอยากจะทดสอบไอ้เรื่องความดีความชั่วในตัวเสิ่นเฉียวเหลือเกิน จากที่ไม่เคยดูดำดูดี จู่ๆ ก็ตามติดชีวิตเสิ่นเฉียว ยังไม่พอ เอาตัวเองเข้ามาอยู่ข้างๆ แล้วก็กลั่นแกล้งสารพัด ขนาดที่ทำเอาเสิ่นเฉียวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกอยู่ก็หลายครั้ง คือเยี่ยนอู๋ซือนี่จะว่าไปก็เหมือนกันพวกนักเรียนเลวหลังห้อง แต่หัวดีมีพรสวรรค์แบบนั้นน่ะค่ะ คอยป่วนคนอื่นไปทั่วแต่ก็สอบได้ที่หนึ่งอะไรแบบนี้ ในขณะที่เสิ่นเฉียวเหมือนนักเรียนดีเด่นเป็นที่รักของคนอื่น ก็จะตกเป็นเป้าหมายของคนแบบประมุขเยี่ยนนี่แหละ ที่ทำท่าเหมือนไม่สนใจ ไม่ยี่หระแต่ตามตอแย วอแวไม่เลิก ยิ่งเห็นอีกฝ่ายหงุดหงิด ลำบากใจ หรือแม้แต่ตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสียง ก็จะมีความสุขเป็นพิเศษแบบนั้นแหละค่ะ
ดังนั้น หลายๆ ครั้งประมุขเยี่ยนก็จะมาตู่เอาว่าเสิ่นเฉียวเป็นคนสนิทข้างกาย บวกกับร่างกายที่ยังอ่อนแอ สายตาที่เกือบบอด ก็ยิ่งทำให้ดูราวกับเวลาอยู่ด้วยกันเสิ่นเฉียวต้องพึ่งพาประมุขเยี่ยนตลอดเวลา จนคนเอาไปลือกันว่าเป็นนายบำเรอไปแล้วก็มี ต่อหน้าคนอื่นประมุขเยี่ยนจะดูแลเอาใจใส่เสิ่นเฉียวมาก แต่พอลับหลังก็จะเหมือนไม่ค่อยแยแส แล้วก็จะคอยฝึกพลังยุทธ์บ้าง ป้อนวิชานี้ให้ แล้วมาประลองกัน ส่งทางเลือกนี้ให้แล้วมาทดสอบกัน ร่างกายของเสิ่นเฉียวเลยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เพราะไม่ใช่แค่พลังยุทธที่เสียไป แต่ยังโดนวาวงยา แถมยังบอบช้ำสารพัด ส่วนนึงก็ฝีมือเยี่ยนอู๋ซือด้วย ที่ยังสามารถประคับประคองมาได้ตลอดต้นเรื่องนี่ก็นับว่าฐานวรยุทธ์สูงส่งแล้วก็มีโชคด้วยนั่นล่ะ
นิยายเรื่องนี้ตัวละครโคตรเยอะค่ะ เราไม่น่าจะได้หยิบเอามาพูดได้หมดแน่ๆ ก็จะใช้วิธีเขียนเล่าไปเรื่อยๆ นะคะ ตกหล่นใครไปก็อาจจะต้องรบกวนเพื่อนนักอ่านไปตามอ่านเอาแล้วล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนเดินถนนที่พบกันโดยบังเอิญ พรรคมาร สำนักใหญ่ไม่รู้กี่แห่ง จอมยุทธ์มากฝีมือมากมายก็ปรากฏอยู่เต็มไปหมดตลอดทั้งเรื่อง ที่สนุกอีกอย่างก็คือ มันจะมีการจัดอันดับผู้เยี่ยมยุทธ์กันด้วยตั้งแต่ 1 ถึง 10 ในเรื่องก็จะมีการรันอันดับ เปลี่ยนอันดับกันไปให้ได้ลุ้นตลอดทั้งเรื่องเลยล่ะค่ะ แล้วตัวเสิ่นเฉียวเองก็ต้องผ่านอะไรเยอะแยะมากมายจนกระทั่งร่างกายค่อยๆ ฟื้นฟู วรยุทธหรือก็เพิ่มพูนเรียกว่าจากที่เสียวรยุทธไปตั้งแต่เล่มแรก ผ่านไปจนเล่มสามเล่มสี่ โอโห อัพเลเวลไปถึงระดับบอสเชียวนะคะไม่ใช่ล้อเล่นเลยอาเฉียวของเรา
จุดเปลี่ยนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ก็คือ เสิ่นเฉียวที่ถูกเยี่ยนอู๋ซือบีบให้ตกอยู่ในสถานการณ์แห่งความเป็นความตายนั่นแหละค่ะ รายละเอียดขอไม่เล่า แต่ตอนที่อ่าน เรานี่คือสับสนมากว่าตอนนั้นเยี่ยนอู๋ซือไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ แล้วเสิ่นเฉียวล่ะ จะรู้สึกเจ็บปวดไหมนะ แต่พออ่านไปเรื่อยๆ เราจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ พอผ่านตรงนั้นมาได้ เราก็จะเข้าใจการกระทำและความรู้สึกของตัวละครไปเองเลย แม้แอบอยากจะตบกบาลประมุขเยี่ยนเหลือเกินในบางเวลาก็ตาม เพราะขยันรังแกเสิ่นเฉียวเหลือเกิน
จนกระทั่งที่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ประมุขเยี่ยนตามติดเสิ่นเฉียวเป็นเหาฉลามกันเลยทีเดียว คือมันก็มีเหตุการณ์ใหญ่มากเกิดขึ้นล่ะนะคะ และการตัดสินใจของเสิ่นเฉียวในครั้งนั้นน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนความคิดบางอย่างของประมุขเยี่ยน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เลยน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราจะต้องคอยลุ้นว่า เอ๊ะ หรือนี่จะเป็นความรู้สึกจริงๆ ของเยี่ยนอู๋ซือ เอ๊ะ หรือ เสิ่นเฉียวจะคิดแบบนี้จริงๆ
ดังนั้นพอมาอ่านเล่มหลังๆ ได้เห็นประมุขเยี่ยนตามใจนักพรตเสิ่น เห็นว่าคอยดูแล คอยหยอดคำพูดที่ฟังแล้วมันยังไงอยู่นะ เราก็จะอดฟินไม่ได้ค่ะ เราจะเริ่มคอยเอาใจช่วยไปเรื่อยๆ แล้วเราก็จะได้รู้เลยล่ะว่าเสิ่นเฉียวนี่นอกจากจะดื้อรั้นมากแล้วยังเป็นสายซึนฯ มากด้วย ใช้ไม้แข็งล่ะก็ ไม่มีวันสำเร็จค่ะ เกลียดที่ประมุขเยี่ยนก็ร้ายนัก ที่รู้จักเสิ่นเฉียวดีกว่าใคร เรียกว่าพอท้ายเรื่องเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครในแบบที่ลงตัวมากเลยล่ะ เสิ่นเฉียวแม้จะยังคงรักษาความดีงามเอาไว้ได้แต่ก็ฉลาดขึ้น ไม่ใช่คนอ่อนต่อโลกคนเดิมอีกต่อไปแล้ว ส่วนเยี่ยนอู๋ซือจากคนฉลาดไร้หัวใจ แม้จะยังไร้หัวใจแต่ก็กลายเป็นคนคลั่งรักที่ตามใจเสิ่นเฉียวยิ่งกว่าอะไรดีไปเสียอย่างนั้น
นอกจากเรื่องความสัมพันธ์แล้ว เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องล้วนสนุกและน่าติดตามมากค่ะ นิยายเรื่องนี้นี่เต็มไปด้วยการปล่อยของของเหล่าผู้มากฝีมือ เดี๋ยวก็สู้กัน เดี๋ยวก็นัดประลองกัน เดี๋ยวก็ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องของราชสำนักหรือพูดง่ายๆ ก็คือเรื่องการเมืองการปกครองแทรกเข้ามาด้วย อ่านสนุกมากเพราะสีสันอันหลากหลายในเรื่องนี้ล่ะค่ะ อารมณ์ระหว่างที่อ่านนี่คือ เหมือนรถไฟเหาะเลย เดี๋ยวก็สะเทือนใจ เดี๋ยวก็ขำ เดี๋ยวก็เอาใจช่วย เดี๋ยวก็เกลียดหมอนั่น เดี๋ยวก็อึ้งกะหมอนี่ เดี๋ยวก็ลุ้น เดี๋ยวก็เขิน เรียกว่า 4 เล่มนี่นะคะ แทบจะวางไม่ลงจริงๆ
เราไม่กล้าลงรายละเอียดมาก เพราะกลัวจะไปสปอยล์เนื้อเรื่องเสียก่อน นี่เขียนไประวังไป หากใครเห็นว่านี่เป็นการสปอยล์ก็ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงจริงๆ ค่ะ อีกเรื่องที่อยากจะพูดถึงก็คือ คุณ Bou Ptrn นักแปลของเรื่องนี้ เราอ่านงานแปลของเธอมาหลายเรื่อง เรื่องที่เราอ่านยากที่สุดก็คือลิ่วเหยาค่ะ สำนวนงดงามมาก แต่ต้องทำความเข้าใจหนักหน่วง แต่พอเป็นเรื่องนี้แล้วกลับอ่านง่าย กลมกล่อมกำลังดีเลย ก็เลยคิดว่าจะหากโอกาสกลับไปอ่านลิ่วเหยาอีกซักรอบดู แต่เรื่องล่าสุดที่อ่านคือ สัตตบุรุษผู้แช่มช้อย เราอ่านแล้วชอบมาก แปลได้สนุกมากจริงๆ แนะนำให้ลองไปอ่านกันดูนะคะ ถ้าอ่านจบแล้วน่าจะมีโอกาสได้เอามารีวิวให้ได้อ่านกันในอนาคตแน่ๆ ค่ะ
อย่าลืมหยิบพันสารทมาอ่านกันนะคะ รับรองว่าจะชอบเยี่ยนอู๋ซือกับเสิ่นเฉียวได้ไม่ยาก เพราะนี่เป็นอีกสองตัวละครที่นิสัยโคตรแตกต่างกันมากแต่เวลามาอยู่ด้วยกันแล้วเคมีดีมากอีกคู่นึงของวงการเลยล่ะค่ะ หวังใจว่าทุกคนจะชอบทั้งเรื่องราวทั้งตัวละครในเรื่องเหมือนกับเราค่ะ สามารถแชร์กันได้หลังอ่านจบค่ะ นักอ่านของเราขยันเข้ามาอ่านแต่ไม่ค่อยชอบคอมเม้นต์ อันนี้ก็พอเข้าใจได้ค่ะ เราเองก็เป็น สำคัญตรงที่แวะเข้ามาอ่านกันแค่นี้เราก็ดีใจมากแล้วล่ะค่ะ ต้องขอคุณทุกท่านเป็นอย่างมากจริงๆ
คราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ไว้มาติดตามกันนะคะ
Create Date : 12 มกราคม 2564
Last Update : 12 มกราคม 2564 20:07:43 น.
0 comments
Counter : 2850 Pageviews.
Share
Tweet
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
fingers-crossed
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
หวังว่าจะได้รับความบันเทิงจากการเข้าเยี่ยมชม Blog กันถ้วนหน้าจ้ะ
cybrarian
ลูกเตะวายุกระซิบ
Webmaster - BlogGang
[Add fingers-crossed's blog to your web]
NP me story
Bloggang.com