|
ตัดสินคนจากหน้าก็ต้องเจอแบบนี้ รีวิว
ผู้แต่ง: เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง แปล: ศีตกาล สำนักพิมพ์: Rose
เกือบจะต้องเลื่อนรีวิวคราวนี้ออกไปแล้วนะคะ เพราะจู่ๆ คอมฯ ที่บ้านก็เกิดไม่ให้ความร่วมมือขึ้นมาซะงั้น แล้วจู่ๆ ก็กลับมาใช้ได้เฉยเลย สำหรับเรื่องที่เลือกมาเขียนคราวนี้นะคะ ตอนแรกก็กะว่าจะยกยอดไปเขียนคราวหน้าเพราะยังอ่านไม่จบ แต่พอคอมฯ กลับมาใช้ได้อีกครั้งก็อ่านจบพอดี ไหนๆ ก็เพิ่งจะจบไปหมาดๆ ยังสดใหม่อยู่ ก็เอาล่ะ หยิบมาเขียนถึงซะเลย ส่วนหนึ่งก็เพราะอ่านสนุกด้วยแหละค่ะ
ตอนที่เลือกเรื่องนี้มาอ่าน ไม่ได้คิดเลยนะคะว่าพล็อตจะมาแนวเทพเซียนยุคใหม่เบอร์นี้ เพราะฉีเยี่ยน นายเอกที่เป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุแค่ยี่สิบต้นๆ ของเรา มีวิชาดูดวง ดูฮวงจุ้ย ดูโหงวเฮ้ง เอาเป็นว่ามีความเชี่ยวชาญในศาสตร์นี้ในทุกๆ ทาง อยู่ในระดับที่เรียกว่าสูงส่งจริงๆ พออ่านๆ ไป และเริ่มรู้ที่มาที่ไปของฉีเยี่ยน เลยถึงบางอ้อว่าทำไมถึงตั้งชื่อนิยายแบบนี้ เพราะภาพลักษณ์ของฉีเยี่ยนดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นอาจารย์หมอ (ดู) ได้ เพราะทั้งอายุน้อย หน้าเด็ก แถมหน้าตาน่ารักยังกะตุ๊กตา ดูยังไงก็เป็นเด็กหนุ่มที่ชีวิตแสนจะธรรมดา ใครเห็นเป็นต้องคลางแคลงใจกันทั้งนั้นแหละค่ะว่า เป็นพวกต้มตุ๋นรึเปล่า
แต่ทีนี้ฉีเยี่ยนของเราเนี่ย ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของสำนักหนึ่งสวรรค์ อาจารย์ก็ระดับหมอเทวดาที่หาตัวจับยาก เรียกว่าเป็นสำนักที่ได้ชื่อว่าพลังฝีมือยอดเยี่ยมเป็นหนึ่งในใต้หล้า เพียงแต่สาปสูญไปจนเหลือเพียงตำนานเล่าขานเท่านั้น ขนาดเจ้าตัวยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักและอาจารย์ของตัวเองจะเก่งขนาดนี้ เป็นไงล่ะคะ แบ็กกราวนด์นายเอกเรายิ่งใหญ่ดีไหม ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจค่ะหากความสามารถของฉีเยี่ยนนั้นถือเป็นหนึ่งในหลายๆ ล้านที่จะเกิดขึ้นซักครั้งในรอบร้อยปี นี่! จะไปก็ต้องไปให้สุดแบบนี้ ดังนั้นแม้ภาพลักษณ์ภายนอกอาจจะดูไม่ได้น่าเกรงขาม แต่แท้ที่จริงน่ะความสามารถอยู่ในระดับเหนือธรรมดาไปมากเชียวล่ะค่ะ มีหรือเส้นทางสู่อนาคตอันรุ่งเรืองสดใสของเจ้าตัวจะถูกขัดขวางได้
ยิ่งเมื่อได้มาเจอกันเฉินไป่เฮ่อ ลูกชายคนเล็กของตระกูลเฉินที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งมีแต่จะทำให้ชีวิตของฉีเยี่ยนพุ่งสูงจนฉุดไม่อยู่ แต่แรกเริ่มเดิมที เฉินไป่เฮ่อ นั้นร่างกายอ่อนแอมาก คือเจ็บป่วยอยู่แทบจะตลอดเวลา ชนิดที่หมอไม่รับประกันว่าจะมีอายุยืนยาวไปได้แค่ไหน พระเอกของเราอายุ 29 เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ถึง 35 ไหม ทั้งที่เป็นคนที่รูปงาม มากความสามารถ ฉลาดเฉลียว โชคดี หยิบจับอะไรก็เป็นความเจริญรุ่งเรืองไปเสียหมด คือสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องอายุที่จะไม่ยืนนี่ล่ะ มันน่าเสียดายไหมล่ะ
แต่แท้ที่จริงไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพราะดวงของเฉินไป่เฮ่อนั้น เป็นดวงจักรพรรดิ ถ้าเกิดในช่วงกลียุคล่ะก็ บุญบารมีอันมากล้นที่อยู่ในตัวก็จะถูกนำมาใช้ออกไป ร่างกายก็จะปรับสมดุลย์ได้เอง อายุก็จะยืนยาวเป็นปกติ ร่างกายก็จะไม่อ่อนแอแบบนี้ แต่นี่มาเกิดในยุคที่บ้านเมืองสงบสุขขนาดนี้ ร่างกายก็เลยไม่อาจจะรับพลังบุญบารมีที่ติดตัวมาเอาไว้ได้ ก็มีแต่จะกดทับพลังชีวิตของตัวเองแล้วก็อายุจะสั้นในที่สุด เข้าตำราคนดีมีบุญตายเร็วแบบนั้นเลย แต่เพราะเป็นพระเอกใช่ไหมล่ะคะ จึงได้มีโอกาสมาพบกับฉีเยี่ยน ที่เมื่อเห็นพลังชีวิตสีม่วงอันมากล้นที่ไหลออกมาจากร่างกายของเฉินไป่เฮ่อตลอดเวลา ก็เห็นหนทางที่จะช่วยนำพลังของเฉินไป่เฮ่อไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ร่างกายของเฉินไป่เฮ่อฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ แข็งแรงขึ้น แถมอายุยืนขึ้นด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกมาเพียบแบบนี้ จะไม่เรียกว่าโชคหล่นทับก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ไม่น่าแปลกใจหรอกค่ะที่เฉินไป่เฮ่อที่ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มผู้เย็นชาอย่างยิ่ง จะรู้สึกดีกับเฉินเยี่ยน เพราะเอาจริงๆ แค่นิสัยของเฉินเยี่ยนถ้าไม่นับความสามารถด้านนี้ ก็เรียกว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เป็นที่รักและเอ็นดูของผู้คนรอบข้างอยู่แล้ว โหงวเฮ้งดียังไม่พอ นิสัย การวางตัวยังดีด้วย บวกกับไม่เคยอวดตัวเองเรื่องความสามารถ เฉินไป่เฮ่ออยู่ใกล้ๆ ย่อมรู้สึกสบายใจ แถมพอได้มีโอกาสแบ่งพลังตัวเองให้อาจารย์ฉีใช้กู้โลกหลายๆ ครั้งเข้า ร่างกายตัวเองก็ดีวันดีคืน ไปๆ มาๆ อ้าว มีฉีเยี่ยนที่ไหน ก็มีเฉินไป่เฮ่ออยู่ที่นั่นไปเสียทุกทีเฉยเลย
แล้วฉีเยี่ยนก็ไม่ได้ช่วยแค่เฉินไป่เฮ่อนี่คะ พ่อเล่นช่วยหมดทั้งตระกูล จู่ๆ ก็ให้ยันต์พี่ชายพระเอกไปพกไว้ จู่ๆ ก็พูดอะไรกระทบใจพี่สะไภ้พระเอกเข้าจนเกิดเป็นความประทับใจ ที่จริงไม่ต้องยื่นมือเข้าช่วย บ้านตระกูลเฉินก็เรียกว่าแทบจะทูนหัวทูลเกล้าฉีเยี่ยนอยู่แล้ว เพราะแค่ทำให้เฉินไป่เฮ่อที่เป็นที่รักและเป็นห่วงของทุกคนในครอบครัว กลับมาเป็นคนสดใสขึ้นและแข็งแรงขึ้นไม่เจ็บออดๆ แอดๆ อีก นี่ก็เรียกว่าเป็นบุญคุณอย่างที่สุดแล้ว ตระกูลเฉินจึงทั้งเคารพนับถือ ทั้งรักทั้งเอ็นดู และสปอยล์ฉีเยี่ยนยิ่งกว่าสมาชิกในครอบครัวด้วยซ้ำ
ความสัมพันธ์ของพระเอกนายเอกของเราจึงค่อนข้างราบรื่นอย่างยิ่ง แต่แหม... นะคะ ตัวละครนะคะ ไม่ว่าจะเก่งเลิศเลอแค่ไหน ก็มักจะมาตกม้าตายในเรื่องความรักกันแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเรื่องความรู้สึกช้า เรื่องไม่หือไม่อือว่าอีกฝ่ายคิดกับตัวเองยังไงนี่ เรื่องไหนเรื่องนั้นจริงๆ ค่ะ เรียกว่าถ้าไม่พูดออกมาตรงๆ ก็จะไม่เก็ตเสียที ก็อย่างว่านะคะ หมอดูไม่สามารถดูดวงชะตาของตัวเองและคนใกล้ชิดได้ก็แบบนี้ (อ้างอิงข้อมูลจากในเรื่องนี่ล่ะ) แรกๆ ก็เลยแอบน่าเห็นใจพระเอกเฉินไป่เฮ่อนิดหน่อย แต่พอได้เปิดใจกันแล้วเท่านั้นแหละค่ะ อู๊ยยย... ไม่ไหวจะอวดแฟนกันไปมา ทำเอาให้ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องหมั่นไส้ต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน
เราสนุกกับการอ่านนิยายเรื่องนี้มากค่ะ เพราะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสตร์ด้านนี้โดยเฉพาะ ส่วนตัวเราไม่ได้อินกับเรื่องดูดวงหรืออะไรขนาดนั้น แต่ก็เชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ เพราะถึงอย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้งมงาย เราเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรมมาก เชื่อเรื่องใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เชื่อว่าคนเราล้วนเกิดมามีกรรมเป็นของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็เชื่อเรื่องที่ว่าคนเราสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ ไม่งั้นคงไม่มีคำพูดที่ว่าคนเรามีทั้งแบบที่มามืดไปสว่าง (เคยทำไม่ดีมาแต่ตอนหลังกลับเนื้อกลับตัวได้) หรือมาสว่างไปมืด (เคยทำดีมา แต่ตอนหลังกลับไปทำความชั่ว) หรอกค่ะ
เรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยตัวอย่างของคนที่ทำอะไรแล้วก็ต้องรับผลกรรมของตัวเองไปในแบบที่หลากหลายเชียวล่ะค่ะ คือมิติของตัวละครหรือเรื่องราวมันอาจจะไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนนัก แต่คนเขียนก็ผูกเรื่องราวให้อ่านสนุกและน่าติดตามไปตลอดจนจบเลย อย่างตระกูลเฉินนี่คือ เป็นตระกูลตัวอย่างของความมั่งคั่งร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง สมาชิกในครอบครัวล้วนเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม เรียกว่าต้นทุนสูงมาตั้งแต่เกิดกันทุกคน ถึงแม้จะมีเรื่องน้องชายคนเล็กของบ้านที่มีแววอายุจะสั้น แต่สุดท้ายก็กลับมามีชีวิตที่สมบูรณ์ในที่สุด ดังนั้นต่อให้เฉินไป่เฮ่อ จะคบหาอาจารย์ฉีที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ก็มีพระคุณกับตระกูลขนาดนี้ ก็ต้องยอมไหมล่ะคะ แถมตระกูลนี้ไม่ดราม่าด้วย เพราะชีวิตดีงามเกินกว่าจะหาเรื่องดราม่าไร้สาระมาสร้างความวุ่นวายโดยไม่จำเป็นด้วยนั่นแหละค่ะ ในขณะเดียวกันก็มีตระกูลหยวนที่เป็นตัวอย่างตระกูลที่มีแต่เรื่อง เพราะลูกหลานขาดคุณธรรมให้ได้เห็นกันแบบชัดๆ ไปอีก ดังนั้นเรื่องนี้มันก็จะได้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องความดีความชั่วให้ได้อ่านกันไปตลอดเป็นระยะ แล้วก็มีเคสต่างๆ ให้อาจารย์ฉีผู้น่ารักของเราได้ยื่นมือเข้าไปช่วยอยู่บ่อยๆ เรียกว่ามีตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับประเทศเลยทีเดียว มันจะไม่สนุกได้ยังไงล่ะคะ
เราชอบที่ผู้แต่งสร้างคาแร็กเตอร์ต่างๆ ออกมาได้ทั้งน่ารัก น่าชัง และน่าสนใจดี เรื่องนี้จังหวะซิตคอมมีเข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ อ่านไปก็ได้ขำไปด้วย เล่มหนาๆ 3 เล่มนี่ เราใช้เวลาอ่านไม่นานก็จบ ยังนึกเสียดายเลยว่าอ่านจบซะแล้ว ยังสนุกอยู่แท้ๆ เวลาอ่านนิยาย แม้พล็อตเรื่องจะสำคัญ แต่คาแร็กเตอร์สำหรับเราเป็นส่วนสำคัญอย่างนึงที่มองข้ามไม่ได้เลยนะคะ ถามว่าที่ทุกวันนี้ คนยังชอบปรมาจารย์ลัทธิมารกันอยู่ ถึงขั้นวนเวียนอยู่ในกูซูออกไปไหนต่อไม่ได้ ก็ไม่ใช่เพราะคนหลงรักตัวละครของเรื่องหรอกหรือ ทุกวันนี้ตัวละครต้วนไป๋เยว่ กับฉวู่เยวียน จาก เล่ห์กลจักรพรรดิ ยังคงเป็นที่จดจำในใจเรา ก็เพราะภาพอันที่ชัดเจนจนลืมไม่ลงนี่ล่ะค่ะ ดังนั้นมองข้ามไม่ได้เด็ดขาดเลยเชียวนะคะจุดนี้
ใครอยากจะลองหยิบนิยายเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน อย่าได้ลังเลค่ะ จัดไปเลย เพราะอ่านสนุกมากจริงๆ นี่ใจยังอยากจะเอามาอ่านอีกรอบเลยนะ 3 เล่มนี่จบเร็วกว่าที่คิดมาก (ส่วนนึงเพราะว่างมากด้วยแหละ) ใครที่เคยได้อ่านมาแล้ว อยากมาแชร์กันก็ได้เลยนะคะ ใครที่ยังไม่แน่ใจก็แน่ใจเถอะค่ะ เชื่อว่าจะไม่ผิดหวังกัน
เรื่องหน้าจะเป็นเรื่องอะไร โปรดติดตามกันต่อไปค่ะ
Create Date : 01 กรกฎาคม 2563 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2563 9:42:52 น. |
|
3 comments
|
Counter : 879 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ไตรตรา วันที่: 27 ตุลาคม 2563 เวลา:14:51:13 น. |
|
โดย: p_nijitet IP: 101.108.4.71 วันที่: 24 ธันวาคม 2563 เวลา:6:55:20 น. |
|
|
|
|
fingers-crossed |
|
|
|
|
สงสัยต้องไปหามาอ่านบ้างแล้ว
แถมมีเรื่องศาสตร์ดูดวง ดูโหงวเฮ้งด้วย
น่าจะสนุก