|
อร่อยล้นวัง รีวิว
ผู้แต่ง: Lu Ye Qian He
แปล: ลาเวนเดอร์
สำนักพิมพ์: SENSE
อยากจะขออภัยเพื่อนนักอ่านซักพันครั้งในความล่าช้านี้ ทั้งๆ ที่ควรจะเขียนรีวิวเรื่องนี้ตั้งแต่อ่านเล่มสามจบ แล้วก็กลับไปอ่านซ้ำทั้งหมดอีกรอบเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ว่ามันมีเหตุผลทับซ้อนกันมากมายทั้งที่ต้องไปผ่าตัดขาและรักษาตัวอยู่พักนึง แล้วก็ติดเดินทาง แล้วก็ติดทำงานด่วน ถึงต้องลากยาวมาจนบัดนี้นี่ล่ะค่ะ
แก้ตัวเป็นที่เรียบร้อย ขอกลับมาพูดถึงนิยายเรื่องนี้ซักหน่อย นี่เป็นหนึ่งในนิยายที่เราชอบมากเรื่องนึงก็ว่าได้ค่ะ ถูกจริตและลงตัวเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง ตัวละคร ความเบาสมอง ความน่ารัก ความแฟนตาซี ความเป็นจีนโบราณ รวมไปถึงการแปลของคุณลาเวนเดอร์ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง คือรวบรวมความดีงามเอาไว้มากมายขนาดนี้จนถึงกับหมายมั่นว่ายังไงก็ต้องเขียนถึงให้ได้เชียวล่ะค่ะ ยังไงต้องขอบคุณน้องสาวผู้ชักนำเราเข้าสู่วงการนิยายจีนคนเดิมที่แนะนำให้เราอ่านเรื่องนี้ โดยที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไรเลย แค่น้องบอกว่า มีคนบอกว่าสนุกมากเลยพี่ แค่นั้นเลยค่ะ สั่งซื้อทันทีแบบไม่ลังเล แล้วก็สนุกจริงๆ ด้วย เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละคร ซูอวี้ ซึ่งแท้ที่จริงเป็นดวงวิญญาณของหนุ่มน้อยที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าเชฟแห่งชวนเซียงโหลวที่บังเอิญตายไปแล้วมาอยู่ในร่างของ ซูอวี้ ในยุคโบราณซึ่งเด็กหนุ่มขีวิตค่อนข้างอาภัพ ครอบครัวตกอับและโดนญาติพี่น้องกลั่นแกล้งเสียจน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นลูกเป็นหลานขุนนาง แต่ก็ต้องออกจากบ้านไปทำอาชีพคนขายปลาทุกวี่ทุกวันซะงั้น เอาจริงๆ น้องซูอวี้ก็หาได้แคร์กับการที่ต้องออกไปทำมาหาเงินไม่ เพราะยังไงซะชีวิตก่อนหน้านั้นก็ผ่านการปากกัดตีนถีบมาไม่น้อย แถมแย่กว่าก็ตรงที่ตัวคนเดียวไปอีก ชีวิตนี้อย่างน้อยเขาก็ยังมีแม่ที่รักเขาล่ะค่ะ เจ้าตัวก็เลยไม่คิดอะไรมาก มีวิชาเชฟติดตัวทั้งที ก็เอามาใช้ประโยชน์เสียเลยก็แล้วกัน ข้อเสียอย่างมากถึงมากที่สุดของนิยายเรื่องนี้ก็คือการบรรยายถึงอาหารและขั้นตอนการรังสรรค์แต่ละเมนูออกมา ซึ่งมันทรมาณใจคนอ่านอย่างเราๆ ท่านๆ กันเหลือเกิน หิวเลยนะบางที มันใช่เหรอ!?! แล้วทำแบบนี้ตลอดทั้งเรื่องเลยนะคะ!
วันหนึ่งขณะที่ขายปลาอยู่ดีๆ ก็ไปเจอกับลูกแมวขนทองตัวหนึ่งเข้า ตอนนี้แหละที่เราได้รู้กันชัดๆ ไปเลยว่า ซูอวี้นี่มันทาสแมวชัดๆ ทั้งกอดทั้งหอม ทั้งสปอยล์ด้วยอาหารมากมาย ทั้งที่แมวตัวนั้นทั้งเชิดทั้งหยิ่ง เอะอะอะไรก็ตบ เอาใจยากเหลือแสน แต่แมวนิสัยเย่อหยิ่งที่ชื่อเจี้ยงจือร์ (ตั้งโดยซูอวี้เอง) ตัวนี้ กลับยอมติดตามซูอวี้อยู่แทบจะตลอด ส่วนนึงก็คือรสชาติอาหารทะเลที่ซูอวี้ทำนั่นล่ะค่ะ มันช่างอร่อยเสียจนนายท่านแมวต้องยอมลดตัวลงมากินอย่างเสียไม่ได้ ในปริมาณไม่น้อยไปเสียทุกครั้ง แล้วก็บอกกับตัวเองในใจแค่ว่าก็งั้นๆ แหละ พอกินได้เท่านั้น เชอะ!
ตอนแรกที่จะหยิบเรื่องนี้มาเขียนถึง ก็มีลังเลนะคะว่าจะดีมั้ยนะ มันจะเหมือนสปอยล์คนอ่านมั้ยนะ แต่เอาจริงๆ เรื่องนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่าเฉลยให้รู้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่า เจี้ยงจือร์ แท้ที่จริงก็คือฮ่องเต้อันหงเช่อรัชกาลปัจจุบันนี้เอง แล้วที่ใต้อุ้งพระบาทกลายเป็นแมวบ้างเป็นคนบ้างในช่วงแรกๆ ของเรื่องก็เพราะว่ายังควบคุมพลังวิเศษของตัวเองไม่ค่อยได้ ก็เลยทำให้เกิดข่าวลือว่า อันหงเช่อเป็นฮ่องเต้ที่ร่างกายเจ็บออดๆ แอดๆ สามวันดีสี่วันไข้ จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ไปโน่น ทั้งที่จริงๆ แล้วท่านแค่เป็นแมวน่ะล่ะ พอดีกับช่วงอายุนี้การควบคุมพลังของท่านยังไม่ค่อยเสถียรแค่นั้นเอง แต่นี่ก็เป็นความลับให้ให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดทีเดียว นอกจากผู้ที่ได้ชื่อว่าถูกเลือกแล้วนั่นล่ะค่ะ
ตอนอ่านทีแรก เงิบมากค่ะ แฟนตาซีกันเบอร์นี้เลยรึนี่ แต่ทำไมสนุกวะ มันเป็นมายังไงล่ะนี่ เลยอ่านต่อเนื่องไม่หยุดเลยค่ะทีนี้ ก็ปรากฏว่าปฐมราชวงศ์ของอันหงเช่อนั้นถือได้ว่าเป็นสัตว์บรรพกาลที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งค่ะ บ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรืองสงบสุขจนไม่รู้จะสุขยังไงในเรื่องนี้ถึงได้ไม่ค่อยมีเรื่องดราม่าอย่างเช่นอิจฉาริษยา พี่น้องแย่งชิงราชสมบัติ โดยมีพ่อ (ฮ่องเต้) ค่อยกุมอำนาจแถมใจคอโหดร้ายแบบนิยายเรื่องอื่นๆ เรื่องนี้ไม่มี้ไม่มี แหกขนบหมดเลย คือแทบจะไม่มีเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการสืบราชบัลลังก์เอย การคัดเลือกรัชทายาทเอย การแต่งตั้งท่านอ๋องเอย ไม่เหมือนเรื่องใดที่เราเคยอ่านมาทั้งสิ้นค่ะ แหวกแนวเสียจนหัวเราะกันไปได้ทั้งเรื่องนั่นล่ะค่ะ ภายใต้การดูแลเป็นอย่างดี อันหงเช่อในร่างแมวที่ได้รับการดูแล ได้รับความอบอุ่น นัวเนีย ทั้งกอดเอย หอมเอย ก็แอบรู้สึกดีกับซูอวี้ขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ แม้จะเป็นสายซึนปากแข็ง เอะอะก็อ้างว่า เพราะเจิ้นมีเมตตา เพราะเจิ้นให้ความสนิทสนมหรอกนะ ถึงได้ยอมให้ขนาดนี้ สุดท้ายก็เป็นคนที่พยายามทุกทางเพื่อที่จะให้ซูอวี้ได้เข้าวัง ถึงขนาดที่เลือกมาเป็นสนมชายเพียงคนเดียว และไม่สนเฟยนางใดในวังหลังเลยแม้แต่นางเดียวเลย วันไหน กงกง มาขอให้พลิกป้ายเลือกสนม อันหงเช่อก็พลิกให้นะคะ แต่ไม่ไปหาหรอกค่ะ ขลุกอยู่แต่กับซูอวี้จนชะนีในวังแทบจะขนานนามให้นายเอกของเราว่าจิ้งจอกล่มเมืองไปแล้ว ขำมาก แถมก่อนหน้าที่จะเอาซูอวี้เข้าวัง ก็ยังถึงกับแอบให้น้องชายซึ่งก็คือเจาอ๋องอันหงอี้ไปช่วยออกหน้าเปิดร้านเซียนหม่านถังให้ด้วยอีกต่างหาก ปากบอกก็ไม่ได้รักไม่ได้สนใจหรอก แค่เจิ้นเป็นคนจิตใจสูงส่ง แต่ซัพพอร์ตมันทุกทาง ทำเอายกระดับฐานะของซูอวี้และแม่ที่เคยต้องอยู่อย่างลำบากและไม่ได้รับความเป็นธรรมขึ้นมาแบบพลิกฝ่ามือเลยทีเดียว เรียกว่าซูอวี้นี่ได้ดีเพราะความเป็นทาสแมวที่แท้ทรูเลยล่ะค่ะ สำหรับราชวงศ์นี้นะคะ อย่าได้คิดว่าผู้ที่ยิ่งใหญ่และได้รับความคารพสูงสุดจะเป็นฮ่องเต้แมวรูปหล่อของเรานะคะ ที่ใหญ่สุดก็คือท่านราชครูผู้มีภาพลักษณ์สูงส่งงดงามอย่างยิ่งต่างหาก คำตัดสินชี้ขาด ราชพิธีต่างๆ พลังเวทย์รวมถึงการหยั่งรู้ทุกสิ่งอันล้วนต้องผ่านการจัดการของท่านราชครูทั้งสิ้น ถามว่าท่านเป็นแมวด้วยมั้ย ฮ่องเต้ก็เป็นแมว น้องชายฮ่องเต้ก็แมว คิดว่าท่านราชครูจะไม่ใช่หรือคะ แล้วพอเรายิ่งอ่านไป เราจะได้พบกับตัวละครที่เป็นทั้งเสด็จลุง เสด็จอา เสด็จพี่ เสด็จน้อง ที่ล้วนเป็นแมวมากมายเต็มไปหมด จนเราไม่อาจจะจดจำได้แล้วจริงๆ ว่าใครเป็นใครบ้าง เพราะนอกจากชื่อจะมีมากมายและจำยากแล้ว แม้จะเรียกลำดับกันเป็นตัวเลข คือรันนัมเบอร์กันขนาดนี้แล้ว ก็ไม่สามารถจำได้หมดจริงๆ แมวมากมายเต็มวังไปหมดค่ะ ตอนหลังซูอวี้ก็ได้เข้าไปอยู่ในวังโดยรั้งตำแหน่งเสียนเฟย จริงๆ ก็คือภรรยาคนโปรดของอันหงเช่อนั่นแหละค่ะ แล้วนอกจากจะเป็นที่โปรดปรานเป็นการส่วนตัวจนถูกเลือกแล้ว ซูอวี้ยังมีอะไรที่เหนือกว่าคุณหนูคุณชายที่ล้วนแล้วแต่ผ่านการฝึกฝนความชำนาญหลายๆ ด้านเหล่านั้นหรือ แถมยังผ่านด่านสุดหินของท่านราชครูได้อีก ง่ายมากค่ะ ก็ฝีมือการทำอาหารของซูอวี้ไงคะ ใครอย่าคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กๆ ไม่สำคัญเชียวนะคะ เพราะสำหรับเรื่องนี้ นี่คือจุดพีคสุดของเรื่องเลยเชียวล่ะ เรียกว่าบรรดานายท่านแมวตั้งแต่ระดับบนสุดอย่างท่านราชครูไปจนถึงน้องเล็กของราชวงศ์นี่ ล้วนยกนิ้ว ให้การยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์สุดๆ ในเรื่องฝีมือและเทคนิคการทำอาหารของซูอวี้แถมในเรื่องยังมีวัตถุดิบพวกอาหารทะเลมาให้น้องได้แสดงฝีมือได้ชนิดหลากหลาย ไหนจะตำราอาหารจากตระกูลซู ตำราอาหารจากเจดีย์อันกั๋วที่ได้จากท่านราชครูมาอีก ทีนี้ล่ะค่ะ ไม่ว่านายท่านแมวจะอยู่ที่ไหนเป็นต้องมาเทียวไล้เทียวขื่อติดตามหวังจะได้รับการแบ่งสรรปันส่วนอาหารฝีมือซูอวี้ด้วยกันทั้งนั้น ติดก็แต่อันหงเช่อที่ขี้หวงอย่างยิ่ง กันซีนทุกวิถีทาง เราจึงได้เห็นพี่น้องแมวเหล่านี้ประชันฝีมือมือชิงไหวชิงพริบในการที่จะกินอาหารฝีมือซูอวี้กันให้ได้ตลอดทั้งเรื่องค่ะ ไม่มีเรื่องแย่งชิงพระราชอำนาจนะคะ มี่แต่แย่งชิงอาหารกับของเล่นค่ะ เชื้อพระวงศ์เหล่านี้ ถามว่า แล้วมันไม่มีประเด็นซีเรียสอะไรเกิดขึ้นในท้องเรื่องเลยหรือ มีสิคะ คือการปรากฏตัวในชีวิตนี้ของซูอวี้น่ะ เจ้าตัวถูกเรียกว่าดาวประหลาดที่มีคนเอาไปลือกันต่างๆ มากมายก็จริง แถมในเรื่องยังเกิดเหตุการณ์มีสัตว์ประหลาดในทะเลเกิดขึ้นมากมายจนสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านชาวเมืองปกติทั่วไปอย่างมาก นายท่านแมวจงอ๋องที่อยู่เมืองติดทะเลก็จะทำหน้าที่จับส่งมาให้ในวัง ก็ได้ซูอวี้นี่แหละที่ขยันคิดเมนูเอาปลาประหลาดเหล่านี้มาทำอาหารให้เหล่านายท่านแมวในวังได้อิ่มหนำกัน ทำเอาท่านราชครูถึงกับออกปากเลยว่า เป็นผู้นำความรุ่งเรืองมาสู่บ้านเมืองโดยแท้ขนาดนั้นนะคะ ช่วงท้ายเรื่อง ก็มีเหตุให้บรรดานายท่านแมวทั้งหลายได้ร่วมกันออกเดินทางทางทะเลไปเพื่อทำภารกิจบางอย่างที่ขออนุญาตไม่เล่านะคะ เดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์กันจนหมดสนุกในการอ่านไปเสียก่อน แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่สนุกสนานตื่นเต้น และบันเทิงกันมากเชียวล่ะค่ะ นิยายเรื่องนี้เอาจริงๆ แทบไม่มีโมเม้นต์ให้ได้ดราม่าจนถึงขั้นขมวดคิ้วเลย เพราะทั้งเรื่องมีแต่แมว แมว และแมวเต็มไปหมด แล้วก็มีคนรักของแมวที่ทำอาหารโคตรเก่งชนิดทรมาณใจคนอ่านยิ่งนัก พวกนายท่านแมวแม้จะทำหน้าที่เชื่อพระวงศ์ผู้ภักดีของตัวเองได้ราบรื่นชนิดไร้ปัญหา แต่วันๆ ก็ไม่พ้นเล่นกัน ตีกัน แย่งของกัน แกล้งกัน กินข้าวกลางวันกัน แล้วก็นอนกลางวันกัน เป็นนิยายที่ประเทศชาติบ้านเมืองโคตรจะมีความสุขค่ะพูดเลย แล้วที่ชื่นชมอย่างยิ่งนะคะ ฝีมือการแปลของคุณลาเวนเดอร์ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แปลออกมาคืออารมณ์มันได้ จังหวะชิตคอมนี่คือมากันชนิดต่อเนื่อง อ่านไปยิ้มไป หัวเราะไป เสียสติมากค่ะ ที่จริงมันมีรายละเอียดอีกเยอะมากค่ะ แต่เราเลือกที่จะไม่เขียนถึง เพราะอยากให้ได้ไปลองอ่านกันเองดู รับรองเลยค่ะว่าจะต้องชอบ เพราะเนื้อเรื่องมันน่ารักดีเหลือเกิน สนุกก็สนุก อ่านจนวางไม่ลงเลยล่ะค่ะ เราถึงเต็มใจที่จะอ่านถึงสองรอบหลังจากอ่านเล่มสามที่ทิ้งช่วงจากเล่มสองไปเป็นเดือน จะเอามารีวิวทั้งที มันก็ต้องทบทวนความจำกันหน่อยสิ ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นไม่ต้องลังเลค่ะ ไปซื้อหามาอ่านกันได้เลยตามสะดวก ขอบคุณที่ยังติดตามกันและขอให้สนุกกับการอ่านหนังสิอดีๆ กันนะคะ
Create Date : 02 ธันวาคม 2563 |
Last Update : 14 ธันวาคม 2563 21:52:01 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3406 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Aunda IP: 171.6.220.153 วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:7:14:51 น. |
|
|
|
|
fingers-crossed |
|
|
|
|