Group Blog All Blog
|
เมื่อสนิมกลายเป็นงานศิลปะ: รถตู้ที่เปลี่ยนรอยเสื่อมให้เป็นวิวภูเขาอันน่าทึ่ง
ในโลกของศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ บางครั้งแรงบันดาลใจสามารถมาจากสิ่งที่คาดไม่ถึง และตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของเรื่องนี้คือรถตู้คันหนึ่งที่ธรรมชาติและเวลาได้ร่วมกันสร้าง "ผลงานศิลปะ" ไว้บนพื้นผิวของมัน! รอยสนิมที่เล่าเรื่องราวของธรรมชาติ ศิลปะจากการมองเห็นใหม่ รถเก่า เรื่องราวใหม่ แรงบันดาลใจสำหรับศิลปิน บทส่งท้าย Path of Moses: ทางเดินสวรรค์ใต้ท้องทะเลที่บราซิล
ภาพอันน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ปรากฏขึ้นที่ชายหาด Barra Grande ในเทศบาล Maragogi รัฐอาลาโกอัส ประเทศบราซิล ได้สร้างความฮือฮาให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก นั่นคือ "Path of Moses" หรือ "ทางเดินของโมเสส" เส้นทางเดินกลางทะเลที่ปรากฏขึ้นในช่วงน้ำลง ความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ใต้ท้องทะเล เมื่อน้ำทะเลลดลงอย่างมาก ชายหาด Barra Grande จะเผยให้เห็นสันทรายทอดยาวออกไปกลางทะเล สร้างเป็นเส้นทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่างชายฝั่งกับแนวปะการัง ทำให้เราสามารถเดินเท้าเข้าไปสำรวจโลกใต้ทะเลได้อย่างใกล้ชิดราวกับอยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ ตลอดเส้นทางเดิน เราจะได้พบกับความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้ท้องทะเลที่น่าทึ่ง ปะการังหลากสีสัน ปลาตัวน้อยใหญ่ และสัตว์ทะเลนานาชนิด ว่ายวนอยู่ในน้ำทะเลใสราวคริสตัล ทำให้เราได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่ ทำไมถึงเรียกว่า "Path of Moses"? ชื่อ "Path of Moses" นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล ที่กล่าวถึงโมเสสที่นำพาชาวอิสราเอลข้ามทะเลแดง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นที่ชายหาด Barra Grande นี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเยือน Path of Moses คือช่วงน้ำลงใหญ่ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว (มิถุนายนถึงกันยายน) ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลใสและมองเห็นสัตว์ทะเลได้ชัดเจนที่สุด ข้อควรระวัง
Path of Moses เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การได้มาเยือนที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง และเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ซานฟรานซิสโก: เมืองแห่งเรือที่ย้ายมาอยู่บนบก
ใครจะเชื่อว่าเมืองที่ทันสมัยอย่างซานฟรานซิสโกนั้น มีอดีตที่ผูกพันกับเรืออย่างแยกไม่ออก? ใช่แล้วครับ! อาคารมากมายในเมืองที่เราเห็นกันทุกวันนี้ แท้จริงแล้วสร้างขึ้นจากซากเรือที่ถูกทิ้งร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน จากเรือสู่บ้านเรือน ในช่วงยุคตื่นทองของแคลิฟอร์เนีย การเดินทางเข้าสู่ซานฟรานซิสโกมีเพียงวิธีเดียว นั่นคือการโดยสารทางเรือ เรือบรรทุกผู้คนและสินค้ามามากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรือเหล่านั้นก็ค่อยๆ เสื่อมสภาพและถูกทิ้งร้างไว้ตามท่าเรือเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่ทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวเมืองไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม้กลายเป็นสินค้าที่มีราคาแพงและหายากในขณะนั้น ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของชาวเมือง ซากเรือที่ถูกทิ้งร้างเหล่านี้จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด โดยรื้อถอนและนำไม้จากเรือมาสร้างเป็นอาคารบ้านเรือนต่างๆ แทนไม้ที่ขาดแคลน การนำซากเรือมาใช้ในการก่อสร้างนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1870 และกลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองซานฟรานซิสโกไปโดยปริยาย ทำไมต้องใช้ซากเรือสร้างบ้าน?
ความลับที่ซ่อนอยู่ในผนัง ทุกครั้งที่เราเดินผ่านอาคารเก่าแก่ในซานฟรานซิสโก เราอาจไม่รู้เลยว่าผนังของอาคารเหล่านั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของเรือที่เคยแล่นไปมาในมหาสมุทรมาก่อน นี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าทึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการปรับตัวของมนุษย์ การสืบเสาะหาอดีต ในปัจจุบัน มีนักประวัติศาสตร์และนักสำรวจหลายคนที่สนใจศึกษาเรื่องราวของอาคารที่สร้างจากซากเรือในซานฟรานซิสโก พวกเขาพยายามสืบค้นประวัติของเรือแต่ละลำที่ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้าง เพื่อไขปริศนาและเปิดเผยเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอาคารเหล่านี้ ซานฟรานซิสโก: เมืองแห่งเรื่องราว การที่อาคารหลายแห่งในซานฟรานซิสโกถูกสร้างขึ้นจากซากเรือ ทำให้เมืองแห่งนี้มีเรื่องราวและความเป็นมาที่น่าสนใจและแตกต่างจากเมืองอื่นๆ การเดินสำรวจเมืองซานฟรานซิสโกจึงเปรียบเสมือนการเดินทางย้อนเวลาไปสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ***************************************เกาะงู: สวรรค์ของเหล่าเลื้อยคลาน
เกาะงู หรือ อิลยาดาเกย์มาดากรังจี (Ilha da Queimada Grande) เกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งบราซิล กลายเป็นตำนานแห่งความน่าสะพรึงกลัวไปทั่วโลก ด้วยความหนาแน่นของงูพิษที่สูงจนน่าตกใจ จนได้รับฉายาว่า "เกาะงู" หรือ "เกาะแห่งความตาย" สวรรค์ของงูพิษหัวหอกสีทอง บนเกาะแห่งนี้ อาศัยงูพิษชนิดหนึ่งที่ชื่อ โกลเดนแลนซ์เฮด (Bothrops insularis) งูพิษชนิดนี้มีลักษณะเด่นคือหัวที่แหลมคล้ายหอกและลำตัวสีเหลืองทองอร่าม แต่ความสวยงามของมันกลับซ่อนเร้นอันตรายเอาไว้ เพราะพิษของมันรุนแรงกว่างูพิษชนิดอื่นๆ ถึง 5 เท่า! นั่นหมายความว่า หากถูกงูกัดเข้าไป อาการจะรุนแรงมากและอาจถึงแก่ชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเกาะแห่งความตาย
เกาะงู...สถานที่ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นที่อยู่ของเหล่าสัตว์เลื้อยคลาน แม้ว่าเกาะงูจะเป็นสถานที่ที่อันตราย แต่ก็เป็นระบบนิเวศที่น่าสนใจและมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์อย่างมาก การศึกษาเกี่ยวกับงูพิษบนเกาะแห่งนี้ อาจนำไปสู่การค้นพบยาใหม่ๆ หรือความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ในอนาคต ***************************************โมเนมวาเซีย: เมืองป้อมปราการแห่งทะเลเอเจียน สุดยอดมรดกยุคกลางที่ซ่อนเร้นในกรีซ
ท่ามกลางความลี้ลับแห่งท้องทะเลเอเจียน เมืองป้อมปราการที่ชื่อ "โมเนมวาเซีย" (Monemvasia) ตั้งตระหง่านอยู่ในเขตเพโลพอนนีสทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรีซ เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยความชาญฉลาดทางยุทธศาสตร์ โครงสร้างของโมเนมวาเซียถูกออกแบบมาเพื่อให้ซ่อนจากสายตาผู้บุกรุกจากแผ่นดินใหญ่ ทำให้ศัตรูไม่สามารถมองเห็นหรือบุกโจมตีได้ง่าย มีเพียงเส้นทางแคบ ๆ ที่เชื่อมต่อเมืองป้อมปราการแห่งนี้กับแผ่นดินเท่านั้น ผู้มาเยือนต้องเดินทางผ่านช่องแคบของทะเลเอเจียนจึงจะได้พบกับเมืองที่ซ่อนตัวอยู่บนผาหินสูงเสียดฟ้า โมเนมวาเซียถือกำเนิดในศตวรรษที่ 6 และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความกล้าหาญและการป้องกันความสงบของบ้านเมือง โครงสร้างของเมืองสร้างขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยกำแพงหินขนาดมหึมา ป้อมปราการยุคกลางแห่งนี้ไม่เพียงแต่เคยเป็นด่านหน้าทางการป้องกันเท่านั้น แต่ยังเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก สร้างความเจริญรุ่งเรืองและการเชื่อมต่อทางวัฒนธรรมระหว่างตะวันตกและตะวันออกได้อย่างมีชีวิตชีวา บรรยากาศในโมเนมวาเซียยังคงเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของยุคกลาง สายลมพัดผ่านกำแพงหินเก่าแก่ ลัดเลาะไปตามโบสถ์ไบแซนไทน์ที่ยังคงยืนหยัดข้ามกาลเวลา และยังคงเป็นหลักฐานแห่งความรุ่งเรืองในอดีต ทุกซอกทุกมุมของเมืองนี้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันลึกล้ำที่รอให้ผู้มาเยือนมาสัมผัส ปัจจุบัน เมืองโมเนมวาเซียยังคงเป็นที่ตั้งของความงามและความเก่าแก่ที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก ส่วนศูนย์กลางเทศบาลของเมืองในวันนี้ ตั้งอยู่ที่โมลาโอย (Molaoi) ที่อยู่ใกล้เคียง นักเดินทางที่ต้องการย้อนเวลากลับไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของเมืองป้อมปราการแห่งนี้ จะได้สัมผัสทั้งความงดงามของธรรมชาติ ความเงียบสงบของทะเล และเรื่องราวในอดีตที่เล่าขานผ่านกำแพงและโบสถ์โบราณ |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 2288960
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ย้ายจาก Meogui.bloggang.com มาอยู่ที่ เว็บ Blog นี้แทนเด้อครับเด้อ โดนยึดอมยิ้มไปแหล่ว Link |