คณะนักวิจัยจากประเทศจีนประสบความสำเร็จในการแยกแอนติบอดีจากอัลปากาซึ่งสามารถต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสำเร็จนี้ถือเป็นก้าวสำคัญและเป็นแนวทางที่มีความหวังสำหรับการพัฒนายาต้านเอชไอวีชนิดใหม่ในอนาคต
อู๋สี่หลิน นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหนานจิง อธิบายว่าในการทดสอบกับไวรัสจริง แอนติบอดีชนิดนี้หรือที่เรียกว่า "นาโนบอดี" ซึ่งมีการดัดแปลงมาจากหน่วยย่อย "เอ็นบี457" ได้แสดงความสามารถในการยับยั้งไวรัสเอชไอวีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง โดยการทดลองในหนูพบว่าไวรัสแทบจะไม่สามารถตรวจพบได้ในหนูที่ได้รับการรักษาด้วยนาโนบอดีดังกล่าว และยังไม่พบการกลายพันธุ์ที่ดื้อยา
ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนาโนบอดีในการเป็นยาต้านไวรัสที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การพัฒนานาโนบอดีจากอัลปากานั้นมีข้อดีเนื่องจากขนาดเล็กกว่าแอนติบอดีทั่วไป จึงสามารถเข้าถึงและยับยั้งเชื้อไวรัสในบริเวณที่ยากจะเข้าถึงได้ นอกจากนี้ การผลิตนาโนบอดีในห้องปฏิบัติการก็สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว
การค้นพบนี้เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญสำหรับการต่อสู้กับเชื้อเอชไอวี และอาจนำไปสู่การพัฒนายาใหม่ที่มีประสิทธิภาพและราคาถูกกว่าในการรักษาผู้ป่วยเอชไอวีในอนาคต