AZURE
Group Blog
 
All Blogs
 

Japan Adventure: Hakone-Harajuku-Osaka-Kyoto-Takayama

เนื่องจากเวลาจำกัด ขอย่นย่อเลยละกัน

วันนี้เราตั้งใจไป Hakone เพื่อดู ฟูจิซัง แต่ขอบอกว่า จริงๆ แล้วไม่น่าสนใจเลยแหล่ะ
เปลืองตังค์ไปเยอะเหมือนกันแหะ

ตอนแรกดูแล้วเส้นทางไปมันงงๆ ลำบาก เลยตัดสินใจไปซื้อ Hakone Free Pass อย่างที่หลายคนเค้าแนะนำกัน แต่จริงๆ ไปเองก็ได้นะ ไม่ยากเลย โดยเฉพาะถ้ามี JR Pass แล้วก็ไปเองได้เลยแหล่ะ

ส่วนใครที่ไม่มี JR Pass อยากจะไป Hakone แบบสะดวกๆ ก็ไปซื้อตั๋วได้ที่ Odakyu site seeing center อยู่แถวสถานี Shinjuku ค่าตั๋วก็ไม่เท่าไหร่ คนละ 2000 บาท รวมค่าเดินทางทุกอย่างแล้ว สำหรับ 2 วัน แต่ถ้าไปวันเดียว ก็ต้องตั๋วใบนี้อยู่ดี

อ้อ แต่ถ้าใครสนใจจะนั่ง Romance car แนะนำว่าไปจองที่นั่งเร็วๆ หน่อยนะ ขนาดเราจองล่วงหน้า 1 วัน ยังที่นั่งเต็มเลย อ้อ แล้วก็ต้องจ่ายค่า Romance car เพิ่มอีก seat ละ 890 yen (ขาเดียวนะ)

พอถึง Hakone yumoto แล้ว ก็ไปตามเสต็ปที่เค้าแจกในไกด์ไลน์เลยอะ นั่งรถต่อเรือขึ้นกระเช้ากลับรถราง ไปเรื่อยๆ อะ เหมือนชมวิวตลอดทางอะ แล้วก็จบ แค่นี้แหล่ะ เราเลยว่า ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่อะ อีกอย่าง วันที่ไป ไม่ได้เห็น ฟูจิซัง ด้วย เพราะว่า เมฆลงหนา เลยปิดยอดเขาฟูจิซังเลยอะ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะขากลับนั่งรถไฟดันได้เห็น แต่ว่าเราดันหลับสะเนี่ย เพื่อนก็ดันไม่ปลุกตูอีก

จริงๆ ที่ Hakone ก็เหมือนกับ Nikko คือ ถ้ามีเวลาก็ไปนอนพักที่นั่นสักคืน จะได้ไปเที่ยวได้สุดทางเลยแหล่ะ


ดูจิ วิวบนเรือเค้าสวยดีนะ ระหว่างทางเที่ยว Hakone

เที่ยวที่นี่ใช้เวลาพอสมควร ขากลับ เราเลยเปลี่ยนเส้นทางมากลับรถไฟชินคันเซ้นดีกว่า เร็วกว่ากันเยอะเลย

เพราะจะรีบไป shopping ที่ Ameyoko market ที่นี่ลงสถานี Okashimachi หรือ จะลงสถานี Ueno ก็ได้เหมือนกันหมด เพราะตลาดมันเชื่อมกันยาวถึง 2 สถานี ตลาดนี้จะคล้ายๆ เหมือนเราเดินสำเพ็งอะ ของขายข้างทางเยอะแยะเลย ถูกดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่เสมอไปนะ

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรแหะ แค่ร่ม 1 คัน 500 yen ส่วนใหญ่เค้าจะขายกันที่ 525 yen
แล้วก็ผ้าห่อเบนโตะ กะเอามาแต่งบ้านแทน ขายผืนละ 300 yen ก็ไม่แพงนะ แต่ไม่มีลดเลยอะ เค้าบอกว่า made in Japan เลยลดให้ไม่ได้ เออ ดีแหะ สนับสนุนของภายในประเทศให้มีราคา

เช้าวันที่ 5 เรามีแผนจะย้ายไปนอนโอซาก้า เช้านี้เป็นวันอาทิตย์เลยขอเบิ่งไป Harajuku ก่อน ปรากฎว่าพวก cosplay เค้าแต่งตัวเดินกันสายๆ เราไป 10 โมงก็ยังไม่เจอเลยแหะ แต่ขอบอกว่า Harajuku น่าเดินมาก ของน่าซื้อเต็มไปหมดเลย มานี่เลยได้เสื้อมา 2 ตัว

ช่วงเย็นเราถึง โอซาก้า ก็เตรียมตัวตระเวณหาที่กินอย่างเดียวเลย แน่นอน จะพลาดได้ไง Dontombori ไง

ตามหาทาโกะยากิ กะ โอโคโนมิ และไม่พลาด ร้านปูด้วยอีกร้าน อิอิ

เช้าอีกวัน อยุ่เกียวโตทั้งวันเลย ขอบอกว่า เป็นเมืองที่น่ารักมาก ถ้ามาอีก ต้องขอค้างที่นี่สักคืน แล้วอยู่มันทั้ง 2 วันเต็มเลย แถมที่นี่ ทำให้เราเห็นเด็กสาวญีปุ่นเค้าใส่ชุดกิโมโนมาเข้าวัดด้วยแหล่ะ น่ารักดีอะ อิจฉาประเทศเค้าจริงๆ เลย




ส่วนวันสุดท้าย ทาคายามะ สุดยอดแล้วที่นี่ ยังไง หน้าหิมะ ครั้งต่อไปจะต้องมาให้ได้ เมืองสวยมากกกกกกกกกกก

สรุปแล้วตลอดทริปนี้ ต้องขอขอบคุณ Hyperdia จริงๆ ทำให้การเดินทางแสนสะดวก ไม่มีปัญหาติดขัดเรื่องเส้นทาง รักมากมาย ขอบคุณค่าาา


สรุปแล้วที่พักถูกๆ ในญุี่ปุ่นก็มีนะตกคืนละ 500 กว่าๆ ต่อคน เป็นแบบ dorm อะ แต่ถ้าเที่ยวหนักๆ เหนือยๆ อยากพักสบายๆ ก็เอาแบบ hotel ก็ได้นะ เพราะว่าจะสบายกว่ากันเยอะเลย

อย่างของเรา โอซาก้า พักที่ Hotel Hillarys ขอบอกว่า ใช้ได้เลยอะ เดินไปก็ถึงถนน dontombori แถมอยู่แถว denden ถนนเส้นอิเลกโทรนิกส์พอดีเลย ที่พักก็ดีด้วย เรียกว่า Highly recommend เลยอะ

เรื่องการแต่งตัว ไอ้เราก็ว่ามีประสบการณ์มาบ้างแล้วนะ แต่ไม่รู้อะว่าที่นี่เค้าลมแรงมากๆ โดยเฉพาะที่โตเกียว พัดมาที หนาวมากมาย

เลยไม่ได้เตรียมเสื้อแบบหนาๆ มามากมาย แต่สุดท้ายก็เอาอยู่อะนะ


เรื่องการเดินทางในญี่ปุ่น ถ้าคำนวณดีๆ รู้ว่าเราไปไหนบ้าง ก็จะช่วยให้ซื้อ Pass ได้ถูกว่าควรจะซื้อตัวไหน เพราะเค้ามีหลายตัวเหลือเกิน




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 10 ธันวาคม 2556 22:57:16 น.
Counter : 997 Pageviews.  

Japan Adventure: Chill Chill in Tokyo

อ้อ จำได้แล้ว เมื่อวานเราไปกินข้าวเย็นที่ Odaiba น่ะเอง ลืมไปเลย

ที่มากินที่นี่ก็เพราะว่า นี่เลย


วิวดีๆ สวยๆ ยามค่ำคืนนี่เองจ๊ะ
เมื่อวานเย็นเลยมานั่งกินบุฟเฟต์หัวละ 1900 yen (700 กว่าบาท)

จริงๆ ก็เฉยๆนะ อยากกินบรรยากาศญี่ปุ่นมากกว่า แต่เอาเหอะ มาแล้วนิเนอะ


เช้าวันที่ 3 เราเพลินๆ ด้วยการออกเดินจากที่พักไปวัด Asakusa กัน ถึงวัดก็นู่นยังไม่ 9 โมงเช้าดีเลย ทำให้ร้านอาหารข้างทางยังไม่เปิดครบ ก็ดีนะ ไม่เปลืองตังค์ shopping


ร้านค้าที่นี่ถ้ามาตอนเปิดร้านจะไม่ได้เห็นประตูพวกนี้นะคะ แต่ละร้านจะเป็นรูปวาดเก๋ๆ ไม่เหมือนกันเลย


บรรยากาศยามเช้า อย่ามาสายกว่า 10 โมงนะ ไม่งั้น ไม่มีที่ให้ยืนถ่ายรูปแน่ ขอบอก


สักหน่อย เห็นว่าใหญ่ดี


เส้นทางเข้าวัดนี้ อย่างที่บอกร้านค้าข้างทางตรงนี้เค้าเรียกถนน nakamisae dori ของแถวนี้้ขอบอกว่าแพงนะ ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ อะ

อ้อ แต่ขอบอกว่า ห้ามพลาด ชูครีม เด็ดขาด เค้าว่าอร่อยมากๆ ขายชิ้นละ 170 yen มีหลายไส้เลย เรากินไส้คัสตาด ก็อร่อยดีนะ

อ้อ พูดถึงขนมเมื่อวานก็ไปกิน โมจิไส้งาดำมา อร่อยมากก งาดำเยอะอย่างที่คนขายบอกเดีะเลย เค้าขายชิ้นละ 200 yen (ตกชิ้นละ 80 บาท)

ออกจาก Asakusa เราก็ไป shopping ที่ตึกม่วง อีกชื่อคือ ตึกทาเคยะ
ร้านเค้าเปิด 10 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่มครึ่ง แถมยังมีแผนผังเป็นภาษาไทยให้อ่านอีกด้วยนะ
จะมาที่นี่ได้ก็มีหลายทาง ที่เรามาก็จาก metro subway สายกินซ่า เสียตังอะ JR ไม่รวม
แต่ขากลับประหยัดหน่อย ขึ้น JR สาย Yamanote แล้วไปลง Shinjuku เพื่อเดินเล่นต่อ



ตึกม่วงนี่ น่าจะหมดตัวไปกะเครื่องสำอาง กะของกินเล่นที่เค้าขายชั้น 1 เพราะราคาถูกจริง เห็นได้จากคนญี่ปุ่นซื้อกันเยอะแยะเลย ราคาน่าจะมาตรฐานอะนะ

เย็นนี้ เราเดินเล่นที่ Shinjuku กะ Shibuya
โห ขอบอกว่า ตื่นตาตื่นใจมากเลยอะ โดยเฉพาะ ห้าแยก Shibuya สนุกสนานมากมายเลย
คนเดินนะ หล่อ สวย แทบจะทุกคนเลยอะ รู้สึกเหมือนเป็นบ้านนอกเข้ากรุงยังไงไม่รู้

ยิ่งมาเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้แต่งตัวด้วย กะมาแบบลุยๆ เลยเซ็งเลย ไม่ได้แต่งตัวมาเดินกะเค้า

ข้าวเย็นวันนี้ เรากินข้าวหน้าไก่แถวชิบุย่าแทน ตอนแรกว่าจะกิน คัทซึดง แต่ดันสั่งผิดอะดิ

อ้อ แต่เมื่อกลางวัน แวะนั่งกิน matcha latte อร่อยมาก วิปครีมเค้าข้นมากมาย ถูกใจอย่างแรงเลย




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 10 ธันวาคม 2556 22:57:40 น.
Counter : 1347 Pageviews.  

Japan Adventure: มรดกโลกที่ Nikko

วันนี้เราตั้งใจจะไป Nikko กัน และเห็นเค้าว่า มันต้องอยู่ทั้งวัน เลยตัดสินใจตัดตลาดปลาทิ้ง ไม่ไปดีกว่า ไปก็แค่ไปดูเค้าประมูลปลากะไปกินข้าวหน้าปลา ไม่เอาดีกว่า....

หน้า Autumn เยี่ยงนี้ เหมาะอย่างมากที่เราจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่กันจ๊ะ



งานนี้ Hilight คือ ต้องมาดู Toshogu Shrine: Yomeimon


ส่วนที่อื่นๆ เราก็เฉยๆ นะ มี Rinnoji Temple: Sanbutsudo, Taiyuin Temple: Nitenmon

พวกนี้เวลาจะเข้าต้องซื้อตั๋วเข้านะ เอาแบบถูกสุดก็ 1000 yen (400 บาท) ก็เข้าไปชมทุกที่ตามที่เค้าแนะนำอะนะ เดินไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่อาจจะเหนื่อยนิดนึง ยังไงซ์้อตั๋วรถ 1 วันเลยก็ได้ 500 yen จ้า หาซื้อได้ตรงสถานีรถไฟ Tobu station จ้า

วันนี้ได้ยินหลายคนบอกว่าต้องมาดูสะพานแดงเพราะมันสวย เราก็ดูในรูปภาพก็จินตนาการว่า มันคงอยู่กลางป่าเนอะ แต่เอาเข้าจริงอยู่กลางเมืองน่ะเอง เวง!! อารมณ์ดับเลย



ดูจิ มันเหมือนจะอยู่กลางป่าเนอะ แต่ดันอยู่กลางเมืองสะเนี่ย

จริงๆ ถ้านอนที่นี่สัก 1 คืน ก็คงจะได้นั่งกระเช้าขึ้นไปถึงข้างบนอะนะ แต่เวลาเรามีจำกัดอะจ๊ะ


บรรยากาศร้านในเมือง

อ้อ อย่าลืมนะ ที่นี่น่ะ ต้องมากินซาลาเปาทอดให้ได้นะ เค้ามีชื่อ เราลองกินแล้วก็ชอบนะ ซาลาเปาทอดบ้านเค้าแปลกดีอะ ตรงแป้งที่ทอดมันกรอบๆ แบบหน้าตาก็ไม่เหมือนซาลาเปาทอดอะ ชอบนะ ใครไป ลองดูนะ


ที่นี่มีจุดถ่ายรูปเยอะมากอะ หมายถึงจุดแวะจุดแรกอะ เพราะงั้นเตรียมใจเหอะมานี่ไงก็ต้อง 1 วันเต็มจ้า


ดูจิๆ ใบไม้ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ แล้ว

การเดินทางมาที่นี่นะ ขอบอกไว้เลยระวังนิดนึงนะ เดี๋ยวจะเหมือนกับเรา เนื่องจากเรามี JR Pass เพราะงั้น เราสามารถนั่ง Tohoku shinkansen ได้ฟรีๆ มาลงที่สถานี JR Nikko Station แต่เนื่องจากว่า วันที่เราเปลี่ยนสายรถไฟจะมานั่ง Shinkansen เราเห็นว่ามีรถไฟอีกสายนึงจะไป Nikko เหมือนกัน แล้วรางมันดันอยู่แถว JR lines เราก็เลยเข้าใจว่ามันคงเป็นตระกูลเดียวกับพวก JR คือนั่งฟรีเหมือนกัน ปรากฎว่าสายที่เรานั่งมันเป็นของบริษัทเอกชน Tobu railways ซึ่งต้องจ่ายค่าตั๋วประมาณ 1900 yen

ยังไง ใครที่จะไปแล้วไม่มี JR Pass แนะนำให้ลองเข้ไปเว็บของ Tobu ดูนะ เค้ามี Pass สำหรับเที่ยว Nikko รวมค่ารถไฟไปกลับด้วย ท่าจะน่าสนใจนะ

ส่วนเราขากลับก็เดินไปขึ้น JR line ที่ JR Nikko station ห่างจาก Tobu Nikko station ไม่ไกลเลย เดินไปประมาณไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้วแหล่ะ

Nikko นี่จริงๆ เป็น National park เพราะงั้นใครที่ชอบเที่ยวป่าเขา ไงก็ลองมาพักที่นี่ก็ได้นะ บรรยากาศดี แล้วอากาศก็เย็นดีด้วยนะ



เมืองเค้าน่ารักอะ เดินเล่น ไปได้เรื่อยๆ

อ้อ อาหารวันนี้ มื้อเช้า เราแวะซื้อมาจากเมื่อคืนแล้ว เป็นข้าวหน้าหมูทอด หยอดตู้ซื้อเหมือนเดิม กว่าจะดูรู้เรื่องว่าชั้นสั่งเมนูอะไรไป เมื่อยมือน่าดูเลย

มื้อเย็น จำไม่ได้แหะ ว่าไปกินอะไรที่ไหน

พรุ่งนี้ชิลๆ พักขาเดินเล่นโตเกียว 1 วันก่อนดีกว่า




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 20:55:01 น.
Counter : 660 Pageviews.  

Japan Adventure: Day 1

กลับมาแล้ว ทริปญี่ปุ่น สดๆ ร้อนๆ สนุกสนานมากมาย ใครว่าไปญีปุ่นยาก ไปมาแล้วรู้เลยว่า ไม่ยากอย่างที่เคยได้ยินเลย

ทริปนี้ ได้ตั๋วราคาถูกจาก หางแดง แอร์เอเชีย แค่ 7,006 บาท (ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋านะ)

ตอนแรกตั้งใจว่าจะ explore แถบคันไซ ทั้ง 7 วันเต็ม เลยจองตั๋วลงที่ Kansai Airport แต่ไปๆ มาๆ เพื่อน ดันอยากไปโตเกียวด้วย เลยต้องเปลี่ยนแผนนั่งยาวไปโตเกียวด้วย ทำให้งานนี้ต้องจ่ายค่า JR Pass แบบเที่ยวทั่วภูมิภาค ราคา 7 วัน ได้มาใบละ 10,700 บาท

สรุป ยังไม่ได้ออกเดินทางก็เสียค่าใช้จ่ายไปแล้ว 17,706 บาท แต่ราคานี้ถือว่าถูกนะ เพราะปกติค่าเครื่องบินไปญี่ปุ่นอย่างเดียว ก็ราคาแพงกว่านี้แล้วนะ อันนี้ได้ JR Pass แบบไปทั่วเกาะ 7 วันเลย ถือว่า เริ่ด ใช้ได้นะ คริคริ

เรามาถึง ญี่ปุ่น วันแรก เป็น วันฮาโลวีนพอดี ถึง Kansai Airport ก็เบิ่งไปโตเกียวทันที เพราะคืนแรกเราจะพักที่นี่นั่นเอง

ที่พัก 4 คืนแรกนี้เราเลือกพักที่ Weekly Mansion Asakusa เพราะเห็นว่าเจ้านี้ เค้ามีหลายสาขา แล้วก็ที่พักราคาไม่เลวสำหรับการพักที่โตเกียว เมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกอันดับที่ 2 รองจากซูริค สวิตเซอร์แลนด์

ค่าห้องพัก Weekly Mansion Asakusa เราพักแบบห้องนอนกัน 3 คน เฉลี่ยตกคนละ 1,170 บาทต่อคนต่อคืน (ราคามันผันไปตามวันหยุด ถ้าติดวันหยุดเสาร์อาทิตย์ค่าห้องพักจะแพงขึ้นมาหน่อย งานนี้เราจองห้องพักแต่เนิ่นๆ เลยได้ราคาลดลงมานิดหน่อย


ห้องนี้ 3 เตียง มีอีกเตียง อยู่ปลายเตียง
สภาพห้องก็ไม่แย่นะ เค้ามีแบ่งเป็นสัดส่วนใช้ได้เลย เปิดประตูเข้ามาซ้ายมือก็เป็นห้องทำอาหารเล็กๆ มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน กระจกผนัง เผื่อจะแปรงฟันที่นี่ก็ได้ แล้วก็ไดร์เป่าผม

ทางขวามือก็เป็นห้องน้ำเล็กๆ

ตรงกลางห้องเป็นห้องโถง มีโต๊ะกินข้าว ทีวี ตู้เก็บของมีหม้อ ชาม ไว้ทำกับข้าวได้ แถมยังมีไมโครเวฟกะตุ้เย็นในห้องให้ด้วยนะ ส่วนห้องนอนก็จะแยกไปอีกห้อง มีประตูเลื่อนกั้นไว้ ที่นี่เค้าให้มาพร้อมกับชุดยูคาตะแหล่ะ ใส่สบายดี ติดใจเลย อิอิ

วันแรกก็ได้นั่ง Shinkansen เลย อิอิ
แต่ขอบอกว่า ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ วันแรก เพราะเราเห็นมันจอดอยู่เฉยๆ ไง ตอนนั่งก็ยังไม่สัมผัสได้ว่ามันเร็วมากแค่ไหน แต่พอวันหลัง ระหว่างรอรถไฟ แล้วมันวิ่งผ่านนะ อืมหืมมม มันช่าง amazing มากมาย เร็วมากกกกกกกก คุ้มสุดๆ แล้ว ได้นั่งรถไฟหัวจรวด มันเร็วเว่อร์ๆ เจงๆ

ทีพักคืนแรกเราใกล้วัด Asakusa แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ไปแหะ เพราะเค้าปิด 5 โมงเย็น กว่าอิชั้นจะเสด็จไปถึงก็เย็นจะ 6 โมงแล้วมั้งนั้น

จะว่าไปแล้วที่พักก็ใกล้ไปหน่อยนะ เพราะลงจาก Ryukogu station แล้วก็ต้องเดินฝ่าลมหนาวไปเกือบ 20 นาทีแหน่ะ (เชื่อเหอะ เอาเข้าจริง 20 นาที เดินท่ามกลางอากาศเย็นนี่ไม่สนุกหรอก)


กว่าจะมาถึงที่พักได้ เราก็ต้องนั่ง Ltd. Exp. Haruka จาก Kansai Airport มาลง Kyoto station หลังจากนั้นค่อยต่อรถไฟชินคันเซ็น Hikari ไป โตเกียว จากโตเกียวก็ค่อยนั่ง JR Yamanote line ไปลง Akihabara แล้วค่อยต่อ JR Chuo/Sobu line ลงสถานี Ryogoku

เชื่อเหอะ พอไปถึง ไอ้พวกที่ต้องนั่งต่อรถไปมา มันก็จะค่อยๆ ชิ้นไปเอง (มั้ง)

สุดท้าย วันนี้หลังจากการเดินทางมาทั้งวัน เราเลยแวะไปตึก Yodobashi-Akiba
ตึกนี้ให้ลงสถานี Akihabara มาเลย ขึ้นมาถึงก็เจอตึกเลย ที่นี่จะมีขายของจิปาถะตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึง เครื่องสำอางค์

เราก็ได้ makeup base สีเขียว มา 1 ชิ้น ยี่ห้อ Kiss me มั้ง จำไม่ได้อะ ผลิตภัณฑ์บ้านเค้า Boots บ้านเราก็เริ่มเอามาลงขายแล้วแหล่ะ ราคาถูกกว่าหลักร้อย แต่ก็ซื้อๆมาหน่อย ไหนๆ มาแล้ว อีกชิ้นที่ได้คือ ถุงน่องลดน่อง ตลกดี ไม่เคยเห็น เลยเอามาลองหน่อยจิ คู่ละ 280 บาท คิดว่าคนไทยคงรุ้จักยี่ห้อนี้อะ มันมีรูปหมูอยู่หน้าซองด้วยแหล่ะ

ก่อนออกจากตึกเราก็แวะซื้อพวกกันดั้มให้น้อชายสะหน่อย เห็นว่าราคาไม่แพงเลย พอดีเลือกแบบถูกๆให้ด้วย ตัวนี้ ขามันจะเป็นล้อไว้เดิน ตัวนี้ราคา 300 บาทเอง
ต่อด้วยหยอดเหรียญเล่นของเล๋นเอาพวกพวงกุญแจมาขำๆ เล่น หยอดหมุนตุ้ละ 200 yen ประมาณ 80 บาท เทียบกะบ้านเรา หน้าร้าน ToyRus ต้องหยอด 99 บาท ก็ถูกกว่านิดหน่อยอะนะ แต่ของเค้าไม่หลากหลายเลยอะ ตอนไปเล่นที่ Hongkong ยังเจอของน่าได้เยอะกว่านี้อีกอะ

วันแรกจบแค่นี้ก่อน เพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้าไป Nikko กัน


อ้อ ค่าอาหารวันนี้ ไม่เท่าไหร่ กลางวันกิน เบนโตะ จากสถานีเกียวโต เพราะไม่มีเวลา
กล่องละ 650 yen ก็ไม่เลวนะ กินครั้งแรก ก็สนุกสนานกันไป
ส่วนตอนเย็นก็กินราเมงร้านหน้าที่พัก 750 yen



หน้าตาน่าทานเนอะ น้ำซุปก็อร่อยด้วยแหล่ะ เสียอย่างเวลาสั่งอาหารต้องกดจากตู้สั่งอาหารแล้วมันไม่มีภาษาอังกฤษ เลยวุ่นวายเล็กน้อยในช่วงวันแรกๆ และวันต่อๆ ไปอิชั้นก็ยังไม่ชิน 55555




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 19:59:32 น.
Counter : 863 Pageviews.  

Explore Japan กันเต๊อะ

ใกล้จะได้ไปญี่ปุ่นแล้ว เย้ๆ

เป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยากไปมากๆ

งานนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางตั้ง 12 คนแหน่ะ น่าจะวุ่นวายดีแท้

แพลนที่ไปก็ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ไม่รู้เอาเข้าจริงจะเป็นไปตามแพลนที่ตั้งไว้มั๊ยน้อ

ไม่รู้เพื่อนๆ ใครพอจะแนะได้บ้างมั๊ยน้อ รู้สึกช่วงที่ไปไม่รู้จะเป็นจังหวะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีหรือป่าวก็ไม่รู้ ไมในเว็ปเค้ามีแต่เขียนว่าจะได้เห็นช่วงกลางตุลา แล้วกลางพย. แต่ต้นพย. หายไปไหนอะ เค้าจะไปเที่ยวต้นเดือนพย. เป๊ะเลยอะ

งานนี้ต้องไปขึ้นแอร์เอเชียที่ดอนเมืองแหะ ไม่ได้ไปนาน ไม่รู้จะงงๆ ป่าวนะ

วันแรกเนี่ยจะถึงโอซาก้าตอนเช้าแล้วจะนั่ง JR ไปโตเกียวเลย ถึงโตเกียวก็คงบ่ายๆ ไม่น่าจะได้เที่ยวไรมากแหะ โชคดีที่พักอยู่แถววัดอาซากุสะ คงได้เดินสำรวจแถวนั้นวันแรกนิ กะนั่งรถไฟเช็คเส้นทางก่อน

วันที่สอง คาดว่าจะไปตลาดปลาtsukiji เสร็จแล้วก็ไป Nikko ต่อเลยอะ
วันที่สาม ไป Hagone & Fuji
วันที่สี่ สำรวจ Tokyo ไปเดินเล่นแถว UENO / ดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Okutama / chill chill at Shinjuku,shibuya,harajuku
วันที่ห้า วันอาทิตย์เลยขอเดินเล่นที่ชิบุย่าอีกรอบก่อนนั่งรถกลับไปโอซาก้า ถึงโอซาก้าก็พักแถว Shinsaibashi โชคดีเลยใกล้แหล่งท่องเที่ยว เดินเล่นแถวนี้แหล่ะ ต่อท้ายด้วยไป spa world แล้วถ้ามีจังหวะดีๆ วันนี้ว่าจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ Minami แหะ
วันที่หก สำรวจเกียวโตเลยหะ
วันที่เจ็ด นารา ค้าบ นารา แต่เพื่อนบางคนอยากไป โทโคยาม่า อะ แต่มันเดินทางไปกลับก็ 8 ชม. แล้วอะจิ ขอยกยอดไปครั้งหน้าเหอะนะ

อืม แพลนทริปเราเป็นยังไงบ้างนะ ดูแล้วเป็นไปได้มั๊ยน้อ




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2555    
Last Update : 14 ตุลาคม 2555 9:57:24 น.
Counter : 811 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

chocomania
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ได้เกิดเป็นคนทั้งที ใช้ชีวิตให้เต็มที่หน่อยดีมั๊ย

แต่ถ้ากระเป๋าตุง ก็คงทำได้อย่างใจอยากแล้วอะนะ
Friends' blogs
[Add chocomania's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.